เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
กันยายน 29, 2024, 10:31:30 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 8 9 10 [11] 12 13 14 ... 1194
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องเล่า.... ป่าดงพงไพร..... และความรู้เชิงพราน  (อ่าน 1412720 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 21 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
NPD
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #150 เมื่อ: เมษายน 16, 2006, 09:04:49 PM »

้ข้อสงสัยนะครับ หนูนาที่คุณว่าตัวหนึ่งเป็นกิโลนั้นใช่หนูนารึ? แต่แถวบ้านผมถ้าตัวใหญ่เป็นกิโลเขาเรียกกันว่าหนูพุก หนูแผงครับ และถ้าเป็นหนูพุกใบหูจะกลมมน หนูแผงใบหูจะออกยาวรีหน่อยๆๆ และหนูพวกนี้แปลกนะครับเวลาเรายิงถูกตัวใดตัวหนึ่งเจ็บไม่ถึงตายแต่มันหนีไม่ได้นั้น เวลามันร้องส่งเสียงพวกหนูด้วยกันจะพยายามวิ่งมาช่วยตัวที่ถูกยิงบาดเจ็บเต็มไปหมดเราก็เลือกยิงได้อีกหลายตัวครับ บางครั้งยิงจนพอได้กลิ่นหนูจะอาเจียนเลยครับเหม็นไปหมดทำกินไม่ได้เลย ตกใจ ตกใจ ตกใจ
   ไม่ได้เข้า Web หลายวัน กลับบ้านต่างจังหวัดครับ ... แม่นแล้ว คุณNUTAPHOL หนูที่ผมเล่านั่นภาษาถิ่นเหนือ ก้อคือ หนูพุก นั่นเอง แต่ไม่แน่ใจว่าภาษาไทยกลางเรียกว่าหนูอะไร...เท่าที่เคยล่า ยังไม่เห็นมันมายกพวกช่วยกันเลยครับ Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า
o/uboy
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #151 เมื่อ: เมษายน 16, 2006, 10:00:21 PM »

ต้องโชคดีครับถึงจะเห็นหนูยกพวก(ตีกัน) Grin ผมก็เคยล่าหนูครับแต่ไม่กี่ครั้งเองแต่ที่แน่ๆเนื้อหนูนุ่มและมันอร่อยมาก น้ำลายหก
บันทึกการเข้า
NPD
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #152 เมื่อ: เมษายน 17, 2006, 09:22:24 AM »

พรานปืนแก็ป
            เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ ขอออกตัวก่อนนะครับ ว่าผมไม่ใช่มือปืนแก็ปชั้นเซียนอะไร  Cheesy Cheesyและไม่ได้จับปืนแก็ปมานาน เกือบ สิบกว่าปีได้ อีกทั้งเมื่อกลับไปบ้านเกิดตอนสงกรานต์ ถามหาปืนแก็ปที่เคยอยู่ในมือชาวบ้าน ตอนนี้ไม่มีแล้วครับเหตุเพราะว่าเมื่อทางรัฐบาลประกาศปราบปรามผู้มีอิธิพล ปืนเถื่อนและอาวุธสงคราม ทำให้ชาวบ้านเกิดความกลัวนำปืนที่ใช้ดำรงค์ชีพไปมอบให้กับทางการเป็นจำนวนมากทำให้ภูมิปัญญาชาวบ้านสูญหายไปอย่างน่าเสียดาย ปืนแก็ป ถือว่าเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านอย่างแท้จริง เป็นอาวุธปืนเอนกประสงค์ ชั้นดีในการล่าสัตว์ เฝ้าไร่ เฝ้าสวน ในชนบท ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยได้ยินข่าวมือปืน คนใหนบ้าจี้เอาปืนแก็ปไปยิงเหยื่อ ได้ยินแต่พวกเล่นด้วย อาก้า หรือ สิบเอ็ด  ตกใจ ตกใจเรื่องราวต่อไปนี้ ถือว่าเป็นการเล่าสู่กันฟังนะครับท่านใดมีภาพประกอบแสดงด้วยจะขอบคุณมาก :-* :-*
            ปืนแก็ป เป็นปืนบรรจุปากลำกล้องทำด้วยท่อเหล็กกลวงยาวประมาณเมตรเศษ  ขนาดรูลำกล้อง ที่เคยเห็นก็มีตั้งแต่รูเท่านิ้วก้อย จนถึงใหญ่เท่านิ้วโป้งยัดได้ ด้านท้ายปิดแต่งเป็นรังเพลิงมีท่อเล็ก ๆ ยื่นขึ้นมาจากท้ายรังเพลิงเรียกว่านมหนู เพื่อใส่ดินปืนเป็นตัวล่อ ยื่นออกมา นกสับเป็นแบบคล้าย ๆ นกของปืนลูกซองแฝดนกนอก เวลาจะยิงแต่ละนัด มีขั้นตอนการบรรจุกระสุนที่ยุ่งยากใช้เวลาพอสมควร และที่สำคัญ ห้ามสลับขั้นตอน มิฉะนั้นปืนของท่านอาจยิงไม่ออก หรือ ยิงได้ แต่แทนที่กระสุนจะวิ่งออกไปสู่เป้าหมาย กลับไหลลงทางปากกระบอก หล่นอยู่ตรงหน้า  เยาะเย้ย เยาะเย้ยขั้นตอนเริ่มจาก เทดินปืนลงไปก่อนทางปากกระบอก ปริมาตร แล้วแต่ น้อยเกินไป กระสุนไม่แรงพอ ..... มากเกินไป.... ลำกล้องอาจแตก นมหนู กระเด็น ฝังหน้าผากคนยิงได้  ตกใจ ส่วนใหญ่ที่ผมยิง ก็ 1-2 ฝากระทิงแดง ตามด้วย หมอนกระสุนซึ่งอาจจะเป็นผ้า หรือใช้ใยมะพร้าวที่เอา ขุยออกเหลือแต่ใยล้วน ๆ ปั้นเป็นก้อนกลม ยัดลงในลำกล้อง ดึงเหล็กแส้ ที่ติดมากับปืนตรงใต้ลำกล้อง ดันหมอนกระสุนให้กวาดดินปืนลงไปอยู่ที่ท้ายลำกล้อง กระทุ้ง -3-4 ครั้ง  ใส่กระสุน ลูกปรายที่ทำด้วยตะกั่ว สำหรับยิงสัตว์เล็ก ซึ่งลูกปรายจะมีขนาดแตกต่างกัน สุดแล้วแต่ประสบการณ์ของเจ้าของปืน  หากตั้งใจจะยิงสัตว์ใหญ่ จะบรรจุลูกโดด ทำด้วยตะกั่ว ขนาดใกล้เคียงกับลำกล้อง ตามด้วยหมอนปิดหน้า  กระทุ้งด้วยแส้เบา ๆ  เก็บแส้สอดไว้ใต้ลำกล้องตามเดิม.....ง้างนก .เติมดินปืนเพื่อเป็นเชื้อล่อตรงนมหนู ติดแก็ป บริเวณนกปืน เท่านี้ ปืนก็พร้อมจะยิงแล้วครับ หากไม่ต้องการยิง ก็หาเศษผ้า หรือ ใยมะพร้าวที่ใช้ทำหมอนกระสุนรองคั่นระหว่าง นกปืนกับนมหนู หากต้องยิงก็ง้างนก เอาวัสดุที่คั่นระหว่างนกปืน กับนมหนูออก  เล็ง สับไกได้เลย....... ระยะหวังผล 20 เมตร พอได้ ไกลกว่านั้น ไม่แน่ใจ......... ตอนหน้าจะเล่าให้ฟังถึงขั้นตอนการทำดินปืนครับ....... Wink Wink
             
บันทึกการเข้า
green1970
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #153 เมื่อ: เมษายน 17, 2006, 09:29:06 AM »

เมื่อวานเพื่อนขึ้นไปได้มา2ตัว  หมูป่าหนัก50 กว่าโลกับ40กว่าโล  ไม่ได้เก็บภาพมาเพราะไม่อยากให้หลายท่านเสียความรู้สึก  แต่สำหรับผมคิดว่า เลี้ยงไว้เพื่อรอวันฆ่า  ตกใจ  (อย่างเช่น ไก่ เป็ด หมู ปลา กุ้ง ปู  ทุกอย่างล้วนมีชีวิตเดียวเช่นกันทั้งนั้น )  กับการล่าบ้างในบางครั้ง ตกใจ เพื่อนๆรองคิดดูนะครับว่าอย่างไหนน่ากลัวกว่ากัน  ตราบใดที่มนุษย์ยังบริโภคเนื้อสัตว์ตราบนั้นยอมยังไม่หมดการฆ่า  จะด้วยทางตรงหรือทางอ้อมเท่านั้น      สำหรับผมการ ไม่ฆ่า  ไม่ข่มเหงรังแก  ไม่เอาเปรียบ  และไม่เบียดเบียนมนุษย์ด้วยกัน  มีน้ำใจให้กันและกันในสังคมของ..คน..ผมคิดว่ารับได้ครับ   หลงรัก         ด้วยความเคารพครับ หลงรัก หลงรัก หลงรัก
บันทึกการเข้า
BADBOY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #154 เมื่อ: เมษายน 17, 2006, 09:55:35 AM »

แถบบ้านผมเรียกหนูที่อยู่ในป่าตัวขนาดจะโตกว่าหนูนาหรือหนูบ้านทั่วไปว่า"หนูพุก"หรือ"หนูจุ๊ก"....เวลานำมาแกงแคป่าหรือห่อหมก........รสชาติดีมากครับ
บันทึกการเข้า
o/uboy
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #155 เมื่อ: เมษายน 17, 2006, 10:07:06 AM »

ทางอีสานก็เรียกเหมือนกันครับ "หนูพุก"แต่หายากมากเพราะกินกันไม่เหลือครับ
บันทึกการเข้า
Awake
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 6
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 210


ถ้าโลกนี้ไม่มีคนเลวแล้วจะหาคนดีจากไหน?


« ตอบ #156 เมื่อ: เมษายน 17, 2006, 11:15:52 AM »

ผมก็เข้าป่าบ่อยเหมือนกันครับแควเขื่อนแม่กวง เชียงใหม่ เอาเรือเข้าไปจนถึงต้นน้ำเกือบ 2 ชม.เดินต่อเรือไปต่อไม่ได้ เดินลุยน้ำหาปลาตอนกลางคืน เอามีดฟัน เจอปลาตัวใหญ่ เอา อันชูตส์ เอกเซมพลา 14 นิ้วยิงประมาณ 2 เมตรยิง 4 นัด ไม่ถูกจนปลาว่ายหนีไปเองเซ็งเลย คงเป็นแสงหักเห ท่านใดมีวิธียิงบ้าง เคยเอาฉมวกแทงก็ไม่เคยโดนปลา ถูกก้อนหินงอหมด จนดึกก็ก็ผูกเปลหาที่นอนไปฟันโดนเถาวัลย์ น่าจะเป็นเถาวัลย์น้ำ ขนาดข้อมือ น้ำไหลออกตลอดคืนจนถึงเช้าไม่หยุด ตอนเช้าก็ไปยิงไก่ป่า กลับมาได้กินมาม่าใส่ปลา ส่วนหมูป่านานๆจะเห็นรอย เพื่อนเห็นมันลงมากินน้ำ แค่ขึ้นลำ มันวิ่งป่าราบ หูมันดีจริงๆ
บันทึกการเข้า
NPD
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #157 เมื่อ: เมษายน 17, 2006, 02:00:34 PM »

พรานปืนแก็ป (ต่อ)  Smiley Smiley
         ว่าด้วยการทำดินปืน ผมคงไม่ได้อธิบายเป็นเชิงวิชาการแต่อย่างใด เล่าเพื่อแบ่งปันความรู้กัน หรืออ่านกันเพลิน ๆ ไม่แนะนำให้ทำขึ้นมาใช้ครับเพราะท่านอาจไปใช้ชีวิตหลังกำแพงได้  เยาะเย้ย เยาะเย้ย สูตรผสมดินปืนถือว่าเป็นความลับเฉพาะ จะถ่ายทอดให้เฉพาะคนที่สนิทคุ้นเคย หรือสืบทอดโดยสายเลือดเท่านั้น (ว่าไปนั่น)  :Smiley :Smiley ดินปืนที่ใช้ปืนแก็ป ประกอบไปด้วยส่วนประกอบหลัก ๆ อยู่ 3 อย่างคือ
1.ถ่าน  ไม่ใช่ถ่านแบบที่ใช้ในไฟฉาย หรือ ในมือถือนะครับ ถ่านที่ว่านี้ เป็นถ่านไม้ที่ได้จากการเผา จะต้องคัดเลือกถ่านชนิดไม้เบา อย่างเช่น  ไม้พุทธรา ไม้มะเขือ ไม้สัก ไม้ไมยราพยักษ์  และไม้อื่น ๆ  ขึ้นอยู่กับเคล็ดลับของแต่ละสายสล่า(อาจารย์) ทำดินปืน
2.ดินประสิว (ทางเหนือเรียกว่า ดินไฟ) ที่เคยเห็นจะมีสองสีครับ สีขาวใส เหมือนเกลือ กับสีส้ม  ที่นิยมใช้กันจะใช้ดินประสิวสีขาวใสครับ
3.กำมะถัน ลักษณะ เป็นก้อนสีเหลือง
        เมื่อได้ส่วนประกอบทั้งสามอย่างมาแล้วมาถึงวิธีการทำ  หลงรัก หลงรัก นำส่วนประกอบทั้งสามชนิด มาชั่ง หรือตวงตามสูตรที่สืบทอดกันมา หรือ ตามการลองผิดลองถูก  เสร็จแล้ว นำกระทะมาตั้งไฟครับ ใส่น้ำพอประมาณ  นำดินประสิว ใส่กระทะ ตามด้วยถ่าน เคี่ยวไฟอ่อน ๆ จนกระทั่งน้ำแห้ง เพื่อทุ่นเวลาในการตำดินประสิว บางที่ ไม่เคี่ยวดินประสิวกับถ่าน อาจจะใช้วิธีตำส่วนผสมทั้งสามจนละเอียด แล้วนำส่วนผสมมาตวงแล้วตำอีกทีให้เข้ากันก็ได้ ไม่ผิดกติกา  ในการเคี่ยวดินประสิวกับถ่าน ต้องคอยคนและสังเกตตลอดครับว่าแห้งได้ที่หรือยัง เพราะหากเคี่ยวนานหรือใช้ไฟแรงเกินไปหน้าท่านอาจจะดำได้   หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตารินเนื่องจากดินประสิว กันถ่าน ตอนนี้ติดไฟและลุกไหม้ได้ดี......เมื่อได้ที่แล้วเทใส่ถาด พักไว้ ส่วนกำมะถันนั้น ตำให้ละเอียด แล้วใส่ถาดพักไว้ครับ
        มาดูถึงการตำดินปืน  ครกที่ใช้ควรจะเป็นครกไม้ครับทั้งครกและสาก ให้เลือกขนาดที่พอเหมาะมือ เพราะขั้นตอนนี้ใช้เวลานาน Cry Cryท่านจะต้องนั่งตำกันทั้งวัน   ไม่แนะนำให้ใช้ครกหิน เพราะอาจจะเกิดดินปืนระเบิดได้  ตกใจ ตกใจเนื่องจากประกายไฟ ของการกระทบกันระหว่างครกกับสาก.... แต่ที่เคยตำดินดำกับครกหินมาผมยังไม่เคยเจอระเบิดกับมือสักที   เอาล่ะ ได้ครกกับสากที่เหมาะมือแล้วทีนี้ก็ถึงเวลาตำล่ะครับ ใส่ดินประสิวผสมถ่านลงไป ตำให้ละเอียด พอประมาณ ทยอยตำให้หมดใส่ถาดพักไว้ นำกำมะถันที่เตรียมไว้มาผสมกับถ่านที่ตำเสร็จในรอบแรก เมื่อผสมเข้ากันดีแล้ว เริ่มตำอีกรอบ..... อ้อ อย่าลืมนะครับท่าน ระหว่างที่ตำดินปืนอยู่นั้น ท่านต้องเลี้ยงน้ำครับ ผมหมายถึงให้เติมน้ำลงในครกด้วย อย่าให้ดินปืนแห้ง ตำส่วนผสมให้เข้ากันและให้ละเอียดที่สุด พิสูจน์ได้โดยการใช้นิ้วจับขึ้นมาบี้ดู หากยังรู้สึกว่ายังเป็นก้อน ถือว่ายังใช้ไม่ได้  Cheesy Cheesyความรู้สึกต้องเหมือนกับสัมผัสแป้งฝุ่นโรยตัวที่เปียก.... หรือไม่ก็ทดสอบดู โดยเอาตัวอย่างที่ตำได้ลองจุดไฟดู หากส่วนผสมเข้ากันละเอียดดี การเผาไหม้จะต้องหมดจด ไม่มีเศษซากของถ่านหรือดินประสิว  เมื่อลองจุดกับดินปืนตัวอย่างที่แห้งแล้ว ไฟจะต้องลุก พรึบหายไปในพริบตา Wink Winkหากผิดจากนี้แสดงว่าส่วนผสมของท่านอาจมีปัญหา ข้อควรระวัง ให้ลองจุดไกล ๆ กับบริเวณที่ท่านทำดินปืนนะครับ Cool Cool มิฉะนั้น ดินปืนที่ท่านทำไว้ อาจสูญสลายได้ในพริบตา หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน
เมื่อตำได้ที่แล้ว นำส่วนผสมดินปืนที่อยู่ในสภาพหมาดน้ำเอามาผ่านตะแกรงมุ้งลวดเพื่อให้ดินปืนมีลักษณะเป็นเม็ด ทำให้ง่ายในการบรรจุ นำดินปืนไปตากแดดให้แห้งสนิท เก็บใส่ขวดไว้ในที่แห้ง ตำทีหนึ่งใช้ได้หลายเดือนครับ ....... Cheesy Cheesy.
บันทึกการเข้า
Dhong
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #158 เมื่อ: เมษายน 17, 2006, 02:19:10 PM »

 หลงรักเจ้าพ่อปืนแก็ป
บันทึกการเข้า
คนดอย2495
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #159 เมื่อ: เมษายน 17, 2006, 03:01:01 PM »

แถบบ้านผมเรียกหนูที่อยู่ในป่าตัวขนาดจะโตกว่าหนูนาหรือหนูบ้านทั่วไปว่า"หนูพุก"หรือ"หนูจุ๊ก"....เวลานำมาแกงแคป่าหรือห่อหมก........รสชาติดีมากครับ
แล้วหนูจ๋าล่ะ  ไปล่าแถวๆไหน ใครมีประสพการณ์เล่าให้ฟังหน่อยจ้า 555555555(อยากล่าด้วย)
บันทึกการเข้า
o/uboy
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #160 เมื่อ: เมษายน 17, 2006, 07:38:40 PM »

ผมก็เข้าป่าบ่อยเหมือนกันครับแควเขื่อนแม่กวง เชียงใหม่ เอาเรือเข้าไปจนถึงต้นน้ำเกือบ 2 ชม.เดินต่อเรือไปต่อไม่ได้ เดินลุยน้ำหาปลาตอนกลางคืน เอามีดฟัน เจอปลาตัวใหญ่ เอา อันชูตส์ เอกเซมพลา 14 นิ้วยิงประมาณ 2 เมตรยิง 4 นัด ไม่ถูกจนปลาว่ายหนีไปเองเซ็งเลย คงเป็นแสงหักเห ท่านใดมีวิธียิงบ้าง เคยเอาฉมวกแทงก็ไม่เคยโดนปลา ถูกก้อนหินงอหมด จนดึกก็ก็ผูกเปลหาที่นอนไปฟันโดนเถาวัลย์ น่าจะเป็นเถาวัลย์น้ำ ขนาดข้อมือ น้ำไหลออกตลอดคืนจนถึงเช้าไม่หยุด ตอนเช้าก็ไปยิงไก่ป่า กลับมาได้กินมาม่าใส่ปลา ส่วนหมูป่านานๆจะเห็นรอย เพื่อนเห็นมันลงมากินน้ำ แค่ขึ้นลำ มันวิ่งป่าราบ หูมันดีจริงๆ
ไม่ทราบว่าพอจะรู้จักกลุ่มนักตกปลาที่นั่นบ้างมั้ยครับ
บันทึกการเข้า
Theera
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #161 เมื่อ: เมษายน 17, 2006, 08:57:13 PM »

ด้วยความเคารพครับ ต้องขอขอบคุณ คุณนักสำรวจมากครับ อธิบายละเอียดดีจังครับ
อย่างนี้ต้องขออนุญาตตั้งขนานนามว่า "เจ้าพ่อปืนแก๊ป" แล้วหล่ะครับ Grin
บันทึกการเข้า
NPD
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #162 เมื่อ: เมษายน 17, 2006, 09:06:49 PM »

หลงรักเจ้าพ่อปืนแก็ป
ด้วยความเคารพครับ ต้องขอขอบคุณ คุณนักสำรวจมากครับ อธิบายละเอียดดีจังครับ
อย่างนี้ต้องขออนุญาตตั้งขนานนามว่า "เจ้าพ่อปืนแก๊ป" แล้วหล่ะครับ Grin
    ด้วยความเคารพ อย่ากล่าวเช่นนั้นเลยครับ มีผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญอีกหลายท่านที่ยังไม่แสดงตัว ผมเองเรื่องปืนแก็ป มีความรู้เท่าหางอึ่ง ส่วนอาวุธปืนจริง ความรู้เท่ากะอึ่งไม่มีหาง ยังต้องได้รับคำชี้แนะอีกมากครับ Cheesy Cheesy
บันทึกการเข้า
แจ็ค
"กำบ่มีอย่าไปอู้...กำบ่ฮู้อย่าได้จ๋า"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 461
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7529


« ตอบ #163 เมื่อ: เมษายน 17, 2006, 10:13:14 PM »

Smileyเพื่อนผมเคยเข้าป่าล่าสัตว์กันประจำ ส่วนมากจะเข้าทางเขาปักธงชัย เพราะมีพรานพื้นที่นำทางให้ ส่วนมากจะได้กวาง Sadและครังหลังสุด เกิดอุบัติเหตุเพื่อน โดดปืนผูกตาย Sadก็เลยไม่ป่าอีกเลย หลังจากนั้นมาอีกประมาณ 8 เดือนจึงเข้าไปเที่ยวใหม่ ครั้งนี้ทุกคนเกิบช็อก เพราะไปเห็นเพื่อนที้โดดปืนผูกตายยืนอยู่ตรงที้เดิม Tongueทุกคนมองหน้ากันเองและไม่พูดอะไรกลับออกจากป่า ตีรถกลับ พรุ่งนี้นัดทำสังฆทาน Winkแล้วเลิกเข้าป่าล่าสัตว์อีกเลย Cheesy Cheesy Cheesy

....."โดนปืนผูกตาย"  .....คืออะไรหรือครับผม......ไม่เข้าใจในภาษาครับ....
บันทึกการเข้า

... เมื่อความกลัวถึงขีดสุด  มันจะเกิดเป็นความกล้าที่บ้าบิ่น ...
mambo
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 65
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1114


Gripen RTAF


« ตอบ #164 เมื่อ: เมษายน 17, 2006, 10:26:59 PM »

ปืนผูก คือ ปืนแก็ป ที่พรานป่า ผูกไว้กับต้นไม้ ตามทางเดินสัตว์ในป่า ที่เรียกว่า ด่านสัตว์ คือทางที่สัตว์มักจะเดินบ่อย ๆ แล้วผูกลวดไว้กับไกปืน แล้วขึงไว้ให้สัตว์ป่าเดินมาเตะ ปืนก็จะลั่น (จำมาจากหนังสือ)
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 8 9 10 [11] 12 13 14 ... 1194
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.089 วินาที กับ 22 คำสั่ง