เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 20, 2024, 06:08:27 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 3 4 [5] 6
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: 20 อันดับ .. "เศรษฐีที่รวยที่สุดในประเทศไทย ประจำปี 2555"  (อ่าน 10322 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
SillyOldMan
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1984
ออฟไลน์

กระทู้: 7567


ผ่านทะเล เห็นบึงน้ำไร้ความหมาย


« ตอบ #60 เมื่อ: กันยายน 13, 2012, 08:55:37 PM »

ไหว้นมัสการพระคุณเจ้า

     ณ สถานที่แห่งนี้ ในกระทู้ต่างๆมีการพูดคุยในเรื่องการเอาชีวิต ปาณาติบาต  เรื่องเพศตรงข้าม มีรูปโป๊ ที่ท่านอาจจะเปิดดูโดยไม่ได้ตั้งใจ เป็นการไม่เหมาะสมกับเพศบรรพชิต ซึ่งส่งผลให้ผู้โพสเป็นบาปโดยไม่รู้ตัว สภาพแวดล้อมเช่นนี้ ไม่เหมาะที่จะแสดงธรรม เผยแพร่ธรรม อันเป็นเจนาบริสุทธ์ของท่าน


     หากท่านประสงค์จะเผยแพร่ธรรมะที่เวปปืนแห่งนี้ ท่านควรจะตั้งกระทู้ธรรมมะขึ้น ให้ผู้ที่สนใจได้อ่าน ไต่ถาม  สนทนา ให้ถูกที่ถูกทาง สมากชิกในเวปแห่งนี้หลายท่านปฏิบัติธรรม ผ่านการบวชเรียนมาแล้ว หลายท่านบวชเรียนในสายหลวงปู่มั่น หลายท่านบวชเรียนจนได้เป็นมหา ผมเชื่อว่าต้องได้รับความสนใจพอสมควร

 ไหว้

พระห่มสี"กรัก"ครับพี่

ในเรื่องของพระวินัยและทุดงค์วัตรหากเป็นพระกรรมฐานลูกศิษย์หลานศิษย์พระอาจารย์มั่น จะถือเคร่งเรื่องนี้นัก ไม่มีการเลี่ยง ไม่มีข้ออ้างใดๆทั้งสิ้น

แม้แต่เณรที่ไม่แตกฉานพระวินัย ไม่ได้อ่านพระไตรปิฎกปรุโปร่งจนเอามาดริฟท์ได้ตามใจชอบ หากมาขอนิสสัยห่มสี"กรัก"ฝากตัวเล่าเรียนในสายพระอาจารย์มั่นก็จะไม่ละเมิด....ไม่แม้แต่จะคิด

ถือบริสุทธิ์จนถึงมิติของใจ ให้ท่านอยู่อย่างสงสัยในความบริสุทธิ์ของตัวเอง การภาวนาจะไม่เป็นไป ฉันอาหารก็รู้สึกผิดทุกคำกลืน...ให้อยู่อย่างนั้นท่านยอมตายทิ้งเสียยังจะดีกว่า

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 13, 2012, 09:09:59 PM โดย SillyOldMan » บันทึกการเข้า

What man is a man , who does not make the world better?
SillyOldMan
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1984
ออฟไลน์

กระทู้: 7567


ผ่านทะเล เห็นบึงน้ำไร้ความหมาย


« ตอบ #61 เมื่อ: กันยายน 13, 2012, 09:06:03 PM »

ในเรื่องของการบิดเบือนพระธรรมวินัยกันตามใจชอบ พระลูกศิษย์-หลานศิษย์พระอาจารย์มั่นท่านบอกกันง่ายๆ

ว่าพระวินัย/พุทธบัญญัติทั้งหลาย พระพุทธเจ้าทรงเป็นผู้ตราไว้......ทรงลงละเอียดไปถึงขั้น ใช้น้ำเสร็จแล้ว ภาชนะที่รองน้ำต้องคว่ำ ไม่คว่ำถือเป็นอาบัติ



ใครข้องใจว่าทรงเป็นผู้บัญญัติไว้จริงหรือ? , บางข้อเชย ไม่สมกับกาลสมัย , ของบางอย่างในสมัยพุทธกาลยังไม่มี ไม่น่าจะครอบคลุมถึงฯลฯ

ท่านว่า....อยากเปลี่ยน อยากเลี่ยงนัก ก็ให้ไปถามพระพุทธเจ้าผู้เป็นเจ้าของของศาสนามาก่อน ไม่งั้นตราบใดที่ยังอาศัยศาสนาของพระองค์เลี้ยงชีพอยู่ก็จงก้มหน้าถือปฏิบัติให้จงดี....

เท่าที่ได้สัมผัสมา พระที่ได้เริ่มฝึกกรรมฐานมาบ้าง ท่านจะไม่เดือดร้อนกันกับเรื่องพวกนี้
บันทึกการเข้า

What man is a man , who does not make the world better?
Skeleton_King
ถูกเพิกถอนสมาชิกภาพ
Hero Member
*

คะแนน -3340
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2760


คนต่ำๆ ก็จะคิดได้แค่ต่ำๆ


เว็บไซต์
« ตอบ #62 เมื่อ: กันยายน 13, 2012, 10:39:43 PM »

เมื่อมีคำถามที่ว่า อาตมาบวชในสายใดนั้น
อาตมาจะตอบให้หายสงสัย

วันที่อาตมาบวช บวชที่วัด พระบรมธาตุอารามหลวง จังหวัดกำแพงเพชร พระอุปัชฌาย์เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดนุ่งห่มจีวรสีส้ม
หลังจากบวชแล้ว อาตมาเลือกที่จะมาจำพรรษาที่สำนักสงฆ์ธุดงคสถานอยู่สุขเจริญ ซึ่งเป็นสายธุดงค์
สิ่งที่จะต้องทำเพื่อให้อยู่ในสำนักนี้ได้ก็คือ
การนุ่งห่มจีวรสีกรัก
การไม่สะสมเงินทอง จับเงินและทอง
การไม่สวมใส่รองเท้า
การทำวัตร เช้า 04.30น. เย็น 6.30น. 
การทำกรรมฐาน นั้งสมาธิ เดินจงกรม อย่างน้อยวันละ 2ชั่วโมง
การบิณฑบาตร
การไม่สูบบุหรี่ และอบายมุขอื่นๆ
การฉันอาหารมังสวิรัส (เว้นจากเนื้อสัตว์) ซึ่งเคร่งคัดมาก
การถือเคร่งคัดในพระปาติโมกข์

อาตมาไม่รู้นะว่าข้อปฏิบัติเหล่านี้ จะคล้ายสำนักใด หรือ สายใด
แต่เท่าที่ทราบ ก็มีพระจากอโศกแวะเวียนมาบ่อยๆ

คงจะเป็นที่หายสงสัยกันนะ  เจริญพร
บันทึกการเข้า

รู้จักกันมากขึ้นได้ที่ http://www.facebook.com/profile.php?id=100001818524287
                               ^
                               ^
ถ้าคุณไม่เชื่อว่าคนที่คุณเกลียดก็มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
นั่นก็หมายความว่าคุณไม่เชื่อในการมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเลย  -Noam Chompsky-
อนัตตา
หนักแค่ไหนก็ไม่ทุกข์ สุขเพียงใดก็ไม่พลั้ง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1616
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8201


เมื่อเจ้ายืนอยู่บนยอดภูผา อย่าลืมว่าเจ้ามาจากที่ใด


« ตอบ #63 เมื่อ: กันยายน 13, 2012, 11:11:05 PM »

นมัสการหลวงพี่ไข่ครับ   ไหว้

อ่านอยู่หลายกระทู้  ร่มผ้ากาสาวภัสตร์ ทำให้หลวงพี่ดูสุขุมขึ้นเล็กน้อย (แต่ก็ยังไม่ยอมลงให้โยมอยู่ดี)

ผ้าสีใด ไม่สำคัญดอกครับท่าน  สำคัญก็คือเนื้อแท้ของความเป็นพระของท่านนั่นเอง

ผมว่าท่านเก่ง หรือไม่ก็กล้ามาก บวชเพียงไม่กี่วันท่านสามารถเทศน์โปรดญาติโยมได้ไปทั่ว จนเด็ก ๆ ร้องไห้กันเป็นทิวแถว (ทำให้ผมนึกถึงนพ.อะไร ที่เป็น

ทหาร ผมน้อย ๆ ที่เป็นสาวกเปรตกู้น่ะ รายนั้นหลอกเด็กร้องไห้เป็นสรณะ)

ปล.  ท่านไม่ต้องตอบผมก็ได้นะขอรับ จะกลายเป็นทะเลาะกับพระ ขี้กลากจะรับทานผมเปล่า ๆ  แค่นี้ผมก็ว่าโยมในเวปนี้บาปกันหลายคนแล้ว ที่ทำให้

ท่านต้องพะวงว่า ใครจะตอบมาว่าไงบ้าง ไม่เป็นอันทำกิจของสงฆ์กันล่ะ วันนี้เห็นตอบทั้งวันเลย

 ไหว้
บันทึกการเข้า

Skeleton_King
ถูกเพิกถอนสมาชิกภาพ
Hero Member
*

คะแนน -3340
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2760


คนต่ำๆ ก็จะคิดได้แค่ต่ำๆ


เว็บไซต์
« ตอบ #64 เมื่อ: กันยายน 14, 2012, 11:25:15 AM »

นมัสการหลวงพี่ไข่ครับ   ไหว้

อ่านอยู่หลายกระทู้  ร่มผ้ากาสาวภัสตร์ ทำให้หลวงพี่ดูสุขุมขึ้นเล็กน้อย (แต่ก็ยังไม่ยอมลงให้โยมอยู่ดี)

ผ้าสีใด ไม่สำคัญดอกครับท่าน  สำคัญก็คือเนื้อแท้ของความเป็นพระของท่านนั่นเอง

ผมว่าท่านเก่ง หรือไม่ก็กล้ามาก บวชเพียงไม่กี่วันท่านสามารถเทศน์โปรดญาติโยมได้ไปทั่ว จนเด็ก ๆ ร้องไห้กันเป็นทิวแถว (ทำให้ผมนึกถึงนพ.อะไร ที่เป็น

ทหาร ผมน้อย ๆ ที่เป็นสาวกเปรตกู้น่ะ รายนั้นหลอกเด็กร้องไห้เป็นสรณะ)

ปล.  ท่านไม่ต้องตอบผมก็ได้นะขอรับ จะกลายเป็นทะเลาะกับพระ ขี้กลากจะรับทานผมเปล่า ๆ  แค่นี้ผมก็ว่าโยมในเวปนี้บาปกันหลายคนแล้ว ที่ทำให้

ท่านต้องพะวงว่า ใครจะตอบมาว่าไงบ้าง ไม่เป็นอันทำกิจของสงฆ์กันล่ะ วันนี้เห็นตอบทั้งวันเลย

 ไหว้

อนุโมทนา บุญด้วยนะ ที่รู้จักนบน้อมต่อพระสงฆ์ที่ดี
อาตมาไม่ได้ทะเลาะกับใครนะ เพราะเป็นภิกษุ จะถือโทษโกรธใครมิได้หรอก ถ้าไม่โกรธจะทะเลาะกับใครได้อย่างไร
แต่ที่ถกเถียงกันนั้น ส่วนมากเป็นการสนทนาธรรม ซึ่งเกิดประโยชน์ ทำให้ปุถุชนทั่วไปรู้ถึงหน้าที่ของภิกษุอย่างแท้จริง
การทำให้ประชาชน รู้จักพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มากขึ้นนั้น เป็นหน้าที่ของภิกษุอยู่แล้ว ทำให้คนที่เข้าใจผิดได้กลับมาเข้าใจถูก

เพราะฉนั้น เมื่อวานนี้ที่อาตมาตอบทั้งวันนั้น ก็คือการทำให้ประชาชนเข้าใจศาสนาพุทธมากขึ้น ซึ่งนั้นคือกิจของสงฆ์นั่นเอง จึงไม่ได้เป็นการเสียกิจของสงฆ์อย่างที่โยมเข้าใจหรอก

เจริญพร
บันทึกการเข้า

รู้จักกันมากขึ้นได้ที่ http://www.facebook.com/profile.php?id=100001818524287
                               ^
                               ^
ถ้าคุณไม่เชื่อว่าคนที่คุณเกลียดก็มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
นั่นก็หมายความว่าคุณไม่เชื่อในการมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเลย  -Noam Chompsky-
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #65 เมื่อ: กันยายน 14, 2012, 11:28:02 AM »

กะทู้ชักร้อน  คิก คิก

เห็นพระแล้วร้อนครับ  คิก คิก
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
โป้ง*กันบอย - รักในหลวง
YOU'LL NEVER WALK ALONE
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1629
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16886


คนฮัก เต้าผืนหนัง........คนจัง เต้าผืนสาด


เว็บไซต์
« ตอบ #66 เมื่อ: กันยายน 16, 2012, 07:51:26 AM »

เห็นในนี้ร้อนกว่าครับพี่เบิ้ม

http://www.youtube.com/watch?v=4GTooA2RSpU&feature=player_embedded
บันทึกการเข้า


Skeleton_King
ถูกเพิกถอนสมาชิกภาพ
Hero Member
*

คะแนน -3340
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2760


คนต่ำๆ ก็จะคิดได้แค่ต่ำๆ


เว็บไซต์
« ตอบ #67 เมื่อ: กันยายน 16, 2012, 08:23:47 AM »

เห็นในนี้ร้อนกว่าครับพี่เบิ้ม

http://www.youtube.com/watch?v=4GTooA2RSpU&feature=player_embedded

ขออนุโมทนาด้วยนะ
อย่างที่อาตมาบอก พระภิกษุมาจากหลายฐานะ หลายการการศึกษา
สาเหตุการบวชก็ต่างกัน บางรูปบวชตามประเพณี บวชแต่ตัวแต่จิตรใจยังเป็นปุถุชนอยู่
แต่บางรูปบวชด้วยใจสัททรา ต้องการเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง
เพราะฉนั้นการกระทำจึงต่างกัน
เทคโนโลยีอาจจะเป็นเทคโนโลยีเดียวกัน แต่จะเป็นคุณหรือโทษนั้นก็อยู่ที่ผู้ใช้ ว่าจะใช้ให้เกิดประโยชน์ หรือให้เกิดโทษ

พุทธสาสนิกชนเองก็ดี ท่านมีเทคโนโลยีอยู่ในมือ ท่านสามารถใช้ให้เกิดประโยชน์ก็ได้หรือใช้ให้เกิดโทษก็ได้
ใช้บำรุงพระศาสนาที่ท่านนับถืออยู่ก็ได้  หรือจะใช้ทำลายพระศาสนาที่ท่านนับถืออยู่ก็ได้เช่นกัน
ทุกสิ่งทุกอย่าง มีทั้งคุณและโทษ
แม้แต่ยาเสพติด  หากใช้เสพก็จะเกิดโทษ  แต่หากใช้เป็นสือการสอน นำมาเป็นตัวอย่างว่าเป็นแบบนี้นะ เพื่อให้เยาวชนเห็นว่าสิ่งแบบนี้เป็นสิ่งผิดกฏหมายนะ มีสีมีกลิ่นอย่างนี้นะ หากเจอที่ไหนก็ให้แจ้งแก่เจ้าหน้าที่  ถ้าใช้แบบนี้ก็จะเกิดประโยชน์
เห็นไหมว่า สิ่งเสพติด ชนิดเดียวกัน แต่นำไปใช้ต่างกัน  ผลออกมาก็จะต่างกัน

เจริญพร
บันทึกการเข้า

รู้จักกันมากขึ้นได้ที่ http://www.facebook.com/profile.php?id=100001818524287
                               ^
                               ^
ถ้าคุณไม่เชื่อว่าคนที่คุณเกลียดก็มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
นั่นก็หมายความว่าคุณไม่เชื่อในการมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเลย  -Noam Chompsky-
โป้ง*กันบอย - รักในหลวง
YOU'LL NEVER WALK ALONE
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1629
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16886


คนฮัก เต้าผืนหนัง........คนจัง เต้าผืนสาด


เว็บไซต์
« ตอบ #68 เมื่อ: กันยายน 16, 2012, 12:45:45 PM »

อยากให้ เศรษฐี ได้อ่าน Wink

๑.   ธรรมเหมือนแพที่ข้ามฟาก   เมื่อถึงฝั่งแล้วไม่ต้องแบกไปด้วย
          ครั้งหนึ่ง   พระพุทธเจ้าตรัสเทศนาเปรียบเทียบธรรมะเหมือนแพพาข้ามฝั่ง
มิใช่เพื่อให้ยึดติด  ดังนี้
          "บุรุษคนหนึ่งเดินทางไปพบแม่น้ำกว้างใหญ่สายหนึ่ง      ไม่มีแพพา
ข้ามฟากไปฝั่งโน้น   และไม่มีสะพานที่จะข้ามได้  เขาจึงรวบรวมหญ้าบ้าง
ไม้บ้าง     กิ่งไม้บ้าง      มาผูกเป็นแพแล้วอาศัยแพนั้นข้ามไป    เมื่อถึงฝั่ง
โดยสวัสดิภาพแล้ว  เขาจึงจอดแพไว้ริมฝั่งแล้วเดินทางต่อไป
          ในทำนองเดียวกัน      เราตถาคตแสดงธรรมะเปรียบเทียบเหมือนแพ
สำหรับพาข้ามสังสารวัฏ    มิใช่เพื่อให้ยึดมั่นถือมั่น     ผู้ที่เข้าใจความข้อนี้
ควรละแม้กระทั่งสิ่งที่ดี (ธรรมะ)   ไม่จำต้องพูดถึงสิ่งที่ไม่ดี   (อธรรมะ)
ว่าควรละหรือไม่"
ม.๑๒/๒๘๐/๒๗๐

๒.   พึงพิจารณาสอบสวนแล้วจึงเชื่อ ไม่พึงเชื่ออย่างงมงาย
          ครั้งหนึ่ง      พระพุทธเจ้าเสด็จถึงเกสปุตตนิคม   เมืองเล็ก  ๆ     แห่งหนึ่งใน
แคว้นโกศล   ชาวนิคมมีนามว่า  "กาลามะ"   ไปเฝ้าพระองค์กราบทูลว่า   มีสมณะ
และพราหมณ์จำนวนมากผ่านมานิคมนี้    ต่างก็พูดยกย่องลัทธิของตน      ตำหนิ
ลัทธิของผู้อื่นจนไม่ทราบว่า จะเชื่อฝ่ายไหนดี
          พระพุทธเจ้าตรัสสอนชาวกาลามะเหล่านั้นว่า
          "ดูก่อน ชาวกาลามะทั้งหลาย     พวกท่านอย่าเชื่อเพราะฟังตามกันมา
อย่าเชื่อเพราะปฏิบัติสืบต่อกันมา   อย่าเชื่อเพราะข่าวเล่าลือ    อย่าเชื่อเพราะ
อ้างตำรา       อย่าเชื่อเพราะเหตุผลทางตรรกะ     อย่าเชื่อเพราะการอนุมาน
อย่าเชื่อเพราะคิดตรองตามแนวเหตุผล   อย่าเชื่อเพราะเข้ากับความคิดเห็น
ของตน    อย่าเชื่อเพราะรูปลักษณ์น่าเป็นไปได้    และอย่าเชื่อเพราะคิดว่า
ผู้พูดเป็นครูของตน
          ดูก่อน ชาวกาลามะทั้งหลาย    เมื่อใดท่านทั้งหลายรู้ด้วยตนว่า
สิ่งทั้งหลายไม่ดีงาม  มีโทษ  วิญญูชนติเตียน  พึงละสิ่งเหล่านั้นเสีย
เมื่อใดรู้ว่าสิ่งทั้งหลายดีงาม   ไม่มีโทษ วิญญูชนสรรเสริญพึงรับและ
ปฏิบัติสิ่งเหล่านั้น"
อ.๒๐/๕๐๕/๒๔๑

*********************************

อ่านต่อได้ครับ

http://www.seameo.org/vl/buddhist/budd5.htm
บันทึกการเข้า


carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2329
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 84478


« ตอบ #69 เมื่อ: กันยายน 16, 2012, 01:00:24 PM »

          ในทำนองเดียวกัน      เราตถาคตแสดงธรรมะเปรียบเทียบเหมือนแพ
สำหรับพาข้ามสังสารวัฏ    มิใช่เพื่อให้ยึดมั่นถือมั่น     ผู้ที่เข้าใจความข้อนี้
ควรละแม้กระทั่งสิ่งที่ดี (ธรรมะ)   ไม่จำต้องพูดถึงสิ่งที่ไม่ดี   (อธรรมะ)
ว่าควรละหรือไม่"

ชัดเจนครับ Grin Grin Grin สุดยอดของธรรม
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
Skeleton_King
ถูกเพิกถอนสมาชิกภาพ
Hero Member
*

คะแนน -3340
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2760


คนต่ำๆ ก็จะคิดได้แค่ต่ำๆ


เว็บไซต์
« ตอบ #70 เมื่อ: กันยายน 16, 2012, 04:42:32 PM »

อยากให้ เศรษฐี ได้อ่าน Wink

๑.   ธรรมเหมือนแพที่ข้ามฟาก   เมื่อถึงฝั่งแล้วไม่ต้องแบกไปด้วย
          ครั้งหนึ่ง   พระพุทธเจ้าตรัสเทศนาเปรียบเทียบธรรมะเหมือนแพพาข้ามฝั่ง
มิใช่เพื่อให้ยึดติด  ดังนี้
          "บุรุษคนหนึ่งเดินทางไปพบแม่น้ำกว้างใหญ่สายหนึ่ง      ไม่มีแพพา
ข้ามฟากไปฝั่งโน้น   และไม่มีสะพานที่จะข้ามได้  เขาจึงรวบรวมหญ้าบ้าง
ไม้บ้าง     กิ่งไม้บ้าง      มาผูกเป็นแพแล้วอาศัยแพนั้นข้ามไป    เมื่อถึงฝั่ง
โดยสวัสดิภาพแล้ว  เขาจึงจอดแพไว้ริมฝั่งแล้วเดินทางต่อไป
          ในทำนองเดียวกัน      เราตถาคตแสดงธรรมะเปรียบเทียบเหมือนแพ
สำหรับพาข้ามสังสารวัฏ    มิใช่เพื่อให้ยึดมั่นถือมั่น     ผู้ที่เข้าใจความข้อนี้
ควรละแม้กระทั่งสิ่งที่ดี (ธรรมะ)   ไม่จำต้องพูดถึงสิ่งที่ไม่ดี   (อธรรมะ)
ว่าควรละหรือไม่"
ม.๑๒/๒๘๐/๒๗๐

๒.   พึงพิจารณาสอบสวนแล้วจึงเชื่อ ไม่พึงเชื่ออย่างงมงาย
          ครั้งหนึ่ง      พระพุทธเจ้าเสด็จถึงเกสปุตตนิคม   เมืองเล็ก  ๆ     แห่งหนึ่งใน
แคว้นโกศล   ชาวนิคมมีนามว่า  "กาลามะ"   ไปเฝ้าพระองค์กราบทูลว่า   มีสมณะ
และพราหมณ์จำนวนมากผ่านมานิคมนี้    ต่างก็พูดยกย่องลัทธิของตน      ตำหนิ
ลัทธิของผู้อื่นจนไม่ทราบว่า จะเชื่อฝ่ายไหนดี
          พระพุทธเจ้าตรัสสอนชาวกาลามะเหล่านั้นว่า
          "ดูก่อน ชาวกาลามะทั้งหลาย     พวกท่านอย่าเชื่อเพราะฟังตามกันมา
อย่าเชื่อเพราะปฏิบัติสืบต่อกันมา   อย่าเชื่อเพราะข่าวเล่าลือ    อย่าเชื่อเพราะ
อ้างตำรา       อย่าเชื่อเพราะเหตุผลทางตรรกะ     อย่าเชื่อเพราะการอนุมาน
อย่าเชื่อเพราะคิดตรองตามแนวเหตุผล   อย่าเชื่อเพราะเข้ากับความคิดเห็น
ของตน    อย่าเชื่อเพราะรูปลักษณ์น่าเป็นไปได้    และอย่าเชื่อเพราะคิดว่า
ผู้พูดเป็นครูของตน
          ดูก่อน ชาวกาลามะทั้งหลาย    เมื่อใดท่านทั้งหลายรู้ด้วยตนว่า
สิ่งทั้งหลายไม่ดีงาม  มีโทษ  วิญญูชนติเตียน  พึงละสิ่งเหล่านั้นเสีย
เมื่อใดรู้ว่าสิ่งทั้งหลายดีงาม   ไม่มีโทษ วิญญูชนสรรเสริญพึงรับและ
ปฏิบัติสิ่งเหล่านั้น"
อ.๒๐/๕๐๕/๒๔๑

*********************************

อ่านต่อได้ครับ

http://www.seameo.org/vl/buddhist/budd5.htm

อนุโททนาสาธุกับผลบุญครั้งนี้ด้วย
 แพข้ามฟาก หากเรายังไม่ถึงอีกฝั่งเราควรยึดแพนั้นไว้ให้แน่นมีความเชื่อมั่นในแพนั้นว่าจะพาเราไปถึงอีกฝังได้อย่างปลอดภัย  แต่เมื่อถึงฝั่งแล้วควรปล่อยวางอย่าแบกแพนั้นเดิน แต่"ควร"ให้ความเคารพแพนั้นเพราะถ้าไม่มีแพนั้นเราก็จะข้ามมาอีกฝั่งมิได้  เปรียบได้ดังศิษย์เคารพครูอาจารย์ เพราะถ้าไม่มีครูอาจารย์แล้วเราก็จะต้องหาความรู้ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่อยากมาก เปรียบเหมือนเราว่ายน้ำข้ามฟากไปเองโดยไม่มีแพ 

พระพทุธเจ้าตรัสว่า อย่าพึ่งเชื่อสิ่งใด ให้ลองปฏิบัติดูก่อน
ดังบทสวด ธัมมานุสสติ ที่อาตมาจะแปลเป็นภาษาไทยให้เข้าใจดังนี้

สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม  พระธรรม เป็นสิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสไว้ดีแล้ว
สันทิฏฐิโก  เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติ พึงเห็นได้ด้วยตนเอง
อะกาลิโก  เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ และให้ผลได้ ไม่จำกัดกาล
เอหิปัสสิโก  เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกะผูอื่นว่า ท่านจงมาดูเถิด
โอปะนะยิโก  เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ  เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน ดังนี้

ปัจจุบัน ศาสนาพุทธในประเทศไทยแฝงไปด้วยศาสนาพราหมณ์ พิธีกรรมต่างๆก็แฝงอยู่โดยคนไทยไม่รู้ตัวและเหมือนว่านั่นคือศาสนาพุทธ
แต่แท้ที่จริงไม่ใช่   ลักษณะพิธีกรรมต่างๆที่แสดงให้เห็นถึงว่าเป็นศาสนาพราหมณ์เช่น การกรวดน้ำ การทำขวัญนาก การบวงสรวง การบนบานสารกล่าว การขอให้สิ่งศักสิทธิ์ช่วยดลบรรดาร   ลักษณะเหล่านี้เป็นรูปแบบของศาสนาพราหมณ์ทั้งสิ้น  พระพุทธเจ้าตรัสว่า ตนเป็นที่พึ่งของตน  คนทำกรรมใดไว้ ย่อมได้รับกรรมนั้น  ไม่สามารถแก้กรรมได้
ส่วนศาสนาพุทธที่แท้จริง จะไม่ใช่เทวนิยม  ไม่มีของขลังใดๆ ไม่มีสรณะใดๆ นอกจากพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
คนเราเดี๋ยวนี้ไหวพระพุทธรูปเพราะเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ ไม่ได้ไหวเพราะลำลึกนึกถึงพระพุทธเจ้าเพื่อยึดเอาเป็นสรณะ

บางคนคิดแค่ให้พระสงฆ์เป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมทางศาสนา
เช่น งานศพ ทุกคนรอพระไป พระไปถึงก็ไปสวดเป็นภาษาบาลี คนก็นั่งคุยกันไปไม่สนใจ ไม่เข้าใจว่าแปลว่าอะไร  สวดเสร็จพระรับเงินกลับวัด แล้วจะเกิดประโยชน์อะไร
หลายคนเชื่อว่า สวดให้คนตายฟัง  ขนาดคนเป็นๆนั่งอยู่ยังไม่ฟัง ยังฟังไม่รู้เรื่อง คนตายจะฟังได้หรือ
เพราะฉนั้น ที่สำนักสงฆ์นี้จะไม่มีการสวดบาลี แต่จะเทศนาให้คนเข้าใจ ในบทสวดกุศลา ว่าสวดไปเพื่ออะไร แปลว่าอะไร เพราะจะได้ประโยชน์มากกว่า และไม่ต้องถวายเงินแก่พระเป็นค่าจากสวดด้วย เพราะค่าจ้างก็คืออาหารที่ใสลงในบาตรทุกวันอยู่แล้ว

อาตมาก็เป็นเพียงแค่ลูกศิษย์ การอธิบายต่างๆก็จะไม่ละเอียดเท่าอาจารย์ หากท่านใดสนใจในรายละเอียดก็สามารถมารับฟังได้ทุกวันที่สำนักสงฆ์
หรือไม่สะดวก ก็ส่งชื่อที่อยู่ รหัสไปรษณี มาได้ เพื่อจะจัดส่งหนังสือ และ CD โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น เพื่อความเข้าใจในศาสนาพุทธของพระพุทธเจ้าอย่างถูกต้อง
ที่สำนักสงฆ์นี้ การสวดมนต์ จะแปลจากบาลีเป็นไทยทุกบทสวดเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง
หากมีข้อสงสัยใดๆ ติดต่อได้ ที่กระทู้ กราบลาบวช  ที่เฟรตบุ๊ก หรือจะโทรมาที่เบอร์อาตมาก็ได้ สิ่งใดที่รู้ก็จะตอบ สิ่งใดที่ยังไม่รู้ก็จะนำคำถามไปถามครูบาอาจารย์มาตอบให้ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง   เจริญพร
บันทึกการเข้า

รู้จักกันมากขึ้นได้ที่ http://www.facebook.com/profile.php?id=100001818524287
                               ^
                               ^
ถ้าคุณไม่เชื่อว่าคนที่คุณเกลียดก็มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
นั่นก็หมายความว่าคุณไม่เชื่อในการมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเลย  -Noam Chompsky-
SillyOldMan
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1984
ออฟไลน์

กระทู้: 7567


ผ่านทะเล เห็นบึงน้ำไร้ความหมาย


« ตอบ #71 เมื่อ: กันยายน 16, 2012, 05:07:38 PM »

แต่ละวัน ท่านเข้ามาออนไลน์หลายช่วงเวลามาก

ท่านจะมีเวลาเหลือพอเพื่อการฝึกตน จะเหลือสติพอเพื่อรู้ตนอยู่หรือครับ?




พระเถระหลายรูปที่ได้รู้จักท่านตัดสิ่งเร้าจากภายนอกออกหมด สิ่งพิมพ์,ไฟฟ้า,โทรศัพท์ท่านไม่เอาทั้งนั้น  ถึงกระนั้นแต่ละวันแค่ทำวัตรให้ครบ ครองสติให้รู้ตนได้ตลอดเวลาก็เวลาไม่พอจนจะเลิกนอนกันอยู่แล้ว

พระที่นั่นขนาดพระลูกวัดนั่งปลายแถวที่นับว่าพิเศษระดับสัมผัสจิตผู้รู้ได้ตั้งแต่คืนแรกที่เข้าเป็นนาค พอบวชแล้วรวมจิตได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่1 ปลุกจิตผู้รู้ตื่นได้ตอนสัปดาห์ที่2 ตอนสัปดาห์ที่3นั่งภาวนาจนเอ็นข้อเท้าแพลงบวมเป่ง ท่านยัง"แยกเจ็บออกจากจิต"ได้(คือร่างกายยังเจ็บปวด จิตรู้ว่าเจ็บ แต่ไม่ไปเจ็บกับมันด้วย)แล้วก็เดินลงเขาชันปรี๊ดไปบิณฑบาตรได้ทุกวัน .......

พระรูปที่ว่านั่น อย่าว่าแต่สิ่งฟุ้งจัดอย่างอินเตอร์เน็ต แค่นั่งดูกระรอกทะเลาะกันนานไปหน่อยท่านยังรู้สึกผิด เป็นพระใหม่แต่ละวันแค่ทำวัตรให้สมบูรณ์แล้วมารวมจิตรวมใจให้นั่งภาวนาได้เวลามันพอซะที่ไหน?


...........หากยังทำไม่ได้ดีกว่านั้น ก็หมายความว่าตัวเองยังฝึกไม่ถึงไหน แล้วจะอาศัยไปสั่งสอนคนอื่น ?

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 16, 2012, 05:11:05 PM โดย SillyOldMan » บันทึกการเข้า

What man is a man , who does not make the world better?
Skeleton_King
ถูกเพิกถอนสมาชิกภาพ
Hero Member
*

คะแนน -3340
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2760


คนต่ำๆ ก็จะคิดได้แค่ต่ำๆ


เว็บไซต์
« ตอบ #72 เมื่อ: กันยายน 16, 2012, 05:33:59 PM »

แต่ละวัน ท่านเข้ามาออนไลน์หลายช่วงเวลามาก

ท่านจะมีเวลาเหลือพอเพื่อการฝึกตน จะเหลือสติพอเพื่อรู้ตนอยู่หรือครับ?




พระเถระหลายรูปที่ได้รู้จักท่านตัดสิ่งเร้าจากภายนอกออกหมด สิ่งพิมพ์,ไฟฟ้า,โทรศัพท์ท่านไม่เอาทั้งนั้น  ถึงกระนั้นแต่ละวันแค่ทำวัตรให้ครบ ครองสติให้รู้ตนได้ตลอดเวลาก็เวลาไม่พอจนจะเลิกนอนกันอยู่แล้ว

พระที่นั่นขนาดพระลูกวัดนั่งปลายแถวที่นับว่าพิเศษระดับสัมผัสจิตผู้รู้ได้ตั้งแต่คืนแรกที่เข้าเป็นนาค พอบวชแล้วรวมจิตได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่1 ปลุกจิตผู้รู้ตื่นได้ตอนสัปดาห์ที่2 ตอนสัปดาห์ที่3นั่งภาวนาจนเอ็นข้อเท้าแพลงบวมเป่ง ท่านยัง"แยกเจ็บออกจากจิต"ได้(คือร่างกายยังเจ็บปวด จิตรู้ว่าเจ็บ แต่ไม่ไปเจ็บกับมันด้วย)แล้วก็เดินลงเขาชันปรี๊ดไปบิณฑบาตรได้ทุกวัน .......

พระรูปที่ว่านั่น อย่าว่าแต่สิ่งฟุ้งจัดอย่างอินเตอร์เน็ต แค่นั่งดูกระรอกทะเลาะกันนานไปหน่อยท่านยังรู้สึกผิด เป็นพระใหม่แต่ละวันแค่ทำวัตรให้สมบูรณ์แล้วมารวมจิตรวมใจให้นั่งภาวนาได้เวลามันพอซะที่ไหน?


...........หากยังทำไม่ได้ดีกว่านั้น ก็หมายความว่าตัวเองยังฝึกไม่ถึงไหน แล้วจะอาศัยไปสั่งสอนคนอื่น ?


เจริญพร
ปัญหาที่ท่านถามมานั้น คำตอบไม่ได้อยู่ที่ตัวอาตมา
คำตอบมันอยู่ที่ใจของท่านเองว่า  คำว่าพระภิกษุ ในความหมายของท่านคืออะไร
ต้องทำตัวอย่างไร สิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันต้องทำอะไรบ้าง
คำตอบได้มีอยู่ในใจท่านอยู่แล้ว แต่อาตมามิได้ปฏิบัติตัวตามความต้องการของท่าน ท่านจึงเกิดคำถามขึ้นมา
ทำไมพระไม่เป็นอย่างนั้น พระน่าจะปฏิบัติแบบนี้ พระทำแบบนี้ถึงจะสมควรนะ

การที่ต้องการให้โลกทั้งโลกมาหมุนรอบตัวท่านนั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก เพราะโลกหมุนรอบตัวเอง ไม่ได้ไปหมุนรอบตัวใคร
หากท่านต้องการให้คนทุกคนมาทำตามอย่างสิ่งที่ท่านต้องการนั้น ท่านก็จะหาความสุขได้อยาก แล้วก็จะเกิด โมหะ โทษะ ตามมา
แต่เมื่อใดที่ท่านคิดได้ว่า โลกมันก็หมุนไปตามปกติ คือคนทุกคนก็ใช้ชีวิตไปตามหน้าที่ตัวเอง เป็นธรรมดาธรรมชาติ ไปตามวิถีชีวิตของเขา ท่านก็จะพ้นจากความทุกข์ใจ ความไม่สบายใจ ความขัดใจ นั้นๆได้
การที่จะให้คนทั้งโลกมาเข้าใจท่าน  กับ การที่ท่านจะทำความเข้าใจคนทั้งโลก สิ่งใดทำได้ง่ายกว่ากัน อาตมาคิดว่าท่านมีคำตอบอยู่ในใจแล้วตอนนี้

เจริญพร
บันทึกการเข้า

รู้จักกันมากขึ้นได้ที่ http://www.facebook.com/profile.php?id=100001818524287
                               ^
                               ^
ถ้าคุณไม่เชื่อว่าคนที่คุณเกลียดก็มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
นั่นก็หมายความว่าคุณไม่เชื่อในการมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเลย  -Noam Chompsky-
SillyOldMan
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1984
ออฟไลน์

กระทู้: 7567


ผ่านทะเล เห็นบึงน้ำไร้ความหมาย


« ตอบ #73 เมื่อ: กันยายน 16, 2012, 05:56:55 PM »

อ้อ

ครับ  ไหว้
บันทึกการเข้า

What man is a man , who does not make the world better?
ทิดเป้า
Hero Member
*****

คะแนน -1181
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11916



« ตอบ #74 เมื่อ: กันยายน 16, 2012, 06:01:22 PM »

 ไหว้
อเสวนา จ พาลานํ ปณฺฑิตานญฺจ เสวนา ปูชา จ ปูชนียานํ
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 2 3 4 [5] 6
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.107 วินาที กับ 22 คำสั่ง