เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 20, 2024, 01:48:27 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 50 51 52 [53] 54 55 56 ... 10006
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ซอยนานา(ทรรศนะกับซึมเศร้าฯ ทีม)  (อ่าน 5447886 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ozero++รักในหลวงมากค่ะ++
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1287
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 25366


มารยาท...มีให้รักษา


« ตอบ #780 เมื่อ: มิถุนายน 06, 2006, 10:40:53 AM »

1. นารายณ์สังหาร คู่กับพญาตานี
2. มารประลัย
3. ไวอรรณพ
4. พิรุณแสนห่า
5. พลิกพสุธาหงาย
6. อิศวรปราบจักรวาล
7. พระกาฬผลาญโลก

ชอบกระบอกที่ 2 อ่ะตา 51 ชื่อแรงดี...อิอิ Grin มีรูปให้ดูเปล่าจ๊ะ

ว่าไปไม่เห็น เจ๊ โอ ปืนใหญ่นานแล้ว น่ะครับ

น่านอ่ะสิ ก็นายใหม่ไม่ค่อยเข้ามาแซวเจ๊แล้วอ่ะสิ Cheesy
(เพราะนายใหม่เป็นคนบัญญัติคำนี้ขึ้นมา)

อย่าลืมบอกนายทะเบียนล่ะว่าจะเอากระบอกไหน..............

นางพญาตานี หรือ นารายณ์สังหาร หรือ พระพิรุณแสนห่า..........ได้ ป.3 มาจัดให้

 แถมป.4 ถูกด้วย 100 บาทเอง Grin
กระบอกที่สาม ชื่อน่ากลัวดีครับ สงสัยออกแบบลูกซองแน่ๆ ตกใจ ตกใจ

 Grinให้ ป.4 แล้วแถม ป.12 ทั่วราชอาณาจักรตลอดชีพให้ด้วย Cheesy Cheesy Cheesy

ป.12กระบอกนี้ไม่จำเป็นค่ะพี่ พกไม่ไหว หัวเราะร่าน้ำตาริน


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 06, 2006, 10:43:02 AM โดย ozero » บันทึกการเข้า

เข้ามากด like กันได้นะคะ http://www.facebook.com/OAroi
และ https://www.facebook.com/SiaAke
มะขิ่น
Hero Member
*****

คะแนน 2453
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17813


"ทหารแก่ไม่มีวันตาย แต่จะค่อยๆเลือนหายไป"


« ตอบ #781 เมื่อ: มิถุนายน 06, 2006, 11:01:33 AM »

แบกหามก็ไม่ไหวนะครับ....................ต้องลากจูงหรือเข็นไป
บันทึกการเข้า

อย่าดึงฟ้าต่ำ  อย่าทำหินแตก  อย่าแยกแผ่นดิน
โป้ง*กันบอย - รักในหลวง
YOU'LL NEVER WALK ALONE
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1629
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16886


คนฮัก เต้าผืนหนัง........คนจัง เต้าผืนสาด


เว็บไซต์
« ตอบ #782 เมื่อ: มิถุนายน 06, 2006, 11:02:28 AM »

ผมมีรูปแต่ไม่แน่ใจว่าจะใช่หรือเปล่าครับ..............ด้วยความเครพครับผม

บันทึกการเข้า


มะขิ่น
Hero Member
*****

คะแนน 2453
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17813


"ทหารแก่ไม่มีวันตาย แต่จะค่อยๆเลือนหายไป"


« ตอบ #783 เมื่อ: มิถุนายน 06, 2006, 11:13:20 AM »

http://www.navy.mi.th/marines/wwwroot/oldbgun.asp

http://www.navy.mi.th/marines/wwwroot/index.asp
บันทึกการเข้า

อย่าดึงฟ้าต่ำ  อย่าทำหินแตก  อย่าแยกแผ่นดิน
จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 10195
ออฟไลน์

กระทู้: 47057


M85.ss


« ตอบ #784 เมื่อ: มิถุนายน 06, 2006, 11:24:24 AM »

ผมมีรูปแต่ไม่แน่ใจว่าจะใช่หรือเปล่าครับ..............ด้วยความเครพครับผม


กระบอกที่สามจากซ้ายเป็นปืน พญาตานีครับ Grin
บันทึกการเข้า

RUGER
ความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดี ตรองดูซีทุกคนก็มีหัวใจ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1262
ออฟไลน์

กระทู้: 23344


ฟ้าลิขิตชีวิตข้า ให้ค้าขาย


« ตอบ #785 เมื่อ: มิถุนายน 06, 2006, 11:28:30 AM »

"พญาตานี" ปืนใหญ่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และตั้งแสดงในตำแหน่งประธานของกลุ่มปืนใหญ่หน้ากระทรวงกลาโหม มีอายุเก่าแก่ราว ๔๐๐ ปี

ตำนานปืนใหญ่ พญาตานี

ตำนานการสร้างปืนใหญ่พญาตานี มีประวัติความเป็นมาที่คลุมเครือ ไม่มีหลักฐานยืนยันแน่นอนว่าสร้างขึ้นในสมัยใด มีการกล่าวถึงประวัติการสร้างไว้หลายสำนวน สำนวนหนึ่งได้กล่าวถึงพญาอินทิราเป็นผู้สร้าง

"หนังสือสยาเราะห์เมืองตานี ของนายหะยีหวันหะซัน กล่าวถึงเหตุที่พญาอินทิราสร้างปืนว่า นายเรือสำเภาจีนได้นำปืนและกระสุนปืนมาถวาย ทำให้สุลต่านเกิดความละอายต่อชาวจีนผู้นั้น เนื่องจากพระองค์มีฐานะเป็นเจ้าผู้ครองนคร แต่หาได้มีอาวุธปืนไว้สำหรับป้องกันบ้านเมือง เหมือนนายเรือมีไว้ป้องกันตนและสำเภา ต่อไปจะเป็นที่ดูหมิ่นแก่ชาวต่างประเทศ จึงเรียกประชุมมุขมนตรี ให้จัดหาช่างและทองเหลืองมาหล่อปืนให้ได้ภายในระยะเวลา ๓ ปี และให้ทำประกาศห้ามพ่อค้านำทองเหลืองออกนอกเมือง"

เอกสารชิ้นนี้กล่าวถึงผู้สร้างว่าเป็นชาวโรมัน ต่างจากตำนานเรื่องอื่นๆ ที่อ้างว่าเป็นชาวจีน

"เมื่อได้ทองเหลืองพอเพียงแก่การหล่อแล้ว พญาอินทิราได้ให้นายช่างชาวโรมัน ชื่ออับดุลซามัค มาเป็นผู้ทำการหล่อปืน เมื่อวันอังคาร ขึ้น ๓ ค่ำ เดือนรอมดอน ปีชวดนักษัตร์ ฮิจยาเราะห์ ๗๘" (แลหลังเมืองตานี, อนันต์ วัฒนานิกร, ๒๕๒๘)

เรื่องเกี่ยวกับ "ชาวโรมัน" ซึ่งมีชื่อเป็น "แขก" นี้เคยปรากฏอยู่ในตำนานปัตตานี คือเรื่องพระองค์มหาวังษา พระเจ้ากรุงโรม ซึ่งโรมหรือโรมันนี้ไม่ได้หมายถึงกรุงโรมในอิตาลี แต่หมายถึงเมืองหรุ่ม

"เมืองโรม ตรงกับเมืองหรุ่ม ที่ตั้งเมืองเรียกลังกาซูก คำนี้ดูจะตรงกับลังกาสุกะ ถ้าถือตามนี้ก็แปลว่าลังกาสุกะ กับเกดะห์ อยู่ที่เดียวกัน" (ภูมิศาสตร์วัดโพธิ์ เล่ม ๓, กาญจนาคพันธุ์, ๒๕๑๘)

ดังนั้นช่างชาวโรมัน "อับดุลซามัค" ที่มาหล่อปืนนี้ อาจจะหมายถึงช่างจากที่ใดที่หนึ่งในอาณาจักรลังกาสุกะ ซึ่งปัจจุบันยังไม่ยุติว่าลังกาสุกะตั้งอยู่ที่ใดแน่ แต่ก็อยู่ไม่ไกลจากปัตตานีนั่นเอง

ตำนานอีกเรื่องหนึ่งกล่าวถึง "นางพญาปัตตานี" เป็นผู้สร้าง แต่ปัญหาคือไม่ได้ระบุว่าเป็นนางพญาคนไหน ตำนานเรื่องนี้กล่าวถึงผู้ที่หล่อปืนพญาตานีว่าเป็นชาวจีนฮกเกี้ยน แซ่ลิ้ม หรือหลิม ชื่อเคี่ยม เดินทางมาจากเมืองจีน แล้วมาตั้งรกรากอยู่ที่บ้านกะเสะ ปัตตานี ต่อมาได้แต่งงานกับหญิงสาวชาวปัตตานี แล้วเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม ชาวปัตตานีเรียกว่า "ลิ้มโต๊ะเคี่ยม" โต๊ะ หรือดาโต๊ะ หมายถึงผู้อาวุโส

ลิ้มโต๊ะเคี่ยมอาศัยอยู่ปัตตานีได้หลายปี จนน้องสาวคือ ลิ้มกอเหนี่ยว เดินทางมาจากเมืองจีน เพื่อจะตามพี่ชายให้กลับบ้านไปดูแลพ่อแม่ และให้เลิกนับถือศาสนาอิสลาม ลิ้มกอเหนี่ยวอ้อนวอนอยู่หลายปีก็ไม่สำเร็จ ก็ผิดหวังอย่างมาก ตัดสินใจผูกคอตายใต้ต้นมะม่วงหิมพานต์ใกล้กับมัสยิดกรือเซะ

บางตำนานเล่าว่าเหตุที่ลิ้มกอเหนี่ยวเลือกมาผูกคอตายใกล้กับมัสยิดแห่งนี้ ก็เพราะต้องการจะประชดพี่ชาย ซึ่งเป็นนายช่างก่อสร้างมัสยิดกรือเซะ มัสยิดแห่งนี้จึงเหมือนต้องคำสาปทำให้ก่อสร้างไม่สำเร็จ ลิ้มโต๊ะเคี่ยมพยายามสร้างหลังคาโดมหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็เกิดฟ้าผ่าพังลงมาทุกครั้ง

มัสยิดกรือเซะก็มีตำนานที่หาข้อยุติได้ยากว่าใครเป็นผู้สร้าง และสร้างขึ้นในสมัยใด แต่มีหลักฐานชิ้นหนึ่งที่ทำให้เรื่องปืนพญาตานีและมัสยิดกรือเซะมาสอดคล้องกันพอดี ก็คือสุลต่านมุซาฟาร์ ชาฮ์ สั่งให้สร้างมัสยิดขึ้น ๒ แห่ง คือมัสยิดกรือเซะ และมัสยิดตันหยง ดาโต๊ะ และใช้ช่างชาวจีน

บันทึกของชาวฮอลันดา ในปี ๒๑๔๓ ตรงกับรัชสมัยของราชินีฮีเยา กล่าวถึงผู้สร้างมัสยิดที่เป็นคนจีนว่า

"โบสถ์ของชาวมุสลิม หรือที่เรียกว่ามัสยิด เป็นตึกสง่างาม โอ่โถง สร้างด้วยอิฐสีแดง โดยช่างชาวจีน ด้านในเคลือบอย่างหรูหรามาก และประดับประดาด้วยเสาที่มีรูปสลักอย่างวิจิตรพิสดาร ด้านที่ติดกับผนังสลักและเคลือบปิดทองทั่วทั้งหมด" (ปัตตานี การค้า และการเมืองการปกครองในอดีต, ครองชัย หัตถา, ๒๕๔๑)

หากนำตำนานและบันทึกฉบับนี้มาผูกเข้าด้วยกัน ก็เป็นไปได้ว่าผู้สั่งสร้างปืนพญาตานี อาจจะเป็นสุลต่านมุซาฟาร์ ชาฮ์ หรือราชินีฮีเยา สั่งให้ลิ้มโต๊ะเคี่ยมนายช่างผู้สร้างมัสยิดกรือเซะเป็นผู้หล่อปืนขึ้น แต่ยังไม่มีหลักฐานใดที่พูดถึงสุลต่านมุซาฟาร์ ชาฮ์ ในฐานะผู้สร้างปืนพญาตานีกระบอกนี้

ส่วนราชินีฮีเยาขึ้นครองราชย์ห่างจากปีสวรรคตของสุลต่านมุซาฟาร์ ชาฮ์ เพียง ๒๐ ปี และสุลต่านพระองค์ต่างๆ ซึ่งแทรกอยู่ระหว่างผู้ครองปัตตานีทั้ง ๒ องค์นี้ ก็อยู่ในภาวะการเมืองที่ไม่สงบ และไม่มีหลักฐานใดๆ พอจะบ่งชี้ว่าเป็นผู้สร้างปืนพญาปัตตานี

ยังมีผู้สันนิษฐานว่าปืนพญาตานีน่าจะสร้างในสมัยราชินีฮีเยา โดยคำนวณจากช่วงเวลา และอายุปืน คือ

"ลิ้มโต๊ะเคี่ยมอพยพมาจากเมืองจีนในปี พ.ศ. ๒๑๒๑ ตรงกับสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเสวยราชสมบัติ (พ.ศ. ๒๑๒๑-พ.ศ. ๒๑๓๖) หรือปลายรัชสมัยพระเจ้าธรรมราชา ลิ้มโต๊ะเคี่ยมมาอยู่ได้ระยะหนึ่งจนกระทั่งแต่งงานกับชาวปัตตานี และน้องสาวมาตามกลับบ้าน ได้อ้อนวอนพี่ชายอยู่หลายปี ฉะนั้นการสร้างปืนคงสร้างหลังจากน้องสาวถึงแก่กรรมแล้ว เพราะว่าหลังจากสร้างปืนเสร็จแล้วในการทดลองยิงปืนกระบอกที่สามลิ้มโต๊ะเคี่ยมได้เสียชีวิตในวันนั้น" (ปืนพญาตานี, สำราญ วังศพ่าห์, เมืองโบราณ, ๒๕๒๒)

ข้อสันนิษฐานนี้อาจจะมีปัญหาในเรื่องปี ๒๑๒๑ ที่ลิ้มโต๊ะเคี่ยมมาถึงสยาม เพราะสุลต่านมุซาฟาร์ ชาฮ์ ผู้สร้างมัสยิดกรือเซะ สิ้นพระชนม์ในปี ๒๑๐๗ ก่อนที่ลิ้มโต๊ะเคี่ยมจะมาถึงสยาม ทำให้ไม่สอดคล้องกับตำนานผู้สั่งให้สร้างมัสยิด และบันทึกของฮอลันดา แต่ไม่ว่าลิ้มโต๊ะเคี่ยมจะมาก่อนปี ๒๑๐๗ หรือหลังจากนั้น ประกอบกับไม่มีหลักฐานว่าสุลต่านมุซาฟาร์ ชาฮ์ เป็นผู้สั่งให้สร้างปืนพญาปัตตานี ระยะเวลาที่เหมาะสมลงตัวที่สุดคือในรัชสมัยของราชินีฮีเยา

นอกจากนี้ในสมัยของราชินีฮีเยา ซึ่งครองราชย์ยาวนานถึง ๓๒ ปี ก็เป็นยุคทองของปัตตานี ถึงกับมีหลักฐานว่าเป็นศูนย์กลางการค้าอาวุธให้กับสยามและญี่ปุ่นในเวลานั้น

ปัญหาของผู้สร้างปืนพญาปัตตานียังไม่จบลงแค่นั้น ยังมีหลักฐานอื่นชี้ว่า ราชินีบีรู ซึ่งครองราชย์ต่อจากราชินีฮีเยา เป็นผู้สั่งให้หล่อปืนพญาปัตตานีขึ้น ด้วยเหตุผลที่ว่ามีกระแสข่าวมาตลอดเวลาว่าพระเจ้าแผ่นดินสยามตระเตรียมกำลังเพื่อยกมาตีปัตตานี จึงสั่งการให้เตรียมตัวป้องกันภัยสงคราม แล้วให้ลิ้มโต๊ะเคี่ยมเป็นนายช่างหล่อปืนใหญ่ไว้จำนวน ๓ กระบอก คือ นางพญาตานี ศรีนัครี และมหาเลลา

บริเวณที่หล่อปืนนี้อยู่ไม่ห่างจากมัสยิดกรือเซะ ปัจจุบันยังปรากฏเป็นพื้นที่เตียนโล่ง เนิน ๔ เหลี่ยม กว้างยาวประมาณ ๔ เมตร ไม่มีต้นหญ้า หรือต้นไม้ขึ้น เพราะดินบริเวณนั้นถูกเผาจนสุกกลายเป็นอิฐจนหมด

ขณะที่หล่อปืนเสร็จไปแล้ว ๒ กระบอก พอถึงกระบอกที่ ๓ กลับเททองไม่ลง เมื่อได้มีการเซ่นไหว้บวงสรวงแล้วก็ยังเททองไม่ลงอีก ลิ้มโต๊ะเคี่ยมจึงกล่าวคำปฏิญาณว่า หากเททองสำเร็จลงได้จะขอเอาชีวิตเป็นเครื่องเซ่น จึงสามารถเททองได้สำเร็จ

ครั้นเมื่อหล่อปืนทั้ง ๓ กระบอกเสร็จสิ้นลงแล้ว ก็ได้ทำการทดลองยิงปืนกระบอกที่ ๑ และ ๒ จนถึงกระบอกที่ ๓ ลิ้มโต๊ะเคี่ยมก็ได้ทำตามสัญญาที่ได้ปฏิญาณไว้ จึงไปยืนอยู่หน้าปากกระบอกปืน

"แล้วกล่าวคำว่าที่ลิ้มโต๊ะเคี่ยมได้ปฏิญาณไว้ ถ้าปืนกระบอกนี้เทลงดีแล้ว จะเอาชีวิตเป็นเครื่องเซ่นไหว้ปืน ครั้งนี้ลิ้มโต๊ะเคี่ยมได้ปลงใจยอมดังที่ปฏิญาณไว้แต่ก่อน แล้วก็บอกให้คนจุดปืน พอปืนลั่นออกแรงดินหอบพาลิ้มโต๊ะเคี่ยมสูญหายไปในเวลานั้น" (พงศาวดารเมืองปัตตานี, ประชุมพงศาวดารภาคที่ ๓, ก้าวหน้า, ๒๕๐๗)

ปืนพญาตานีนี้มีขนาดที่บันทึกไว้ในเอกสารว่า ยาว ๓ วา ๑ ศอก ๑ คืบ ๒ นิ้วครึ่ง ปากกระบอกกว้าง ๑๑ นิ้ว ภายหลังสำรวจใหม่เทียบกับมาตราปัจจุบัน เส้นผ่าศูนย์กลางปากลำกล้อง ๒๔ เซนติเมตร ยาว ๖.๘๒ เมตร ขอบปากลำกล้องหนา ๑๐ เซนติเมตร หล่อด้วยสำริด ลำกล้องเรียบ บรรจุกระสุนทางปากกระบอก มีหูระวิง และห่วงคล้องสำหรับยก ๒ คู่ ท้ายปืนหล่อตันเป็นรูปสังข์ เพลาสลักรูปราชสีห์ มีคำจารึก "พญาตานิ" และขนาดดินดำที่ใช้บรรจุเพื่อยิง

สรุปว่ามีข้อสันนิษฐานเรื่องผู้สร้างปืนพญาตานีไว้ ๓ พระองค์ คือ สุลต่านอิสมาเอล ชาฮ์ (๒๐๔๓-๒๐๗๓) สร้างโดยช่างชาว "โรมัน" ชื่ออับดุลซามัค อีก ๒ พระองค์ที่เป็นไปได้คือ ราชินีฮีเยา (๒๑๒๗-๒๑๕๙) ราชินีบีรู (๒๑๕๙-๒๑๖๗) สร้างโดยลิ้มโต๊ะเคี่ยม ชาวจีน ช่างหล่อปืนทั้ง ๒ คนนี้เป็นชาวพื้นเมือง ซึ่งสอดคล้องกับเทคนิคการหล่อปืนพญาตานีว่าเป็นฝีมือของช่างชาวพื้นเมือง ไม่ใช่เป็นปืนนำเข้าจากที่อื่น

ผมคัดข้อมูลบางส่วนจาก เวปนี้ ครับ ท่านที่สนใจเชิญอ่านได้ครับ
http://www.kananurak.com/mcontents/marticle.php?headtitle=mcontents&id=87622&Ntype=3
บันทึกการเข้า

http://www.youtube.com/watch?v=Ci3YXN93QEs
เนื้อร้าย  ต้องตัดทิ้ง  ... 555
RUGER
ความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดี ตรองดูซีทุกคนก็มีหัวใจ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1262
ออฟไลน์

กระทู้: 23344


ฟ้าลิขิตชีวิตข้า ให้ค้าขาย


« ตอบ #786 เมื่อ: มิถุนายน 06, 2006, 11:33:59 AM »

พระพิรุณแสนห่า


พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า ฯ ทรงสร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๒๐ เมื่อยังคงดำรงพระยศเป็น สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริยศึก เป็นคู่กับ ปืนพลิกพสุธาหงาย เป็นชื่อเดิมของปืนที่มีชื่อเสียงสมัยกรุงศรีอยุธยา มีขนาดใหญ่มาก
ปืนกระบอกนี้หล่อด้วยทองสำริด มีลวดลายประดับอย่างโอฬาร มีรูปราชสีห์เผ่นผงาดอยู่ที่เพลา มีห่วงสำหรับยกอยู่ ๔ ห่วง รูชนวนมีรูปนก หน้าสิงห์ขบ ท้ายรูปลูกฟัก ที่กระบอกปืนมีจารึกว่า พระพิรุณแสนห่า ดินบรรจุหนัก ๒๐ ชั่ง ปากลำกล้องกว้าง ๑๙ นิ้ว ยาว ๔ ศอกคืบ ๓ นิ้ว

พญาตานี


นางพญาตานี ศรีตวัน เจ้าเมืองปัตตานี ให้ช่างชาวจีนฮกเกี้ยน ชื่อ หลิม โต๊ะเคี่ยม เป็นผู้สร้าง สมเด็จกรมพระราชวังบวรสถานมงคล มหาสุรสิงหนาท เมื่อครั้งเสด็จยกทัพไปรบพม่า ที่ยกเข้ามาตีหัวเมือง ภาคใต้ของไทย เมื่อเสร็จศึกแล้ว ได้ทรงนำปืนกระบอกนี้ มาจาก เมืองปัตตานี เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๒๙
ปืนกระบอกนี้ หล่อด้วยทองสำริด มีห่วงสำหรับยก ๔ ห่วง ท้ายลำกล้องทำเป็นรูปสัตว์ หรือเขางอน ที่เพลาสลักรูปราชสีห์ พญาตานีเป็นปืนที่ยาวที่สุดในบรรดาปืนโบราณที่มีอยู่ ที่กระบอกปืน จารึกว่า "พญาตานี" ดินบรรจุหนัก ๑๕ ชั่ง ปากลำกล้องกว้าง ๑๑ นิ้ว ยาว ๓ วาศอกคืบ ๒ นิ้วกึ่ง 

พลิกพสุธาหงาย



พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า ฯ ทรงสร้าง โดยให้หล่อที่ หน้าโรงละครใหญ่ ริมถนนประตูวิเศษไชยศรี เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๓๓๐ หล่อด้วยทองสำริด มีห่วงยก ๔ ห่วง ลำกล้องปืน มีลวดลายประดับ ที่เพลาสลักรูปคชสีห์ รูชนวนมีลายกนก ท้ายลำกล้องเป็นรูปลูกฟัก ที่กระบอกปืนจารึกว่า "พลิกพสุธาหงาย" ดินบรรจุหนัก ๒๐ ชั่ง ปากลำกล้องกว้าง ๑๙ นิ้ว ยาว ๖ ศอกคืบ ๓ นิ้ว เป็นปืนขนาดใหญ่คู่กับ พระพิรุณแสนห่า 
บันทึกการเข้า

http://www.youtube.com/watch?v=Ci3YXN93QEs
เนื้อร้าย  ต้องตัดทิ้ง  ... 555
Zeus-รักในหลวง
อะฮู้.....ไฮยีน่าก็เป็นแมวนะคราบบบ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 817
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10983


I'm going to make him an offer that he can't refus


« ตอบ #787 เมื่อ: มิถุนายน 06, 2006, 01:23:12 PM »

 ;D7. พระกาฬผลาญโลก Grin
พี่รูฯฮับขอประวัติกระบอกนี้ด้วยสิครับ ชื่อฟังแล้วนี่เด็ดขาดดีครับ Grin
บันทึกการเข้า

“A fear of weapons is a sign of retarded sexual and
emotional maturity.”
- Sigmund Freud

“ความกลัวอาวุธคือสัญญาณของความถดถอยทางเพศและวุฒิภาวะทางอารมณ์”
- ซิกมุนด์ ฟรอยด์
51
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #788 เมื่อ: มิถุนายน 06, 2006, 02:26:24 PM »

ต้องขออภัย...ด้วยครับ
สำหรับปืนพระกาฬผลาญโลก...นั้น

แต่เดิม ใช้คำว่า...พระกาลผลาญโลก...ครับ



รายชื่อปืนใหญ่ของไทยในอดีต
 
ขอมดำดิน               จีนสาวไส้                    ไทยใหญ่แล่นหน้า
ชวารำกฤช               มุหงิดทะลวงฟัน           มักสันแหกค่าย
ฝรั่งรายปืนแม่น         แมนแทงทวน              ญวนง่าง้าว
ลาวตีคลี                 พลีอารักห์                   ยักธินีใจหาญ
มหากาลพิฆาต         พรหมาสูตรปราบมาร    จักรวาลหล่อสม
ลมประไลยกัลป์       คนธรรม์แผลงฤทธิ์        พระอาทิตย์แสงกลำ
มหาจักรกลด           บรรพตบดสัตว์             สุรพัดผ่าพล
นิลนนท์แทงแขน     สุรเสนแสนหาญ           สุรกานแสนแกล้ว
พลายแก้วแกว่งดาบ ไมยราพณ์ฟาดรถ          องคตโจมฟัน
บ้องตันทักคอเสือ    ผีเสื้อสูบเลือด                ปีศาจเชือดฉีกกิน
พระอินทร์ขว้างจักร  พระเพลิงแผ้วราตรี          ธรณีไหว
ไฟมหากาฬ            มารระบิล                       ศิลปนารายณ์
สายอลนี                อินทรีย์กลืนช้าง              มาลีค้างกองกูณฑ์
รามสูรขว้างขวาน    ยมบาลจับสัตว์                นิลพัทแปลงกาย
ลอยชายเข้าวัง       กำลังเพชหึง                   ตรึงบาดาล
มารประไล             ไตรภพพ่าย                     นารายณ์สังหาร
ชมพูพาลแผลงฤทธิ์   อินทรชิตสาดศร           พญาจรคอนรัง
กำลังอวตาล             พญาสารหักค่าย           เสือร้ายเผ่นทะยาน
ราชสีห์ผลาญสัตว์     พระพายนัดล้างทวีป      สุครีพหักฉัตร
หนุมารตัดเศียรไมยราพณ์   พระอิศวรปราบจักรวาฬ     พระกาลผลาญโลก
โมกขศักดิ์                        ปรปักษ์เป็นจุณ                พระพิรุณแสนห่า
พลิกพสุธาหงาย                อสุรกายจับฟาด               กวาดพสุธา
ฟ้าฟาดสาด                      นาคราชปรายฬิท             พระอาทิตย์เจ็ดดวง
ราหูทะลวงขว้างจักร (อยู่ที่ รร.นร.)   หักเมืองมาร         บาดารถล่ม
สมไกรลาส                                   มัจจุราชสังหาร     อวตาลผลาญราพณ์
ปราบพระนคร (อยู่ที่ รร.นร.)            ดอนพระสุเมรุ      พญาตานี
มหาฤกษ์                                      มหาไชย              มหาจักร
มหาปราบ                                     แก้วมลายู            คู่เมืองชวา
มังกรใจกล้า                                  เหราใจร้าย          ปราบอังวะ
ชนะหงสา                                    นารายณ์ปราบยุค  รักษาพระศาสนา
สัมมาทิษฐิ


ที่มา : กองพันทหารปืนใหญ่เบากระสุนวิถีโค้งที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน



มุหงิด (มุ-หฺงิด) หมายถึง ชื่อชนชาติชวามลายูในเกาะเซลีเบส
มักสัน หมายถึง อิสลามิกชนซึ่งมาจากอินโดนีเซียจากเกาะที่เรียกว่า “เกาะมากาซา” หรือ “มักสัน”
อารักห์ น่าจะมาจากคำว่า อารักขา หมายถึง การป้องกัน, การคุ้มครอง, การดูแล
แมน หมายถึง เทวดา (เป็นคำโบราณ)
สุรพัด...น่าจะมาจากคำว่า สุร (สุ-ระ) หมายถึง นักรบ หรือกล้าหาญ
และพัด น่าจะหมายถึง การหมุนไป
สุรเสน  สุร (สุ-ระ) หมายถึง...กล้าหาญ เสน หมายถึง กองทหาร
กูณฑ์  หมายถึง ไฟ, กองไฟ
เพชหึง หมายถึง ลมพายุใหญ่
เหรา (เห-รา) หมายถึง สัตว์ในนิยายมีรูปครึ่งนาคครึ่งมังกร




ส่วนคำว่า แสงกลำ, อลนี, ฬิท
ผมไม่ทราบความหมายครับ...







จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 06, 2006, 03:05:34 PM โดย 51 » บันทึกการเข้า
ตูรุส
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 1046
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22921


คิดถึง ตูรุส จัง


« ตอบ #789 เมื่อ: มิถุนายน 06, 2006, 02:28:08 PM »

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ณ ศรภ. สนาม 200 หลา กับสมาชิกพิเศษ Grin


บันทึกการเข้า
ตูรุส
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 1046
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22921


คิดถึง ตูรุส จัง


« ตอบ #790 เมื่อ: มิถุนายน 06, 2006, 02:29:38 PM »

งานนี้รวมพลคน 1911

บันทึกการเข้า
ตูรุส
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 1046
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22921


คิดถึง ตูรุส จัง


« ตอบ #791 เมื่อ: มิถุนายน 06, 2006, 02:30:48 PM »

อ๊ะ....38 ซุปเปอร์ กำลังอินเทรน


บันทึกการเข้า
ตูรุส
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 1046
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22921


คิดถึง ตูรุส จัง


« ตอบ #792 เมื่อ: มิถุนายน 06, 2006, 02:33:02 PM »

และ 1911 เอ 1 เวิลด์วอร์ ทู ของสมาชิกกิตติมศักดิ์ แห่งซึมเศร้าฯ... Wink



บันทึกการเข้า
ตูรุส
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 1046
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22921


คิดถึง ตูรุส จัง


« ตอบ #793 เมื่อ: มิถุนายน 06, 2006, 02:37:10 PM »

แขกพิเศษ...และ วมต.

บันทึกการเข้า
ตูรุส
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 1046
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22921


คิดถึง ตูรุส จัง


« ตอบ #794 เมื่อ: มิถุนายน 06, 2006, 02:42:08 PM »

งดงาม หยดย้อย สวยมากๆ ครับ

บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 50 51 52 [53] 54 55 56 ... 10006
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.408 วินาที กับ 24 คำสั่ง