ตร.จราจรลวงนร.ม.3เรียงคิวขืนใจยับ
สังคมเสื่อม!ตร.จราจรลวงนร.ม.3 เรียงคิวขืนใจยับ เคราะห์ซ้ำโบกแท็กซี่ขอความช่วยเหลือโดนข่มขืนซ้ำ เจ้าตัวท้อแท้ชี้ชีวิตโดนพ่อแท้ๆ ข่มขืนตั้งแต่ 7 ขวบ
เมื่อเวลา 13.30 น.ของวันที่ 10 ก.ค.55 นายศิลปะชัย เคนพา เจ้าหน้าที่ฝ่ายกระทรวงพัฒนาการและความมั่นคงของมนุษย์ ได้พา ด.ญ.มุข (นามสมมติ)อายุ 15 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี เข้าพบกับ พ.ต.ท.วิญญู เทียมราช สารวัตรเวรสอบสวน สภ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงที่อายุต่ำกว่า 15 ปี กับ นายสมนึก ปกติ อายุ 41 ปี อยู่บ้านใน จ.ระยอง ซึ่งเป็นพ่อแท้ๆของเด็กหญิงมุข โดยมี พ.ต.อ.บัญชา ติปยานนท์ ผกก.สภ.หนองเสือ และ พ.ต.ท.ทักษพงษ์ รื่นกลิ่น รองผกก.สส. และเจ้าหน้าที่จากอัยการและนักจิตวิทยาสงเคราะห์ร่วมฟังการให้ปากคำด้วย
ด.ญ.มุข กล่าวว่า ตนเองชีวิตโชคร้ายถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืนมาตั้งแต่อายุ 7 ขวบ พอเรียนในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก็ได้ไปเข้าร่วมโครงการจิตอาสาจราจรของ สภ.ประตูจุฬาลงกรณ์ ในเขตพื้นที่อำเภอธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยมีหน้าที่ช่วยอำนวยความสะดวกการจราจรรถยนต์ในช่วงเวลาเร่งด่วน ต่อมาได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเข้ามาตีสนิทให้เงินบ้างเป็นบางครั้งทำให้ตนเองตายใจพอต่อมาก็ชวนตนเองไปกินข้าวตนก็เห็นว่า พี่ๆ ตำรวจให้ความเมตตาก็เลยนั่งรถไปกินข้าวด้วยโดยไม่ได้คิดอะไร ซึ่งตำรวจทั้งหมดมี 3 คน ตนเรียกชื่อว่า จ่า ป. จ่า ส. ส่วนอีกคนยังไม่ทราบชื่อ ซึ่งในระหว่างๆ ที่พวกพี่ตำรวจชวนกินข้าวกันพวกพี่ๆ เขาจะคะยั้นคะยอให้ตนเองกินเหล้าด้วย จนเวลาผ่านไปตนเองเริ่มรู้สึกมึนเมาและอยากกลับบ้าน ซึ่งพี่ๆ ทั้ง 3 คน ก็ได้อาสาจะไปส่ง แต่ระหว่างทางพี่ๆกับเลี้ยวรถเข้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ซี่งตนเองอยู่ในอาการมึนเมาเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ และหิ้วตนเข้าไปในห้องของโรงแรมจากนั้นพวกพี่ก็ลงมือข่มขืนตนจนครบทุกคน ซึ่งตนไม่มีแรงที่จะต่อสู้ขัดขืนได้เลย
ด.ญ.มุข กล่าวต่อว่า พอตนรู้สึกตัวอีกทีก็ไม่พบพวกพี่ตำรวจทั้ง 3 คน ตนจึงได้เดินออกมาจากห้องของโรงแรมและโบกเรียนรถแท็กซี่หน้าโรงแรมโดยแจ้งว่า ตนเองถูกตำรวจข่มขืนซึ่งแท็กซี่ก็อาสาว่า จะพาไปแจ้งความแต่กลับพาเข้าไปข่มขืนในโรงแรมอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งตนก็ไม่รู้เหมือนกันว่า อยู่ที่ไหนทำให้ตนรับสภาพไม่ไหวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงได้ไปปรึกษากับคนรู้จักจากนั้นเค้าจึงได้พามาที่บ้านพักเด็กและสตรีจังหวัดปทุมธานี เพื่อขอความช่วยเหลือและเอาเรื่องกับคนที่ลงมือข่มขืนตัวเองกับทุกคน
ด้านนายศิลปะชัย เคนพา เจ้าหน้าที่ฝ่ายกระทรวงพัฒนาการและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า เมื่อเด็กได้เดินทางมาถึงก็ตกอยู่ในอาการช็อคและซึมเศร้าต้องฟื้นฟูสภาพจิตใจ จากนั้นจึงได้ทำการสอบถามประวัติ พบว่า เป็นนักเรียนชั้นมัธยมต้นโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี โดยพ่อมีอาชีพรับซื้อของเก่าและได้เลิกกับแม่แท้ๆ ไปตั้งแต่ยังเล็กๆ พออายุประมาณ 7 ขวบ ก็ถูกทั้งพ่อแท้ๆ ข่มขืนและต่อมาเรียนหนังสือใน ชั้น ม.3 ก็มีจิตอาสาเข้าไปช่วยอาสาจราจรก็ยัง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรข่มขืนอีก และแค่นั้นยังไม่พอยังมาถูก แท็กซี่ข่มขืนซ้ำอีก ซึ่งทางตนเองจะต้องเดินทางแจ้งความดำเนินคดีกับทุกคนซึ่งในวันนี้ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีกับพ่อเด็กก่อนจากนั้นจะเดินทางไปที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เพื่อแจ้งความกับตำรวจราจรทั้ง 3 คน และไปที่ สภ.ปากคลองรังสิต ซึ่งเป็นเขตที่เด็กถูกแท็กซี่ข่มขืนต่อไป
ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษพงษ์ รื่นกลิ่น รองผกก.สส.กล่าวว่า ในทางเรื่องของคดีเหตุที่เกิดภายในพื้นที่เป็นเรื่องของพ่อของเด็กผู้หญิงเชื่อว่าวันนี้สามารถออกหมายจับและจะติดตามจับตัวพ่อของเด็กมาได้อย่างแน่นอน ส่วนคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันข่มขืนนั้นผู้เสียหายจะต้องไปแจ้งความในพื้นที่เกิดเหตุเพราเป็นคนละคดีกัน รวมถึงคนขับแท็กซี่ที่ข่มขืนก็จะต้องไปแจ้งในพื้นที่ที่เกิดเหตุด้วย
http://ict.in.th/40939