หลักปฏิบัติไม่เขียนไว้ชัดขนาดนั้นครับ ตามมาตรฐานแล้วสิ่งแรกที่กำหนดมาคือความปลอดภัยและได้เผื่อความปลอดภัยไว้ให้(ผมขอไม่บอกตัวเลข)แต่บอกได้ว่าเผื่อให้เยอะครับ และในทางปฏิบัติขณะก่อสร้างจะคำนึงถึงความปลอดภัยทั้งของผู้ขับขี่และผู้ใช้ทางแบบอื่นๆ เช่น จักรยาน คนเดินเท้า สัตว์เลี้ยง เป็นต้น ผมมีตัวอย่าง ถนนสายหนึ่งที่ผมไปก่อสร้างผ่านมาแล้ว เป็นทางโค้งอยู่ในย่านชุมชน(หน้าโรงเรียนซึ่งเป็นโรงเรียนประจำอำเภอมีนักเรียน ป.๑-ม.๖ รวมกันเกือบ ๒,๐๐๐ คน) ผู้ออกแบคิดคำนวนค่าความลาดชันในทางโค้ง(super elevation)ตามมาตรฐาน โดยที่โค้งรัศมีเท่านี้ให้ใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 120 กม./ชม.และออกแบบมาตามนั้น ต่อมาจุดนั้นมีการแก้ไขให้ลดความเร็วลง เหลือเพียง 60 กม./ชม. (แต่ป้ายกำหนดให้ 30 )เนื่องจากเป็นย่านชุมชน เหตุผลคือ
๑.มีผู้คนพลุกพล่าน หากรถใช้ความเร็วที่ 120 ลองคิดดูว่าอันตรายแค่ไหน มีเด็กนักเรียน ผู้ปรกครอง เดินข้ามไปมาจำนวนมาก ไม่ใช่เฉพาะเช้า-เย็น แต่เกือบทั้งวัน
๒.เป็นย่านชุมชนที่มีบ้านเรือนเต็มทั้งสองฝั่งถนน บ้านที่อยู่ด้านนอกของโค้งจะเดือดร้อนมาก เพราะระดับของถนนจะถูกยกขึ้นสูงมาก เพื่อรองรับความเร็วที่ 120 กม./ชม. หากหน้าบ้านเรา(ตึกแถว)ห่างจากขอบทางแค่ 1 เมตร แต่ระดับของถนนกับพื้นบ้านต่างกัน 1.50 เมตร ลองคิดดูว่าเราจะขับรถเข้าออกบ้านได้อย่างไร
ด้วยเหตุนี้จึงมีการปรับแก้ตามสภาพเป็นจริงของสิ่งแวดล้อมโดยคำนึงถึงความปลอดภัย
อีกสายทางหนึ่ง เป็นทางโค้งเช่นกัน เป็นถนน 4 เลน รถไม่ได้วิ่งสวนทาง อยู่นอกชุมชน(ผ่านท้องนาและไร่มันสำปะหลัง) ออกแบบมากำหนดความเร็ว 80 กม./ชม. (ตามรัศมีของโค้ง) แต่เมื่อนายช่างผู้ควบคุมงานมองเห็นว่าอาจเกิดอันตรายหากผู้ขับขี่ใช้ความเร็วเกินไปจากนี้มาก จึงปรึกษาผู้บังคับบัญชาและผู้ออกแบบ สุดท้ายมีการปรับแก้เปอร์เซ็นต์ความลาดเอียงให้รองรับความเร็วได้ 120 กม./ชม. และก่อสร้างไปตามนั้น ที่ตัดสินใจทำอย่างนั้นได้เพราะไม่ได้อยู่ในย่านชุมชน
ไม่มีชาวบ้านเดือดร้อน
ผมยังยืนยันว่า หากผู้ขับขี่ทุกคนปฏิบัติตามกฎจราจร และไม่ประมาทเลินเล่อ อุบัติเหตุไม่เกิดครับ
อุบัติเหตุมิใช่เคราะห์กรรม แต่เกิดจากการกระทำโดยประมาท ที่ยกมาให้อ่าน อ่านแล้วก็ดูเหมือนเข้าท่าครับ แต่ผลลัพธ์ที่โค้งรัชดาไม่เห็นเข้าท่าตามที่อธิบายครับ... โดยเฉพาะตามตัวแดงใหญ่ๆ รู้สึกพิลึกครับ ว่าทำไมคนทำงานด้านนี้ทำไมจับประเด็นไม่ได้เอาเสียเลย, คาดว่ารู้ประเด็นแล้ว แต่ไม่ยอมรับมากกว่า...
ประเด็นคือถนนบางแห่ง "ทำไมถึงได้เกิดอุบัติเหตุมากกว่าที่อื่น"(เช่นโค้งรัชดาหน้าศาล)... ถ้าจะอ้างว่าความประมาทเป็นบ่อเกิดแห่งอุบัติเหตุมันก็ใช่ แต่มันก็เหมือนว่าผู้คนที่ขับรถผ่านถนนตรงนั้นพากันพร้อมใจประมาทตรงนั้นมากกว่าประมาทที่อื่น ก็เลยเสียชีวิตตรงนั้นมากกว่าที่อื่น...
ถนนอื่นก็ต้องมีคนขับเร็วเกินกฎหมายกำหนดกันทั่วไปแหละ มากบ้างน้อยบ้างตามแต่สภาพแวดล้อมฯ แล้วทำไมที่อื่นไม่ตายซับตายซ้อนเหมือนตรงโค้งรัชดาฯ... ถนนเส้นเดียวกันนั่นแหละ คนเดิมขับมาจากไหนก็ไม่รู้ ผ่านมาได้ตลอดเส้นทาง ที่ไม่เกิดอุบัติเหตุก่อนหน้านี้ก็แสดงว่ายังขับไม่เกินกฎหมายกำหนดกระนั้นหรือ? เมื่อมาถึงตรงหน้าศาลก็เร่งความเร็วให้เกินกำหนด จะได้ตายซับตายซ้อนตรงนั้น !!! ...
ผลลัพธ์มันออกมาแบบนี้ จะอ้างโน่นอ้างนี่ก็แล้วแต่จะอ้างแหละครับ... มีอยู่ 2 อย่างที่น่าจะอธิบายได้มากกว่าคือ 1) รู้แล้ว แต่ไม่ยอมรับ หรือไม่ก็ 2) ไม่รู้มาก่อนเลยว่านั่นคือความล้มเหลว...
จะอ้างโน่นอ้างนี่ก็อ้างไปเถิด... แต่คนตายซับตายซ้อนตรงนั้น แล้วอ้างว่าเป็นเพราะขับเร็วเกินฯ ดูเหมือนไม่มีความรับผิดชอบเลยครับ...