จดหมายเปิดผนึกถึง คุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา
เราต่างรักในวิชาชีพสื่อสารมวลชนใช่ไหม?
ดิฉัน สมจิตต์ นวเครือสุนทร ผู้สื่อข่าวการเมือง (เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับสังกัด) ในฐานะสื่อมวลชน
แม้จะไม่เคยรู้จักคุณสรยุทธ เป็นการส่วนตัว แต่สิ่งที่ได้เห็นคุณสรยุทธ
แสดงออกเสมอมาคือความรักในวิชาชีพสื่อสารมวลชน
ไม่ว่าวันนี้จะยังเป็นกรรมกรข่าวหรือเศรษฐีค้าข่าว
แต่จิตวิญญาณแห่งวิชาชีพน่าจะยังคงอยู่
นอกจากว่า ที่ผ่านมาสิ่งที...่ทำทั้งหมด เป็นเพียงแค่การเสแสร้งสร้างภาพ
ซึ่งดิฉันคิดว่าคุณสรยุทธ ย่อมมีความซื่อสัตย์ต่อประชาชนที่ศรัทธา
และโอบอุ้มคุณสรยุทธ โดยไม่ควรแม้แต่จะคิดทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชน
การที่คุณสรยุทธ ตอบโต้แถลงการณ์ของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
ด้วยการลาออกจากการเป็นสมาชิก หลังจากถูกทวงถามด้านจริยธรรม
กรณีถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ว่ายักยอกเงินค่าโฆษณาอสมท. 138 ล้านบาท
ด้วยการให้พิจารณาตัวเองจากการทำหน้าที่พิธีกรเล่าข่าวนั้น
ถือเป็นการทำร้ายวิชาชีพสื่อสารมวลชนอย่างเลือดเย็นยิ่ง
เพราะเท่ากับว่า คุณสรยุทธ ซึ่งมีอิทธิพลต่อสังคมไทยอย่างมาก
กำลังทำให้คนเข้าใจว่า คนวงการสื่อไม่ยอมรับการตรวจสอบ
ไร้ซึ่งจริยธรรมที่จะแสดงตนเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับสังคมไทย
ถามคุณสรยุทธง่าย ๆ ว่า นักเล่าข่าวที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลว่าทุจริต
จะตรวจสอบนักการเมืองที่ทุจริตได้อย่างไร
นักเล่าข่าวที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลว่าทุจริต จะกล้าเรียกร้องให้นักการเมืองที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลว่าทุจริต
แสดงสปิริตด้วยการหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าคดีจะถึงที่สุดหรือไม่
นักเล่าข่าวที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลว่าทุจริต แต่ยังคงมีสถานะทางสังคม
โดยไม่ต้องแสดงความรับผิดชอบ ใด ๆ จะสร้างค่านิยมแบบไหนให้กับประเทศชาติของเรา?
ค่านิยมที่สังคมยอมรับการโกงว่าเป็นเรื่องปกติที่ใคร ๆ ก็ทำ
และยังได้ดิบได้ดีไม่ถูกลงโทษจากสังคม จึงไม่จำเป็นต้องมีความละอายต่อบาป
เพราะทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไปอย่างนั้นหรือ?
หน้าที่ของสื่อมวลชนส่วนหนึ่ง คือ การชี้นำสังคมให้เดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง
ถ้าวันนี้คุณสรยุทธ ซึ่งเป็นสื่อมวลชนที่คนไทยให้การยอมรับอย่างมาก
ไม่เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชน ก็เท่ากับกำลังบ่มเพาะความไม่ละอายต่อบาป
ให้เพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อย ๆ ในสังคมนี้ จนเห็นการทำความผิดเป็นเรื่องปกติไม่ใช่เรื่องที่ต้องประนาม
แม้คดีนี้จะยังไม่มีบทสรุปในชั้นศาล แต่องค์กรอิสระอย่าง ป.ป.ช.ได้ชี้มูลแล้ว
การแสดงออกให้เห็นว่า “จริยธรรมอยู่เหนือกฎหมาย”
จะทำให้คุณสรยุทธ “เป็นเรื่องเล่าระดับตำนานให้คนในแวดวงสื่อสารมวลชนได้กล่าวขานถึงว่า
เป็นสื่อมวลชนที่มีความรับผิดชอบต่อวิชาชีพของตัวเอง
และไม่ทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชน”
จดหมายเปิดผนึกจากนักข่าวตัวเล็ก ๆ อาจไม่มีความหมายอะไรเลย
ต่อการตัดสินใจของคุณสรยุทธ แต่ดิฉันเขียนจดหมายฉบับนี้ด้วยหวังว่าจะจุดประกายเล็ก ๆ
ให้เพื่อนพ้องน้องพี่ในแวดวงสื่อสารมวลชนได้ช่วยกันไตร่ตรองดูว่า
เราจะไม่ทำอะไรเพื่อรักษาวิชาชีพที่เรารักเลยหรือ?
เราต่างรักในวิชาชีพสื่อสารมวลชนใช่ไหม?
และอย่าจำนนกับความคิดที่ว่า “เราทำไม่ได้ ถ้าเรายังไม่ได้ทำ”
สมจิตต์ นวเครือสุนทร
ผู้สื่อข่าวสายการเมือง