ดีใจจัง...ค่าแรงวันละ 300 ขึ้นแล้ว...................

[ช่าง...ตู่....]

  .........

ขออนุญาตนะครับ...

จากนโยบาย...ค่าแรงวันละ 300 หรือเงินเดือน ๆ ละ 9,000 ที่ขึ้นให้กับแรงงานทั้งหลาย...ผมก็ดีใจกับบุคคลดังกล่าวด้วย......

แต่....ทว่า...ข้าราชการ...ระดับ 2 - 3 หรื่อ...ระดับอื่นก็ดี...ที่เริ่มจากระดับ 1 - 2 ถึงแม้ว่าจะจบในระดับ ป.ตรี...ก้อตาม...เงินเดือนก้อยังเท่าเดิม...

พูดง่าย ๆ ว่าตอนนี้ ข้าราชการ ระดับ 2 เงินเดือน 9,320 บาท ระดับ 3 ที่พึ่งจะปรับ เงินเดือน 9,850 บาท.... ( รวมค่าครอบชีพ 1,500 แล้ว )

แต่ถ้าบรรจุในระดับ 3 ก้อจะได้เงินเดือน ตามนโยบาย คือ 15,000 บาท........


เมื่อดูตัวเลขแล้วจะเห็นได้ว่า เงินเดือน ของลูกจ้างทั่วไป  กับข้าราชการ เกือบเท่ากัน.....แล้วทำไมไม่เพิ่มเงินเดือนของราชการให้ทั่วถึงหรือสมดุยกว่านี้บ้าง

จึงขอถามพี่ๆ  น้า ๆ ว่าที่อื่นเป็นอย่างนี้บ้างมั้ยครับ.....

[จอยฮันเตอร์]

แล้วตอนนี้ลูกจ้างอัตราเงินเดือนเท่าไหร่ครับ

[ช่าง...ตู่....]

แล้วตอนนี้ลูกจ้างอัตราเงินเดือนเท่าไหร่ครับ

9,000 ถ้วน ครับน้าจอย.....

[SillyOldMan]

ขรก.มีสวัสดิการ บำเน็จ บำนาญ สิทธิรักษาพยาบาล สิทธิเบิกค่าเล่าเรียน ... ลูกจ้างเอกชนไม่มีครับ ถึงมีก็น้อยมาก สิทธิประกันสังคมก็ด้อยกว่าสิทธิรักษาฯของขรก.เยอะ ถ้าจะเอาให้พอๆกันต้องซื้อประกันนอกเองปีละเกือบ2หมื่น

[naisomchai]

เงินเดือนข้าราชการจะต้องปรับเพิ่มขึ้นไล่ระดับสูงขึ้นจากล่างขึ้นบน ให้มีความแตกต่างตามสัดส่วนคงเดิมครับ... หากไม่ทำ ระบบจะล้มครืน เพราะข้าราชการจะขาดขวัญและกำลังใจปฎิบัติหน้าที่เพื่อชาติด้วยความเสียสละ...

บอกกันตรงๆ ว่าความสามารถของข้าราชการระดับตั้งแต่ 8 ขึ้นไป(มีลูกน้องประมาณ 10 - 20 คน)นั้น ความสามารถระดับนี้เทียบได้กับเงินเดือน ผจก.อาวุโสฯ ในบริษัทเอกชนที่มีความมั่นคงสูง... เงินเดือนเขาอยู่ที่ประมาณ 100,000.- ถึง 150,000.- บาทแล้วครับ...

ดังนั้นข้าราชการที่ทำงานกันอยู่เต็มความสามารถ นั้นเขาทำงานด้วยความเสียสละครับ(ไม่นับพวกเส้นสาย+ชะเลียร์)... หากเงินเดือนไม่ถึง ก็อยู่ด้วยสปิริต, แต่ถ้าเงินเดือนต่ำเกินฯ ระบบจะล่มเอา...

ลองพิจารณาเทียบดูกับคนทำงานเอกชนอยู่บ้านเดี่ยวย่านชานเมือง มีรถยนต์ผัวคันเมียคัน ผ่อนบ้าน+ผ่อนรถ 2 คัน, คิดรายจ่ายต่อเดือน+เงินเก็บ+ค่าใช้จ่ายตามฐานานุรูป... เมื่อคิดย้อนตอ(เข้าเกียร์ถอยหลังจากรายจ่ายกลับไปหารายได้) ตามเกณฑ์ปล่อยเงินกู้ของแบงค์(ผ่อนบ้าน) และตามเกณฑ์ของไฟแนนซ์(ผ่อนรถ)จะมีรายได้ต่อครัวเรือนประมาณเดือนละ 200,000.- บาทครับ...

ฟันธง... รัฐบาลต้องขึ้นเงินเดือนข้าราชการแน่ๆ...

[เบิ้ม]

ขรก.มีสวัสดิการ บำเน็จ บำนาญ สิทธิรักษาพยาบาล สิทธิเบิกค่าเล่าเรียน ... ลูกจ้างเอกชนไม่มีครับ ถึงมีก็น้อยมาก สิทธิประกันสังคมก็ด้อยกว่าสิทธิรักษาฯของขรก.เยอะ ถ้าจะเอาให้พอๆกันต้องซื้อประกันนอกเองปีละเกือบ2หมื่น

วันหยุดเยอะ มั่นคงสูง รัฐไม่มีเจ๊ง ไม่มีขาดทุนแบบเอกชน ทำงานยังไงก็ไม่โดนไล่ออก บริษัทรัฐไม่มีเจ๊งด้วยครับ  ไม่ว่าปีไหนจะขาดดุลงบประมาณอย่างไร

[ช่าง...ตู่....]

ขรก.มีสวัสดิการ บำเน็จ บำนาญ สิทธิรักษาพยาบาล สิทธิเบิกค่าเล่าเรียน ... ลูกจ้างเอกชนไม่มีครับ ถึงมีก็น้อยมาก สิทธิประกันสังคมก็ด้อยกว่าสิทธิรักษาฯของขรก.เยอะ ถ้าจะเอาให้พอๆกันต้องซื้อประกันนอกเองปีละเกือบ2หมื่น

ครับ....แต่....สวัสดิการที่ได้มานั้น...เช่น...ค่ารักษาพยาบาล..หากเจ็บไข้ได้ป่วยมา ...ก็เบิกได้เป็นบางอย่าง...ไม่ได้ทั้งหมด...

แล้วต้องจ่ายเป็นเงินสดก่อน..แล้วจึงนำบิลไปเบิกกับต้นสังกัด...หากเร็วหน่อยก้อสักเดือน ช้าหน่อยก้อไม่มีกำหนด....

ที่สำคัญ...เข้าโรงพยาบาลแต่ละที...แพงมาก....ผมเคยเข้าตรวจโรคกระเพาะ...ได้ยาลดกรดกับยาเคลือบกระเพาะอย่าละแผง...บิลออกมาเป็นพันครับ...

ค่าเล่นเรียนบุตร.....ก็มีนโยบาลเรียนฟรีเข้ามาการเบิกขึ้นนั้นยากมาก....อย่างโรงเรียนอนุบาลเอกชน ก้อต้องจ่ายค่าเทอมแบบ...ผู้ปกครองเบิกได้ ค่าเทอม ก้อ 4500...หากเบิกได้ก้อ 2200...

แต่เมื่อนำบิลมาเบิกกับต้นสังกัด...จะจะต้องมาดูว่ารายการไหนเบิกได้รายการไหนเบิกไม่ได้....

ถึงที่กล่าวมาผมจะพูดไปทางน้อยใจ...แต่ผมภูมิใจที่ได้เป็นข้าราชการที่ตั้งใจพัฒนาท้องถิ่นเพื่อในหลวง....ไม่ได้ทำเพื่อนักการเมืองที่มาโกงกินครับ....

[ธำรง]

แล้วจะเอาเงินจากที่ไหนครับท่านสมชาย(ฮา) - รักในหลวง
ห่านจะได้เตรียมตัว 

[ช่าง...ตู่....]

เงินเดือนข้าราชการจะต้องปรับเพิ่มขึ้นไล่ระดับสูงขึ้นจากล่างขึ้นบน ให้มีความแตกต่างตามสัดส่วนคงเดิมครับ... หากไม่ทำ ระบบจะล้มครืน เพราะข้าราชการจะขาดขวัญและกำลังใจปฎิบัติหน้าที่เพื่อชาติด้วยความเสียสละ...

บอกกันตรงๆ ว่าความสามารถของข้าราชการระดับตั้งแต่ 8 ขึ้นไป(มีลูกน้องประมาณ 10 - 20 คน)นั้น ความสามารถระดับนี้เทียบได้กับเงินเดือน ผจก.อาวุโสฯ ในบริษัทเอกชนที่มีความมั่นคงสูง... เงินเดือนเขาอยู่ที่ประมาณ 100,000.- ถึง 150,000.- บาทแล้วครับ...

ดังนั้นข้าราชการที่ทำงานกันอยู่เต็มความสามารถ นั้นเขาทำงานด้วยความเสียสละครับ(ไม่นับพวกเส้นสาย+ชะเลียร์)... หากเงินเดือนไม่ถึง ก็อยู่ด้วยสปิริต, แต่ถ้าเงินเดือนต่ำเกินฯ ระบบจะล่มเอา...

ลองพิจารณาเทียบดูกับคนทำงานเอกชนอยู่บ้านเดี่ยวย่านชานเมือง มีรถยนต์ผัวคันเมียคัน ผ่อนบ้าน+ผ่อนรถ 2 คัน, คิดรายจ่ายต่อเดือน+เงินเก็บ+ค่าใช้จ่ายตามฐานานุรูป... เมื่อคิดย้อนตอ(เข้าเกียร์ถอยหลังจากรายจ่ายกลับไปหารายได้) ตามเกณฑ์ปล่อยเงินกู้ของแบงค์(ผ่อนบ้าน) และตามเกณฑ์ของไฟแนนซ์(ผ่อนรถ)จะมีรายได้ต่อครัวเรือนประมาณเดือนละ 200,000.- บาทครับ...

ฟันธง... รัฐบาลต้องขึ้นเงินเดือนข้าราชการแน่ๆ...

ขอบคุณครับ...ผมตั้งใจทำงานเพื่อชาวบ้านอย่างจริงใจ...แต่ก้อท้อบ้างเพราะนักกการเมืองท้องถิ่น...ที่หวังจะใช้ข้าราชการเป็นเครื่องมือ....

ทุกวันนี้ตัวผมก้อมีปัญหาต่าง ๆ นา นา...เข้ามาโดนแกล้งบ้าง...ใส่ร้ายบ้าง...ก้อยังต้องทนกันอยู่

[ช่าง...ตู่....]

ขรก.มีสวัสดิการ บำเน็จ บำนาญ สิทธิรักษาพยาบาล สิทธิเบิกค่าเล่าเรียน ... ลูกจ้างเอกชนไม่มีครับ ถึงมีก็น้อยมาก สิทธิประกันสังคมก็ด้อยกว่าสิทธิรักษาฯของขรก.เยอะ ถ้าจะเอาให้พอๆกันต้องซื้อประกันนอกเองปีละเกือบ2หมื่น

วันหยุดเยอะ มั่นคงสูง รัฐไม่มีเจ๊ง ไม่มีขาดทุนแบบเอกชน ทำงานยังไงก็ไม่โดนไล่ออก บริษัทรัฐไม่มีเจ๊งด้วยครับ  ไม่ว่าปีไหนจะขาดดุลงบประมาณอย่างไร

อย่างนี้ก้อใช่ครับ...แต่หากว่าไม่มีเรื่องชวนให้เข้าคุกเรื่อย ๆ ๆคงไม่เครียด....

[carrera]

ดีใจกับนายจ้างด้วยครับ

[naisomchai]

แล้วจะเอาเงินจากที่ไหนครับท่านสมชาย(ฮา) - รักในหลวง
ห่านจะได้เตรียมตัว  

เอามาจากกระทู้นี้ครับ... http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=118717.0

ได้เงินแบ่งเป็น 3 ก้อนโตๆ... 1) ขึ้นค่าภาคหลวงให้เหมือนแหล่งน้ำมันแหล่งอื่น, 2) ใช้หลักธรรมาภิบาลไม่ให้นักการเมืองกินค่าหัวคิวสัญญาก่อสร้างใหญ่ๆ, และ 3) ใช้น้ำมันดิบที่ขุดได้ในประเทศกลั่นและขายในประเทศ เมื่อเหลือแล้วจึงส่งออก(ต้นทุนกลั่นต่ำกว่าน้ำมันดิบที่ซื้อมากลั่นขาย - ปัจจุบันทำอยู่)...

ข้างบนคือผลโดยตรง... แต่จะมีผลกระทบในด้านดีที่จะอำนวยความเจริญแก่ระบบเศรษฐกิจของประเทศอีก นั่นคือราคาน้ำมันจะถูกลงเป็นการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจ ทำให้ GDP ของประเทศเพิ่ม, รัฐบาลได้ภาษีเพิ่มขึ้นจากประชาชนกินดีอยู่ดีอีกต่างหากครับ...

[naisomchai]

เงินรายได้จากน้ำมันดิบฯ รับรองว่ามีเกินพอครับ... อย่างน้อยประเทศในกลุ่มโอเปคส่วนใหญ่มีน้ำมันน้อยกว่าที่ประเทศไทยมี...

[เบิ้ม]

พนักงานรสก.เฮ!ได้ขึ้นค่าครองชีพ รายได้ต่ำกว่า9พัน-ไม่ถึง1.5หมื่นบาทรับเต็มๆ



น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 10 ก.ค.2555 เห็นชอบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ การจ่ายเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวของลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ (รสก.) ตามมติคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ครั้งที่ 2/2555 โดยกำหนดเป็นขอบเขตสภาพการจ้างที่เกี่ยวกับการเงินตามมาตรา 12(2) ของพ.ร.บ.รัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ.2543 ที่ให้รัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งสามารถดำเนินการเองได้เมื่อคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจนั้นๆเห็นชอบแล้วในเรื่องการจ่ายเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวให้ลูกจ้าง

สำหรับหลักเกณฑ์การจ่าย อัตราการจ่าย และระยะเวลาบังคับใช้ ให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวของทางราชการโดยอนุโลม และใช้เงินงบประมาณของแต่ละรัฐวิสาหกิจเอง โดยไม่ถือเป็นค่าจ้างและมีลักษณะจ่ายเป็นการชั่วคราว ไม่นำมาเป็นฐานในการคำนวณสิทธิประโยชน์ต่างๆ และหากครม.มีมติยกเลิกการจ่าย ให้รัฐวิสาหกิจยกเลิกจ่ายค่าจ้างชั่วคราวดังกล่าวตามไปด้วย

น.ส.ศันสนีย์ กล่าวว่า สำหรับลูกจ้างรัฐวิสาหกิจทั้งหมด มีจำนวน 271,762 คนแบ่งเป็นลูกจ้างที่มีวุฒิปริญญาตรีและมี ค่าจ้างต่ำกว่าเดือนละ 15,000 บาท จำนวน 31,224 คน หากมีการจ่ายค่าครองชีพชั่วคราวเต็ม 15,000 บาท จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 62,236,511 บาทต่อเดือน และลูกจ้างที่มีวุฒิต่ำกว่าปริญญาตรี ได้รับค่าจ้างต่ำกว่า 9,000 บาท มีจำนวน 21,591 คน หากมีการจ่ายค่าครองชีพชั่วคราวเต็ม 9,000 บาท จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 21,840,846 บาทต่อเดือน รวมเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นทั้งสิ้น 84,077,357 บาทต่อเดือน

นายภักดีหาญส์ หิมะทองคํา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติให้ทบทวน กรณีการปรับขึ้นค่าจ้างของลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ ในอัตรา 5% สำหรับลูกจ้างที่ได้รับค่าจ้างเกิน 50,000 บาทต่อเดือน ตามที่มีลูกจ้างส่วนหนึ่ง ร้องเรียนมาว่าเพื่อให้สอดคล้องกับมติครม.เมื่อวันที่ 28 มี.ค.2554 ที่เห็นชอบให้ปรับค่าจ้าง 5% สำหรับลูกจ้างที่ได้รับค่าจ้างต่ำกว่า 50,000 บาท แต่การปรับเพิ่มจะต้องไม่เกิน 50,000 บาท โดยให้ใช้เงินงบประมาณของแต่ละรัฐวิสาหกิจเอง

ทั้งนี้ มติครม.ต้องการช่วยเหลือค่าครองชีพผู้มี รายได้น้อยเป็นหลัก และมองว่าผู้มีรายได้เกิน 50,000 บาทนั้นมีรายได้สูง สามารถดำรงชีพได้โดยที่ภาครัฐไม่ต้องเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังพิจารณาหาแนวทางปรับปรุงโครงสร้างเงินเดือน พนักงาน และลูกจ้างรัฐวิสาหกิจในภาพรวมให้เหมาะสม และอยู่ระหว่างรอผลการศึกษาของคณะทำงานพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างเงินเดือนพนักงานและลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ

ในส่วนของลูกจ้างที่มีเงินเดือนเกิน 50,000 บาท มีจำนวนทั้งสิ้น 68,442 คน หากมีการปรับขึ้นเงินเดือนให้ลูกจ้างที่ได้รับค่าจ้างเกิน 50,000 บาทขึ้นไป จะเป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในปีงบประมาณ 2554 ประมาณ 3,120 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2555 ที่ 3,684 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2556 ที่ 4,487 ล้านบาท และปีงบประมาณ 2557 ที่ 3,926 ล้านบาท

[SillyOldMan]

ดีใจกับนายจ้างด้วยครับ

นายจ้างก็ขอดีใจกลับไปถึงลูกจ้างด้วยครับ ผมเลิกจ้างคนไทยแล้ว  

ลาออกปุ๊บรับใหม่ผมเอาพม่าเท่านั้น เก็บคนไทยไว้รับเผื่อโทรศัพท์แทนอยู่คนเดียว  ขยันกว่า ไม่เรื่องมาก

ให้เงินเดือนเท่าคนไทย จัดที่ให้อยู่สบายๆซื้อข้าวซื้อขนมมาฝากอาทิตย์ละ3-4ครั้งพวกนี้รักเราตายเลย ช่วงงานน้อยๆมาล้างรถให้เกือบทุกวัน ฝนตกก็ยังล้าง , อีกคนมาคอยอาบน้ำหมากับถูบ้านให้