ข้อความโดย: d600g
ใส่การอ้างถึงคำพูด
สารวัตรทหารเลือดร้อน โมโหเพื่อนไม่ให้เลิกเล่นพนันไฮโล ชักปืนกระหน่ำยิงดับ 2 ศพ บาดเจ็บอีก 1 หน้าร้านคาราโอเกะ ก่อนมอบตัวตร. โดนข้อหาฆ่าคนตาย
เมื่อเวลา 04.30 น.คืนที่ผ่านมา พ.ต.ท. ขวัญพิชัย มโนเจริญทรัพย์ สารวัตรเวร สน.ดุสิต รับแจ้งเหตุยิงกันบริเวณหน้าร้านฟรองซ์ คาราโอเกะ เลขที่ 109 / 4-5 ถนนนครชัยศรี แขวงถนนนครชัยศรี เขตดุสิต กทม. มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บอีก 1 ราย จึงรายงานผู้บังคับบัญชาพร้อมรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งลักษณะเป็นตึกแถว 2 คูหา สูง 4 ชั้นปลูกติดกัน ตรวจสอบบริเวณด้านหน้าร้าน เจ้าหน้าที่พบเพียงกองเลือดจำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบกระสุนปืนขนาด 0.45 ม.ม. จำนวน 3 นัด หัวกระสุนปืน 1 นัด และปลอกกระสุนอีกจำนวน 8 ปลอก ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ทราบชื่อผู้ต้องหาคือ ร.อ.สมพงษ์ กิจสุขการ อายุ 56 ปี ทหารสังกัดกรมสารวัตรทหารบก กระทรวงกลาโหม ส่วนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จำนวน 3 ราย เจ้าหน้ากู้ภัยได้นำตัวส่ง รพ.พระมงกุฏเกล้า และรพ.วิชัยยุทธ เรียบร้อยแล้ว หลังก่อเหตุผู้ต้องหาได้ขับรถยนต์หลบหนี ก่อนย้อนเข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดุสิต จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวไปสอบปากคำที่สน.ดุสิต เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ
ต่อมาทราบชื่อผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย คือนายณรงค์ ชัยนาม อายุ 45 ปี ถูกยิงเข้าที่ศีรษะ บริเวณคิ้วและจมูก จำนวน 2 นัด เสียชีวิตคาที่ และนายวีระการ กล้าเชิงรบ อายุ 49 ปี ถูกยิงที่หน้าอกด้านซ้ายจำนวน 2 นัด เข้าที่ขาซ้ายและขวาอีก 2 นัด เสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาลวิชัยยุทธ นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส อีก 1 ราย คือ ร.อ.มานิตย์ ทรัพย์กมล ทหารสังกัดกรมสารวัตรทหารบก เข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ล่าสุดอาการยังไม่พ้นขีดอันตราย
พ.ต.ท. ขวัญพิชัย เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงที่ร้านคาราโอเกาะปิดให้บริการแล้ว แต่ผู้ตายและเพื่อนซึ่งรู้จักกันประมาณ 3-4 คน มานั่งดื่มเหล้าและเล่นการพนันไฮโล ภายในห้องทติดกับร้านคาราโอเกะ ต่อมากลุ่มผู้ตายได้โทรศัพท์ติดต่อเพื่อให้ ร.อ.สมพงษ์ มาร่วมดื่มเหล้าและเล่นพนันด้วยกัน แต่ปรากฎว่า ร.อ.สมพงษ์ เล่นได้พนันมากกว่า และจะขอเลิกเล่น แต่กลุ่มผู้ตายไม่พอใจ จนเกิดเรื่อทะเลาะวิวาทชกต่อยกันขึ้น หลังจากนั้น ร.อ.สมพงษ์ได้เดินออกจากห้อง ไปหยิบปืนพกประจำกาย ขนาด 9.ม.ม.ที่อยู่ในรถยนต์อีซูซุ ทะเบียน 8ท.4046 กทม.ซึ่งจอดไว้ เมื่อเดินกลับมายังบริเวณหน้าร้านอีกครั้ง ผู่ต้องหาเห็นนายณรงค์ คว้าปืนลูกซองยาวและยิงใส่ แต่กระสุนไม่ทำงาน จึงชักปืนออกมายิงตอบโต้ จนทำให้นายณรงค์และนายวีระการ เสียชีวิตดังกล่าว ขณะที่ร.อ.มานิตย์ซึ่งเข้ามาห้ามปรามถูกกระสุนปืนได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน หลังก่อเหตุ ผู้ต้องหาได้ขับรถยนต์หลบหนีไปทางถนนสรรคโลก
ต่อมา ร.อ.สมพงษ์ กิจสุขกาย อายุ 56 ปี สังกัดกรมการสารวัตรทหารบก ได้กลับมายังร้านคาราโอเกะดังกล่าวยืนรอมอบตัวและรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุ พร้อมมอบอาวุธปืนออโตเมติกขนาด 11 มม. 1กระบอก แมกกาซีนปืน 2 อัน มีกระสุนค้างอยู่ 1นัด และ 3 นัด ตามลำดับ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวกลับไปสอบสวนที่ สน.
ร.อ.สมพงษ์ ให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุประมาณเที่ยงคืนเศษ ร.อ.มานิตย์ โทรมาชักชวนให้ไปนั่งดื่มกินที่ร้านดังกล่าว โดยมีคนนั่งอยู่เกือบ 10 คน หลังดื่มกินกันสักพัก ได้ตั้งวงเล่นไฮโลกัน ตนก็ไม่ได้ห้ามปราม เพราะเห็นว่าเป็นคนรู้จักกันทั้งนั้น หลังเล่นไปได้สักพัก ร.อ.มานิตย์ ต้องการจะเลิก แต่ทางฝ่ายผู้ตายไม่ยอม เนื่องจากกำลังเสีย จึงเกิดการต่อว่าด่าทอกันอย่างรุนแรง ถึงขั้นจะวางมวย ช่วงนั้นเองนายณรงค์ ได้ชักอาวุธปืนลูกซองขึ้นมายิง แต่กระสุนเกิดด้าน ด้วยความโมโห ตนจึงวิ่งออกไปหยิบปืนกระบอกดังกล่าวที่รถกระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 8ท-4046 กรุงเทพมหานคร ของตัวเองที่จอดอยู่หน้าร้าน เป็นช่วงเดียวกับที่บรรดาผู้เจ็บและเสียชีวิตวิ่งตามออกมา ตนจึงยิงรัวออกไปด้วยความโมโห ก่อนขึ้นรถคันดังกล่าวหลบหนีไป แต่ระหว่างที่ขับรถอยู่เกิดสำนึกผิด เพราะทุกคนต่างก็เป็นเพื่อน ๆ กัน ทั้งนั้น จึงขับรถย้อนกลับมามอบตัวดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำผู้ต้องหา จากนั้นจึงนำตัวไปตรวจสอบหาคราบเขม่าดินปืน และส่งหัวกระสุนและอาวุธปืนไปตรวจสอบที่กองพิสูจน์หลักฐาน พร้อมดำเนินคดีข้อหาฆ่าผู้อื่น โดยเจตนาและพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไปในทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9490000022332เมื่อไหร่ ตำรวจ ทหาร และคนมีอำนาจ จะมีสำนึก มีจิตที่เป็นคนคิดเป็นเสียทีหนอ เงินภาษีเอามาซื้อปืนให้ทหารไว้ป้องกันประเทศ แต่ปืนที่ซื้อให้ทหารและตำรวจไว้ป้องกันประเทศ เขากลับมาเอามาข่มขู่และไล่ยิงประชาชนแบบนี้ อย่ากล่าวหากันแบบนี้ซิ.......ไม่สวยเลย