ศูนย์กล้องในปัจจุบัน ทำออกมามากมาย มีราคาไม่ถึง หนึ่งพันบาท ของจีนแดง ไม่ถึง หนึ่งหมื่นบาท ของญี่ปุ่น และ ไม่ถึง แสนบาท หรือ กว่า แสน [ Swarovski LRS 3-12x50 สามารถบอกระยะห่างของเป้าได้ไกลถึง 600 เมตร ]ของ ออสเตรีย และ เยอรมัน
ราคาจะถูกหรือแพง ก็อยู่ที่โลหะที่ใช้ทำกระบอกเลนส์ และที่แพงขึ้นไปอีกก็คือ เนื้อแก้วที่ใช้ทำเลนส์ กล้องเล็งถูกๆก็ใช้ กระจกคุณภาพต่ำมาทำเลนส์ แพงขึ้นไปอีกหน่อยก็จะใช้กระจกที่มีความละเอียดกับความแข็งไม่มากมาทำเป็นเลนส์ การเคลือบป้องกันก็ไม่ดีเท่าที่ควร ตัวเลนส์มักจะทำทีละมากๆแล้วนำมาประกอบ จากนั้นจึงปรับแต่งจุดรวมแสงให้เข้าที่เข้าทางในขณะที่ประกอบ ถ้าของแพงมากๆก็ใช้เนื้อแก้วหลอมหล่อมาอย่างดี แล้วนำมาเจียรนัย ขัดแต่งด้วยเทคนิคขั้นสูง เพื่อให้จุดรวมแสงของเลนส์ทุกตัวตรงกันหมด แล้วเคลือบอย่างดี เนื้อเลนส์จะละเอียดและแข็งมาก ภาพที่ได้จะคมชัด สว่าง ทั่วทุกพื้นที่ ภาพที่เห็นจะคงรูปร่างเหมือนจริง ทุกส่วน รวมถึงสีของภาพด้วย เมื่อต้องการปรับกำลังขยาย ก็จะไม่ทำให้จุดเล็งในกล้องเปลี่ยนแปลงไปจากที่ตั้งไว้ การคลาดเคลื่อนเมื่อใช้กับปืนไรเฟิลแรงสูงจะไม่เกิดขึ้น นอกจากนั้นการปรับให้ความชัดให้เข้ากับสายตาผู้ยิงก็ปรับที่เลนส์ภายในตัวกล้อง แต่ กล้องราคาถูกนั้น การปรับให้เข้ากับสายตา มักจะปรับที่กระบอกตัวกล้อง โดยการหมุนกระบอกเลนส์ที่เป็นเกลียวให้เข้าหรือออก แล้วมีวงแหวนขันอัดให้แน่นอีกที่ จุดนี้จะเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ความชื้นเข้าไปสู่ภายในกล้องทำให้เกิดฝ้าได้ง่าย
นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ถ้าท่านใดมีข้อมูลก็ขอความกรุณา ช่วยอธิบายด้วยครับ
ตัวกล้อง จะแบ่ง เป็น แบบกระบอกกลม ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 นิ้วหรือ 30มม ถ้าเล็กกว่านี้มักจะใช้กับปืนลม หรือ .22 รุ่นเก่า อีก อย่างก็ไม่เป็นที่นิยมในเมืองไทย คือ ใต้กระบอกเลนส์ จะมีรางรูปสามเหลี่ยมเพื่อใช้กับขาแบบพิเศษ เป็นแบบที่เมื่อติดตั้งแล้วโอกาศจะเคลื่อนไม่มีเลยเพราะต้องเจาะรู ร้อย สกรู เท่านั้น นี่แบ่งจุดใหญ่ๆ ส่วนปลีกย่อยนั้นมีดังนี้
1. กล้องที่ไม่มีปุ่มปรับซ้าย ขวา สูงต่ำ จะมีก็แต่ แหวน ปรับ กำลังขยาย และ ความชัดให้เข้ากับสายตา เท่านั้น เมื่อต้องการปรับ เพื่อให้เข้ากับจุดตกของกระสุน ก็ต้องปรับที่ฐานกล้อง ที่ทำมาสำหรับกล้องประเภทนี้เท่านั้น ปัจจุบันพบเห็นน้อยมาก
2. กล้องที่มีปุ่มปรับ สูงต่ำอย่างเดียว ส่วนซ้ายขวา จะปรับที่ฐาน กล้องประเภทนี้มักจะพบมากในกล้องที่เป็นแบบราง
3. และก็ แบบธรรมดาที่เราๆท่านๆมีใช้กันอยู่
4. เป็นรุ่นใหม่ที่มีปุ่มสวิชเปิดปิดไฟ ในจุดเล็ง เมื่อ มีแสงโพ้ลเพ้ล หรือ ในพุ่มไม้ที่แสงน้อย
5. เป็นรุ่นที่มีเส้นวัดระยะที่คำนวนจากความสูงของเป้าหมาย แล้วมาปรับแต่งจุดที่กำหนดให้กระสุนตกตามต้องการ
6. เป็นรุ่น ที่สามารถบอกระยะห่างของเป้า ด้วยตัวเลข ที่วัดระยะด้วย เลเซอร์
7. เป็นรุ่นที่ใช้ในที่มืด
เหล่านี้เป็นต้น ที่เล่ามานี้เพราะคำถามของท่านลูกซองสั้น ถามมา ยังกับไม่เคยใช้ของแพง
ยังไม่เห็นเล่าเรือง ฐานและแหวน ติดตั้งกล้องเลย มัวแต่อธิบายคำถาม ท่านลูกซองสั้น