เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 01, 2024, 01:39:17 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7 ... 366
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: THE DOUBLE GUN & RIFLE CONNOISSEUR  (อ่าน 1175803 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 399 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
o/uboy
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #45 เมื่อ: มิถุนายน 04, 2006, 10:18:27 AM »

แฝดขนาน กับแฝดซ้อน มีข้อดีข้อด้อยอย่างไรครับ ผมว่าลูกซอง เป็นปืนที่ใช้ศิลปะ การยิงปืนขั้นสูงเลยหล่ะ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกปืน เลือกโช๊ค หรือเลือกกระสุน นี่คือ ความงดงามของปืนลูกซองครับ .... แต่ผมไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้เลย คงต้องเข้ามาแอบอ่านบ่อย ๆ Grin Grin Grin
เท่าที่ผมทราบนะครับ(ตอบแบบมั่วๆหน่อย)แฝดซ้อนมีการวางลำกล้องในแนวเดียวกันเวลาเรายิงปืนจะถีบไม่ไปซ้ายหรือขวาครับและการที่ลำกล้องซ้อนกันอยู่ก็ช่วยให้แรงถีบน้อยลงบ้าง เวลาเลงเป้าก็จะแม่นยำกว่าปืนแฝดขนานฉนั้นปืนแบบนี้นักกีฬาถึงได้นิยมใช้ไงครับ
 แฝดขนานโดยทั่วไปแล้วจะทำออกมาเป็นปืนล่าสัตว์เพราะว่าเวลาเราหักคอปืนแล้วเอาพาดที่แขนหรือที่ไหล่จะทำได้สะดวกกว่า ข้อเสียคือปืนจะถีบซ้ายทีขวาทีขาดความแน่นอนสู้แฝดซ้อนไม่ได้ครับ
 เอาเป็นว่าให้พี่ๆเค้าตอบอีกทีดีกว่านะครับคงจะได้คำตอบที่ชัดเจนกว่านี้มากผมเองก็มือใหม่ครับ.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 04, 2006, 10:22:38 AM โดย o/uboy » บันทึกการเข้า
FABBRI
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #46 เมื่อ: มิถุนายน 04, 2006, 10:22:05 AM »

ขอถามคุณลูกซองสั้นว่า...
ที่สั่งปืนรุ่นที่พานท้านปรับได้ก็เพราะรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ใหม่กว่า และราคาก็ต่างกันไม่มาก
พอได้มาอ่านจากกระทู้นี้แล้วก็กังวลอยู่เหมือนกัน ก็เลยโทรไปสั่งพานท้ายธรรมดาเพิ่มอีก 1 อัน
ก็เลยอยากถามว่าจะมีวิธีการที่เราจะวัดและตัดพานท้ายอย่างไรจึงจะเหมาะสมกับผู้ยิง
ไปที่สนามยิงเป้าบิน แล้วบอกโค๊ชต่างชาติให้ช่วยดูว่าควรจะตัดเท่าไร โดยการประทับปืนให้เขาดู แล้วเอาไปให้ช่างพยน์ตัด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 07, 2009, 08:45:13 PM โดย FABBRI » บันทึกการเข้า
FABBRI
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #47 เมื่อ: มิถุนายน 04, 2006, 12:33:50 PM »

เรียนท่าน ou boy ถ้าคิดจะยิงเป้าบินเพื่อให้ได้ติด ทีมชาติ ซีเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ มีปืนให้เลือก แค่ 3-4 กระบอกเท่านั้น

ถ้านอกเหนือจากนี้แล้วใช้ แค่ยิงเล่นถึงแม้ จะยิงเก่งแค่ไหนก็ไปไม่ถึงดวงดาว

1. Perazzi MX 8 เท่านั้น ( MX 10 ก็คือ MX8แล้ว ทำให้ปรับ พานท้ายกับ Rib ได้ ปรับไปปรับมา ประสาทกินอีก)

2. Beretta  ASE gold  หรือ DT 10  หรือ 682Gold .

3. Browning บางรุ่น แต่ก็ล้าสมัยไปแล้ว

4. Beretta so5 แพงเกิน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 08, 2009, 09:01:38 AM โดย FABBRI » บันทึกการเข้า
ลูกซองสั้น
Shotgun lover
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 112
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1047


side by side


« ตอบ #48 เมื่อ: มิถุนายน 04, 2006, 02:42:05 PM »

ขอถามคุณลูกซองสั้นว่า...
ที่สั่งปืนรุ่นที่พานท้านปรับได้ก็เพราะรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ใหม่กว่า และราคาก็ต่างกันไม่มาก
พอได้มาอ่านจากกระทู้นี้แล้วก็กังวลอยู่เหมือนกัน ก็เลยโทรไปสั่งพานท้ายธรรมดาเพิ่มอีก 1 อัน
ก็เลยอยากถามว่าจะมีวิธีการที่เราจะวัดและตัดพานท้ายอย่างไรจึงจะเหมาะสมกับผู้ยิง

พูดกันตรงๆแล้ว พานท้ายปรับได้ทำให้ความงามและความคลาสิคของปืนลูกซองลดลงไปมากครับ คุณ teay เคยลองปืน Remington 1100  11/87  บ้างไหมครับ พานท้ายที่ติดมากับปืน Remington ทั้งสองรุ่นนี้แหละ มีมิติความสูงและความยาวเหมาะกับเป็นปืนสกีตที่สุดครับ ถ้าหากระบอกที่ลำกล้องยาว 26 นิ้วได้ แล้วใส่โช้ค improve cylinder จะเป็นปืนที่เหมาะกับเกมส์สกีตและสปอร์ตติ้งเคลย์ด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 25, 2009, 03:23:08 PM โดย FABBRI » บันทึกการเข้า
ลูกซองสั้น
Shotgun lover
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 112
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1047


side by side


« ตอบ #49 เมื่อ: มิถุนายน 04, 2006, 02:55:19 PM »

เรียนท่าน ou boy ถ้าคิดจะยิงเป้าบินเพื่อให้ได้ติด ทีมชาติ ซีเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ มีปืนให้เลือก แต่ 3-4 กระบอกเท่านั้น ถ้านอกเหนือจากนี้แล้วใช่แค่ยิงเล่นถึงแม้ จะยิงเก่งแค่ไหนก็ไปไม่ถึงดวงดาว
1. Perazzi MX 8 เท่านั้น ( MX 10 ก็คือ MX8แล้ว ทำให้ปรับ พานท้ายกับ Rib ได้ ปรับไปปรับมา ประสาทกินอีก)
2. Beretta ASE gold หรือ DT 10 หรือ 682Gold .
3. Browning บางรุ่น แต่ก็ล้าสมัยไปแล้ว
4. Beretta so5 แพงเกิน


ผมว่าตัดข้อ 3  กับข้อ  4  ออกไปเถอะครับ หาอะไหล่ยากแล้ว
บันทึกการเข้า
FABBRI
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #50 เมื่อ: มิถุนายน 04, 2006, 06:49:06 PM »

เรียนท่าน ou boy ถ้าคิดจะยิงเป้าบินเพื่อให้ได้ติด ทีมชาติ ซีเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ มีปืนให้เลือก แต่ 3-4 กระบอกเท่านั้น ถ้านอกเหนือจากนี้แล้วใช่แค่ยิงเล่นถึงแม้ จะยิงเก่งแค่ไหนก็ไปไม่ถึงดวงดาว
1. Perazzi MX 8 เท่านั้น ( MX 10 ก็คือ MX8แล้ว ทำให้ปรับ พานท้ายกับ Rib ได้ ปรับไปปรับมา ประสาทกินอีก)
2. Beretta ASE gold หรือ DT 10 หรือ 682Gold .
3. Browning บางรุ่น แต่ก็ล้าสมัยไปแล้ว
4. Beretta so5 แพงเกิน



ผมว่าตัดข้อ 3 กับข้อ 4 ออกไปเถอะครับ หาอะไหล่ยากแล้ว
อะไหล่หาไม่ยากเพียงแต่ซ่อมในขณะแข่งยากสำหรับ Browning
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 07, 2009, 08:48:17 PM โดย FABBRI » บันทึกการเข้า
GLOCK 36
Full Member
***

คะแนน 2
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 180


« ตอบ #51 เมื่อ: มิถุนายน 04, 2006, 07:03:07 PM »

ข้อ 2 ถ้าให้ไล่ราคามีราคาอะไรบ้างครับ
บันทึกการเข้า
o/uboy
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #52 เมื่อ: มิถุนายน 04, 2006, 08:35:05 PM »

เรียนท่าน ou boy ถ้าคิดจะยิงเป้าบินเพื่อให้ได้ติด ทีมชาติ ซีเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ มีปืนให้เลือก แต่ 3-4 กระบอกเท่านั้น ถ้านอกเหนือจากนี้แล้วใช่แค่ยิงเล่นถึงแม้ จะยิงเก่งแค่ไหนก็ไปไม่ถึงดวงดาว
1. Perazzi MX 8 เท่านั้น ( MX 10 ก็คือ MX8แล้ว ทำให้ปรับ พานท้ายกับ Rib ได้ ปรับไปปรับมา ประสาทกินอีก)
2. Beretta ASE gold หรือ DT 10 หรือ 682Gold .
3. Browning บางรุ่น แต่ก็ล้าสมัยไปแล้ว
4. Beretta so5 แพงเกิน

ขอบคุณครับพี่ที่แนะนำปืนที่ผมอยากได้ตอนนี้ก็มีตามนี้อยู่แล้วครับ SO5  DT10-EELL  MX8-SCO แต่ผมคงไม่เอาดีทางด้านเป้าบินหรอกครับเพียงแค่อยากหัดไว้บ้างเท่านั้นครับ แต่ลองแล้วอาจจะติดก็ได้ผมเองก็ยังไม่ทราบเหมือนกันครับ ผมชอบไปยิงเป้าบินตามธรรมชาติมากกว่าครับ.
บันทึกการเข้า
o/uboy
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #53 เมื่อ: มิถุนายน 04, 2006, 08:46:36 PM »

พี่ครับมีข้อนึงที่ผมสงสัยมานานแล้วคือว่าทำไมนักกีฬาส่วนมากถึงนิยมใช้PERAZZIมากกว่า BERETTAครับ คือผมอยากทราบถึงข้อดีข้อเสียของสองตัวนี้น่ะครับ
บันทึกการเข้า
ลูกซองสั้น
Shotgun lover
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 112
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1047


side by side


« ตอบ #54 เมื่อ: มิถุนายน 04, 2006, 08:50:14 PM »

Beretta ตระกูล 682 เป็นปืนรุ่นราคาย่อมเยาที่สุดแล้วครับ มีมาตั้งแต่ 682  682 Gold และเดี๋ยวนี้เปลี่ยนเป็น Gold E ทางโรงงานคงจะลดต้นทุนการผลิตลงบ้าง เพราะฝีมือการผลิตรุ่น Gold E หยาบลงเล็กน้อย

รุ่นที่ราคาสูงขึ้นมาจะเป็น DT 10 เป็นรุ่นที่สามารถถอดชุดลั่นไกออกมาได้ทางด้านล่าง ราคาสูงกว่า 682 Gold E ร่วมเท่าตัว

และรุ่นสูงสุด SO5 ใช้ชุดลั่นไกแบบ  side lock สุดจะแพงครับ ทุกวันนี้ไม่มีใครใช้ยิงแข่งแล้วครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 25, 2009, 03:23:42 PM โดย FABBRI » บันทึกการเข้า
FABBRI
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #55 เมื่อ: มิถุนายน 04, 2006, 09:07:55 PM »

Beretta ตระกูล 682 เป็นปืนรุ่นราคาย่อมเยาที่สุดแล้วครับ มีมาตั้งแต่ 682 682 Gold และเดี๋ยวนี้เปลี่ยนเป็น Gold E ทางโรงงานคงจะลดต้นทุนการผลิตลงบ้าง เพราะฝีมือการผลิตรุ่น Gold E หยาบลงเล็กน้อย

รุ่นที่ราคาสูงขึ้นมาจะเป็น DT 10 เป็นรุ่นที่สามารถถอดชุดลั่นไกออกมาได้ทางด้านล่าง ราคาสูงกว่า 682 Gold E ร่วมเท่าตัว

และรุ่นสูงสุด SO5 ใช้ชุดลั่นไกแบบ side lock สุดจะแพงครับ ทุกวันนี้ไม่มีใครใช้ยิงแข่งแล้วครับ



ยังไม่ได้บอกเรื่อง Ase gold เลย

ouboy นักกีฬาใช้ Perazzi มากกว่าเพราะ สั่งได้ตามใจชอบ
ส่วน Beretta สังตามใจของฉันไม่ง้อลูกค้า เพราะขายปืนรุ่นอื่นมากกว่า

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 08, 2009, 09:03:31 AM โดย FABBRI » บันทึกการเข้า
ลูกซองสั้น
Shotgun lover
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 112
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1047


side by side


« ตอบ #56 เมื่อ: มิถุนายน 04, 2006, 11:12:31 PM »

Beretta รุ่นถอด ชุดลั่นไกได้ รุ่นแรกออกมาใช้ชื่อรุ่นว่า ASE90 ออกมาเพื่อตอบโจทย์ของ Perazzi MX8 ปืนแข่งขันที่สามารถถอดชุดลั่นไกออกมาซ่อมกลไกภายในได้โดยสะดวก แต่จงใจทำให้เหนือกว่า Perazzi โดย Beretta ASE 90 ใช้เหล็ก Boehler antinit steel ทำลำกล้อง ซึ่งเหล็กเบอร์นี้ ใช้ทำลำกล้องปืนเกรดสูงตระกูล SO  side lock ครับ  ASE 90 รุ่นแรกที่ออกมา มีการแกะลายรูป ห่วงห้าห่วงสัญญลักษณ์กีฬาโอลิมปิค แกะบน Receiver สีเงินขาวนวล สวยที่สุด  ออกขายได้ไม่ทันกี่กระบอกเลย โดนคณะกรรมการโอลิมปิคสากลฟ้องซะเดี้ยงเลย หยุดผลิตแทบไม่ทัน Beretta เลยเปลี่ยนลายด้านข้างเป็นช่อมะกอกล้อมรอบตรา PB เครื่องหมายการค้าของตัวเอง ASE 90 ออกขายได้ไม่นานก็เจอนักยิงปืนบ่นเรื่องปืนลั่นเวลาเสียบชุดลั่นไกกลับเข้าที่ ซึ่งผู้ออกแบบออกมาด่านักยิงปืนว่าทำอะไรโง่ๆ ปืนบรรจุกระสุนอยู่ ใครเขาจะมาถอดใส่ชุดลั่นไกเล่นกัน ทำไมไม่ถอดกระสุนออกก่อน แฮะๆ  ASE90 ถูกถอดออกจากสายการผลิตอีก งวดนี้ยาวเลยครับ สองสามปีต่อมา Beretta รุ่นถอดชุดลั่นไกได้ ก็ออกรุ่นใหม่ เป็นชื่อ ASE Gold รุ่นนี้ ทำ receiver เป็นสีทองแดง โรงงานเรียกว่า grey stone ด้านข้างเป็นรูป ถ้วยทอง รุ่น Gold มีวิธีการถอดชุดลั่นไกที่ยุ่งยากกว่าครับ คือเดิมแค่ผลักปุ่มเซฟไปข้างหน้าชุดลั่นไกก็จะถอดออกได้ (เหมือน Perazzi MX8) กลายเป็น ผลักปุ่มเซฟไปข้างหน้าค้างไว้แล้วผลักหางเหยี่ยวเปิดปืน ขลุกขลักจนถูกแฟนปืน Perazzi ล้อเลียน  ตลอดเวลา ASE ทุกรุ่นใช้ Boehler antinit steel ทำลำกล้อง ทำให้ปืนมีราคาสูง ขายยาก Beretta เลยจำใจต้องกลับมาใช้เหล็กลำกล้องธรรมดาเหมือนปืนตระกูล 682 เพื่อให้มีต้นทุนการผลิตลดลง และเรียกชื่อปืนถอดชุดลั่นไกได้รุ่นปัจจุบันว่า  DT 10    DT ย่อมาจาก  Detachable trigger 

ผมจำประวัติความเป็นมาของ ASE ได้ซะยาว ก็เพราะมันเป็นปืนที่ผมชอบมากกกก ผมติดตามหาซื้อมันเป็นปี จนได้มาครอบครอง เคยผ่านมือเข้ามาตั้งสี่กระบอก สุดท้ายก็ขายต่อไปจนเหลือไว้แค่กระบอก ASE 90 กระบอกเดียว สาเหตุก็เพราะผมยิง Perazzi MX8 ได้แต้มดีกว่าจริงๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 25, 2009, 03:24:09 PM โดย FABBRI » บันทึกการเข้า
o/uboy
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #57 เมื่อ: มิถุนายน 04, 2006, 11:32:39 PM »

ฟังแล้วผมอยากไปหัดยิงปืนบ้างเลยครับ คือผมอยากรู้ถึงความแตกต่างเวลาใช้งานของปืนน่ะครับ ที่ผ่านมาก็ได้แต่ยิงๆไปไม่ได้สนใจอะไรมากมายถูกบ้างไม่ถูกบ้าง หัวเราะร่าน้ำตาริน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 04, 2006, 11:42:59 PM โดย o/uboy » บันทึกการเข้า
ลูกซองสั้น
Shotgun lover
Moderator
Hero Member
*****

คะแนน 112
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1047


side by side


« ตอบ #58 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2006, 08:09:38 AM »

ถ้าเป้าที่จะยิงอยู่นิ่งกับที่ ใช้ปืนลูกซองอะไรก็ได้ครับ หรือถ้าได้ Remington 11/87 ก็หรูแล้ว
บันทึกการเข้า
Choltit
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 143
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16292



« ตอบ #59 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2006, 09:01:50 AM »

3. Browning บางรุ่น แต่ก็ล้าสมัยไปแล้ว

เรียนท่าน ou boy ถ้าคิดจะยิงเป้าบินเพื่อให้ได้ติด ทีมชาติ ซีเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ มีปืนให้เลือก แต่ 3-4 กระบอกเท่านั้น ถ้านอกเหนือจากนี้แล้วใช่แค่ยิงเล่นถึงแม้ จะยิงเก่งแค่ไหนก็ไปไม่ถึงดวงดาว
1. Perazzi MX 8 เท่านั้น ( MX 10 ก็คือ MX8แล้ว ทำให้ปรับ พานท้ายกับ Rib ได้ ปรับไปปรับมา ประสาทกินอีก)
2. Beretta ASE gold หรือ DT 10 หรือ 682Gold .
3. Browning บางรุ่น แต่ก็ล้าสมัยไปแล้ว
4. Beretta so5 แพงเกิน

ผมว่าตัดข้อ 3 กับข้อ 4 ออกไปเถอะครับ หาอะไหล่ยากแล้ว


 หัวเราะร่าน้ำตาริน 
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7 ... 366
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.051 วินาที กับ 24 คำสั่ง