Johnnie Walker Red Label น่าจะดูถูกใจคนไทยที่สุด
เพราะน้องเล็กสุดขวดนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อการดื่มตลอดค่ำคืน
พูดง่าย ๆ ก็คือกินได้นาน ๆ สนุกสนานกันทั้งคืนนั่นแหละ
แถมวิธีการกินที่ถูกต้องนั้น ก็ต้องผสมกับมิกเซอร์ทั้งหลาย
อันเป็นวิธีการดื่มที่นิยมในหมู่คนไทยอยู่แล้วซะอีก
ตอนนี้ Johnnie Walker Red Label ก็เลยขายดีที่สุดไปโดยปริยาย
ง่าย ๆ จะใส่น้ำแข็ง ผสมโคล่า ชามะนาว หรือโซดาก็ได้ทั้งนั้น
สุดแล้วแต่ว่าจะชอบรสชาติแบบไหนหลังผสมมิกเซอร์แล้วเท่านั้นเอง
แต่นักดื่มมืออาชีพมักนิยมผสมน้ำก่อนแล้วจึงผสมโซดาตามลงไป
ในอัตราส่วน 2:1 หรือที่เรียกกันว่า "โซดาลอย" นั่นเอง ...
ผสมเสร็จก็ เอ็นจอย ดริ๊งกิ้ง กันได้ทั้งคืน ( แต่อย่าขับรถหลังดื่มนะ )
โตขึ้นมาหน่อย กับความเคร่งขรึมแบบ Johnnie Walker Black Lable
วิสกี้ชั้นดีจากการหมักบ่มเพื่อให้ได้รสชาติที่คลาสสิกที่สุดนานถึง 12 ปี
วิธีการดื่มที่ถูกต้องนั้นก็คลาสสิกไม่แพ้รสชาติของตัววิสกี้ ง่าย ๆ เท่ ๆ ดูดี
ด้วยสไตล์ที่เรียกกันว่า "ออน เดอะ ร็อก" นั่นเอง
หรือถ้าอยากจะผสมมิกเซอร์เหลือเกิน
ก็ต้องใส่น้ำแข็งเข้าไปเยอะ ๆ วิสกี้ ครึ่งแก้ว และโซดาอีกครึ่งแก้ว
แค่นี้แหละ ก็จะได้สัมผัสรสชาติที่แท้จริงของ JohnnieWalker Black Lable
ส่วน Johnnie Walker Green Lable อายุ 15 ปี ที่มีจำหน่ายแบบจำกัดประเทศนั้น
หาน้ำแข็งก้อนใหญ่ ๆ สักก้อน ใส่ในแก้วปากกว้างเพียงแค่ก้อนเดียว
ไม่ต้องกลัวว่าน้ำแข็งก้อนนั้นจะเหงา
เพราะเราจะเฝ้ามองอย่าทะนุถนอม
จากนั้นริน Johnnie Walker Green Lable ลงไปไม่ต้องท่วมน้ำแข็ง แกว่งแก้วเล็กน้อย
ให้อุณหภูมิของวิสกี้ชะอุณหภูมิของน้ำแข็งก้อนโต
ดมกลิ่นวิสกี้ที่ระเหยขึ้นมาเล็กน้อย
ก่อนลิ้มรสวิสกี้ที่อุณหภูมิพอเหมาะพอดี
งานนี้จะได้ รสชาติ กลิ่น และแสงที่วิสกี้ตกกระทบกับก้อนน้ำแข็งชวนมอง
Johnnie Walker Gold Lable อายุ 18 ปี
แค่นำ Johnnie Walker Gold Lable ไปใส่ในช่องแช่แข็งสัก 24 ชั่วโมง
ถ้าที่ในช่องแช่แข็งยังเหลือก็นำแก้วทรงสูงเปล่า ๆ แช่ไว้ด้วย
พอได้เวลาก็รินใส่แก้วที่แช่ไว้ข้างกัน ๆ นั่นแหละ แล้วดื่มเข้าไปเลย
ทันทีที่วิสกี้เย็นจัดปะทะกับความอุ่นในปาก
กลิ่นหอมหวนนุ่มลิ้นจะอบอวล แหม ... ยิ่งถ้ามีช็อกโกแล็ตดี ๆ ไว้กินเข้าคู่ล่ะ
ก็จะเป็นความสุขที่ลืมไม่ลงเลยเชียว
ปิดท้ายกันที่วิสกี้ชั้นสูง Johnnie Walker Blue Lable อายุ 25 ปี
ที่หมักบ่มจากมอลต์คุณภาพสูง ตามวิธีการคลาสสิกแบบศตวรรษที่ 19
วิธีการดื่มวิสกี้ชั้นสูงนี้ ก็คลาสสิกมาก เตรียมแก้วบรั่นดีสวย ๆ ไว้สัก 2 ใบ
แก้วนึงรินวิสกี้รอไว้ ส่วนอีกแก้วนึงรินน้ำแร่เย็น ๆ ไว้เช่นกัน
ดื่มน้ำแร่เย็นๆ เพื่อปรับอุณหภูมิในช่องปากกันก่อน
จากนั้นจิบ Johnnie Walker Blue Lable ในแก้วบรั่นดีอีกใบตาม
เมื่อน้ำแร่เย็นๆ ที่หลงเหลืออยู่ในช่องปากผสมกับวิสกี้ชั้นดีนี้
รสชาติที่แอบซ่อนจะซึมผ่านเพดานปาก ไปมัดใจนักดื่มเหล้าทั้งหลายไม่รู้ลืม