มีข้อสงสัยครับ
หากรักษาน้ำใจ ยอมไม่ทวงปืนคืน และไปแจ้งความหาย
ถ้าปืนกระบอกนี้ถูกนำไปก่อคดี มีการสอบสวน
ญาติที่ยึดปืนไป ซัดทอดว่าได้จากกำนัน และ จขกท. ก็รับรู้เพราะเคยได้มาทวงปืนคืนแล้ว แต่ไม่ได้ปืนกลับไป
กำนันซัดทอดต่อว่าได้รับจำนำจาก จขกท. และ ได้หลุดจำนำเลยไปขายโอนลอยต่อ
เหมือน จขกท. รู้เห็นกับการทำผิกกฎหมาย โดยการนำปืนไปจำนำและโอนลอย
ที่เคยแจ้งความไปว่าปืนหาย ก็จะเป็นการแจ้งความเท็จ
และอาจโดนดึงไปเกี่ยวข้องกับคดีอาชญากรรมที่ญาติได้ก่อไว้
ผมมีความคิดเห็นว่า น่าไปทวงปืนคืน
หรือ
ขาย ป.๔ ให้เป็นการโอนแบบถูกกฎหมายไป
ไม่ว่าทางใดก็เสียวแทน จขกท. ครับ เพราะปืนเราอยู่กับคนแบบนั้น อาจไปก่อคดีมาแล้วก็ได้
เอาเฉพาะเรื่องฝากปืนหรือจำนำปืนนะครับ... หาก จขกท. ไปแจ้งความว่ากำนันรับฝากปืนไว้, ตรงนี้กำนันจะรับสมอ้างว่ารับฝากเพื่อรักษาแทน เพราะ จขกท. จะเดินทางไปอยู่กับแม่ ไม่ใช่รับจำนำฯ...
เพราะถ้ากำนันรับว่าจำนำ ตัวเองจะโดน 2 เด้ง, เด้งแรกมีความผิดเรื่องจำนำ เด้งสองคือหลุดตำแหน่งกำนัน(บารมีลด)... กำนันจะเหลือทางเดียวคือไปทวงปืนคืนมาให้ ส่วนเรื่องยักยอกนี่กำนันไม่กลัว เพราะสามารถ"เล่น"กับคดีได้ เนื่องจากน้ำหนักจะอยู่ที่พยานจะให้การในสำนวนฯ(หรือบนศาล)ว่าอย่างไรรอดหรือไม่ให้รอดฯ(ไปทวงปืนมาคืนซะ จะไม่ให้การเป็นโทษแก่กำนัน)...
ประเด็นก็คือให้หาหลักฐานให้ได้ว่าปืนได้ตกอยู่กับบุคคลที่ 3 แล้ว... ถ้าพิสูจน์ตรงนี้ได้ ให้รีบแจ้งความให้ตำรวจขอหมายกับศาลไปค้นให้เจอ, เจอแล้วค่อยมาว่ากันอีกทีว่าทำไมไปอยู่ตรงนั้น(เรื่องแบบนี้ตำรวจชอบเสียด้วยซิ)...
ส่วนเรื่อง"เสียญาติ"หรือไม่นั้น เป็นวิจารณาญาณของ จขกท. กับบุคคลที่เข้ามารับรู้เรื่องราวครับ... ความเห็นเฉพาะตัวนายสมชายก็ยังคงเหมือนเดิมว่าญาติแบบนี้มันไม่นับเราเป็นญาติตั้งแต่มันขี้โกงแล้วครับ, และคนแบบนี้ข่มได้ก็ต้องข่ม กดเอาไว้อย่าให้เผยอ แล้วกันเอาไว้ห่างๆ อย่ามานับญาติกันเลยดีกว่า, ลงว่ากล้าทำผิดอาญาแบบนี้เดี๋ยวก็เอาเรื่องเดือดร้อนอื่นมาให้ถ้าหากยังนับเป็นญาติกันอยู่...
ความเห็นยังคงเหมือนเดิมว่าควรตีดักหัวกำนันฯ(วางแผนให้ดี - ศักยภาพถึงไหม?)... อย่าให้ถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อ
รับรองว่ากำนันจะไม่ไปแจ้งความ หากไม่มีแผลเลือดตกยางออกให้ไปโรงบาลฯ รับรองกำนันจะเก็บเป็นความลับเงียบฉี่...
แต่ถ้าตีหัวคนอื่น คนนั้นจะไปแจ้งกำนัน แล้วกำนันจะระดมลูกน้อง+แจ้งตำรวจออกตามล่าตามสืบหามือกระบอง... ฮา...