อย่าเพิ่งท้อแท้ครับ...
ประมาณ 12-13 ปีแรกที่รับราชการ ผมก็ไม่ได้ 2 ขั้นเลย...
ทั้งๆที่ทำงานตามปกติ ไม่เคยลาพักร้อนครบ 10 วันเลยสักปี ไม่เคยลาป่วย ลากิจแค่ครั้งเดียว 1 วัน...
ตอนนั้นรุ่นน้องผมสองปี มานั่งบ่นให้ฟังว่าเขาไม่ได้สองขั้นเลย...
ผมเลยปลอบเขาไปว่าพี่ก็ไม่เคยได้ว่ะ บังเอิญหัวหน้าอีกแผนกเขาได้ยินเข้า...
ปีนั้นเลยได้สองขั้น ส่วนน้องคนที่ว่าแกก็ได้ปีต่อมา...
แต่หลังจากนั้นก็ไม่เคยได้อีกเลย...ฮา...
แนะนำว่าอย่าไปซีเรียสเรื่องขั้นครึ่งสองขั้นครับ...
ทำวันนี้ให้ดีที่สุด วันหน้าก็เป็นเรื่องของอนาคตครับ...
จะได้หรือไม่ได้สิ่งตอบแทนไม่สำคัญเท่ากับได้ทำความดีครับ...
เห็นด้วยกับคุณหมอครับเรื่องทำความดี..
ไม่แน่ใจว่าข้าราชการจะเจ๊งได้เหมือนราษฎรหรือเปล่า แต่สิ่งที่หลงเหลืออยู่ในใจคนรอบข้างและสิ่งแวดล้อมคือ "การทำดี"
คนดีตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้... จะยังคงมีคนเห็นและยื่นโอกาสให้ตลอดเวลาไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง... แต่ถ้า "ทำความเลว" ผมเห็นหลายคนแล้วที่พอล้ม นอกจากจะไม่มีใครยื่นโอกาสให้และแถมด้วยการ "กระทืบซ้ำ" ยิ่งถ้าไปสร้างความเดือดร้อนให้ใครด้วยแล้ว จะยิ่งมีแต่คนนินทา จะมีแต่ความทุกข์จนชีพวาย...
โจทย์คือ.. ไม่ว่าจะอยู่บทบาทไหนในสังคม จะต้อง "เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน"
มียศเส่ือมยศ มีลาภเสื่อมลาภ มีเงินแต่ไม่มีแผ่นดินอยู่.. ต้องสร้างละครตบตา โกหกไปวันๆ รู้ตัวอีกทีความสุขก็สลายไปหมด คิดทบทวนแต่ความชั่วที่กระทำจนบั่นปลายเหลือแต่ความทุกข์และมีมะเร็งไข่อยู่เป็นเพื่อนจนถึงวันตาย...
ไม่ได้ขั้นเพิ่ม แต่ก็ไม่ได้เจ๊งเหมือนราษฎรไม่ใช่หรือ... ชีวิตยังดำเนินต่อไปได้... เหมือนพระราชดำรัส "ถ้าไม่มีใครปิดทองหลังพระบ้าง พระรูปนั้นก็จะสมบูรณ์ทั้งองค์ไม่ได้.."
มุ่งทำดีต่อไปครับ นายไม่เห็น แต่ประชาชนจะเห็นเอง... และคราวนี้จะ "ตกน้ำไม่ไหล" ของจริงครับ...