ผมอาสาช่วยพี่เป้าสะอาดเรื่องสูตรแจ่วบองเองก็แล้วกันนะครับ เพราะ1.อย่างน้อยเราก็คนบ้านเดียวกันฉนั้นสูตรคงไม่ต่างกันมาก2.คุณยายผมสมัยท่านยังมีชีวิตอยู่ท่านโด่งดังเรื่องการทำแจ่วบองหรือปลาร้าสับมากที่อำเภอพรรณนา คุยมากไปรึเปล่าครับเนี๊ย
เครื่องปรุงที่ต้องใช้
1 ปลาร้า ควรใช้เป็นปลาหนังเช่น ปลาดุก ปลาปีกไก่ ปลาแขยง ปลากด ปลารากกล้วย ปลาหนังเนื้อจะมันเนียนอร่อยกว่าปลาเกล็ด และควรเป็นปลาร้าเก่าที่อายุ1-2ปีถึงจะหอมอร่อยได้ที่ หรือทางอีสานเรียกว่านัวนั่นเอง
2 กระเทียม
3 หัวหอมเล็ก(แดง)
4 ข่า หั่นฝอยๆ
5 ตะไคร้ หั่นฝอยๆ
6 ใบมะกรูด ซอยละเอียดๆ
7 มะขามเปียก
8 พริกป่นหรือพริกขี้หนูสด(สีแดงๆ)
9 ผงชูรสแล้วแต่ชอบครับจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้
วิธีทำ
1 นำปลาร้าบีบน้ำออกให้แห้งนิดหน่อยจะได้สับง่ายไม่กระเด็น และสับให้ละเอียด พักไว้
2 นำกระเทียม หอมแดง ไปเผาหรือคั่วให้สุก
3 ถ้าต้องการทำเก็บไว้กินได้นานๆ(ใส่ตู้เย็น)ก็ควรนำ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดไปคั่วใส้สุกด้วยและใช้พริกป่น
*แต่ผมชอบกินแบบใช้ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และพริกขี้หนูสดมากกว่า เพราะได้รสชาติที่ดีกว่าแต่เก็บได้ไม่นาน
4 นำกระเทียม หอมแดง ข่า ตะไคร้ มาตำให้ละเอียด จากนั้นนำปลาร้าที่สับไว้มาใส้ครกตำให้ทุกอย่างเข้ากัน แล้วปรุงรสด้วย มะขามเปียก(ตำใส่ไปเลยไม่ต้องนำไปแช่น้ำก่อน) ใส่พริกป่นหรือพริกขี้หนู ผงชูรส ตามชอบว่าชอบเผ็ดหรือเปรี้ยวขนาดไหน
5 หลังจากปรุงรสอร่อยได้ทีแล้ว ถ้าท่านไม่ทานปลาร้าดิบ ก็ให้นำแจ่วบองนั้นไปนึ่งให้สุกอีกที ก็จะทำให้เก็บไว้ทานได้นานขึ้นด้วย หรือไม่ก็นำไปผัดกับไข่(สมัยเด็กๆคุณยายผมชอบผัดกับไข่ให้ผมกินก็อร่อยไปอีกแบบ)
เท่านี้เราก็จะได้แจ่วบองสุดอร่อยจิ้มกับข้าวเหนียว สูตรนี้ผิดพลาดประการใดก็ช่วยเพิ่มเติมด้วยครับเพราะผมเคยเห็นเค้าทำกันมานานแล้วอาจจะจำได้ไม่ครบถ้วนนัก