ขยาดน้ำท่วม หนุ่มปทุมฯทุ่ม2แสน สร้าง บ้านน้อยคอยน้ำ หนุ่มใหญ่เมืองปทุมฯ ทุ่มเงินกว่า 2 แสน สร้าง "บ้านน้อยคอยน้ำ" โดยใช้ถังพลาสติกเป็นฐานรองด้านล่าง หล่อเสาหินขึ้นมายึดโยงกับตัวบ้าน เพื่อไม่ให้ตัวบ้านลอยไปตามน้ำ หลังขยาดบ้านจมน้ำเมื่อปี 54 ...
วันที่ 29 ก.ย.55 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปทุมธานี ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพน้ำภายในคลองเปรมประชากร ม.3 ต.บางพูด อ.เมือง จ.ปทุมธานี และได้พบว่ากำลังมีการก่อสร้างบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะผิดแปลกว่าบ้านหลังอื่นๆโดยทั่วไป ปลูกอยู่ริมคลองเปรมประชากร ฝั่งทิศตะวันออก โดยบ้านหลังดังกล่าวนั้น มีการยกพื้นสูงและมีถังพลาสติกสีเขียวจำนวนมากรองรับอยู่ที่ใต้ถุนบ้าน จึงได้เข้าไปพูดคุยกับเจ้าของบ้านที่กำลังก่อสร้างหลังดังกล่าว ทราบชื่อเจ้าของคือ นายไพโรจน์ ทัดบัวขำ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107 ม.3 ต.บางพูด อ.เมือง จ.ปทุมธานี
นายไพโรจน์ เปิดเผยว่า บ้านหลังเล็กๆที่มีขนาด 6x8 เมตร หลังนี้ ตนเองสร้างขึ้นมาเพื่อให้คนในครอบครัวได้อยู่อาศัยในช่วงน้ำท่วม เพราะเมื่อปี 2554 ที่ผ่านมานั้น บ้านของตนซึ่งปลูกอยู่ริมคลองเปรมประชากร ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ทำให้ชีวิตคนในครอบครัวที่มีอยู่ 8 ชีวิต ต้องพบกับความยากลำบาก เพราะถูกน้ำท่วมเป็นเวลายาวนานกว่า 2 เดือน แม้บ้านจะยกพื้นพอจะเก็บของและหลับนอนได้ แต่สิ่งที่กังวลคือเรื่องกระแสไฟฟ้า เนื่องจากตอนนั้น ตนได้ขอกับเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า ไม่ให้ตัดไฟฟ้าในบ้าน โดยทำการยกหม้อไฟให้สูงขึ้น แต่เนื่องจากในช่วงที่น้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว กระแสน้ำในคลองเปรมประชากรไหลแรงมาก และบ้านไม้หลังที่อาศัยอยู่ก็เป็นบ้านเก่า สร้างมาแล้วกว่า 50 ปี เวลานอนตอนกลางคืนก็กังวล เพราะถ้าบ้านทรุดตัวลงไป คนในบ้านอาจจะเสียชีวิตได้ หรือไม่ก็ถูกไฟช็อต
นายไพโรจน์ กล่าวต่อว่า ในปีนี้ตนเองก็ไม่แน่ใจว่าเมื่อถึงฤดูน้ำหลาก จะประสบปัญหาแบบเดิมอีกหรือเปล่า จึงได้อาศัยแนวคิดจากการใช้ถังน้ำขนาด 200 ลิตรจำนวน 4 ถัง มาต่อเป็นแพ เพื่อใช้เดินทางข้ามไปมาในช่วงน้ำท่วม มารองไว้ด้านล่างของบ้านหลังน้อยที่สร้างขึ้นใหม่ อาศัยจากที่ตนเรียนมาทางด้านวิศวกร จึงได้เริ่มก่อสร้างบ้านขนาด 6X8 เมตร ขึ้นมาหลังหนึ่ง โดยใช้ไม้และมุงหลังคาด้วยสิ่งเทียมสังกะสี ซึ่งเราก็คำนวณน้ำหนักออกมาได้ว่า บ้านหลังนี้รวมทั้งสิ่งของ อาหาร น้ำดื่มและคนในบ้านทั้ง 8 คนนั้น น้ำหนักรวมกันแล้วไม่น่าเกิน 3.5 ตัน จากนั้นก็ไปซื้อถังพลาสติกขนาดบรรจุ 200 ลิตร มาทั้งหมด 40 ถัง มาทำการติดตั้งใต้ถุนบ้าน เพื่อรองรับน้ำหนัก โดยมีการหล่อเสาหินขึ้นมายึดโยงกับตัวบ้าน เพื่อไม่ให้ตัวบ้านลอยไปตามน้ำ แต่จะให้ลอยสูงขึ้นตามระดับน้ำ ซึ่งเมื่อน้ำท่วมสูงขึ้น คนในครอบครัวของเราทั้งหมดจะได้เข้ามาอาศัยได้โดยปลอดภัย
นายไพโรจน์ กล่าว ต่อว่า จากประสบการณ์เลวร้ายที่เราและคนในครอบครัวทั้งหมดเจอมาเมื่อปีที่แล้วทำให้ผมลงทุนใช้เงินในการก่อสร้างบ้านหลังใหม่ ที่ลูกๆเรียกกันว่า บ้านน้อยคอยน้ำ หลังนี้ขึ้นมา โดยใช้เงินไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 2 แสนบาท โดยการก่อสร้างจนถึงขณะนี้ถือว่าเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว โครงการสร้างหลักๆทั้งหมดเสร็จแล้ว เหลือเพียงงานเก็บรายละเอียด และการสร้างห้องน้ำด้านหลังบ้านเท่านั้น และเมื่อน้ำมาเราก็จะปลอดภัยและอยู่กันสบายขึ้นกว่าปีที่แล้ว ถ้าน้ำไม่มา บ้านหลังนี้ก็อยู่เป็นปกติ สามารถใช้เป็นที่พักอาศัยได้เหมือนบ้านทั่วไป.
ที่มา ไทยรัฐ