เท่าที่ติดตามมาตลอด...ครับ
ต้องขอบอกว่า ดีแล้วครับ ที่ไม่มีอาการกระทบกระเทือนทางสมอง...
มีเพียงสายตาเท่านั้น....
แค่ข้างเดียว....ครับ....สำหรับสายตา
ยังเหลืออีกตั้งข้างหนึ่ง....
บางท่านไม่เหลือการมองเห็นไว้เลย...
เหลือแต่ชีวิตเท่านั้น
มาถึงขณะนี้แล้ว...ทุกคนต้องมองไปข้างหน้าแล้วครับ...
ว่าทำอย่างไร...คนไข้ถึงจะมีความผิดปกติในการดำรงชีวิตที่น้อยที่สุด
เพราะข้างหน้ายังเหลือเวลาอีกมากครับ...
คนไข้อายุยังน้อย
ใหม่ ๆ อาจหงุดหงิดง่ายหน่อยครับ...
เพราะมิติจะเปลี่ยนไป หยิบจับอะไร...ไม่ค่อยถูก....
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...ถ้าคนไข้ถนัดขวา...
และสูญเสียการมองเห็นข้างขวาไป....
แต่ซักพักก็ชิน ครับ...อาจต้องอาศัยระยะเวลาบ้างเท่านั้น
ใหม่ ๆ อาจต้องพึ่งจิตแพทย์ ครับ....เพราะเค้าอายุยังน้อย....
แต่รับรองครับ...เดี๋ยวก็ทำอะไร ๆ ได้เหมือนเดิม ครับ...
หากบาดแผลทางร่างกายหายเป็นปกติแล้ว...
ลอง ๆ พาเค้าไปที่โรงเรียนสอนคนตาบอด ซิครับ...
ให้เค้าได้อ่านลองหนังสือ และอัดเสียงไว้...
ให้ นร.คนตาบอด...ได้ทำการศึกษา...
เค้าจะเห็นว่า...ยังมีอีกหลายคน ที่สูญเสียการมองเห็นมากกว่าตัวเค้าเอง ครับ...
และคนเหล่านั้น...มิได้...มีความท้อแท้ในการดำรงชีวิตให้คงอยู่เลยแม้แต่น้อย
อีกทั้ง คนไข้ยังมีโอกาสที่ได้ทำประโยชน์อยู่ได้เหมือนเดิม...
สำหรับตาปลอม ถ้าสามารถใส่ได้ หลังจากบาดแผลหายแล้ว...
ติดต่อได้ที่ รพ. ตา หู คอ จมูก....ครับ....แถว ๆ สายใต้ใหม่....
ราคาประมาณข้างละ 7,000.- บาท เบิกไม่ได้นะครับ...เพราะเป็นเอกชน...
แต่จะดีกว่าตาปลอมแบบสำเร็จรูปมาก ๆ ครับ....
สำหรับ รพ.รัฐบาล...เท่าที่ผมทราบที่ รพ.เลิดสิน ครับ...
แถว ๆ สีลม....มีการทำตาปลอมเหมือนกันครับ....
หมอที่ออก OPD ชื่อว่า จุลเวช
จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...