เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 15, 2024, 03:27:48 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ควันที่เกิดหลังจากยิงปืน  (อ่าน 4766 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 10 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
JJ-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 386
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9425


« ตอบ #15 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2006, 08:18:34 AM »

มีอีกทางหนึงครับคือ โดนชก โดนยิง โดนชก โดนชก
แล้วก็เตรียมตัวเจรจากับ เจ้าหน้าที่ต่อไป


แล้วจะเป็นโรคอะไรต่อครับ......เพราะได้รับสารตะกั่วเข้าไปอาจทำให้พิการได้นะเนี่ย... Grin

บันทึกการเข้า
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #16 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2006, 08:55:40 AM »

แต่ผมว่ากลิ่นดินปืนตอนยิงแล้วนี่หอมดีนะ (ทั้งที่รู้ว่าเป็นพิษแต่ก็ชอบสูด..ฮิฮิ)
บันทึกการเข้า

                
ชมพูภูคา
Sr. Member
****

คะแนน 3
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 964


« ตอบ #17 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2006, 09:02:05 AM »

แสดงว่าคนที่ถูกยิงตายนั้น...ไม่ได้ตายจากพิษบาดแผล...แต่เกิดจากการมีสารตะกั่วในร่างกายมากเกินไป
บันทึกการเข้า

ไม่มีแผ่นดินใดสุขใจเท่าแผ่นดินแม่
BADBOY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #18 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2006, 09:15:23 AM »

แสดงว่าคนที่ถูกยิงตายนั้น...ไม่ได้ตายจากพิษบาดแผล...แต่เกิดจากการมีสารตะกั่วในร่างกายมากเกินไป

.ช่าย....เลยครับ.....อย่างนี้เค้าเรียกว่า พิษจากสารตะกั่วที่ออกฤทธิ์อย่างทันตาเห็น..หรือปล่าวครับ..... Grin
บันทึกการเข้า
Lulu
อาณาจักรของคนรักส้ม
Hero Member
*****

คะแนน 19
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1042



« ตอบ #19 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2006, 10:01:19 AM »

ผมก็กลัวอยู่เหมือนกันครับว่าเวลาเราหายใจหลังเวลายิงจะมีสานพิษปนเปื่อนอยู่ในอากาส ถ้าดมเยอะจะมีผลต่อร่างกายอย่างไรบ้างครับผม
บันทึกการเข้า
korn
ดึ๊ง ดึ๊ง ดึ๊ง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 20
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1116


« ตอบ #20 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2006, 10:31:20 AM »

รอผู้รู้ให้ข้อมูลอีก เพราะกลัวควันปืนเหมือนกัน ก่อนเหนี่ยวไกก็กลั้นลมหายใจ พอเหนี่ยวไปแล้วก็สูดเข้าเต็มๆ กลับบ้านหลังจากไปยิงปืนถ้าไม่ได้ดื่มน้ำข้าวล่ะก็ มึนศรีษะหง่ะ
บันทึกการเข้า
nice Sky
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 8
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 733

รักกันไว้เถิด เราเกินร่วมแดนไทย


« ตอบ #21 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2006, 10:31:34 AM »

มีอีกทางหนึงครับคือ โดนชก โดนยิง โดนชก โดนชก

แม้นแล้ว
บันทึกการเข้า
Phoenix
Hero Member
*****

คะแนน 81
ออฟไลน์

กระทู้: 3617


« ตอบ #22 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2006, 10:51:17 AM »

เพิ่มเติมครับ.....โดยปกติสารตะกั่วที่กระจายอยู่ในบรรยากาศ จะมาจากไอระเหยของตะกั่วหลังจากการหลอมละลายตัว หรือเราเรียกว่า " ฟูม " ส่วนในการยิงปืนนั้น ตะกั่วจะร้อนไม่ถึงอุณหภูมิที่จุดหลอมละลาย (โดยปกติเกิด ฟูม ที่อุณหภูมิ 220 องศา C ) ดังนั้น ควันหรือไอระเหยที่เกิดขึ้นหลังการยิงจะไม่มีสารตะกั่วปนอยู่ครับ )
 ปล. ร่างกายคนจะสามารถรับสารตะกั่วได้ 3 ทางคือ การหายใจ , สำผัสทางผิวหนัง , การกิน Wink

ผมต้องขอโทษนะครับที่มีความเห็นขัดแย้งในข้อที่ว่าสารตะกั่วไม่กระจายครับ ผมคิดว่าความจริงแล้วควันปืนนั้นมีสารตะกั่วปนอยู่ด้วยครับ เพราะจุดหลอมตัวของตะกั่วจะต่ำกว่านั้นครับ จริงอยู่ครับที่อุณหภูมิที่เกิดฟูมคือ 220 องศาแต่การหลอมตัวเกิดขึ้นก่อนหน้านั้นแล้ว ระหว่างการหลอมตัวก็เกิดสารตะกั่วด้วยในเวลาเดียวกันครับ สังเกตุได้ง่ายๆครับว่าในปืน Open จะมีตะกั่วเกาะที่คอมเยอะมากๆอีกต่ำแหน่งหนึ่งคือท้ายรังเพลิง ส่วนลูกโม่ก็จะเกิดตรงด้านหน้าของโม่ครับ การจุดระเบิดของดินนั้นให้ทั้งความร้อนและแรงดัน กระสุนซึ่งถูกรีดวิ่งไปในเกลียวลำกล้องจะเกิดความร้อนสูงมากครับเพราะความหนืดและแรงรีด ดังนั้นไอตะกั่วถึงเกิดขึ้น นี่เป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ต้องทำเปลือกหุ้มครับ เพื่อไม่ให้เกิดการหลอมตัวตรงท้ายกระสุน เดี๋ยวคอยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมาตอบอีกครั้งครับ Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า

USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #23 เมื่อ: มีนาคม 01, 2006, 03:11:52 AM »

สนามยิงปืนในร่มที่เมืองไทย ถ้าจำไม่ผิดก็ยังไม่ใช้แบบที่เรียกว่า Indoor shooting range เหมือนที่นี่  ยกตัวอย่างเช่นสนาม รด. ก็ยังเป็นสนามเปิด มีอากาศถ่ายแทโดยธรรมชาติ  ซึ่งยังไม่ค่อยมีปัญหาเรื่อง สารพิษจากการยิงปืนเท่าสนามยิงปืนแบบสนามปิดมิดชิด เหมือนที่นี่  สนามยิงปืนแบบปิดของที่นี่ ต้องมีเครื่องกรองอากาศเสีย และอากาศหมุนเวียนภายในสนาม ตามกฏหมาย  สมัยก่อนไม่เคร่งครัด เดี๋ยวนี้ไม่ได้แล้ว  เคยมีสนามยิงปืน อยู่เมืองใกล้ๆบ้านที่ผมเคยไปยิงตอนย้ายมาใหม่ๆเมื่อ 13 ปีก่อน ยิงเสร็จออกมารูจมูกดำปี้  เพราะไม่มีเครื่องกรองอากาศ สนามนั้นถูกปิดไปนานแล้ว 12ปีได้แล้ว
สนามยิงปืนจะมีเครื่องกรองอากาศไว้กรอง lead particles ( ผงตะกั่ว) ในอากาศที่มาจาก หัวลูกปืนที่เสียดสีกับ เกลียวลำกล้อง และตอนที่กระทบกับ back stop และจาก primer (แก๊ป) ด้วยจะฟุ้งอยู่ในสนาม  ถ้าไม่มีเครื่องดูดอากาศไปกรอง ก็สูดเข้าปอดไปเต็มๆเลย  ถึงแม้ว่าสนามยิงปืนแบบ Indoor shooting range ในทุกวันนี้มีเครื่องกรองอากาศแล้ว แต่จากการสำรวจของ Department of Health Services บอกว่าก็ยังมีปัญหาเรื่อง lead poisoning อยู่ 
ส่วนตัวผมเองไม่ชอบสนามปิด ครั้งสุดท้ายที่ยิงในสนามปิดก็ 13 ปีมาแล้ว
บันทึกการเข้า
sinop
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #24 เมื่อ: มีนาคม 01, 2006, 08:58:20 AM »

สงสัยผมจะเสพติดสารตะกั่วอย่างว่านี้ละครับชอบเหลือเกินเวลายิงปืน  กลิ่นมันหอม จูบบบบ
บันทึกการเข้า
Choltit
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 143
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16292



« ตอบ #25 เมื่อ: มีนาคม 01, 2006, 02:18:51 PM »

แล้วจะเป็นโรคอะไรต่อครับ......เพราะได้รับสารตะกั่วเข้าไปอาจทำให้พิการได้นะเนี่ย... Grin

ใช่ครับ พิการหลายอย่างรวมทั้งเป็นหมัน
บันทึกการเข้า

Lulu
อาณาจักรของคนรักส้ม
Hero Member
*****

คะแนน 19
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1042



« ตอบ #26 เมื่อ: มีนาคม 01, 2006, 02:38:04 PM »


ใช่ครับ พิการหลายอย่างรวมทั้งเป็นหมัน

เห็นทีจะต้องเลิกยิงด้วยลูกซ้อมเสียแล้วเรา ลูกกระสุนจริงก็แพงหน้าดูเมื่อไรกระสุนจะถูกลงบ้างครับผม Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า
Choltit
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 143
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16292



« ตอบ #27 เมื่อ: มีนาคม 01, 2006, 02:42:27 PM »

อาจต้องขอยืมคำพูดนายกเมื่อเดือนที่แล้วมาใช้ 
"ชาติหน้าตอนบ่าย ๆ "
บันทึกการเข้า

Uncle
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #28 เมื่อ: มีนาคม 01, 2006, 02:44:04 PM »

ถ้ามีตะกั่วออกมาจริงดังกล่าว  ก้ควรระวังไว้บ้าวก็ดีเหมือนกัน

ลองไปดูที่นี่ครับ
http://www.ra.mahidol.ac.th/poisoncenter/pois-cov/Lead.html
บันทึกการเข้า
Choltit
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 143
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16292



« ตอบ #29 เมื่อ: มีนาคม 01, 2006, 03:02:11 PM »

สนามยิงปืนในร่มที่เมืองไทย ถ้าจำไม่ผิดก็ยังไม่ใช้แบบที่เรียกว่า Indoor shooting range เหมือนที่นี่ ยกตัวอย่างเช่นสนาม รด. ก็ยังเป็นสนามเปิด มีอากาศถ่ายแทโดยธรรมชาติ ซึ่งยังไม่ค่อยมีปัญหาเรื่อง สารพิษจากการยิงปืนเท่าสนามยิงปืนแบบสนามปิดมิดชิด เหมือนที่นี่ สนามยิงปืนแบบปิดของที่นี่ ต้องมีเครื่องกรองอากาศเสีย และอากาศหมุนเวียนภายในสนาม ตามกฏหมาย สมัยก่อนไม่เคร่งครัด เดี๋ยวนี้ไม่ได้แล้ว เคยมีสนามยิงปืน อยู่เมืองใกล้ๆบ้านที่ผมเคยไปยิงตอนย้ายมาใหม่ๆเมื่อ 13 ปีก่อน ยิงเสร็จออกมารูจมูกดำปี้ เพราะไม่มีเครื่องกรองอากาศ สนามนั้นถูกปิดไปนานแล้ว 12ปีได้แล้ว
สนามยิงปืนจะมีเครื่องกรองอากาศไว้กรอง lead particles ( ผงตะกั่ว) ในอากาศที่มาจาก หัวลูกปืนที่เสียดสีกับ เกลียวลำกล้อง และตอนที่กระทบกับ back stop และจาก primer (แก๊ป) ด้วยจะฟุ้งอยู่ในสนาม ถ้าไม่มีเครื่องดูดอากาศไปกรอง ก็สูดเข้าปอดไปเต็มๆเลย ถึงแม้ว่าสนามยิงปืนแบบ Indoor shooting range ในทุกวันนี้มีเครื่องกรองอากาศแล้ว แต่จากการสำรวจของ Department of Health Services บอกว่าก็ยังมีปัญหาเรื่อง lead poisoning อยู่
ส่วนตัวผมเองไม่ชอบสนามปิด ครั้งสุดท้ายที่ยิงในสนามปิดก็ 13 ปีมาแล้ว

คิดว่าหลายประเทศ ที่มีสนามในอาคาร อาจไม่มีเครื่องกรองอากาศที่ว่านี้นะครับ  เพราะราคาแพงมาก
เคย survey ราคาเครื่องดูดควันท่อไอเสีย  สำหรับที่จอดรถในอาคาร  ตกใจ ตัวใหญ่กว่าแอร์สองหมื่นบีทียูหน่อยเดียว เกือบห้าล้านบาท
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.061 วินาที กับ 22 คำสั่ง