นายสมชายขออโหสิกรรมให้ เป็นอภัยทานครับ... ก่อนหน้านี้เกลียดมาก เพราะเป็นผู้เริ่มต้นเรื่องลากเอาเรื่องเขาพระวิหารไปฟ้องศาลโลก เพียงเพราะแค่ต้องการเรียกความนิยมของประชาชนเขมรเพื่อให้ตนเองเป็นฮีโร่ ซึ่งในที่สุดก็ทำสำเร็จ เพราะความเจนจัดในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ ที่ลากฝรั่งเศสเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย ด้วยการแลกผลประโยชน์เชิงการค้ากับฝรั่งเศส...
ผลแห่งการนั้น เจ้านโรดมสีหนุได้เป็นฮีโร่ในสายตาของคนเขมรได้สมใจนึก... แต่ทิ้งมรดกบาปเอาไว้ให้แก่ประเทศไทย และโดนเปิดแผลซ้ำอีกครั้งหนึ่งเมื่อบังเอิญชนรุ่นหลังพบว่าใต้ทะเลอ่าวไทยมีทรัพยากรมหาศาลอยู่ และเหมือนผีซ้ำด้ามพลอยที่เงื่อนแง่หลักเขตดินแดนบนแผ่นดินรอยต่อไทยเขมรตรงเขาพระวิหารสามารถลากประเด็นตรรกะลงผืนน้ำฯ ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติใต้แผ่นดินของผืนน้ำอ่าวไทยกลายเป็นจุดประทุสงครามย่อยๆเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา...
นโรดมสีหนุนี่แหละ เป็นคนเปิดประเด็นตั้งแต่เริ่มขึ้นครองราชย์เมื่อปี 2503 แล้วไม่สามารถครองศรัทธามหาชนชาวเขมร จนในที่สุดเมื่อศาลโลกให้เขมรชนะในปี 2505 เขมรได้เขาพระวิหารด้วยความสามารถเชิงการเมืองระหว่างประเทศของสีหนุนี่แหละครับ... นี่ยังไม่นับเรื่องเขมรสามฝ่าย ช่วงที่ พล.อ.เปรมฯ เป็นนายกฯ, รัฐบาลไทยช่วงนั้นปวดหัวมากกับหมากกลเกมการเมืองที่กลิ้งไม่อยู่กับร่องกับรอยของสีหนุนี่แหละครับ...
นายสมชายให้อภัย... สู่สุคติเถิด อดีตกษัตริย์จอมกะล่อน...
ให้อภัย เหมือนคุณสมชายครับ
ตอนมีชีวิตสมัยหนุ่มๆ ก็ไม่ได้ช่วยหรือให้อะไรกับประชาชนของเขา นอกจากถ่ายหนังจนได้นางเอก
ตอนเขมรแตก ก็ชักเข้าชักออกเดี๋ยวก็อยู่ฝ่ายเขมรแดงทีแล้วพลิกมาอยู่กับเขมรเฮงสัมรินเวลาชนะ
ส่วนดีที่ทำให้ประเทศตนก็มีให้เห็น คือ แย่งปราสาทพระวิหารจากไทยได้เท่านั้น