เรื่องปีใหม่ที่ไม่ค่อยสุขสรรค์ เรื่องแปลก ๆ สำหรับปีใหม่ไม่ว่าจะเป็นด้วยอุบัติเหตุ ความบังเอิญเราก็มักจะนำมาคิดกันว่าปีนี้โชคไม่ดีหรือปีนี้โชคดี
เมื่อกลางปี 2554 ผมเจอกับมรสุมยาวจนถึงปลายปี 2555
- เมื่อประมาณเดือนเมษา 2554 พ่อผมเข้าโรงพยาบาลประจำอำเภอเพื่อผ่าฝีที่กระดูกสะโพก
หลังจากนั้นพ่อก็ไม่สบายตลอดจนถึงเดือนตุลาคม
- ผมพาพ่อย้ายโรงพยาบาลไปที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดหมอวิเคราะห์ว่าพ่อเป็นวัณโรคกระดูก
พ่อน้ำหนักลดจากประมาณ 80 กก.เหลือประมาณ 35 กก.กินอาหารไม่ได้ต้องให้อาหารทางสายยาง
- เดือนพฤศจิกายนแม่บอกผมว่าให้เตรียมบ้านให้พร้อมเพราะผมกับน้อง ๆทำบ้านหลังใหม่ให้พ่อแต่ยังไม่เสร็จดี
แม่คิดว่าพ่อคงไม่รอด ผมเร่งทำบ้านให้พออยู่ได้ เตรียมพื้นที่ข้างบ้านไว้พร้อมเตรียมน้ำดื่มเผื่อมีอะไรจะได้ไม่ยุ่งมาก
- ต้นเดือนธันวาคมพ่อเริ่มดีขึ้นบ้างแต่ยังคงนอนในห้องกันเชื้อและยังคงให้อาหารทางสายยาง
- ปลายเดือนธันวาคมแม่หกล้มต้องนำส่งโรงพยาบาลหมอรับตัวไว้ดูแล
- ต้นเดือนมกราคม 2555 พ่อออกจากโรงพยาบาลมาดูแลที่บ้านแต่แม่ยังคงอยู่ที่โรงพยาบาล
ประมาณวันที่ 10 มกราคม 2555 ผมรับแม่ออกจากโรงพยาบาลมาไว้ที่บ้านเพราะหมอบอกว่าไม่มีประโยชน์ที่จะให้
แม่อยู่ที่โรงพยาบาล
- ช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาที่ผมท้อแท้มากหันซ้ายเจอแม่หันขวาเห็นพ่อนอนอยู่บนเตียงแบบสภาพที่เรารับไม่ได้
แต่ด้วยเราเป็นหลักให้กับน้อง ๆ จะแสดงความอ่อนแอไม่ได้
- วันที่ 20 มกราคม 2555 ผมเสียแม่ไป พ่อก็นอนอยู่บนเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ขยับแขนได้แค่ข้างเดียง
นอนมองงานศพแม่ไม่พูดไม่จาอะไร ผมมองพ่อนานไม่ได้ต้องเดินหนีเพราะกลัวน้ำตาไหล
- หลังจากงานแม่ประมาณ 3 เดือนพ่อเริ่มดีขึ้น เริ่มกินข้าวเองได้ไม่ต้องใช้สายยาง ตั้งแต่กลางปี 2554 จนถึง
กลางปี 2555 ผมเดินทาง กรุงเทพ - สกลนคร ทุกสัปดาห์หรือไม่เกิน 2 สัปดาห์ ผมยังจำได้ประมาณเดือนเมษา 2555
ชมรมนัดเจอกันที่ 33 สนาม 2 พี่นะถามผมว่าเป็นไงบ้าง มันเหมือนกับมีอะไรมาสะกิดให้ความอ่อนไหวเข้ามาในใจน้ำตาผมแทบไหล
ไม่อยากจะเชื่อว่าอารมณ์แบบนั้นจะเกิดขึ้นกับตัวเอง
แต่มาวันนี้ย่างเข้าปี 2556 ทุกอย่างเริ่มดีขึ้นพ่อผมเริ่มพึ่งตัวเองได้ถึงแม้แกจะเดินไม่ได้แต่ก็สามารถนั่งรถเข็นไปได้ทั่ว
สามารถหุงข้าวกินเองได้ ที่สำคัญสามารถหยิบปืนมายิงฉลองปีใหม่ได้(ไม่ต้องห่วงเรื่องอันตรายเพราะอยู่บ้านนอกเขารู้ทิศทางดี)
โดยส่วนตัวแล้ว 1 ปีที่คิดว่าโหดร้ายกับเรามาก วันนี้และวันต่อ ๆ ไปมันต้องดีขึ้นกว่านี้ จึงอยากฝากถึงสมาชิกชาวปืนลมเราและ
ทุก ๆ คน ว่าหากเราดูแล พ่อ แม่ ครอบครัวเป็นอย่างดี เราจะไม่รู้สึกเสียใจภายหลัง ทุกอย่างเป็นสัจธรรมเปลี่ยนแปลงไม่ได้
เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา(แต่จะไม่ธรรมดาถ้าเกิดกับตัวเองเพราะเราไม่ใช่พระอาริยะสงฆ์ที่ตัดได้) คนเราเลือกเกิดไม่ได้
แต่เลือกทำได้ ถ้าเราเลือกทำในสิ่งที่ดีไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นผมว่ามันน่าภูมิใจนะ ยิ่งถ้าทำแต่สิ่งดี ๆ กับคนที่บ้านเวลาขอ
ซื้อปืนก็จะผ่านง่าย ไม่งอแงครับ
กินพื้นที่พี่วิโรจน์มาเยอะแล้ว หลังจากอ่านเรื่องที่ไม่น่ารับรู้ มารออ่านเรื่องธรรมะที่น่ารับรู้จากพี่วิโรจน์ครับ
อ่านแล้วอดคิดถึงพลังแห่งความรักไม่ได้ ด้วยพลังแห่งความรักที่คุณแม่มีต่อคุณพ่อ
คุณแม่อาจอธิฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้คุณพ่อปลอดภัยจากโรคร้ายโดยนำตัวคุณแม่ไปแทน
ไม่นึกว่าโรคฝีมีความร้ายกาจ เรียนประวัติศาสตร์จำได้ว่าสมเด็จพระนเรศวรก็ทรงประชวรด้วยโรคฝี
ผมเองก็เคยเป็นฝีจับต้องไม่ได้ปวดมาก แต่ก็อดไม่ได้เลยบีบแตกตั้งแต่ยังบวมแดงไปเสียก่อนที่จะโตขึ้น
เมื่อคนที่รักเป็นอะไรผมก็มักจะระลึกว่าถ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงก็ขอให้ผมเป็นแทน
ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ