เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 18, 2024, 08:48:12 AM
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว
: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ
www.gunsandgames.com
และ
www.gunsandgames.net
ครับ
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ค้นหา
ปฏิทิน
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
>
สนทนาภาษาปืน
>
หลังแนวยิง
(ผู้ดูแล:
ผองพัฒ
) >
การใช้สัญญาณไฟกระพริบฉุกเฉิน
หน้า:
1
2
[
3
]
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: การใช้สัญญาณไฟกระพริบฉุกเฉิน (อ่าน 4327 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 5 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
pasta
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 8119
ออฟไลน์
กระทู้: 6924
ล้นเกล้าเผ่าไทย
Re: การใช้สัญญาณไฟกระพริบฉุกเฉิน
«
ตอบ #30 เมื่อ:
ธันวาคม 30, 2012, 06:23:04 PM »
อ้างจาก: SillyOldMan ที่ ธันวาคม 28, 2012, 06:04:17 PM
ถ้าไม่ได้มีใครจะตายอยู่ในรถ ผมเรียก
"ไฟขอทาน"
ครับ จ้าดง่าว ปัญญาอ่อน
อ้างจาก: คนตัวอ้วน+ผมรักในหลวง ที่ ธันวาคม 28, 2012, 05:44:54 PM
ถ้าจับมีเถียงอีกแหน่ะ...ต้องกาง พ.ร.บ.จราจรให้ดู...ถึงกับเงียบ...
ช่วยกระซิบบอกพรรคพวกให้ขยันจับพวกที่ขับเปิดสปอตไลท์ให้หนักๆหน่อยได้ไหมครับพี่ ?
เบื่อมาก ..... ฝนไม่ตก หมอกไม่มี จะเปิดสปอตไลท์หาศพพ่องกันรึไงก็ไม่รู้
ขับเข้าด่านตำรวจกลับไม่สนใจจะจับจะเตือน พวกเลยเปิดกันเกร่อเลย
อันนี้ก็อีกเหมือนกันspot lightเสือกเขียนกันผิดเป็นสปอร์ตไลท์ พวกฟายๆมันเลยเปิดเป็นรถสปอร์ตกันซะทั่วเมือง
โดนใจผมมากครับพี่
บันทึกการเข้า
พาสตา
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B2
โชคดีเป็นของคนกล้า วาสนาเป็นของคนจริง จงชนะความร้าย ด้วยความดี
kit ๖๗๖๗ รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 122
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1484
Re: การใช้สัญญาณไฟกระพริบฉุกเฉิน
«
ตอบ #31 เมื่อ:
ธันวาคม 31, 2012, 09:53:00 PM »
http://www.facebook.com/notes/thailand-international-motor-expo/%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%89%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%89%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%99/10150997786515867
บันทึกการเข้า
มีเพียงสิ่งเดียวในชีวิตที่จะสามารถพิชิตได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากมายคือความล้มเหลว
Mr.MK
Full Member
คะแนน 29
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 154
เส้นทางของชีวิต ลิขิตได้ด้วยตนเอง
Re: การใช้สัญญาณไฟกระพริบฉุกเฉิน
«
ตอบ #32 เมื่อ:
มกราคม 02, 2013, 04:05:32 PM »
ช่วงหลังๆ เวลาไปทำใบขับขี่ หรือไปต่อใบขับขี่ ที่ขนส่งเขาจะต้องให้ดู VDO ก่อน ประมาณครึ่งชั่วโมง
เนื้อหาก็จะสอนเกี่ยวกับ กฎจราจร มารยาทการขับรถ และก็มีการกล่าวถึงการเปิดไฟฉุกเฉินด้วยครับ
ว่าใช้เปิดกรณีฉุกเฉินเท่านั้น ถ้าเปิดตอนผ่านสี่แยกจะกลายเป็นสัญญาณ ตาย ได้เลยครับ
บันทึกการเข้า
รู้จักอดทน รู้จักรอ รู้จักพอ รู้จักให้ รู้จักอภัย
2..U
Hero Member
คะแนน 2094
ออฟไลน์
กระทู้: 15978
Chumpai Club..
Re: การใช้สัญญาณไฟกระพริบฉุกเฉิน
«
ตอบ #33 เมื่อ:
มกราคม 04, 2013, 09:21:58 PM »
เครดิต..
http://www.vigothailand.com/board/index.php?topic=175763.0
มารยาทในการขับรถ
การใช้ถนนร่วมกัน นอกจากกฎหมายราชการแล้ว ยังควรมีมารยาทและความเอื้ออาทรต่อกัน
เพื่อให้มีทั้งความราบรื่นและความปลอดภัยในการเดินทาง ผู้ขับรถยนต์ไทยกับมารยาทในการใช้รถใช้ถนนร่วมกันยังมีไม่มากนัก
หากไม่หันมาสนใจและรณรงค์ร่วมกัน การรักษามารยาท ก็คงจะถดถอยลงเรื่อยๆ
มารยาทและวิธีปฏิบัติต่อไปนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่รวบรวมขึ้น ซึ่งอาจมีอีกหลากหลายแนวทาง ถ้าเห็นว่าสมควรก็นำไปปฏิบัติได้
1. ข้ า ม สี่ แ ย ก - ต ร ง ไ ป ไ ม่ ค ว ร เ ปิ ด ไ ฟ ฉุ ก เ ฉิ น
การข้ามสี่แยกแล้วต้องการตรงไป พร้อมกับเปิดไฟฉุกเฉินกะพริบสี่มุม เป็นวิธีที่ผิด ! อันตราย !
และแพร่หลายกันอยู่ไม่น้อยเหตุผลที่ไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉินในกรณีนี้ เพราะผู้ขับรถยนต์ที่มาด้านซ้าย-ขวา จะเห็นไฟกะพริบด้านหน้าเพียงมุมเดียว
เสมือนเป็นการเปิดไฟเลี้ยว โดยไม่ทราบเลยว่าเป็นการเปิดไฟฉุกเฉินกะพริบพร้อมกันสี่มุมซ้าย-ขวา ลองนึกภาพแล้ว
จะพบว่า ไฟเลี้ยวด้านหน้า แม้จะกะพริบพร้อมกันซ้าย-ขวา แต่ผู้ขับรถยนต์คันที่มาด้านข้างในแต่ละด้านจะเห็นไฟกะพริบเพียงมุมเดียว
โดยเฉพาะผู้ที่มาจากด้านซ้าย จะไม่ชะลอความเร็วลงหรือไม่ให้ทาง ด้วยคิดว่ารถยนต์คันที่เปิดไฟฉุกเฉินจะเลี้ยวซ้าย
เพราะไม่เกี่ยวกับเขาเลยนอกจากนั้นในมุมอื่น หากมีรถยนต์บางคันบังรถยนต์คันที่เปิดไฟฉุกเฉิน
ผู้ขับรถยนต์คันอื่นๆ อาจเข้าใจผิดว่าคิดเป็นการเปิดไฟเลี้ยวเฉพาะมุมที่เขาเห็น
ในกฎหมายจราจรไม่มีการระบุไว้ว่า ต้องเปิดไฟฉุกเฉินเมื่อต้องการข้ามสี่แยกแล้วตรงไป
วิธีปฏิบัติที่ถูกต้องและปลอดภัย คือ เบรกชะลอความเร็วลง มองซ้าย-ขวา
เมื่อเส้นทางว่างพอ ก็ตรงไปด้วยความเร็วที่เหมาะสม โดยไม่ต้องเปิดสัญญาณไฟใดๆ
ใช้สมาธิและเวลามองรถยนต์คันอื่น ปลอดภัยกว่าเสียสมาธิและเวลาเปิด-ปิดสวิตช์ไฟฉุกเฉิน
2. ฝ น ต ก ห นั ก ไ ม่ ค ว ร เ ปิ ด ไ ฟ ฉุ ก เ ฉิ น
นับเป็นความหวังดี แต่อาจให้ผลร้าย ที่เกรงว่าผู้ร่วมทางจะไม่สามารถมองเห็นรถยนต์
ของตนเมื่อฝนตกหนักในความเป็นจริง ไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉิน เพราะจะแยงสายตา
และหากมีรถยนต์บางคันบังรถยนต์คันที่เปิดไฟฉุกเฉิน ผู้ขับรถยนต์คันอื่นๆ
อาจเข้าใจผิดว่าเป็นการเปิดไฟเลี้ยวเฉพาะมุมที่เขาเห็น รวมถึงการเปลี่ยนเลนโดยไม่ปิดไฟฉุกเฉินก่อน
เพราะจะไม่มีไฟเลี้ยวให้ใช้บอกเตือนตามปกติ เมื่อฝนตกหนัก วิธีปฏิบัต
ิที่ถูกต้องและปลอดภัย คือ ชะลอความเร็วลง ชิดเลนซ้าย-กลาง และเปิดไฟหน้าแบบต่ำ
หรือถ้ามีไฟตัดหมอกหลังสีแดงเพิ่มอีก 2 ดวง ก็ควรเปิดด้วย แล้วขับด้วยความระมัด
ระวังไฟฉุกเฉินมีไว้ใช้เมื่อฉุกเฉินจริงๆ เช่น รถยนต์จอดเสีย เกิดอุบัติเหตุบนผิว
จราจร รถยนต์ถูกลาก (ถ้ามีโอกาส ทำป้ายหรือเขียนกระดาษแปะด้านท้ายว่า -
รถลาก- จะช่วยให้ปลอดภัยขึ้น) ในกรณีที่เปิดไฟฉุกเฉินในรถยนต์ถูกลาก ควรชิด
เลนซ้าย และถ้าต้องการเปลี่ยนเลน ควรปิดไฟฉุกเฉินแล้วเปิดไฟเลี้ยวล่วงหน้าพอสมควร
3. ส ป อ ต ไ ล ต์ / ไ ฟ ตั ด ห ม อ ก เ ปิ ด เ มื่ อ จำ เ ป็ น
มีทั้งติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานและติดตั้งเพิ่มเอง ตำแหน่งอยู่ตรงด้านล่างของกันชนหน้า 2 ดวง/1 คัน
รถยนต์บางรุ่นออกแบบให้ใช้เป็นไฟตัดหมอก ซึ่งก็ควรใช้เมื่อมีหมอกตามชื่อเรียกมีการใช้สปอตไลต์/ไฟตัดหมอกที่ผิดมารยาท
สร้างความรำคาญ และเริ่มแพร่หลายขึ้นเรื่อยๆ จนอาจลดความปลอดภัยแก่ผู้ร่วมทาง คือ เปิดใช้ในขณะที่เส้นทางไม่มืดมาก
ซึ่งไม่จำเป็น แสงสว่างที่แรงนั้นแยงสายตาทั้งผู้ขับรถยนต์คันที่สวนมา และคันนำหน้า ในเส้นทางปกติไม่ควรเปิดใช ้งานเพราะสว่างอยู่คนเดียว
แต่ทำให้คนอื่นตาพร่ามัว คล้ายหรือแย่กว่าการเปิดไฟสูงสาดไปทั่วนั่นเอง บางรายหนักข้อด้วยการเปิดเพียงไฟหรี่ แล้วเปิดสปอตไลต์เพิ่มความสว่าง
นับเป็นการรบกวนสายตาของเพื่อนร่วมทางอย่างมาก ก็ไม่ทราบว่าทำเพื่ออะไร !
สาเหตุที่หลายคนเปิดสปอตไลต์หรือไฟตัดหมอกด้านหน้า โดยไม่เกรงใจผู้ขับรถยนต์คันนำ หรือคันที่สวนทางมา
เพราะคิดไปเองแต่เพียงว่า ตำแหน่งของสปอตไลต์อยู่ต่ำ ไม่น่าแยงตาเหมือนการเปิดไฟสูง
ในความเป็นจริง ไฟส่องสว่างที่ติดตั้งอยู่ต่ำก็อาจแยงตาได้ ถ้ามีแสงแรงและมีการกระจายแสงมากๆสปอตไลต์ส่วนใหญ่มีแสงแรง
และมีการกระจายแสงมากจนแยงตาแบบประกายแฉก ถ้าอยากเปิดใช้จริงๆ ควรเปิดแล้วออกไปมองอย่างรอบคอบว่า
จะแยงตาผู้อื่นหรือไม่ (ส่วนใหญ่-แยงตา) หากไม่แน่ใจ ก็ไม่ควรเอาเปรียบผู้ขับร่วมทางด้วยการเปิดสปอตไลต์โดยไม่จำเป็น
ควรเปิดเมื่อมืดจริงๆ และแน่ใจว่าไม่รบกวนผู้อื่นสำหรับคำถามที่ว่า แล้วผู้ผลิตรถยนต์ติดตั้งสปอตไลต์มาเพื่ออะไร
แล้วจะได้ใช้เมื่อไรเพราะกลัวไม่คุ้มค่า ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายระบุในคู่มือประจำรถยนต์ว่า สปอตไลต์ควรเปิดเมื่อจำเป็นและไม่รบกวนคนอื่น
หรือควรเปิดเมื่อหมอกลง และไม่ควรเปิดใช้ต่อเนื่องนานๆ เพราะจะร้อนเกินไปจนจานฉายเสื่อมได้ง่าย การเปิดสปอตไลต์ต่อเนื่องจนร้อน
เมื่อต้องลุยน้ำกะทันหัน กระจกด้านหน้าของสปอตไลต์อาจแตกร้าวได้
การติดตั้งสปอตไลต์เพิ่มเติมเองผิดกฎหมาย ทั้งมีการเปิดใช้และไม่ได้เปิด จะไม่ผิดกฎหมายก็ต่อเมื่อมีฝาครอบปิด และไม่ได้เปิดใช้บนเส้นทางเรียบปกติ
4. ถ้ า มี ไ ฟ ตั ด ห ม อ ก ห ลั ง ค ว ร เ ปิ ด เ มื่ อ ห ม อ ก ล ง ห รื อ ฝ น ต ก ห นั ก เ ท่ า นั้ น
รถยนต์บางรุ่นมีสวิตช์พิเศษสำหรับไฟตัดหมอกด้านหลัง คือ ไฟท้ายสีแดงเพิ่มขึ้นอีกข้างละดวง และมีความสว่างมากกว่า ไฟท้ายปกติมาก
เพื่อใช้เตือนผู้ขับรถยนต์คันที่ตามมาเมื่อหมอกลง ฝนหรือหิมะตกหนัก หากเปิดใช้ไฟตัดหมอกหลังสีแดงแสนสว่างในยามทัศนวิสัยปกติแบบในไทย
แสงสว่างที่เพิ่มขึ้นมาจะแยงตาผู้ร่วมทางมาก จึงไม่ควรเปิดใช้ในการใช้รถใช้ถนนปกติ และไม่ควรหลงลืมเปิดโดยไม่จำเป็น
5. ก ะ พ ริ บ ไ ฟ สู ง ข อ ท า ง ห รื อ เ ตื อ น
บ้างเรียกศัพท์สแลงกันว่า ดิฟไฟสูง คนไทยมักใช้เพื่อเตือนไม่ให้รถยนต์ทางโทตัดเข้ามาหาทางเอกหรือทางตรงทั้งที่ในบางประเทศใช้การกะพริบไฟสูงเมื่อต้องการให้ทาง
เพราะแสดงว่าเห็นแล้วและให้ทางไปได้ ในขณะที่คนไทยใช้เพื่อบอกว่า เห็นแล้วว่ากำลังจะตัดทางเข้ามา แต่ไม่ให้เข้ามา
กรณีนี้กฏหมายไทยไม่มีกำหนดว่าให้ใช้การกะพริบไฟสูงเพื่อจุดประสงค์ใด อาจเพราะไม่สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นสากลได้
จึงยังคงใช้กันในสไตล์คนไทยได้ แต่ก็มีผู้ที่ใช้เพื่อต้องการให้ทาง ซึ่งน่าจะเหมาะสมกว่า
เพราะต้องเห็นก่อนจึงจะสามารถกะพริบไฟบอกได้คงต้องปล่อยวางและใช้กันไปตามกระแส
6. จ อ ด ใ น พื้ น ที่ ห้ า ม จ อ ด แ ล้ ว เ ปิ ด ไ ฟ ฉุ ก เ ฉิ น
นับเป็นการเอาเปรียบสังคมอย่างหนึ่ง แม้จะเป็นการจอดชั่วคราวก็ตาม เพราะการเปิดไฟฉุกเฉิน แม้จะแสดงว่าจอด
แต่ถ้าไม่ใช่เวลาและพื้นที่ซึ่งควรจอดก็ไม่ควรปฏิบัติ อีกทั้งยังผิดกฏจราจรอีกด้วย การเปิดไฟฉุกเฉินจอดในพื้นที่ห้ามจอด ไม่สามารถป้องกันการออกใบสั่งได้
7. เ ป ลี่ ย น เ ล น - แ ซ ง - ขึ้ น ท า ง ต ร ง แ ล้ ว ค ว ร เ ร่ ง ค ว า ม เ ร็ ว เ พิ่ ม
การขึ้นทางตรงจากซอยหรือทางโท รวมถึงการเปลี่ยนเลน ควรกระทำเมื่อเส้นทางว่างพอ เมื่อเข้าเลนที่ต้องการได้แล้ว
บางคนไม่สนใจมารยาทต่อผู้ขับรถยนต์คันที่ตามมา เพราะคิดแต่เพียงว่า ถ้าถูกชนด้านท้ายแล้วจะไม่ผิด
เนื่องจากเข้าสู่เส้นทางได้เต็มคันแล้วในทางมารยาท เมื่อเข้าสู่เส้นทางได้เต็มคันแล้ว ควรเร่งความเร็วเพิ่มไล่รถยนต์คันหน้าในระยะที่เหมาะสมให้เร็วที่สุด
โดยไม่ต้องสนใจว่ารถยนต์คันหลังห่างแค่ไหน เพื่อมารยาท ผู้ขับรถยนต์คันหลังจะได้ไม่ต้องเบรกจนตัวโก่ง และไม่เสี่ยงต่อการเสียโฉมของบั้นท้ายรถยนต์ของตน
8. ก า ร เ บ ร ก ต้ อ ง ส น ใ จ ร ถ ย น ต์ ที่ ต า ม ม า ด้ ว ย
ไม่ใช่เฉพาะเป็นการรักษามารยาท แต่เป็นการเพิ่มความปลอดภัยของตนเองด้วยการเบรก ดูเหมือนผู้ขับส่วนใหญ่จะมองแต่เพียงเป็นการลดความเร็วเมื่อมีสิ่งกีดขวางด้านหน้า
โดยไม่ค่อยสนใจมารยาทและความปลอดภัยของผู้ขับรถยนต์คันที่ตามมาถ้ามีโอกาสและเวลาพอ ก่อนการเบรกควรเหลือบ มองกระจกมองหลัง
เพื่อจะได้ตัดสินใจกดแป้นเบรกด้วยน้ำหนักและจังหวะที่เหมาะสมเพื่อมารยาท ผู้ขับรถยนต์คันหลัง ไม่ต้องเบรกจนตัวโก่ง และไม่เสี่ยงต่อการเสียโฉมของบั้นท้ายรถยนต์ของตน
นอกจากนั้น การแตะเบรกโดยไม่จำเป็นก็ถือว่าเสียมารยาทบ้างเล็กน้อย เพราะไฟเบรกจะสว่าง ทำให้ผู้ขับรถยนต์คันตามมาชะงัก
แต่ก็อย่ากังวลมากจนแตะเบรกช้าเพราะอาจเป็นอันตราย การเบรกมิใช่ต้องสนใจแต่เพียงด้านหน้าเท่านั้น ด้านหลังก็ต้องสนใจทั้งความปลอดภัยและมารยาท
9. ก้ ม ศี ร ษ ะ ข อ บ คุ ณ ลื ม ไ ป แ ล้ ว ห รื อ ?
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ผู้ขับมีการก้มหัวขอบคุณเมื่อได้รับการให้ทาง แต่ในระยะหลังมานี้เริ่มมีการหลงลืมไปบ้างโดยอาจเป็นเพราะการรักษาศักดิ์ศรีแบบแปลกๆ
เช่น ผู้ขับรถยนต์หรูราคาแพง มักไม่ยอมขอบคุณผู้ขับรถยนต์ราคาถูกที่ให้ทาง หรือผู้ชายมักไม่ยอมขอบคุณผู้หญิง ฯลฯ
น่าชื่นชมมาก เมื่อมีผู้ขอบคุณ ให้เมื่อได้รับการให้ทาง หากกลัวจะเสียศักดิ์ศรีแบบแปลกๆ ไม่อยากก้มศีรษะให้
ก็สามารถใช้วิธียกแขน พร้อมแบฝ่ามือครบทั้ง 5 นิ้ว (เน้นครบ 5 นิ้ว เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด)
ซึ่งยังดีกว่าการเพิกเฉย การขอบคุณในสิ่งที่สมควร ไม่ใช่เรื่องเสียศักดิ์ศรีแต่อย่างใด
10. ไ ฟ เ ห ลื อ ง ค ว ร เ ร่ ง ห นี ห รื อ เ บ ร ก ?
ตามหลักการที่ถูกต้องอันเป็นสากล แต่ไม่ค่อยมีการปฏิบัติ คือ ต้องเบรกและจอดเมื่อเห็นไฟเหลืองก่อนไฟแดงผู้ขับรถยนต์ไทยส่วนใหญ่
ส่วนใหญ่เมื่อเห็นไฟเหลือง คือ ไฟเตือนให้เร่งหนีการติดไฟแดง ซึ่งไม่ถูกต้องนัก เพราะการที่ไฟเหลืองสว่างขึ้นก่อนจังหวะไฟแดง
ตามหลักการจริงเป็นการเตือนเพื่อให้ผู้ขับชะลอความเร็วและจอด ในเมื่อวิถีการขับรถยนต์ของคนไทยส่วนใหญ่
เมื่อเห็นไฟเหลือง คือ ไฟเตือนให้เร่งหนีการติดไฟแดง ก็คงหลีกหนีไม่พ้น และยากที่จะให้ชะลอความเร็วลงและเบรกเมื่อเห็นไฟเหลืองสว่างขึ้นก่อนจังหวะไฟแดง
ถ้าอยากจอดเมื่อเห็นไฟเหลืองแล้วเบรกเพื่อจอด ก็นับเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องระวังเรื่องความปลอดภัยจากการถูกชนท้าย เพราะคนไทยส่วนใหญ่
เมื่อเห็นไฟเหลืองจะเข้าใจกันว่าเป็นการเตือนให้เร่งหนีการติดไฟแดงหากต้องการฝืนสังคม (ทั้งที่ไม่ผิด) ควรเหลือบมองกระจกมองหลัง
เพื่อจะได้ตัดสินใจกดแป้นเบรกด้วยน้ำหนักและจังหวะที่เหมาะสม เพื่อมารยาท ผู้ขับรถยนต์คันหลังไม่ต้องเบรกจนตัวโก่ง
11. ไ ฟ เ ลี้ ย ว ต้ อ ง เ ปิ ด - ปิ ด อ ย่ า ง เ ห ม า ะ ส ม
นับเป็นเรื่องพื้นฐานที่ถูกมองข้าม การเปิดไฟเลี้ยวเป็นเรื่องจำเป็น เพราะกฎหมายกำหนดให้มีการเตือนผู้ร่วมทางล่วงหน้าตามระยะที่เหมาะสมควรเปิดไฟเลี้ยวเมื่อเตรียมเปลี่ยนเลน
หรือเลี้ยวล่วงหน้าพอสมควร และไม่ควรเปิดค้างลืมทิ้งไว้
12. ชิ ด ซ้ า ย เ ส ม อ
บนถนนหลายเลนมักมีการเตือนว่า -ขับช้า ชิดซ้าย- ซึ่งไม่ค่อยตรงกับหลักการขับปลอดภัยและมารยาทในการใช้ถนนนัก
เพราะจะมีรถยนต์แล่นอยู่เลนขวาตลอด โดยคิดว่าความเร็วที่ใช้ในขณะนั้นถือว่าเร็วแล้ว ซึ่งอาจเป็นเพราะกฎหมายไทยกำหนดให้ใช้ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 80-90 กิโลเมตร/ชั่วโมง
เมื่อใช้ความเร็วเกินขึ้นไปแล้ว ก็มักคิดไปเองว่าเร็วพออยู่แล้ว จึงสามารถแล่นชิดขวาได้ วิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง รักษามารยาท
และปลอดภัยในการใช้เลนขวา คือ -แซงแล้วชิดซ้าย- ไม่ว่าจะใช้ความเร็วสูงเท่าไรก็ตาม เร็วแล้วแต่ยังมีเร็วกว่าได้ ถึงจะผิดกฎหมายในการใช้ความเร็วสูง
ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ... มารยาทในการขับรถยนต์ เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ทั้งเพื่อตัวเองและผู้ร่วมทาง
บันทึกการเข้า
The best way to predict the future is to invent it.
พรานบุญ หลงกรุง
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 2884
ออฟไลน์
กระทู้: 7243
Re: การใช้สัญญาณไฟกระพริบฉุกเฉิน
«
ตอบ #34 เมื่อ:
มกราคม 07, 2013, 09:55:17 AM »
Defensive Driving
"การขับรถเชิงป้องกันอุบัติเหตุ"
ทั้งมือเก่า และ มือใหม่หัดขับ น่าจะหันมาดูทางนี้สักหน่อย.....
กฎหมาย พรบ.จราจร ฉบับใดก็ตามจะไร้ผล ถ้าไม่ปรับเปลี่ยนทัศนคติ แนวความคิดของผู้ขับขี่ ......
บันทึกการเข้า
พรานบุญ หลงกรุง
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 2884
ออฟไลน์
กระทู้: 7243
Re: การใช้สัญญาณไฟกระพริบฉุกเฉิน
«
ตอบ #35 เมื่อ:
มกราคม 07, 2013, 10:00:42 AM »
พิจารณาสามเหลี่ยม (เจดีย์) แห่งอุบัติเหตุ ....
บันทึกการเข้า
kit ๖๗๖๗ รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 122
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1484
Re: การใช้สัญญาณไฟกระพริบฉุกเฉิน
«
ตอบ #36 เมื่อ:
มกราคม 07, 2013, 10:21:00 AM »
อ้างจาก: พรานบุญ คนเดิม ที่ มกราคม 07, 2013, 10:00:42 AM
พิจารณาสามเหลี่ยม (เจดีย์) แห่งอุบัติเหตุ ....
ขอบคุณครับ
หากต้องการลดอุบัติเหตุที่รุนแรง
(ตาย)
ต้อง
ลดขนาดฐานของเจดีย์
คือการกระทำที่ไม่ปลอดภัย
บันทึกการเข้า
มีเพียงสิ่งเดียวในชีวิตที่จะสามารถพิชิตได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากมายคือความล้มเหลว
korpat
คนน่ารัก มักใจร้าย
Hero Member
คะแนน 119
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2457
Re: การใช้สัญญาณไฟกระพริบฉุกเฉิน
«
ตอบ #37 เมื่อ:
มกราคม 07, 2013, 07:31:05 PM »
อ้างจาก: พรานบุญ คนเดิม ที่ ธันวาคม 29, 2012, 02:36:57 PM
สัญญาณที่ใช้ยากที่สุดคือ
สัญญาณแตร
มักจะถูกแปรความหมายไปในทางผิดๆจนถึงขั้นหยุดรถมาวิวาทกันอยู่บ่อบครั้ง
เคยวิ่งมาจากหัวหินเข้าชะอำ เห็นรถมอเตอร์ไซค์ออกมาจากข้างทางวิ่งแบบส่ายไปมา ผมเลยปีบแตรนิดนึงเพื่อให้เค้ารู้ว่ามีรถมาจากด้านหลัง พอผมแซงได้ก็มาติดสัญญาณไฟ รถมอเตอร์ไซค์ก็มาทันผมพร้อมกับถีบรถผม แต่ไม่โดนนะครับผมมองกระจกข้างอยู่ เค้าก็มาจอดด้านหน้าชี้ว่าผม แล้วก็ขี่รถวนกลับมาถีบอีก แต่ก็ไม่โดน เค้าเซไปโดนรถข้าง ๆ แล้วก็บิดหนีไป ผมกับแฟนก็งง ๆ ใจก็โมโห อีกใจก็ไม่อยากมีเรื่องครับ
บันทึกการเข้า
ผ่านมากี่ฝนยังทนไม่ได้ ไม่รู้ทำไมใจต้องหวั่นไหว
แค่เพียงความเหงาที่เข้ามากับฝน แต่ว่ามันซึมไปถึงหัวใจ
หน้า:
1
2
[
3
]
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
ศูนย์ข้อมูล อวป.
-----------------------------
=> ประกาศ
=> แจ้งข้อผิดพลาดของระบบเว็บ
-----------------------------
สนทนาภาษาปืน
-----------------------------
=> สนทนาภาษาปืน
===> THE DOUBLE GUN & RIFLE CONNOISSEUR
===> PHOENIX IPSC CLUB
===> Airguns Corner
===> IPSC THAILAND
===> IDPA THAILAND
=> หลังแนวยิง
===> ***รวมพลคนอีสานเด้อ**
===> ซึมเศร้าทีม
===> รวมพลคนภาคเหนือ
===> ห้องภาพ อวป.
=> กิจกรรมและการแข่งขัน
=> ทดสอบปืน
กำลังโหลด...