เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 28, 2024, 01:48:30 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: +++ภัยอันตรายจากแรงงานข้ามชาติ+++  (อ่าน 2897 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
PHAPHOOM
Full Member
***

คะแนน 86
ออฟไลน์

กระทู้: 188



« เมื่อ: ตุลาคม 05, 2012, 05:46:26 PM »

+++ภัยอันตรายจากแรงงานข้ามชาติ+++


ที่ผ่านมามีให้เห็นหลายต่อหลายครั้งที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ตกเป็นเหยื่อกลุ่มมิจฉาชีพในประเทศไทย

บางครั้งต้องโดนทำร้ายจนถึงขั้นเจ็บสาหัส หรือหากซ้ำร้ายกว่านั้นอาจถึงขั้นเสียชีวิต

เพียงเพราะแค่หวังประสงค์ต่อทรัพย์สิน

แต่ก็มีอีกหลายครั้งเช่นกันที่บรรดานักท่องเที่ยวต้องตกเป็นเหยื่อแห่งกามารมณ์

เช่น เดียวกับเหตุการณ์ครั้งนี้ที่แหม่มสาวชาวอิสราเอลโดนหนุ่มหื่นบุกข่มขืนใจ ปลุกปล้ำ ขณะเดินทางมาเที่ยวงานฟูลมูนปาร์ตี้ บนเกาะพะงันแถมยังโดนทำร้ายร่างกายจนสะบักสะบอม ต้องหามส่งโรงพยาบาล

แต่สุดท้ายคนทำผิดก็หนีไม่พ้นเงื้อมมือของกฎหมาย

เหตุ ไม่คาดคิดครั้งนี้เกิดขึ้นกลางดึกวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศต่างกำลังสนุกสนานรื่นรมย์อยู่กับงานฟูลมูน ปาร์ตี้ บนเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ ธานี

จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึง เกือบช่วงเช้ามืด และหลายคนต่างแยกย้ายกันกลับที่พัก หลังงานเลี้ยงเลิกรา รวมไปถึงแหม่มสาวชาวอิสราเอล อายุ 23 ปี พร้อมเพื่อนสาวชาติเดียวกันที่กำลังเดินกลับเข้าพักที่โรงแรมกรีนเบย์ รีสอร์ต บนชายหาดริ้น ม.6 ต.บ้านใต้

แต่ระหว่างทางแหม่มสาวขอแยกกับ เพื่อนเพื่อไปทำธุระส่วนตัว ก่อนเดินลัดเลาะไปที่ชายหาดข้างสระน้ำของบาร์ทอมมี่ รีสอร์ต ตั้งอยู่บนหาดริ้น

โดยไม่รู้เลยว่ามีเงาทะมึนแอบติดตามไปอย่างกระชั้นชิด

จังหวะ ที่แหม่มสาวทำธุระเสร็จสิ้นและกำลังเดินย้อนกลับไปหาเพื่อน ชายผิวสีดำ สูงประมาณ 170 ซ.ม. อายุประมาณ 30 ปี ขอบตาเข้ม สวมเสื้อยืดสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ ที่ยืนแฝงตัวในเงามืดได้เดินตรงเข้ามาดึงฉุดกระชากตัวแหม่มสาวเข้าไปข้างสระ น้ำ

พยายามใช้กำลังปลุกปล้ำและถอดกางเกง แต่แหม่มสาวไม่ยินยอมและต่อสู้ขัดขืน จึงถูกคนร้ายกัดริมฝีปากจนเป็นแผลฉกรรจ์

แต่ ขณะที่กำลังเตรียมลงมือข่มขืน มีนักท่องเที่ยวเดินผ่านมาพอดี ทำให้คนร้ายตกใจแล้ววิ่งหลบหนีหายไปในความมืด พลเมืองดีนำร่างแหม่มสาวส่งไปรักษาที่ ร.พ.บ้านดอนอินเตอร์สมุย

หลัง จากนั้นไม่นานบรรดาตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุยต่างรุดมาตรวจสอบถึงที่มาที่ไป แล้วกระจาย กำลังออกติดตามไล่ล่าตัวไอ้หื่น มุ่งเป้าไปที่คนงานชาวต่างด้าว และบุคคลที่เคยมีประวัติก่อเหตุลักษณะนี้

พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดรอบหาดที่เกิดเหตุ แต่ก็ยังไร้วี่แววของคนร้าย

เจ้า หน้าที่ย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ ก่อนเข้าตรวจค้นทั่วหาดริ้นและรีสอร์ตใกล้เคียง กระทั่งพบผ้าคาดผมลายดำขาวและโบติดผมของเหยื่อตกอยู่ข้างแท็งก์เก็บน้ำของ รีสอร์ตแห่งหนึ่ง

จากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่รับแจ้งจากเจ้าของทอมมี่ รีสอร์ตว่า มีคนงานชาวพม่าต้องสงสัยเป็นคนร้ายก่อเหตุ เนื่องจากกำลังเก็บเสื้อผ้าเตรียมเดินทางออกจากเกาะพะงัน โดยอ้างว่าไปงานศพพ่อผ่านทางอ.แม่สอด จ.ตาก

เมื่อทราบเช่นนั้นจึงรีบ เข้าไปตรวจสอบและควบคุมตัวนายโบ คนงานชาวพม่า ก่อนเข้าตรวจค้นในห้องพัก พบเสื้อยืดคอกลมสีดำมีคราบเลือด ติดอยู่

ที่สำคัญเมื่อตรวจร่างกาย นายโบ พบรอยขีดข่วนหลายแห่ง จึงส่งตัวไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดที่ ร.พ. เกาะพะงัน และคุมตัวไปเค้นสอบที่โรงพัก

ไม่นานจากนั้นนายโบ ยอมให้การรับสารภาพ

"เพิ่ง มาทำงานที่ทอมมี่ รีสอร์ตได้เพียง 3 วัน คืนเกิดเหตุเห็นแหม่มสาวอยู่ในอาการมึนเมากำลังเดินคนเดียว จึงเกิดอารมณ์ทางเพศและลากตัวเข้าไปข้างกำแพงในที่ลับตาคน แล้วพยายามปลุกปล้ำข่มขืน"

แต่แหม่มสาวดิ้นต่อสู้ จึงชกท้องเหยื่อสาวจนหมดแรงต่อสู้ จากนั้นลงมือข่มขืน แต่ไม่สำเร็จความใคร่ เพราะแหม่มสาวตะโกนร้องให้คนช่วย เลยกัดปากจนเป็นแผลฉกรรจ์และวิ่งหลบหนี

หลังเกิดเหตุทราบจากเพื่อนชาวพม่าว่ามีตำรวจออกสืบหาตัวคนร้ายทำให้เกิดความกลัว จึงเก็บเสื้อผ้าหวังหลบหนีออกจากเกาะพะงัน

แต่สุดท้ายถูกตำรวจตามจับกุมได้เสียก่อน

ที่มา  http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNME9UTTJNek13TVE9PQ==&sectionid=
บันทึกการเข้า

*** ดูถูกคนอื่น เท่ากับดูถูกตนเอง ***
vuttichai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2012, 06:17:59 PM »

ถ้าเกิดสงคราระหว่างประเทศแค่มันคุยโทรศัพท์ส่งซิกกับพวกมันคนละแค่2นาทีคนไทยเสร็จมันใด้เป็นหมื่นเพราะมันอยูในประเทศเราอย่างน้อยชนชาติละเกินแสนแน่นอน. Shocked
บันทึกการเข้า
yod - รักในหลวง ครับ
ความรัก - เริ่ม - จากความรู้สึก หรือ ความคิด กันแน่นะ ..... ประวัติศาสตร์อาจจะย้อนรอยเดิม แต่คนไม่อาจย้อนอดีตได้
Hero Member
*****

คะแนน 1628
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18173



« ตอบ #2 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2012, 06:58:23 PM »

การเกี่ยวพัน และ การรวมตัว
เหนียวแน่นครับ
สามารถระดมพล ได้ ภายในไม่กี่นาที
และ ไม่น้อยครับ
บันทึกการเข้า

..สิ่งสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ว่า...วันนี้เขาอยู่หรือจากไป
สำคัญที่ว่า...ช่วงที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน
ขอให้มีความทรงจำที่ดี...ก็เพียงพอแล้ว
อย่างน้อย เราก็ยังมีอะไรดีดีให้นึกถึง
และยิ้มให้ความทรงจำนั้นได้ ...

..กรอบใดกักขังแค่กาย แต่ใจอย่าหมายกั้นได้
โซ่ตรวนรัดรึงตรึงไว้  แต่ใจนั้นใฝ่เสรี..
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #3 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2012, 07:11:00 PM »

ถ้าเกิดสงคราระหว่างประเทศแค่มันคุยโทรศัพท์ส่งซิกกับพวกมันคนละแค่2นาทีคนไทยเสร็จมันใด้เป็นหมื่นเพราะมันอยูในประเทศเราอย่างน้อยชนชาติละเกินแสนแน่นอน. Shocked
การเกี่ยวพัน และ การรวมตัว
เหนียวแน่นครับ
สามารถระดมพล ได้ ภายในไม่กี่นาที
และ ไม่น้อยครับ

          จริงครับ  .....   แต่ถ้าไม่มีเหตุการณ์ที่ว่า อนาคตมันไกล้เคียงกับจีนอพยพเสื่อผืนหมอนใบ ตั้งรกรากทำมาหากินร่ำรวยเป็น "เจ้าสัว"   เยี่ยม
                               ส่วนเจ้าถิ่นก็กลายเป็นลูกจ้างกินค่าแรงเค้าไปตามระเบียบเพราะนิสัยขี้เกียจและเลือกงานแบบคนบางส่วนนั้นแรงจัดสม่ำเสมอ
บันทึกการเข้า

                
PHAPHOOM
Full Member
***

คะแนน 86
ออฟไลน์

กระทู้: 188



« ตอบ #4 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2012, 07:23:19 PM »

แรงงานพม่าในไทย เมื่อเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

Posted in: ผลกระทบอื่นที่จะเกิดกับไทย   03 สิงหาคม 2555
ชาติที่เกี่ยวข้องกับบ้านเราในภาคธุรกิจมากที่สุดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้นั่นคือพม่า หรือ สหภาพเมียนมาร์ ที่ปัจจุบันมีแรงงานนับล้านคน ทั้งที่ถูกและไม่ถูกกฎหมายอาศัยอยู่ในพื้นที่เศรษฐกิจจนบางพื้นที่ถูกเรียกกันเล่นๆ ว่าเป็นจังหวัดใหม่ของพม่าไปเสียแล้ว

แน่นอนว่า ประเด็นเหล่านี้หากมองในมุมความมั่นคงของชาติถือว่าเป็นเรื่องล่อแหลมมากเพราะในจำนวนแรงงานเหล่านี้ มีไม่น้อยที่ไม่สามารถระบุสัญชาติหรืออัตลักษณ์ส่วนบุคคลได้ ทำให้คนกลุ่มนี้หากก่ออาชญากรรมแล้วการจะติดตามจับกุมมาดำเนินคดีจะเป็นไปได้ยากมาก เนื่องจากไม่มีเอกสารใดๆ ของทางการที่บันทึกประวัติไว้เลย วันนี้สกู๊ปหน้า 5 จะพาไปรับฟังข้อคิดเห็นในด้านความมั่นคงจากหลายภาคส่วนที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ตามแนวชายแดนว่าพวกเขามีความกังวลอย่างไร หรือมองเห็นอะไรหลังจากผ่านวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2558 นี้ไปแล้วบ้าง

แรงงานพม่านับล้านคนในไทย

เป็นที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันเศรษฐกิจไทยดำรงอยู่และเติบโตได้นั้นแรงงานต่างด้าวชาวพม่ามีส่วนสำคัญไม่น้อย
โดยเฉพาะกิจการด้านประมงและรับเหมาก่อสร้าง จากสถิติของกระทรวงแรงงานในปี พ.ศ.2553 พบว่ามีแรงงานต่างด้าวที่เข้าเมืองอย่างถูกกฎหมายราว 1 ล้าน 3 แสนคน ในจำนวนนี้ร้อยละ 82 เป็นชาวพม่า เท่ากับว่าราว 1 ล้านคน ของแรงงานเหล่านี้เป็นชาวพม่า แต่จากข้อมูลเชิงลึก พบว่านอกจากแรงงานขึ้นทะเบียนเหล่านี้แล้ว ยังมีแรงงานที่หลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายหลบซ่อนตัวทำงานในไทยอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้

“ดิฉันเคยคุยกับคนพม่า บอกพวกเขาว่าตอนนี้เรามีแรงงานพม่าราว 1 ล้านคน ในไทย เขาทำหน้างงๆ แล้วบอกกับดิฉันว่าคนพม่าหายไป 10 ล้านคน หากไทยบอกมีพม่า 1 ล้านคนแล้วพม่าอีก 9 ล้านหายไปไหน” เป็นคำบอกเล่าของนางนฤมล ขรภูมิ ประธานหอการค้าจังหวัดระนอง

คุณนฤมลเล่าแกมติดตลกว่าทุกวันนี้ในพื้นที่ จ.ระนองแทบจะกลายเป็นจังหวัดใหม่ของพม่าไปแล้ว สังเกตได้จาก
โรงพยาบาลประจำจังหวัดที่จะมีชาวพม่ามารอคิวใช้บริการตั้งแต่เช้าตรู่โดยแทบไม่เห็นคนไทยเลยนอกจากเจ้าหน้าที่ ไม่เพียงเท่านั้น สถานดูแลเด็กเล็กที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรเอกชนมีเด็กที่เป็นลูกหลานของแรงงานต่างด้าวเหล่านี้อยู่ในความดูแลอีกหลายพันคน ซึ่งในจำนวนนี้หลายคนไม่มีสัญชาติหรือเอกสารยืนยันตัวตนใดๆ เนื่องจากหลบหนีเข้าเมือง
ผิดกฎหมาย และทางการพม่าก็ไม่เคยยอมรับบุคคลเหล่านี้เป็นพลเมืองอย่างถูกต้อง

คุณนฤมลเล่าต่อไป พบว่าปัญหาอีกอย่างคือหน้าที่ในการจ่ายประกันสังคม แรงงานต่างด้าวจำนวนไม่น้อยไม่ทราบว่าการที่ตนเองมีสิทธิในการรักษาพยาบาลกับ รพ.ของรัฐในประเทศไทยนั้นก็ต้องมีหน้าที่ในการหักค่าจ้างจำนวนหนึ่งเข้ากองทุนประกันสังคมด้วยเช่นเดียวกับแรงงานไทยทั่วไป

“คนพม่าไม่น้อยไม่รู้ว่าพวกเขาต้องหักเงินเพื่อเข้าประกันสังคมไว้ใช้ในการรักษาพยาบาลหรือว่าคลอดบุตร จึงมีการหลบเลี่ยงประกันสังคมกัน ตรงนี้อยากฝากสำนักงานประกันสังคมให้ช่วยประชาสัมพันธ์ด้วย ไม่ใช่ว่าผลักภาระมาให้นายจ้างอย่างเดียว โดยทุกวันนี้ทางประกันสังคมบอกว่าเป็นหน้าที่ของนายจ้างที่ต้องหักเงินจากลูกจ้างส่งประกันสังคม ถ้าไม่หักจากลูกจ้างเท่ากับว่านายจ้างต้องจ่ายเองทั้งส่วนของนายจ้างและลูกจ้างด้วย”

แท็กซี่ต่างด้าวกับอาชญากรรม

ประเด็นเล็กๆ ที่ไม่ค่อยถูกพูดถึงเท่าไรนัก แต่ทว่ากระทบต่อความมั่นคงและสวัสดิภาพชีวิตของประชาชนไม่น้อย นั่นคือทุกวันนี้มีกระแสข่าวในทำนองว่าพบคนขับแท็กซี่หลายรายท่าทางไม่เหมือนคนไทย และที่สำคัญพวกเขาไม่สามารถ
พูดภาษาไทยได้ ทำให้มีเสียงเล่าลือกันว่ามีคนต่างด้าวลักลอบเข้ามาขับแท็กซี่ในเมืองไทยเป็นจำนวนมาก

แหล่งข่าวด้านความมั่นคงรายหนึ่งที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-พม่า เล่าให้เราฟังด้วยความไม่สบายใจหลังจากพบว่าชาวพม่าสามารถทำใบขับขี่สากลได้โดยไม่ต้องมีใบขับขี่สัญชาติตนเองก่อน ทำให้ชาวพม่าเหล่านี้เข้ามาขับรถรับจ้างในประเทศไทยได้ง่าย ทั้งๆ ที่ในประเทศตัวเองยังไม่มีใบขับขี่แต่อย่างใด

“ตลกไหมละครับ อย่างคนไทยเราอยากจะทำใบขับขี่สากลไปใช้ในอเมริกา ในยุโรปต้องมีใบขับขี่ของคนไทยก่อน แต่
คนพม่าอยู่ดีๆ ทำใบขับขี่สากลได้เลย แค่มีหนังสือเดินทางเข้าเมืองเท่านั้น ถ้าทำไปเพื่อขับรถส่วนตัวยังไม่เท่าไร แต่นี่ทำเพื่อไปขับรถรับจ้างโดยเฉพาะแท็กซี่ในเมืองใหญ่ๆ ตรงนี้ถ้าเขาไปชนคนตายหรือก่ออาชญากรรมกับผู้โดยสาร แค่หนีข้ามฝั่งไทยกลับไปพม่าก็จบแล้วใช่ไหม ชีวิตคนไทยราคาถูกขนาดนั้นเลยหรือ”

ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีตัวเลขแน่ชัดว่า จำนวนแท็กซี่ตลอดจนวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างและรถรับจ้างอื่นๆ มีผู้ขับขี่เป็นชาวต่างด้าวอยู่เท่าไร และแน่นอนว่าในปี พ.ศ.2558 เมื่อมีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) การเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในไทยอาจจะเพิ่มทวีคูณกว่านี้เพราะการเดินทางเข้า-ออกระหว่างชาติอาเซียนด้วยกันจะเป็นไปได้ง่ายมากขึ้นคล้ายกับการเดินทางของประชาชนในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU)

ภาษา : โอกาสและความมั่นคงของชาติ

เมื่อพูดถึงประเด็นด้านโอกาสของไทยในพม่า คุณนฤมลกล่าวว่า แม้ชาวพม่าจะซื้อสินค้าส่วนใหญ่โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้า-อิเล็กทรอนิกส์จากจีน แต่สินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปแล้วชาวพม่านิยมข้ามฝั่งมาซื้อของจากประเทศไทยมากกว่า

“ดิฉันเคยคุยกับบริษัทผลิตนมยี่ห้อหนึ่งของบ้านเรา เขาบอกส่งไปขายพม่าได้ปีละเป็นพันล้านบาท ไม่เพียงเท่านั้น คนพม่ายังฟังวิทยุไทย ดูทีวีช่องไทยผ่านจานดาวเทียม พวกเขานิยมสินค้าทั่วๆ ไปจากไทยมาก ยกเว้นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์พวกเครื่องใช้ไฟฟ้าเพราะทุกวันนี้ระบบไฟฟ้าบ้านเขายังไม่ดีนักสินค้าไทยเราคุณภาพดีกว่าก็จริงแต่ราคาก็แพงกว่าด้วย พวกเขาจึงคิดว่าซื้อไปใช้คงไม่คุ้ม เลยซื้อของจีนที่ราคาถูกน่าจะเหมาะกว่า”

ดูเหมือนจะเป็นโอกาส เพราะนอกจากการเข้าไปลงทุนแล้วแรงงานไทยประเภทช่างฝีมือทั้งหลายได้รับคำชมจาก
ผู้ประกอบการในต่างประเทศว่ามีทักษะฝีมือแรงงานที่ดีมากจากผลงานที่ไปมาแล้วทั้งญี่ปุ่น ไต้หวัน หรือเกาหลีใต้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนักเพราะจากผลสำรวจจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) พบว่าปัจจุบันคนไทยมีทักษะในการใช้ภาษาอังกฤษอยู่ในลำดับที่ 43 ของเอเชีย และรายงานจากสถาบัน International Institute for Management Development (IMD) องค์กรจัดอันดับศักยภาพในการแข่งขันของประเทศต่างๆ เมื่อปี พ.ศ.2554 (ค.ศ.2011)
พบว่าคนไทยมีทักษะภาษาอังกฤษอยู่อันดับที่ 5 ของอาเซียน เป็นรองทั้งสิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย

แต่ที่น่าตกใจมากกว่านั้น จากคำบอกเล่าของคนไทยที่เคยทำงานร่วมกับชาวพม่ามาเป็นเวลานาน พบว่าหากชาวพม่าที่มาทำงานในไทยนั้นมีภูมิลำเนาเดิมอยู่ในเขตเมืองใหญ่ๆ เช่น นครย่างกุ้ง (เมืองหลวงเก่าของพม่าก่อนจะย้ายเมืองหลวงมาที่เนปิดอว์ในปัจจุบัน) จะมีทักษะการใช้ภาษาอังกฤษที่คล่องแคล่วและชัดถ้อยชัดคำมากกว่าคนไทยอยู่มากทีเดียวดังนั้นแหล่งข่าวคนดังกล่าวจึงรู้สึกไม่สบายใจและเป็นห่วงคนไทยว่าหากเปิดเสรีอาเซียนแล้วเราจะไม่สามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้เพราะคนไทยยังอ่อนด้อยทักษะภาษาอังกฤษที่เป็นภาษาสากลในปัจจุบันอยู่มาก

นอกจากนี้ การที่พม่าติดต่อกับจีนมากกว่าประเทศอื่นทำให้คนพม่าจำนวนไม่น้อยใช้ภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่ว ซึ่งไทยก็จำเป็นต้องเร่งพัฒนาบุคลากรที่ใช้ภาษาจีนได้ดีให้ได้เช่นกันเนื่องจากปัจจุบันนี้จีนกำลังเป็นประเทศที่มาแรงมากในด้านการแข่งขันทางเศรษฐกิจ จนมีใครหลายคนคาดการณ์กันว่าภาษาจีนอาจจะกลายเป็นภาษาหลักของโลกแทนภาษาอังกฤษหากวันใดวันหนึ่งจีนสามารถแซงสหรัฐอเมริกา ขึ้นเป็นผู้นำโลกได้สำเร็จ

นั่นคือมุมมองทางเศรษฐกิจและการแข่งขัน แต่ในมุมมองของฝ่ายความมั่นคงแล้ว นายสุรชัย นิระ ที่ปรึกษาด้านการประสานกิจการความมั่นคง สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวเสริมอีกว่า ไม่เพียงแต่ภาษาอังกฤษเท่านั้น ภาษาของเพื่อนบ้านกลุ่มอาเซียนก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เหมือนภาษิตโบราณที่ว่ารู้เขารู้เรา รบร้อยชนะร้อย ซึ่งปัจจุบันเราพบว่าคนพม่าที่เข้ามาทำงานในไทยนั้นจำนวนไม่น้อยที่รู้ภาษาไทยในระดับอ่านออกเขียนได้ ในทางกลับกันมีคนไทยน้อยมากที่รู้ภาษาพม่าในระดับเดียวกัน ทำให้นี่เป็นจุดบอดด้านความมั่นคงที่น่าเป็นห่วงมาก

“ตรงนี้มีเรื่องน่าสนใจคือนักศึกษาจากไทยไปเรียนที่อินโดนีเซีย อยู่ที่นั่นแค่ครึ่งปีใช้ภาษาของที่นั่นได้คล่องแล้ว ดังนั้นถ้าคนไทยต้องทำงานกับชาวพม่าก็น่าจะเข้าใจภาษาและวัฒนธรรมของเขา ซึ่งปัจจุบันในไทยก็มีคนพม่า มีชุมชนพม่ามากมาย คนไทยน่าจะเปิดใจให้กว้างเพื่อเรียนรู้ เพราะรู้ภาษาก็คือรู้เขารู้เรา ก็จะทำให้เกิดการสร้างความเข้าใจอันดีต่อกันด้วย” คุณสุรชัยกล่าวทิ้งท้าย

อีกไม่นานเราจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนที่หลายๆ อย่างของชาติทั้ง 10 ในกลุ่ม จะเชื่อมโยงถึงกันอย่างไร้พรมแดน ซึ่งวันนี้หลายชาติเริ่มเตรียมตัวกันแล้วว่าจะสร้างจุดเด่นลบจุดด้อยของตนอย่างไรจึงจะมีศักยภาพในการแข่งขันได้ไม่เสียเปรียบชาติอื่น และไม่ใช่แค่อาเซียน 10 ชาติเท่านั้น มหาอำนาจทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และกลุ่มสหภาพยุโรป ก็กำลังจ้องมองการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อยู่อย่างไม่กะพริบตา

แล้วเราคนไทย….พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้แล้วหรือยัง?

ที่มา : แนวหน้า

 

อ่านต่อ: http://www.thai-aec.com/391#ixzz28QW1Ta4b
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 05, 2012, 09:02:37 PM โดย PHAPHOOM » บันทึกการเข้า

*** ดูถูกคนอื่น เท่ากับดูถูกตนเอง ***
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #5 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2012, 08:02:01 PM »

ถ้าเกิดสงคราระหว่างประเทศ
แค่มันคุยโทรศัพท์ส่งซิกกับพวกมันคนละแค่2นาที

คนไทยเสร็จมันใด้เป็นหมื่น
เพราะมันอยูในประเทศเรา
อย่างน้อยชนชาติละเกินแสนแน่นอน. Shocked


การเกี่ยวพัน และ การรวมตัว
เหนียวแน่นครับ
สามารถระดมพล ได้ ภายในไม่กี่นาที
และ ไม่น้อยครับ




Ha Ha Ha  ฮา  "ฺฮั่นแน่"  อ่ะ  ฮา

คนระยอง  ฮิ สั้น  คนจันท์  ฮิ  ยาว   ฮา  5555
ถ้าระยองกับคนจันท์  เจอกัน  ยายรวมเป็น  "สาม ฮิ"  อ่ะ  ฮา

ยายอ่านแล้ว  "เคลิบเคลิ้ม"  นึกว่าเป็น ตอนเสียกรุง 2310 เลยอ่ะ  ฮา

555 มันไม่มีแล้วหล่ะ  ไอ้การ  "ไสช้าง" ขี่ม้า  มารุกราน แบบเฉิ่มๆ  กันอ่ะ ฮา
รวมถึงการ  "บุกข้ามแดน"  มายึดครอง พื้นที่  ของอีกฝ่ายหนึ่ง อ่ะ ฮา

555 นอกจากจะหาเหตุ  ที่น่าเชื่อถือได้ว่า  "มีบ่อน้ำมัน"  อ่ะ  ฮา
แล้วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ศักยภาพ  มันทำอย่างนั้นไม่ได้ อ่ะ  ฮา

นอนฝันหวาน  รอ  "ไต้ฝุ่น"  อีกสิบลูก  อ่ะ ฮา   ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
lek
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1594
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13942


การแบ่งปัน ทำให้เราและคนอื่นมีความสุข


« ตอบ #6 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2012, 08:41:37 PM »

ตลาดไทเขาก็เรียกตลาดพม่าแล้วนี่ครับ  เป็นเจ้าของแผงหลายคนแล้ว
บันทึกการเข้า

มีความสุขแบบที่เรามีก็พอhttp://www.gunsandgames.com/smf/index.php?board=29.0  (รวมพลคนอีสาน)
kok ksn
Full Member
***

คะแนน 54
ออฟไลน์

กระทู้: 436


« ตอบ #7 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2012, 09:32:42 PM »

แรงงานต่างด้าวขับรถส่งของ รถบรรทุกดิน  พวกไม่เคารพกฏครับ ไม่มีใบขับขี่ ขับรถกีนตวน  แต่ตำรวจไมจับ  อยากส่งไปพวกมันไปอยู่คุณหมอนายแพทย์คนดังจังเลยละ  พวกมันบอกว่า พ่อเลี้ยง(เจ้านายพวกมัน) จ่ายค่าผ่านทางเรียบร้อย(ผมไม่รู้ว่าจ่ายใคร) ผมก็เลยไม่แปลกใจ เวลาที่ตำรวจตั้งด่านตรวจไม่เห็นรถพวกมันวิ่ง ผมว่ามันรู้ข่าวก่อนชาวบ้าน  ผมทำงานแถบชายแดนทางเหนือครับ  มันมาตั้งกลุ่ม แก้งค์ เวลามีงานมโหรสพเทศกาลรื่นเริง ยกพวกตีกัน ต่างด้าวซะส่วนใหญ่   แต่งงานมีลูกหลานเกิดในเมืองไทยเยอะครับมากครับ มีโรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตชายแดนภาคเหนือด้านตะวันตก โรงเรียนรัฐบาลไทย  แต่นักเรียนเป็นต่างด้าวเกือบร้อยเปอร์เซ็น กะเหรี่ยง ไทยใหญ่ ไต พม่า พวกที่เคยก่อเหตุเผาค่ายศูนย์ที่พักพิงผู้อพยพตัวเองแล้วทำลาย รถของตำรวจ รถของอำเภอ ที่เป็นข่าวดังเมือปีกลาย นั้นแหละ เข้ามาอาศัยในศูนย์แล้ว แอบหนีออกจากสูนย์  ส่วนใหญ่เข้ามาแบบหลบหนีเข้ามา แล้วมาหาอาศัยพ่อเลี้ยงพอไปทำบัตรแรงงานต่างด้าว(ไม่ต้องห่วงเรื่องใต้โต๊ะ ไม่เหลือ)
บันทึกการเข้า
Twitter 125
Hero Member
*****

คะแนน 155
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1345



« ตอบ #8 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2012, 09:41:53 PM »

อย่าไว้ใจมากครับ สำหรับคนต่างด้าวพวกนี้  ระวังและป้องกันก่อนก็ดี
บันทึกการเข้า

ถ้าอยากดัง.    ก็อย่าหวังความสงบ..
kamikaze_13
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 24
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 210


« ตอบ #9 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2012, 11:17:37 PM »

นี้แค่หลบๆซ่อนๆนะครับ เปิดAECปี58 เข้าออกเสรี ถ้าไม่เตรียมตัวป้องกัน ผมว่าหนักกว่านี้อีกเยอะ
อาชญากรรม มาเฟีย ต่างๆ เตรียมคุกแยกประเภทให้ดีดีละกัน
บันทึกการเข้า
Jedth
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 858
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4607



« ตอบ #10 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2012, 11:42:07 PM »

มีตัวอย่างจากการกระทำของแรงงานต่างด้าวให่้ห็นอยู่ (บ้าง) ครับ เช่น
การฆ่านายจ้างเพื่อชิงทรัพย์ ฯลฯ แล้วก็หนีข้ามฝั่งกลับไปประเทศตน
หรือมาอยู่ในบ้าน (ทำงานเป็นแม่บ้าน) แล้วโทรศัพท์ไปหาเพื่อนฯ มาลักทรัพย์
ปล. เป็นมุมมองส่วนตัวครับ  ไหว้
บันทึกการเข้า

Pragmatism
konklong
รักทุกคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 277
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2141


จงทำดี มีศีลธรรม ถือความสัตย์


« ตอบ #11 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2012, 11:57:39 PM »

               ทุกวันนี้แรงงานต่างด้าวที่เข้ามาหากินในบ้านเรา มีส่วนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยไม่น้อย   เพราะคนไทยเลือกงานกันมากขึ้น  ผู้ประกอบการทั้งหลายแหล่จึงมีความจำเป็นที่ต้องนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาทดแทน  แต่หากนำมาแบบถูกต้องตามกฎหมาย ปัญหาต่างๆน่าจะน้อยกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้  เพราะแรงงานเหล่านั้นมีการตรวจสอบ มีการบันทึกประวัติ ที่มาที่ไป  เวลามีปัญหาสามารถติดตามได้  แต่อย่างว่า หากทำตามกฎหมายต้องเสียเวลา เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น  จึงเป็นเหตุให้มีการใช้แรงงานเถื่อน ใช่ว่าใช้แรงงานเถื่อนแล้วจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพียงแต่เปลี่ยนจากจ่ายเข้ารัฐ เป็นจ่ายให้เจ้าหน้าที่ที่ประพฤติมิชอบบางคน  คนกลุ่มหลังนี่แหละที่เป็นต้นตอของการก่ออาชญากรรมต่างๆ เพราะถือว่าตนไม่มีแฟ้มประวัติ   
                ในปี 2558 เมื่อเข้าสู่ AEC เต็มตัวแล้ว ไทยคงลำบากขึ้น  ภาษาอังกฤษก็อ่อน  แถมผู้คนในบ้านเมืองมัวแต่แบ่งแยก แบ่งข้างกัน ทะเลาะกันเข้าไป  ประเทศชาติจะล่มจมสักเท่าไรไม่สน  ขอเพียงกลุ่มก๊วนตัวเองได้มีอำนาจก็พอ   เราเสียกรุงศรีอยุธยา มาได้ 245 ปี คนไทยก็ลืมไปเสียแล้วว่าคราวนั้นเสียกรุงเพราะอะไร  หากไม่ลืมคงไม่แตกแยกกันแบบที่เป็นมาตั้งห้าหกปีแล้ว และยังหาทางสมัครสมานสามัคคีกันไม่ได้  เศร้า
บันทึกการเข้า

ชนใดไม่มีดนตรีการ  ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก
konklong
รักทุกคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 277
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2141


จงทำดี มีศีลธรรม ถือความสัตย์


« ตอบ #12 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2012, 12:00:29 AM »

มีตัวอย่างจากการกระทำของแรงงานต่างด้าวให่้ห็นอยู่ (บ้าง) ครับ เช่น
การฆ่านายจ้างเพื่อชิงทรัพย์ ฯลฯ แล้วก็หนีข้ามฝั่งกลับไปประเทศตน
หรือมาอยู่ในบ้าน (ทำงานเป็นแม่บ้าน) แล้วโทรศัพท์ไปหาเพื่อนฯ มาลักทรัพย์
ปล. เป็นมุมมองส่วนตัวครับ  ไหว้
ทั้งสองกรณีที่ท่านว่า มีเยอะครับ เป็นข่าวออกบ่อยๆ  แต่ด้วยความจำเป็น จึงยังมีคนใช้แรงงานต่างด้าวอยู่ เพราะงานบางประเภทคนไทยไม่ทำ
บันทึกการเข้า

ชนใดไม่มีดนตรีการ  ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก
yod - รักในหลวง ครับ
ความรัก - เริ่ม - จากความรู้สึก หรือ ความคิด กันแน่นะ ..... ประวัติศาสตร์อาจจะย้อนรอยเดิม แต่คนไม่อาจย้อนอดีตได้
Hero Member
*****

คะแนน 1628
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18173



« ตอบ #13 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2012, 09:17:00 AM »

คนไทยไม่ทำ เพราะยังไม่ทำ ก็ยังมีกิน
แต่ ต่างด้าว เข้ามา เพื่อทำงาน ไม่เกี่ยงงาน
แต่ อาจจะ ย้ายงาน บ่อย ตามเพื่อน ๆ ที่ชักจูง
ด้วยไม่ทำ ก็ไม่มีกิน จะไปพึ่งพา เพื่อน ๆ ด้วยกันตลอด ไม่ได้
บันทึกการเข้า

..สิ่งสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ว่า...วันนี้เขาอยู่หรือจากไป
สำคัญที่ว่า...ช่วงที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน
ขอให้มีความทรงจำที่ดี...ก็เพียงพอแล้ว
อย่างน้อย เราก็ยังมีอะไรดีดีให้นึกถึง
และยิ้มให้ความทรงจำนั้นได้ ...

..กรอบใดกักขังแค่กาย แต่ใจอย่าหมายกั้นได้
โซ่ตรวนรัดรึงตรึงไว้  แต่ใจนั้นใฝ่เสรี..
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #14 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2012, 10:01:56 AM »

               ทุกวันนี้แรงงานต่างด้าวที่เข้ามาหากินในบ้านเรา มีส่วนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยไม่น้อย   เพราะคนไทยเลือกงานกันมากขึ้น  ผู้ประกอบการทั้งหลายแหล่จึงมีความจำเป็นที่ต้องนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาทดแทน  แต่หากนำมาแบบถูกต้องตามกฎหมาย ปัญหาต่างๆน่าจะน้อยกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้  เพราะแรงงานเหล่านั้นมีการตรวจสอบ มีการบันทึกประวัติ ที่มาที่ไป  เวลามีปัญหาสามารถติดตามได้  แต่อย่างว่า หากทำตามกฎหมายต้องเสียเวลา เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น  จึงเป็นเหตุให้มีการใช้แรงงานเถื่อน ใช่ว่าใช้แรงงานเถื่อนแล้วจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพียงแต่เปลี่ยนจากจ่ายเข้ารัฐ เป็นจ่ายให้เจ้าหน้าที่ที่ประพฤติมิชอบบางคน  คนกลุ่มหลังนี่แหละที่เป็นต้นตอของการก่ออาชญากรรมต่างๆ เพราะถือว่าตนไม่มีแฟ้มประวัติ   
                ในปี 2558 เมื่อเข้าสู่ AEC เต็มตัวแล้ว ไทยคงลำบากขึ้น  ภาษาอังกฤษก็อ่อน  แถมผู้คนในบ้านเมืองมัวแต่แบ่งแยก แบ่งข้างกัน ทะเลาะกันเข้าไป  ประเทศชาติจะล่มจมสักเท่าไรไม่สน  ขอเพียงกลุ่มก๊วนตัวเองได้มีอำนาจก็พอ   เราเสียกรุงศรีอยุธยา มาได้ 245 ปี คนไทยก็ลืมไปเสียแล้วว่าคราวนั้นเสียกรุงเพราะอะไร  หากไม่ลืมคงไม่แตกแยกกันแบบที่เป็นมาตั้งห้าหกปีแล้ว และยังหาทางสมัครสมานสามัคคีกันไม่ได้  เศร้า

นายสมชายว่าเป็นเรื่องการบังคับใช้กฎหมายครับ ทั้ง 2 เรื่องเลยคือเรื่องแรงงานต่างด้าวตามท้องเรื่องในกระทู้นี้ และเรื่องผู้คนแบ่งข้างไม่สามัคคีกันด้วย(ตามตัวแดง)... สรุปว่ารากเหง้าปัญหาของประเทศไทยคือบังคับใช้กฎหมายไม่ได้ครับ...
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.074 วินาที กับ 22 คำสั่ง