เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 25, 2024, 05:37:30 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 [3] 4 5
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ขอความเห็น ลงทุนหนักไปใหม  (อ่าน 6004 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 6 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #30 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2012, 06:29:37 PM »

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  อ่ะ ฮา

บอกบอกได้คำเดียว  "แบเบอร์"  ฮา
ตลาด  "พิจิตร"  มันจิ๊ดเดียว  เฉพาะในอ.เมือง ก็ไม่เท่าไหร่ ฮา
แล้วยิ่ง  เป็นตลาด "โบราณ"  ที่อดีตต้องอิง  "ทางรถไฟ"  ฮา

ความเจริญมันก็ถูกกระจาย  ไปอำเภอรอบนอก

ถ้าอยากจะลงทุน  ต้องย้ายไป "พิษณุโลก"  อ่ะ ฮา
เพราะขนาดของตลาด  ใหญ่กว่า  "ห้าร้อยเท่า"  ฮา

ลงทุนสามล้าน  จะเอาไป  "แทงสูง หรือ แทงต่ำ"  ดีอ่ะ ฮา
ถ้าไปเล่น  "ตลาดใหญ่"  แล้วพลาดพลั้ง เกิด "เจ๊ง" ขึ้นมา ฮา

555 เราทำดีที่สุด  หรือ สุดฝีมือแล้ว อ่ะ  ฮา  ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
kensiro
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #31 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2012, 07:49:46 AM »

Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  อ่ะ ฮา

บอกบอกได้คำเดียว  "แบเบอร์"  ฮา
ตลาด  "พิจิตร"  มันจิ๊ดเดียว  เฉพาะในอ.เมือง ก็ไม่เท่าไหร่ ฮา
แล้วยิ่ง  เป็นตลาด "โบราณ"  ที่อดีตต้องอิง  "ทางรถไฟ"  ฮา

ความเจริญมันก็ถูกกระจาย  ไปอำเภอรอบนอก

ถ้าอยากจะลงทุน  ต้องย้ายไป "พิษณุโลก"  อ่ะ ฮา
เพราะขนาดของตลาด  ใหญ่กว่า  "ห้าร้อยเท่า"  ฮา

ลงทุนสามล้าน  จะเอาไป  "แทงสูง หรือ แทงต่ำ"  ดีอ่ะ ฮา
ถ้าไปเล่น  "ตลาดใหญ่"  แล้วพลาดพลั้ง เกิด "เจ๊ง" ขึ้นมา ฮา

555 เราทำดีที่สุด  หรือ สุดฝีมือแล้ว อ่ะ  ฮา  ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก

ใช่เลยครับ ยายครับ ตลาด แต่ร้านที่มีความรู้เรื่อง Hardware แบบลึกมีไม่กี่ร้านครับ

ยายลองเปรียบเทียบนะครับ ผมทำสถิติ ผู้ที่รับซ่อมคอมพิวเตอร์เฉพาะในตัวเมือง

เอาเฉพาะที่ผมเก็บรายละเอียดได้ที่ทำเต็มตัวและอาชีพ มีประมาณ 300 ราย ที่ยาย

บอกว่า เล็ก นิดๆ นะครับ รายผู้ให้บริการเยอะมาก แต่ เท่าที่ผมเห็น เก็บรายละเอียด

ไว้ เอาแค่ เครื่องมือง่าย ที่ใช้แบบชาวบ้านๆ คือ มิเตอร์วัดไฟ ยี้ห้อ sanwa ยังใช้ไม่เป็นกันเลย

มีที่ใช้เป็น ไม่ถึง 10 ราย ( ใช้เป็นกับใช้ได้ต่างกันนะครับยาย ) แต่เมื่อเทียบกับปริมาณ จำนวน

เครื่องคอมพิวเตอร์ ทุกประเภทแล้ว ที่นี่เครื่องคอมพิวเตอร์เยอะนะครับ ลูกค้าผม ก็เยอะ แต่ว่าช่วง

2 ปีที่ผม ออกทำรับงานซ่อมอย่างเดียว ร้านดูไม่ดี เป็นแค่ห้องแถวที่รับแต่งานซ่อมธรรมดา

ลูกค้าต้องการมาซื้อเครื่องดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือ ทุกวันนี้ผมเอาป้ายหน้าร้านลงไปแล้ว จะรู้เฉพาะ

คนที่รู้จัก และ ก็บอกต่อๆ กันไป คนมาให้ผมประกอบเครื่องให้ก็เยอะ แต่ผม จะบอกว่า ราคา

ห้ามบ่นอาจจะแพงกว่า ที่อื่น 10-20 % แต่คุณภาพ ต่างกันมาก ลูกค้ส่วนใหญ่ในเมืองพิจิตร

จะขับรถไปซ่อมที่ พิษณุโลกกัน ยกเว้นเรื่องลงโปรแกรม ส่วนใหญ่คนนิยมไปดูของ ผมถึงบอก

ว่า ผมมองตลาดพิจิตร มานาน ผมวิเคราะ ตลาดไว้ เคยบอกกับทุกร้านว่า สิ้นค้าแบนหนึ่งมา

ให้คุณเป็นดีเลอร์ วันหนึ่งเขาจะหุบพวกคุณหมด และ ก็เป็นจริงเขาใช้เวลา 4 ปี ลูกค้า เขากิน

ตลาดไปประมาณ 60 % แต่เรื่องบริการไม่ได้เรื่อง อย่าว่าอย่างโน่นอย่างนี้เลย เด็กที่ผมปั้นมา

4 ปี มาขอวิชาจากผมไป ปิดเทอม ของทุกเทอมจะมา อยู่กับผม ฝึกงานตอนเรียนก็ฝึกจากผม

ไปอยู่กับเขา ผม ก็รู้ฝีมืออยู่ หลายร้านเป็นเด็กฝึกงานผม


ทำไมผมถึงรู้ ว่า ผมอะไรให้ลูกค้าแล้วดีจริงๆ ผมติดตามลูกค้าได้ ลองดูรูปที่ผมแบบแล้วจะรู้ว่า ลูกค้าไม่เคยหนีผม

แต่ ว่า เขาไม่ได้ยกเข้าร้านใหน และ ก็ไม่ได้ยกเข้าร้านผม ยกเว้นเสียที่เครื่อง หลายเครื่อง 4 ปีแล้ว ยังใช้โปรแกรม

ตัวเดิมที่ผมลงไปให้ อยู่เลย ไม่เคยไปลงที่ใหนเลย


นี่เป็นตัวอย่างเครื่องผมเอง เครื่องนี้เปิดครบ 5 ปี เมื่อวันที่ 21/11/55 ปิดเฉพาะตอนย้ายเครื่องไฟดับ ทำความสะอาด ทุก 1-2 เดือน

เปลี่ยน ซิลิโคน ( mx3 ) ทุก 2 ปี สเป็คก็ไม่ดีเด่อะไร แต่ วิธีการประกอบ วิธีการเลื่อกของให้เข้ากันได้ วิธีการปรับ hardware ให้เข้ากัน

ทุกชิ้น วิธีการปรับ software ให้ เข้ากับ hardware มีผลต่อเครื่องหมดทุกอย่างครับ


บันทึกการเข้า
kensiro
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #32 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2012, 09:07:48 AM »

ส่วนที่ปรึกษาด้านการลงทุนของธนาคารฯ(ตามที่โฆษณาขนมผิง)... นั่นก็เป็นการค้าครับ โครงการดีๆ(หรือไอเดียดีๆ) จะมีแต่ลูกค้าที่มีศักยภาพ(ในสายตาธนาคาร)จะได้ไป ซึ่งอาจไม่ใช่เราก็ได้ แต่เราโดนล้วงตับ!!!...


เรื่องนี้ผม โดนมาหลายรายแล้ว เคยเล่าให้ฟังไปในบางกระทู้แล้วมี พนักงานรัฐวิสาหกิจ แห่งนึ่งมาบอกผม โรจน์ พี่มีโจทย์อย่างนี้นะคือว่า หน่วยงานพี่ซื้อโปรแกรม มา ราคา 3000 กว่าล้าน แต่เขาให้
login ได้แผนกละคน ทั้งสำนักงาน login ได้ประมาณ 5-10 เครื่องขึ้นอยู่กับ ขนาดของหน่วยงาน มีอยู่ ประมาณ 700-800 กว่าที่ทั่วประเทศ  ผม ก็คิดให้ไป เพราะมีค่าตอบแทน และบอกว่า จะได้ทำขายได้อีกหลายที่  แต่วิธีคิดของผม คิดเสร็จต้องป้องกันความเสียหายที่จะตามมาด้วย ต้องมีวงจรป้องกันต่างๆด้วย แต่นี่เขาได้ไอเดียพร้อมงานชิ้นแรก สรุป เขาเอาไปให้คนของเขาทำแล้วมีรายได้กันงาม
เลย ตัดต้นทุนตรงส่วนป้องกันผมออกไป ใช้วิธีแบบมักง่าย แต่ได้ตังเหมือนกัน เขาต้องการเพียง วิธีการและอุปกรณ์อะไรมาทำเท่านั้นเอง


เหมือนโปรแกรมที่ผมทำ ก็มีคนโทรมาขอเยอะ ผมแนะนำวิธีทำไปแต่เขาบอกว่า อยากได้ ต้นฉบับเลย หมายถึง source code ที่เขียน เดี่ยวไปต่อยอดเอง เพราะวิธีการมีให้ดูบนเนตแล้ว

บันทึกการเข้า
kensiro
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #33 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2012, 01:30:40 PM »

ลองคิดกันเล่นๆ นะครับ การประกอบ คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง

เช่น ผม เป็นเจ้าของแบนตัวเองวิธีการประกอบของผมคือ ตามด้านล่าง ซึ่งส่วนใหญ่เครื่อง ban ต่างประเทศใช้กัน

เริ่ม การการประกอบทุกอย่างให้เข้ากันได้หมด อุปกรณ์ภายในเข้ากันดีแล้ว ส่วนประกอบ ผ่าน qc แล้ว
เคยสังเกตุ power supply บ้างใหม ปกติ power suppply ที่มีขาย ตามท้องตลาด จะเป็น

350 400 450 500 550 650 850 วัต ตามขนาด แล้วแต่ เป็นของดีหรือของพอใช้ได้ (วัตแท้ หรือ วัต เทียม)

แต่ เครื่องพวกนี้ เคยเห็นใหมครับ power supply 285 watt แท้

เขาใช้วิธี คำนวณ จาก การกินไฟของอุปกรณ์แล้วทำให้เกินมา 20 % ของอัตราการกินไฟ

ทำไมต้อง เพิ่มมา 20 % ถ้าไปดูเวปที่ผลิด power supply ยี้ห้อดีๆ เขาจะบอกไว้ว่า ค่าความ

เสื่อมของ อุปกรณ์ จะลดมาประมาณ 20 % ที่ประมาณ 2 ปี เท่ากับว่า ใน 2 ปี แหล่่งจ่ายไฟ

กับตัวเครื่องที่กินไฟ จะเท่ากันพอดี แต่ในมุมกลับกันจากตัวแปรต่าง ภายใน 2 ปีทำให้เครื่อง

กินไฟมากกว่าเดิม อีก ที่นี้ในมุมกลับกันลองมองว่า ถ้าอุปกรณ์ทั้งหมด กินไฟเพิ่ม 5 % แต่แหล่ง

จ่ายไฟลดลงมา 20 % เหลือ 100 % แต่ ว่า เครื่องกินไฟเพิ่ม 105 % ทำให้แหล่งจ่ายไฟไม่พอ

มีผลแน่นอนแต่อาจจะเป็นระยะเริ่มต้นยังไม่เกิดผลมากเท่าไร แต่มีหลายที่คือ บังคับเครื่องให้เสีย

ไวขึ้น เช่น เครื่องช้า จุุข้อมูลได้น้อยต้องการเพิ่ม แต่ในมุมกลับกัน คือ การเพิ่มอุปกรณ์เข้าไปไม่

ได้คำนวณอันตราการกินไฟ อาจจะเพิ่มไปตั้งแต่วันแรกที่ซื้อเลย คือ แหล่งจ่ายไฟ จ่าย ได้ 120 %

อุปกรณ์ ที่เพิ่มเข้าไป กินไฟ เพิ่ม ไปเป็น 135 % เท่ากับว่าเร่งให้เครื่องพังไวขึ้น อะไรทำนี้ ซึ่งตัว

แปรมีหลายอย่างครับ
บันทึกการเข้า
ทิดเป้า
Hero Member
*****

คะแนน -1181
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11916



« ตอบ #34 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2012, 03:53:48 PM »

 ไหว้เงินสามล้านไม่มากสำหรับการลงทุน แต่มากมายสำหรับผม ชาตินี้ทั้งชาติ ไม่รู้จะได้เห็นมันหรือเปล่า ดังนั้น จะเอาเงินสามล้านไปเสี่ยง ต้องคิดให้หนัก ถึงหนักมากๆ

ลองทำแผนธุรกิจ วิเคราะห์ความเสียงดูดีๆ ปรึกษาผู้รู้ ผู้มีประสบการณ์ กรณีศึกษาต่างๆ... ในวงการธุรกิจ มีอะไรที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นตลอดเวลา ...ทุนหมุนเวียนต้องหนา พร้อม...

ผมเคยเป็นพัสดุ ตรวจรับงาน วางบิล ในโรงงานเล็กๆ...ตัวอย่างที่ผมเห็นบ่อยๆ ก็คือ การจัดการไม่ดี ไม่รอบคอบ บริหารผิดพลาด ทำงานผิดพลาด เวลา  เครื่องมือเครื่องใช้ วัสดุอุปกรณ์ไม่เป็นไปตามข้อตกลง  เงื่อนไขการรับประกัน เครดิตการชำระเงิน ...รวมไปถึงสภาพแวดล้อม ดินฟ้าอากาศที่มีผลกับการทำงาน

สิ่งเหล่านี้ มีผลกับการวางบิลรับเงินทั้งนั้น พลาดนิดเดียว รับเงินช้าไปเป็นเดือน หรือหลายๆเดือน ...ช่วงที่กำเช็ครอเงินจนเหงื่อท่วมนี้ ...ต้องใช้เงินทั้งนั้น

Vendor บางราย รวยได้ในไม่กี่เดือน...บางรายจนลงคนไม่เหลืออะไรในพริบตาครับ
บันทึกการเข้า

อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265


ขาย-อัพเกรด คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง


« ตอบ #35 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2012, 04:00:40 PM »

ข้อมูลคุณโรจน์น่าจะคลาดเคลื่อนบ้างนะครับ

PSU ในท้องตลาดมี2ประเภท คือ "วัตต์เต็ม-วัตต์แท้" แล้วแต่จะเรียก อีกประเภทคือ "วัตต์เทียม"

2ประเภทนี้ต่างกันตรงที่ PSU วัตต์แท้จะสามารถจ่ายไฟต่อเนื่องได้ตามสเป็ค บางยี่ห้อก็จะแจ้งว่า Watt Continuous
การจะจ่ายต่อเนื่องได้แปลว่าตัวPSUจะต้องจ่ายไฟตามสเป็คได้โดยความร้อนคงที่ ความสูญเสียคงที่
หมายความว่า PSU "วัตต์แท้" ต้องมีความสามารถจ่ายไฟได้สูงกว่าสเป็นที่แจ้งไว้ทุกตัวมิฉะนั้นจะจ่ายต่อเนื่องไม่ได้

ส่วน PSU วัตต์เทียมจะแจ้งกำลังไฟเป็นวัตต์สูงสุด (Watt Peak)ที่PSUสามารถจ่ายได้ซึ่งมีผลให้ PSUมีความร้อนสะสมเพิ่มขึ้น
ค่าสูญเสียเพิ่มขึ้น แต่ตัว PSUยังต้องจ่ายไฟเกินจุดคงที่ อุณหภูมิก็จะสูงขึ้นเรื่อยๆจนเป็นอันตราย ไหม้ หรือถึงขั้นระเบิด

เรื่อง PSU ของคอมแบรนด์ที่จ่ายไฟได้สูงกว่าระบบ20%เป็นเรื่องจริง
แต่เป็นการคิดจากโหลด100%ของระบบ ซึ่งคอมพิวเตอร์ไม่ได้เรียกใช้ไฟเต็มโหลด100%ตลอดเวลา
คอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่จะใช้ประสิทธิภาพเฉลี่ยอยู่ในช่วงประมาณ 50%-80% หมายความว่า PSUก็จะมีโหลดเฉลี่ย 30%-60%
เหตุผลที่คอมแบรนด์ต้องเผื่อโหลดสูงสุดขึ้นไปอีก20% เพราะว่า PSU ทุกตัวจะทำงานที่มีประสิทธิภาพที่สุดในช่วงโหลด 45%-65%
คือช่วงที่จ่ายไฟเต็มประสิทธิภาพที่สุด สูญเสียน้อยที่สุด นั่นคือวิศวกรของผู้ผลิตคอมแบรนด์ทั้งหลายได้คำนวนมาแล้วว่า "พอดี"

คอมแบรนด์แทบทุกตัวไม่ได้ออกแบบเผื่อให้เราอัพเกรด
เพราะอุปกรณ์แทบทุกตัวไม่ได้เน้นไปที่ประสิทธิภาพสูงสุด แต่เน้นความเรียบง่าย มีเสถียรภาพ ประสิทธิภาพเพียงพอในต้นทุนต่ำที่สุด
การเอาคอมแบรนด์ไปอัพเกรด โดยยังใช้ PSUเดิมที่ผ่านการคำนวนมาแล้วว่า "พอดี" มันจึง "เกินพอดี" เป็นผลให้อายุการใช้งานสั้นลง

เรื่องคอมประกอบจะต่างจากคอมแบรนด์ ตรงที่คอมประกอบมีงบประมาณของลูกค้าบังคับไว้ด้วยส่วนหนึ่ง
"พื้นฐานของช่างที่ดี" จึงต้องเลือกอุปกรณ์ทุกชิ้นให้เหมาะสม มีประสิทธิภาพสูงสุดกับงานที่ทำ และในงบประมาณที่ลูกค้าตั้งไว้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 22, 2012, 06:38:53 PM โดย อรชุน-รักในหลวง » บันทึกการเข้า
kensiro
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #36 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2012, 04:17:54 PM »

ข้อมูลคุณโรจน์น่าจะคลาดเคลื่อนบ้างนะครับ

PSU ในท้องตลาดมี2ประเภท คือ "วัตต์เต็ม-วัตต์แท้" แล้วแต่จะเรียก อีกประเภทคือ "วัตต์เทียม"

2ประเภทนี้ต่างกันตรงที่ PSU วัตต์แท้จะสามารถจ่ายไฟต่อเนื่องได้ตามสเป็ค บางยี่ห้อก็จะแจ้งว่า Watt Continuous
การจะจ่ายต่อเนื่องได้แปลว่าตัวPSUจะต้องจ่ายไฟตามสเป็คได้โดยความร้อนคงที่ ความสูญเสียคงที่
หมายความว่า PSU "วัตต์แท้" ต้องมีความสามารถจ่ายไฟได้สูงกว่าสเป็นที่แจ้งไว้ทุกตัวมิฉะนั้นจะจ่ายต่อเนื่องไม่ได้

ส่วน PSU วัตต์เทียมจะแจ้งกำลังไฟเป็นวัตต์สูงสุด (Watt Peak)ที่PSUสามารถจ่ายได้ซึ่งมีผลให้ PSUมีความร้อนสะสมเพิ่มขึ้น
ค่าสูญเสียเพิ่มขึ้น แต่ตัว PSUยังต้องจ่ายไฟเกินจุดคงที่ อุณหภูมิก็จะสูงขึ้นเรื่อยๆจนเป็นอันตราย ไหม้ หรือถึงขั้นระเบิด

เรื่อง PSU ของคอมแบรนด์ที่จ่ายไฟได้สูงกว่าระบบ20%เป็นเรื่องจริง
แต่เป็นการคิดจากโหลด100%ของระบบ ซึ่งคอมพิวเตอร์ไม่ได้เรียกใช้ไฟเต็มโหลด100ตลอดเวลา
คอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่จะใช้ประสิทธิภาพเฉลี่ยอยู่ในช่วงประมาณ 50%-80% หมายความว่า PSUก็จะมีโหลดเฉลี่ย 30%-60%
เหตุผลที่คอมแบรนด์ต้องเผื่อโหลดสูงสุดขึ้นไปอีก20% เพราะว่า PSU ทุกตัวจะทำงานที่มีประสิทธิภาพที่สุดในช่วงโหลด 45%-65%
คือช่วงที่จ่ายไฟเต็มประสิทธิภาพที่สุด สูญเสียน้อยที่สุด นั่นคือวิศวกรของผู้ผลิตคอมแบรนด์ทั้งหลายได้คำนวนมาแล้วว่า "พอดี"

คอมแบรนด์แทบทุกตัวไม่ได้ออกแบบเผื่อให้เราอัพเกรด
เพราะอุปกรณ์แทบทุกตัวไม่ได้เน้นไปที่ประสิทธิภาพสูงสุด แต่เน้นความเรียบง่าย มีเสถียรภาพ ประสิทธิภาพเพียงพอในต้นทุนต่ำที่สุด
การเอาคอมแบรนด์ไปอัพเกรด โดยยังใช้ PSUเดิมที่ผ่านการคำนวนมาแล้วว่า "พอดี" มันจึง "เกินพอดี" เป็นผลให้อายุการใช้งานสั้นลง

เรื่องคอมประกอบจะต่างจากคอมแบรนด์ ตรงที่คอมประกอบมีงบประมาณของลูกค้าบังคับไว้ด้วยส่วนหนึ่ง
"พื้นฐานของช่างที่ดี" จึงต้องเลือกอุปกรณ์ทุกชิ้นให้เหมาะสม มีประสิทธิภาพสูงสุดกับงานที่ทำ และในงบประมาณที่ลูกค้าตั้งไว้

ขอบคุณครับ สำหรับคำอธิบายที่ดีขึ้น ผมเข้าใจ แต่สื่อสารไม่เป็ง
บันทึกการเข้า
kensiro
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #37 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2012, 04:24:06 PM »

ไหว้เงินสามล้านไม่มากสำหรับการลงทุน แต่มากมายสำหรับผม ชาตินี้ทั้งชาติ ไม่รู้จะได้เห็นมันหรือเปล่า ดังนั้น จะเอาเงินสามล้านไปเสี่ยง ต้องคิดให้หนัก ถึงหนักมากๆ

ลองทำแผนธุรกิจ วิเคราะห์ความเสียงดูดีๆ ปรึกษาผู้รู้ ผู้มีประสบการณ์ กรณีศึกษาต่างๆ... ในวงการธุรกิจ มีอะไรที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นตลอดเวลา ...ทุนหมุนเวียนต้องหนา พร้อม...

ผมเคยเป็นพัสดุ ตรวจรับงาน วางบิล ในโรงงานเล็กๆ...ตัวอย่างที่ผมเห็นบ่อยๆ ก็คือ การจัดการไม่ดี ไม่รอบคอบ บริหารผิดพลาด ทำงานผิดพลาด เวลา  เครื่องมือเครื่องใช้ วัสดุอุปกรณ์ไม่เป็นไปตามข้อตกลง  เงื่อนไขการรับประกัน เครดิตการชำระเงิน ...รวมไปถึงสภาพแวดล้อม ดินฟ้าอากาศที่มีผลกับการทำงาน

สิ่งเหล่านี้ มีผลกับการวางบิลรับเงินทั้งนั้น พลาดนิดเดียว รับเงินช้าไปเป็นเดือน หรือหลายๆเดือน ...ช่วงที่กำเช็ครอเงินจนเหงื่อท่วมนี้ ...ต้องใช้เงินทั้งนั้น

Vendor บางราย รวยได้ในไม่กี่เดือน...บางรายจนลงคนไม่เหลืออะไรในพริบตาครับ

ประสบการณ์พอมีบ้าง เจอมาหากรูปแบบครับ

ผมถึงบอกว่า ขอความเห็นเรื่องอุปกรณ์ ที่จะซื้อจะคุ้มใหม

แต่ตึกที่ไปจองไว้นั้นเพราะผมต้องการที่อยู่ ผมยังไม่มีที่อยู่ในเมือง

อย่างไรก็ต้องเอาไว้

ไม่แน่นะครับผมหาข้อมูลไว้เยอะมาก แต่ถึงเวลา ผมกลับไปทำเกษตร

เฉยเลย ตอนนี้ผมก็ไปทำอยู่ แต่กำลังนำเทคโนโลยีเข้าไป

รดน้ำในสวน ด้วย ipad มองสวน ด้วย กล้องวงจรปิด

และที่ผมกำลังทำอยู่ตอนนี้ ค้นหาข้อมูลแล้วในประเทศไทย

ยังไม่มีใครทำเลย ที่มีให้เห็นนะครับ เมื่อพร้อมและสมบูรณ์

ผมจะทำคลิบมาโชว์ รับรองผู้ที่ทำเกษตร จะต้องชอบ และ

คิดไม่ถึงว่า เออ แค่ สิ่งง่าย เห็นกันอยู่ทุกวัน แต่เอามาทำ

ประโยชน์ประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะ
บันทึกการเข้า
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #38 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2012, 06:30:10 PM »




แต่ตึกที่ไปจองไว้นั้นเพราะผมต้องการที่อยู่

ผมยังไม่มีที่อยู่ในเมือง
อย่างไรก็ต้องเอาไว้




Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  อ่ะ  ฮา

ความ "ผิดพลาด"  ที่ใหญ่โต  คือเรื่อง "ลงทุน" ในอสังหาริมทรัพย์ อ่ะ ฮา
เงินสามล้าน  ละเลงแป๊บเดียว  หมด อ่ะ
แล้วถ้า  แผนการตลาด  "ไม่เวิรค์"  จะทำอย่างไร อ่ะ ฮา

ต้องผ่อน "ตึกแถว"  ราคา  2 ล้านลบ  ค่าผ่อน สามสี่หมื่น ฮา

แผนการตลาด  ไม่มีใคร แนะนำ ใครได้ อ่ะ ฮาาา
เพราะว่า  "ฝีมือ"  ไม่เหมือนกัน  และขึ้นอยู่กับการเห็น "โอกาส" ก่อนคนอื่น ฮา

ถ้ายังยืนยัน  "ลงหลัก"  พิจิตร ฮา
ยายไม่แนะนำ  ให้ลงทุน  "ตึกแถว"  อ่ะ ฮา

"เช่า"  เขาเดือนละ  ห้าหกพัน  ดีกว่าที่ต้องสร้างหนึ้  สอง สาม ล้านอ่ะ ฮา
ทำตัว  ให้เหมือน  "ตั๊กแตน"   ถ้าตลาดไม่ดี ก็พร้อม "อพยพ" อ่ะ ฮา

5555 จะอพยพได้อย่างไร   ธนาคาร เขาไม่ยอมให้คืน อ่ะ ฮา
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #39 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2012, 07:18:42 PM »

ช่างโรจน์ระวังเรื่อง"กับดักเทคนิคคัลแมน"ด้วยครับ... เรื่องนี้ยาวหากพูดในรายละเอียด เพราะเป็นกำแพงที่มองไม่เห็น บางคนไม่เคยผ่านได้จนตลอดชีวิต แต่บางคนก้าวผ่านมาแล้วมองย้อนหลังจะบอกว่าฉันไม่น่าหลงติดกับตรงนั้นเลย...

เอาสรุปๆนะครับ... ประเด็นคือเรื่อง"เก่งธุรกิจ"กับเรื่อง"เก่งเทคนิค"นั้นเป็นเรื่องคาบเกี่ยวกัน แต่อยู่คนละขั้ว, หากเก่งสุดโต่งด้านใดด้านหนึ่งจะไม่ประสบความสำเร็จในตัวเอง โดยต้องจับคู่กับอีกขั้วหนึ่งแพคเป็นทีมฯ แล้วทีมที่ว่านั้นห้ามแตกคอกัน, ตัวอย่างเช่นศิลปินเก่งต้องมีผู้จัดการ แล้วผู้จัดการที่เก่งต้องหาศิลปินเก่งมาเข้าสังกัด ทีนี้ใครเป็นลูกน้องใครเป็นเจ้านายนั่นก็แล้วแต่ว่าใครเก่งขั้วไหนได้ถึงที่สุดมากกว่ากัน...

เรื่องเทคนิคนี่ยิ่งลึกมากเท่าไหร่ จะยิ่งเรียวเล็กลงเหมือนยอดปิรามิด ซึ่งที่จุดนั้นความต้องการตลาดจะมีน้อยมากจนไม่สามารถทำเงินจากตรงนั้นได้, ไม่เหมือนเรื่องพื้นๆ ที่ตลาดกว้างกว่า ทำเงินได้มากกว่า... แล้วหากเมื่อไหร่ที่เกิดความต้องการเทคนิคลึกๆ เราค่อยเล่นเองเอาสนุก, หรือไม่ก็ไปจ้างผู้เชี่ยวชาญอีกต่อนึงไปเลย เพื่อรักษาลูกค้าเอาไว้...

ทีนี้มีเรื่อง"ขนาดตลาด"ที่ช่างโรจน์บอกว่าขนาดใหญ่ ก็ลองประเมินจากตัวเลข"ทั่วไป"ดังต่อไปนี้นะครับ... ตามปรกติเงินต้น 3 ล้านบาทไปกู้ธนาคารเขาจะให้ผ่อนประมาณเดือนละ 5 หมื่นบาท+ดอกเบี้ยลดต้น แล้วยาว 5 ปี, เราก็เข้าเกียร์ถอยหลังออกมาว่ารายรับจากโครงการนี้จะได้ประมาณ 2 เท่าถึงจะอยู่ได้ ดังนั้นรายรับต้องไม่ต่ำกว่า 9 หมื่นบาทถึง 1 แสนบาทต่อเดือน(เพราะมีค่าโสหุ้นอื่นอีกนอกจากเงินผ่อนงวด), พอถึงตรงนี้ช่างโรจน์อาจจะบอกว่าฉันไม่ได้กู้เงิน ไม่สนใจก็ได้ ซึ่งอย่างนั้นมันก็ใช่ แต่ต้องไม่ลืมว่านี่คือตัวเลขมาตรฐาน ถ้ารายรับน้อยกว่านี้ธนาคารไม่ให้กู้ แต่เราทำเองก็เจ๊งเองครับ...

รายรับ 1 แสนบาทต่อเดือน หากค่าจ้างยกชิป/เปลี่ยนชิปครั้งละ 1500 บาท นั่นแปลว่าทั้งเดือนต้องมีงาน 66 ครั้ง หรือวันไม่ต่ำละ 3 ครั้งทุกวันตลอด 60 เดือน!!!... หากวันไหนงานไม่มีก็ต้องทดไปสำหรับวันถัดไปด้วย ให้ในที่สุดได้ตามเกณฑ์, โดยตัวเลข 5 ปีหรือ 60 เดือนมาจากการคิดค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์ประเภทนี้จะตัด บ/ช. เสื่อมราคา MACRS หมดใน 5 ปีครับ...

พอถึงตรงนี้ก็พิจารณาว่าเครื่องจีนแดง 3 แสนบาทแต่มีตีกลับประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับเครื่อง 3 ล้านบาทแต่งานดี 100 เปอร์เซ็นต์ เครื่องไหนคุ้มค่ามากกว่ากันในเชิงธุรกิจครับ...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 22, 2012, 07:20:32 PM โดย นายสมชาย(ฮา) - รักในหลวง » บันทึกการเข้า
dignitua-รักในหลวง
เราจะสู้เพื่อในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1414
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8341


จะมีพรุ่งนี้ ได้อีกกี่วัน...


« ตอบ #40 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2012, 07:25:52 PM »




แต่ตึกที่ไปจองไว้นั้นเพราะผมต้องการที่อยู่

ผมยังไม่มีที่อยู่ในเมือง
อย่างไรก็ต้องเอาไว้




Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  อ่ะ  ฮา

ความ "ผิดพลาด"  ที่ใหญ่โต  คือเรื่อง "ลงทุน" ในอสังหาริมทรัพย์ อ่ะ ฮา
เงินสามล้าน  ละเลงแป๊บเดียว  หมด อ่ะ
แล้วถ้า  แผนการตลาด  "ไม่เวิรค์"  จะทำอย่างไร อ่ะ ฮา

ต้องผ่อน "ตึกแถว"  ราคา  2 ล้านลบ  ค่าผ่อน สามสี่หมื่น ฮา

แผนการตลาด  ไม่มีใคร แนะนำ ใครได้ อ่ะ ฮาาา
เพราะว่า  "ฝีมือ"  ไม่เหมือนกัน  และขึ้นอยู่กับการเห็น "โอกาส" ก่อนคนอื่น ฮา

ถ้ายังยืนยัน  "ลงหลัก"  พิจิตร ฮา
ยายไม่แนะนำ  ให้ลงทุน  "ตึกแถว"  อ่ะ ฮา

"เช่า"  เขาเดือนละ  ห้าหกพัน  ดีกว่าที่ต้องสร้างหนึ้  สอง สาม ล้านอ่ะ ฮา
ทำตัว  ให้เหมือน  "ตั๊กแตน"   ถ้าตลาดไม่ดี ก็พร้อม "อพยพ" อ่ะ ฮา

5555 จะอพยพได้อย่างไร   ธนาคาร เขาไม่ยอมให้คืน อ่ะ ฮา

อันนี้เห็นด้วยกับป้าบราครับ...

ผมผ่อนบ้านแต่ไม่ได้อยู่ๆ 1 หลัง จนถึงวันนี้อยากจะปล่อยให้หลุดชะมัด ปิดป้ายขายก็ไม่มีใครซื้อ...

ถ้าสไตล์น้ำเน่านิดๆ ก็ผมอยู่ที่ไหนก็ได้ขอเพียงให้อยู่กันพร้อมหน้าครอบครัว อาชีพ "รับจ้าง" ส่วนมากมักพเนจร...

ใจอยากซื้อบ้านที่ระยอง แต่ก็กลัวภาระ หาเงินมาได้แต่ไม่ได้ใช้..

อยากให้ฟังความเห็นของทุกท่านเป็นที่ตั้ง ตัวเราเป็นอันดับรอง แล้วค่อยๆพิจารณาเอาความเห็นของทุกท่านมาประกอบเหตุผลของเราไปเรื่อยๆครับ เวลายังมี และเงิน 3 ล้านก็ไม่ใช่เป็นเงินจำนวนน้อยๆ ไม่อยากให้พลาดครับ...

และ +1 พี่สมชายที่ทุ่มเติมความคิดอย่างเต็มที่ครับ... เยี่ยม ไหว้
บันทึกการเข้า

INTERCEPTER - รักในหลวง
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 155
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 871


ไปช้าๆ.... มองโลกได้เยอะขึ้น


« ตอบ #41 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2012, 07:46:49 PM »

ให้คำแนะนำแต่เรื่องที่ผมถนัดละกัน.... เนื่องจากอาชีพที่ผมทำ

วิธีซื้ออาคารพานิชย์แบบซื้อง่ายขายคล่อง... เผื่อไม่ได้ประกอบกิจการ   ให้ดูอาคารโครงการใหม่ที่มีธนาคารเข้าไปซื้อ(ส่วนมากธนาคารจะซื้อ 2หรือ 3 ห้องหัวมุม) .... ให้ติดต่อซื้อห้องถัดๆไปได้เลย (ไม่จำเป็นต้องติดกันแต่ให้เป็นตึกชุดเดียวกัน  และถ้าไม่มีพวกในโครงการ  อาจต้องซื้อเป็นมือ 3 มือ 4 โดนบวกราคามาเยอะแล้ว)  ...
แต่ถ้าหาทำเลอย่างว่าไม่ได้... ก็ต้องแล้วแต่ประสบการณ์แล้วล่ะ  ว่ามองทำเลขาดหรือไม่.... กลัวว่าถ้าเมืองใหญ่ไม่พอหรือโตไม่พอ  เวลาประกาศขาย  จะต้องรอจนป้ายสีจืดหมด

ส่วนเรื่องจะนำเทคโนโลยีมาขายเกษตรกร  ผมมองว่าเป็นเรื่องยาก.... การทำเกษตรมันเป็นเรื่องละเอียดกว่าที่คิดครับ(ควบคุมทุกอย่างไม่ได้ 100%)

ส่วนการทุ่มเงินค่าเครื่องจักร  อันนี้ให้ความเห็นไม่ได้ครับเพราะไม่มีความรู้     
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 22, 2012, 07:58:13 PM โดย INTERCEPTER - รักในหลวง » บันทึกการเข้า
dignitua-รักในหลวง
เราจะสู้เพื่อในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1414
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8341


จะมีพรุ่งนี้ ได้อีกกี่วัน...


« ตอบ #42 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2012, 08:02:10 PM »

ให้คำแนะนำแต่เรื่องที่ผมถนัดละกัน.... เนื่องจากอาชีพที่ผมทำ

วิธีซื้ออาคารพานิชย์แบบซื้อง่ายขายคล่อง... เผื่อไม่ได้ประกอบกิจการ   ให้ดูอาคารโครงการใหม่ที่มีธนาคารเข้าไปซื้อ(ส่วนมากธนาคารจะซื้อ 2หรือ 3 ห้องหัวมุม) .... ให้ติดต่อซื้อห้องถัดๆไปได้เลย (ไม่จำเป็นต้องติดกันแต่ให้เป็นตึกชุดเดียวกัน  และถ้าไม่มีพวกในโครงการ  อาจต้องซื้อเป็นมือ 3 มือ 4 โดนบวกราคามาเยอะแล้ว)  ...

ส่วนเรื่องจะนำเทคโนโลยีมาขายเกษตรกร  ผมมองว่าเป็นเรื่องยาก.... การทำเกษตรมันเป็นเรื่องละเอียดกว่าที่คิดครับ(ควบคุมทุกอย่างไม่ได้ 100%)

ส่วนการทุ่มเงินค่าเครื่องจักร  อันนี้ให้ความเห็นไม่ได้ครับเพราะไม่มีความรู้

ถูกต้องครับ อาคารพาณิชย์ที่ผมสร้างมี ธ. กสิกร มาเปิด 2 คูหา , ร้านขายเครื่องไฟฟ้าเงินผ่อน 4 คูหา , หมอฟัน 2 เจ้า 3 คูหา... เหลือคูหาเดียวแถมเจ้าของยังค้างเงินผมอยู่ 6 แสน ยังลังเลอยู่ว่าจะเอายังไงดีครับ... อ๋อย
บันทึกการเข้า

INTERCEPTER - รักในหลวง
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 155
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 871


ไปช้าๆ.... มองโลกได้เยอะขึ้น


« ตอบ #43 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2012, 08:05:42 PM »

ให้คำแนะนำแต่เรื่องที่ผมถนัดละกัน.... เนื่องจากอาชีพที่ผมทำ

วิธีซื้ออาคารพานิชย์แบบซื้อง่ายขายคล่อง... เผื่อไม่ได้ประกอบกิจการ   ให้ดูอาคารโครงการใหม่ที่มีธนาคารเข้าไปซื้อ(ส่วนมากธนาคารจะซื้อ 2หรือ 3 ห้องหัวมุม) .... ให้ติดต่อซื้อห้องถัดๆไปได้เลย (ไม่จำเป็นต้องติดกันแต่ให้เป็นตึกชุดเดียวกัน  และถ้าไม่มีพวกในโครงการ  อาจต้องซื้อเป็นมือ 3 มือ 4 โดนบวกราคามาเยอะแล้ว)  ...

ส่วนเรื่องจะนำเทคโนโลยีมาขายเกษตรกร  ผมมองว่าเป็นเรื่องยาก.... การทำเกษตรมันเป็นเรื่องละเอียดกว่าที่คิดครับ(ควบคุมทุกอย่างไม่ได้ 100%)

ส่วนการทุ่มเงินค่าเครื่องจักร  อันนี้ให้ความเห็นไม่ได้ครับเพราะไม่มีความรู้

ถูกต้องครับ อาคารพาณิชย์ที่ผมสร้างมี ธ. กสิกร มาเปิด 2 คูหา , ร้านขายเครื่องไฟฟ้าเงินผ่อน 4 คูหา , หมอฟัน 2 เจ้า 3 คูหา... เหลือคูหาเดียวแถมเจ้าของยังค้างเงินผมอยู่ 6 แสน ยังลังเลอยู่ว่าจะเอายังไงดีครับ... อ๋อย

เก็บไว้เองครับ... เดี๋ยวก็มีร้านทองไปซื้อ 555
บันทึกการเข้า
Pandanus
Hero Member
*****

คะแนน 6378
ออฟไลน์

กระทู้: 40175


เรื่องบังเอิญไม่มีจริง


« ตอบ #44 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2012, 08:35:58 PM »

 ไหว้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 22, 2012, 09:48:59 PM โดย Pandanus » บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.084 วินาที กับ 21 คำสั่ง