Choltit
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 143
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 16292
|
|
« ตอบ #3285 เมื่อ: เมษายน 21, 2007, 11:06:57 PM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลูกซองสั้น
Shotgun lover
Moderator
Hero Member
คะแนน 112
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1047
side by side
|
|
« ตอบ #3286 เมื่อ: เมษายน 22, 2007, 09:39:36 AM » |
|
Paparazzi ผมฟังคำนี้ทีไร นึกถึงแต่ ภาพหลุดของดารา นางแบบ ทั้งนั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
FABBRI
มาเป็นเหยื่อเสียดีๆๆ
Moderator
Sr. Member
คะแนน 249
ออฟไลน์
กระทู้: 885
|
|
« ตอบ #3287 เมื่อ: เมษายน 22, 2007, 11:38:46 PM » |
|
.300 HOLLAND & HOLLAND MAGNUM หรือ .300 H&H SUPER
เธอ ถือกำเนิด ในโรงงานปืนชั้นเยี่ยมยอด สัญชาติ จากเมืองผู้ดี มีพี่ ชาย ชื่อ .375 H&H Magในปี 1925 ใบเกิด ระบุว่าชื่อ Holland s Super 30 เพราะ เธอสามารถวิ่งได้เร็วที่สุดในขณะนั้น พี่ชายเธอเป็นผู้มีชื่อเสียงมาตั้งแต่ ปี 1912 จวบจบปัจจุบัน แล อนาคตอีกยาวนาน นั้น ตัวโตล่ำสันได้สัดส่วน หัวใหญ่เล็กน้อย ( .375 นิ้ว)ไม่อุ้ยอ้ายลงพุง แม่เธอจึงปั้นเธอ ให้สัดส่วน เหมือนพี่ชายแต่ลดรูปร่างให้เพรียวลม หัวเล็กลง ( .30 นิ้ว) บ่าชะลูดกลมกลึง ความสูงเท่าเดิม ประเภท สูงยาวเข่าดี ต่อมาเมื่อโตขึ้น และ เข้าไปหากิน ใน เมือง ลุงแซม โดยการชักนำ ของ The Western Cartridge Co อีจัน ก็ เปลี่ยนชื่อ เป็น เพ็ญจันทร์ .300 H&H Mag แต่ก็ให้ทำลูก อย่างเดียว ไม่สนใจที่จะหาผัวให้ มี แต่ Griffin & Howe และ โรงงานเล็กๆที่รับสั่งทำพิเศษเท่านั้น ที่ยอมหาผัวให้เล็กๆน้อยๆ และแล้ว เธอก็แสดงความสามารถให้ได้ประจักต่อสายตาชาวโลก ในปี 1935 นาย Ben Comfort ( ไม่ใช่ Comfort 100 สำหรับใช้เวลารถติด) นำเธอเข้าแข่งขัน ประลองความแม่นที่ ระยะ 1000 (พัน) หลา รายการ Wimbledon Cup Match เธอก็ไม่ทำให้นาย เบน ผิดหวัง เธอนำพาตัวเองเข้าเป้าทุกนัด ทำให้นาย เบน ชนะเลิศ ได้ถ้วยไปครอง สบายๆ ชั่วข้ามคืน บรรดา เจ้าพ่อแยงกี้ ต่างๆจึงได้คิด เริ่มหาสามีให้เป็นจริงเป็นจัง ในปี 1937 Winchester Mod 70 เป็นตัวนำร่อง และ ตาม ด้วย Remingtons Mod 721 และ 700 ในปี 1944 เธอก็ถูกยำ โดยนาย Roy Weatherby รูปร่างยังสูงยาวเข่าดีเหมือนเดิม แต่ ทำบ่าให้กว้างขึ้น กินจุ ปอดใหญ่ขึ้น ทำให้วิ่งได้เร็วขึ้น เรี่ยวแรงปะทะมากขึ้น ทำออกจำหน่าย ปี 1948 โดย Norma of Sweden ตั้งชื่อโคนนิ่งว่า .300 Weatherby Magnum ปืนคู่มือ ท่านหญิง ดาริน ไงทำเป็นจำไม่ได้ และยังมีอีก หลายพ่อพันแม่ ที่เอาเธอไป ผ่าตัด ให้สั้นบ้างผอมบ้างอ้วนบ้าง เช่น .300 Win Mag 7MM Rem Mag เป็นต้น แต่ไม่ใกล้เคียงของเดิมเลย คงมีแต่ .300 Wea Mag เท่านั้น ที่ .300 H&H Mag ยอมตายแทนได้ แต่ .300 Wea Mag ไม่ยอมร่วมตายด้วย หมายถึง ถ้าท่านมีปืนรังเพลิงขนาด .300 Wea แล้วกระสุนหมด ท่าน สามารถเอากระสุน .300H&H ใส่ในปืนรังเพลิงขนาด .300Wea ยิงได้เลย แต่ เธอจะวิ่งช้าลงแรงปะทะก็จะน้อยตามไปด้วย เพราะ ต้องเอาแรงส่วนหนึ่งไปดันให้ปลอก ขยายเต็มรังเพลิง .300Wea และเมื่อยิงแล้วปลอกจาก ขนาด.300 H&H ก็จะเป็น .300 Wea โดยไม่มีข้อต่อรองใดๆ รับรองปลอดภัย 100% แต่ไม่แนะนำ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ แต่ รูรังไข่ของ ไม่ใช่รูรังเพลิงของ .300 H&H Mag นั้นเรียวกว่า ไม่สามารถรองรับ ปลอก .300 Wea Mag ได้ เลยไม่ยอมตายแทน คงต้องให้รังเพลิงอีเจิงรองรับ 9671 URL=http://imageshack.us] [/URL] 9677 9680 .300 H&H Mag หัวกระสุนหนัก ความเร็ว แรงปะทะ 150 3190 3390 180 2880 3315 220 2620 3350
.300 Wea Mag
150 3600 4316 180 3300 4352 220 2905 4122
.300 Win Mag
150 3290 3605 180 2960 3501 220 2680 3508
ข้อมูลจาก The Cartridges Of The World ขอแสดงความยินดี กันท่านที่ มี ปืน เหล่านี้ เรื่องข้างบนเกี่ยวกับ Wimbledon Cup Match นั้นเขียนก่อนไปดู หนัง The Shooter มาก็พอดีเข้าเรื่อง เลยนำเสนอ รูป มาให้ชม เผื่อจะมีคนสนใจ แต่มีข้อสงสัย .50 BMG ยิง 2200 หลา ไม่แปลกใจ แต่ .22 LR ยิง 200 หลา ปืนก็ไม่เอาไหน (น่าจะเป็น อันชูตย์ รุ่นถูก แถม ที่เก็บเสียงแบบชาวบ้าน) และ อยู่บนเรือ ลูกซองยิงนกยังลำบากเลยท่าน ป้อม แล้วนี่ยิ่งกว่านิยาย เรียกว่า ผีจับยัด คนร้ายถึงที่ตาย พระเอกยิงขึ้นฟ้า ยังไงลูกกระสุนก็ต้องตกลงมา พอดีกลาง กะบาลคนร้าย คนเขียนบท บอกให้ตายก็ต้องตาย 0003 0006 0009 0015 และอย่ามีคำถามตามมา เรื่อง ปืน แล กระสุน ขนาด .50 BMG นะ ไม่รู้จริงๆ ต้องรอให้ เกจิ พลซุ่มยิง มาตอบ ขณะที่ดูหนังอยู่ นึกไม่ออกว่า จะ เอารูปที่ไหนให้ท่าน ดูเปรียบเทียบ ว่ามันขนาดไหน พอกลับถึงบ้านก็ นึกได้ เชิงเทียนไง ละ ก็เลยมีมาให้ ดูกัน 0012 .50 BMG เป็นชื่อเล่น มีชื่อจริงๆ ว่า .50 Browning Machine Gun .50 นี้มันถือกำเนิด ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ ประเทศ เยอรมันนี ชื่อเดิมว่า 12.7 x 99 MM ใช้กับปืนต่อสู้รถถัง The German 13 mm TUF anti-tank rifle ในปี 1918 แยงกี้ ยึดปืนและกระสุน ได้จาก กองทัพ เยอรมัน และส่งมันเข้ามาที่ เพนตากอน ไม่ใช่ สยามพารากอน แล้วไป เตะโดนตา บรรดา นักล่ามนุษย์ ของแยงกี้เข้า ก็เลยรวมหัวกัน ตามนาย John M Browning มาบอกว่า ไอ้ ปืน ของอินทรีเหล็ก มันยิงทีละนัดมันชักช้าไม่ทันใจโก๋ ไออยากได้ไอ้ที่ยิงหูดับตับไหม้ นาทีละ 500 นัด ยูทำได้หรือไม่ นายJohn หรีตา ล้วงกระดาษ ดินสอ แล กรรไก นั่งตัดๆแปะๆ ส่งให้ช่างแผนกโลหะทำออกมา ในปี 1921 ก็มีปืนต้นแบบออกมา ที่เรามักพบเห็นในหนังสงครามโลกครั้งที่2 ติดตั้งบนรถจ๊ป ที่เราเรียกกันว่า สิงห์ ทะเลทราย ในปี 1923 ก็ได้บรรจุเข้าประจำการ ในกองทัพ แยงกี้ และยังได้นำมันไปติดตั้ง บนเครื่องบิน แต่ ความเร็วในการยิง ได้ถึง 1450 นัด ต่อนาที และ มีประเทศต่างๆ ที่ นำมันเข้าประจำการ กว่า 30ประเทศ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ ยังมีนักรบใต้ดินอีกมาก มาย ที่ใช้ปืนชนิดนี้ แล้วมันก็กลับมาโด่งดังอีกครั้ง ในสงคราม ล่มปากอ่าว ด้วยปืนไรเฟิล แบบ ลูกเลื่อน และ เซมิออโต้ ตัวปืนจะหนัก ประมาณ 20ปอนด์ แรงกระทืบไม่หนักไม่เบา แค่ 30 ปอนด์ เท่านั้น McMillan ทำออกมาในแบบลูกเลื่อน และ Barrett ทำทั้ง ลูกเลื่อน แล เซมิออโต้ และ อีกหลาย โรงงาน ตามมา ตามรายงานของ FCSA [Fifty Caliber Shooter Association] ได้บรรจุการแข่งขัน ให้ยิง ที่ระยะ 1000หลาหรือบางที่ ก็ถึง 1 ไมล์ มีสถิติ ที่ระยะ 1000 หลา 5 นัด กลุ่มกระสุน 6 นิ้ว เป็นเรื่อง ธรรมดาแต่ มีคนเคยทำกลุ่ม ได้ ต่ำกว่า 3 นิ้ว และที่ระยะ 1 ไมล์เขาใช้ ถังขนาด 55 แกลลอน เป็นเป้า ยิงเล่น เหมือน เรา ยิง ขวดกระทิงแดง ด้วย ลูกกรด .22 ที่ระยะ 100 หลาธรรมดาๆ
ข้อมูลผิดถูกประการใด เกจิ ไรเฟิล กรุณาแนะนำด้วยครับ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 28, 2008, 03:56:22 PM โดย FABBRI »
|
บันทึกการเข้า
|
สินค้าต่างๆที่กระผมเสียเงินเสียเวลาเสียพลังงานนำเข้ามานั้นเพื่อเป็นพยานหลักฐานอันเป็นที่แน่ชัดในการคุยโม้คุยโตประกอบการคุยฟุ้งทั่วเวป มิได้แอบแฝงขายสินค้าแต่อย่างไร และไม่รับสั่งหรือช่วยนำเข้าแต่อย่างใด โปรดเข้าใจ
|
|
|
visa
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #3288 เมื่อ: เมษายน 23, 2007, 12:05:08 AM » |
|
เชิงเทียนสวยมากๆเลยครับพี่ FABBRI ได้แรงบันดาลใจอีกแล้วครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Choltit
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 143
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 16292
|
|
« ตอบ #3289 เมื่อ: เมษายน 23, 2007, 12:31:51 AM » |
|
และอย่ามีคำถามตามมา เรื่อง ปืน แล กระสุน ขนาด .50 BMG นะ ไม่รู้จริงๆ ต้องรอให้ เกจิ พลซุ่มยิง มาตอบ ขณะที่ดูหนังอยู่ นึกไม่ออกว่า จะ เอารูปที่ไหนให้ท่าน
นึกไม่ออกว่าจะเอารูปไหน ผมขอรูปจานท้าย 50BMG หน่อยแล้วกันนะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลูกซองสั้น
Shotgun lover
Moderator
Hero Member
คะแนน 112
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1047
side by side
|
|
« ตอบ #3290 เมื่อ: เมษายน 23, 2007, 03:44:58 PM » |
|
บ่ายนี้ ผมพอจะมีเวลาแวบมาเข้าเวป เลยจะเข้ามาเริ่มเรื่องประวัติความเป็นมาของปืน Perazzi เป็นการเรียกน้ำจิ้มซะหน่อยก่อน ในระหว่างนี้ ทุกๆช่วง ใครอยากจะถาม หรือ มีข้อมูลอยากจะเสริม ก็จะเป็นการดีมากเลยนะครับ โดยเฉพาะพี่ Fabbri เอง คงจะต้องเข้ามาช่วยต่อปีกต่อหางให้กับบทความของผมมากๆหน่อย ในฐานะที่พี่เป็นผู้ที่รู้จักกับบุคคลที่ผมจะกล่าวถึงทั้งสามท่านเป็นการส่วนตัว และรู้จักเป็นเพื่อนสนิทกันเป็นอย่างดี
สามหนุ่มอิตาเลี่ยน ที่ผมหมายถึงคือ Daniele Perazzi , Ivo Fabbri และ Enio Mattarelli
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 06, 2009, 10:36:03 AM โดย ลูกซองสั้น »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลูกซองสั้น
Shotgun lover
Moderator
Hero Member
คะแนน 112
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1047
side by side
|
|
« ตอบ #3291 เมื่อ: เมษายน 23, 2007, 03:55:59 PM » |
|
นี่เป็นประวัติของเด็กหนุ่มผู้ยากจน แต่หัวดื้อและดันทุรังคนหนึ่ง เขารู้ขีดความสามารถของตัวเอง ใช้เวลาทั้งหมดค้นคว้าหาปืนที่สมบูรณ์แบบ เป็นเรื่องที่ซ่อนอยู่ภายในปืน Perazzi ทุกกระบอก เมื่อคุณยกปืน Perazzi ขึ้นประทับบ่า คุณได้ถือชีวประวัติของ Daniele Perazzi ประธาน ผู้ก่อตั้งโรงงาน Perazzi
ลองจินตนาการถึงเด็กหนุ่มคนหนึ่งผู้ที่มีชีวิตอยู่กับการทำงานพื้นๆทุกอย่าง แต่ฝันที่จะสร้างปืนลูกซองของตนเอง เมื่อ Daniele อายุได้ 16 ปี เขาทำงานในโรงงานปืนแห่งหนึ่ง โดยทำหน้าที่เป็นคนเก็บพัสดุ เขาไม่เคยยอมแพ้ต่องานอันต่ำต้อยนี้เลย ตรงกันข้าม Daniele ขอทำงานเป็นคนประกอบปืนตอนกลางคืน หลังจากออกเวลางานแล้ว เขาได้รับโอกาสนั้น แต่ว่าเขาทำปืนใหม่กระบอกแรกที่ได้รับงานมาพัง เขาลองอีกครั้งในวันต่อมา และครั้งนี้เขาทำสำเร็จ ปืนกระบอกนั้นกลายเป็นผลงานของความสำเร็จชิ้นแรกของเขา
ต่อมา เขาได้งานเป็นช่างทำปืนในโรงงานใหญ่แห่งหนึ่ง นี่ดูเหมือนจะเป็นคำตอบสำหรับทุกปัญหา แต่ Daniele เป็นคนอีกแบบหนึ่ง เมื่ออายุได้ 20 ปี เขาเสนอผลงานลิขสิทธิ์ชิ้นหนึ่งให้กับโรงงานปืนที่เขาทำงานด้วย แต่ถูกปฏิเสธ เขาเลยลาออกซะ แล้วไปเสนอผลงานลิขสิทธิ์ชิ้นนั้นแก่โรงงานคู่แข่ง คราวนี้สำเร็จ เขาได้รับเงินก้อนแรก ที่นี้ Daniele ทำอะไรต่อไปหละ เขาทำปืนที่บ้านแล้ววันอาทิตย์เขาก็เอามันไปขายที่สนามยิงปืน ปืนลูกซองพวกนั้นสมบูรณ์แบบมาก เป็นที่รู้จักกันไปทั่ว ปืนลูกซองพวกนั้นไม่เพียงแค่ประกอบโดยฝีมือและความสามารถเท่านั้น แต่ Daniele ได้ใส่หัวใจรักเข้าไปด้วย
หลังรับราชการทหาร ตอนนั้น Daniele อายุได้ 23 ปี เขามีร้านของตนเองแล้ว ในปี 1957 โรงงาน Perazzi ก็ถูกก่อสร้างขึ้น จุดประสงค์พื้นฐานไม่เคยเปลี่ยน คือ ทำปืนที่สุดยอดสมบูรณ์แบบ ความสำเร็จบนแป้นผู้ชนะเลิศในการแข่งขันระดับนานาชาติก้าวเข้ามาในเวลาอันสั้น Mattarelli ผู้ที่รู้จักกับ Daniele เป็นอย่างดี มอบความสำเร็จ คือ ใช้ปืนที่เขาทำยิงแข่ง trap ชนะเลิศได้รับเหรียญทองโอลิมปิค ที่โตเกียว ในปี 1964
ชายผู้ดื้อรัน ดันทุรัง และไม่ยอมแพ้ ได้รับรางวัลแห่งความพยายามแล้ว ความสำเร็จนั้นได้ครอบคุมไปทั่วสนามยิงปืนทั่วโลก Perazii กลายเป็นปืนประจำมือของนักยิงเป้าบินไปทั่วทุกที่ 80 % ของปืนที่ผลิตถูกส่งไปขายทั่วโลก
Perazzi ทุกวันนี้ถูกบริหารโดยคนในครอบครัวทั้งหมด ลูกชายของเขา Mauro และลูกสาว Roberta รวมทั้งลูกเขย Francesco Anderloni ดูแลการจัดการทั้งหมด และทุกวันนี้ ในโรงงาน Daniele ยังคงตรวจสอบพานท้ายปืน ยังคงสอนวิธีถูตะไบให้กับช่างทำปืน และก็เขานั่นแหละ คนที่ยังคงถ่ายทอดเทคนิคต่างๆให้กับช่างทั้งหมดในโรงงาน เขายังคงเป็นคนคัดเลือกไม้ทำพานท้ายโดยตรง บุคคลที่คุ้มค่าที่ได้มีโอกาสพบปะพูดคุยด้วย มีคนจากต่างประเทศมากมายเดินทางไปเพื่อสั่งทำปืนกับเขา ถ้าคุณรักปืนลูกซอง คุณจะเข้าใจกันและกันทันที
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 08, 2009, 02:01:16 PM โดย ลูกซองสั้น »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
FABBRI
มาเป็นเหยื่อเสียดีๆๆ
Moderator
Sr. Member
คะแนน 249
ออฟไลน์
กระทู้: 885
|
|
« ตอบ #3292 เมื่อ: เมษายน 23, 2007, 10:03:10 PM » |
|
ลงเพิ่มเติมที่ ตอบ # 3287 แล้วครับ
ขออภัยท่านลูกซองสั้น ที่ มาขัดจังหวะ ขอทำหน้าที่ให้เรียบร้อยก่อน นะครับ
นักล่าสัตว์จงอ่าน
ตัวอย่างอันดีซึ่งสมควรจะหยิบยกขึ้นมาบรรยายให้ผู้ใช้อาวุธปืนไรเฟิลทุกคนจดจำ ใส่ใจไว้ตลอดกาลนั้นมีดังต่อไปนี้ ในปี ค.ศ. 1937 มีนักทำเหมืองแร่ธุรกิจผู้หนึ่ง นามว่า จอห์น วอเทอร์ ได้เดินทางไปยังประเทศแอฟริกาด้วยความปรารถนาจะทำการล่าสิงโต บุรุษผู้นี้นับได้ว่าเป็นนักแม่นปืนชั้นยอด ชำนาญในการใช้อาวุธปืนมากที่สุด ซึ่งจะหาผู้อื่นใดทัดเทียมได้ยาก นอกจากนั้นยังเป็นผู้มีจิตใจสุขุมเยือกเย็นอย่างยิ่ง ในรุ่งอรุณของต้นเดือนกันยายนวันหนึ่ง เขาได้มีโอกาสดีเผชิญหน้ากับสิงโต ซึ่งเขาปรารถนาจะได้ไว้เป็นที่ระลึกมานานแล้ว เขายกปืนขึ้นเล็งและยิงทันทีด้วยฝีมืออันชำนาญ และกระสุนลูกนั้นก็วิ่งตรงเป้าหมายอย่างคล้ายกับจับวางด้วย แต่อนิจจาหลังจากนั้นเพียง 2 วินาที เขาก็ตายเพราะถูกสิงโตตัวนั้นตะปบฝังเขี้ยวลงบนสมอง มิสเตอร์วอเทอร์ รู้เท่าไม่ถึงการณ์เพียงนิดเดียวเท่านั้น จึงนำชีวิตของเขาไปสังเวยแก่มัน นั่นก็คือ เขาได้เล็งไปตรงจุดกึ่งกลางของขมวดผมอันฟูบนศีรษะของสิงโตและกระสุนก็ถูกตรงนั้น เขามิได้ทราบหรือตระหนักสักนิดเลยว่า สิงโตเป็นสัตว์ไม่มีหน้าผากเหมือนสัตว์อื่นๆทั้งหลาย กระจุกผมที่ฟูอยู่บนศีรษะของมันก็คือขนสัตว์อย่างขนสิงโตธรรมดาสามัญทั่วไปนั่นเอง ในปี ค.ศ. 1925 มิสเตอร์ ปีเตอร์ โยเนส เจ้าของคอกปศุสัตว์ใหญ่ซึ่งกระเดื่องนามในประเทศแอฟริกา รู้สึกโมโหโกรธเจ้าช้างตกมันเชือกหนึ่ง ซึ่งดันทุรังเข้ามาทำลายไร่กล้วยอ้อยและพืชพันธุ์ต่างๆ ซึ่งชาวเมืองปลูกไว้เสียหายนับสิบขนัด จึงวิ่งกลับบ้านไปหยิบไรเฟิลคู่มือขนาด .303 ออกวิ่งตามเจ้าช้างบ้านั้นไป เขาก็พบกับมันอย่างจังหน้าสมดังที่ได้มุ่งหวังไว้ มันอ้าปากชูงวงและพุ่งเข้าใส่ทันที กระสุนของโยเนสถูกตรงน้ำเต้า ซึ่งเป็นจุดดับของช้างทีเดียว ซึ่งปืนขนาด .303 แล้วก็จะต้องนับได้ว่ามีกำลังปะทะและอานุภาพสูงพอที่กำจัดมันได้ทันใด แต่น่าอนาถใจในชะตาของโยเนสที่ต้องตายใน 2-3 วินาทีต่อมานั่นเอง ชีวิตของเขาต้องจบไปเพราะความสะเพร่าและเลินเล่อ เมี่อเขาหยิบปืนขึ้นมานั้น เขานึกว่ากระสุนที่บรรจุอยู่เป็นกระสุนเปลือกบาง เนื่องจากเขาเชื่อใจว่าเป็นเช่นนั้น จึงมิได้ตรวจดู การยิงของเขาแม่นยำอย่างจับวาง แต่เจ้ากระสุนเปลือกแข็งซึ่งทำด้วยเหล็กกล้าตลอดทั้งหัวเพียงแต่เจาะกระโหลกทะลุและถูกสมองไปเท่านั้น ถ้าเป็นกระสุนเปลือกบางแล้วมันจะบานขยายตัวเมื่อกระทบกับกระโหลก และจะวิ่งตีสมองช้างแตกกระจายอย่างไม่มีปัญหา เยลลี่เป็นชายชาติชาวอิตาลี ยิงแรดตัวหนึ่งด้วยกระสุนหัวอ่อน ซึ่งแตกกระจายอยู่ใต้ผิวหนังของแรดเท่านั้นเอง แรดจึงไม่เป็นอันตราย และรู้สึกเดือดเขามาก มันวิ่งเข้าขวิดโน่นชนนั่นดะไปหมด ในที่สุดมันก็วิ่งชนพุ่มไม้ทะลุเป็นช่องโหว่หนีไป เยลลี่ได้กระโดดวิ่งมุดพุ่มไม้นั้นตามมันทันควันทีเดียว เพียงครู่เดียวเท่านั้นร่างของเขาก็แหลกไม่มีชิ้นดี เพราะความเขลาชีพจึงต้องมรณา ธรรมชาติของแรดเมื่อเจ็บมันจะมุทะลุขวิดอะไรต่ออะไรดะเรื่อยไปหมด แรดเป็นสัตว์ที่ปราดเปรียวว่องไวและเลือดร้อน แต่สายตาของมันไม่ดี ตาของมันฟางมองอะไรไม่ค่อยจะเห็นชัด ถ้าอยู่ในที่โล่งกลางแจ้งแล้วเมื่อมันวิ่งพุ่งเข้าชน เพียงแต่ใช้กลวิธีหลบฉากก็พ้น ในช่องในซอกของพุ่มไม้ซึ่งมีหนามและกิ่งไมัอัดแน่นทั้งสองข้างย่อมจะไม่มีช่องว่างพอจะให้เยื้องหลบหลีกเลี่ยงได้ จมูกของแรดไวต่อกลิ่นมาก มันได้กลิ่นของเยลลี่ ดังนั้นเหตุการณ์อันหน้าสลดอย่างนั้นจึงได้เกิดขึ้น ในปี ค.ศ. 1910 พรานอาชีพชำนาญผู้หนึ่งชื่อว่า สปริง ถูกกระทิงซึ่งเขายิงสาหัสเมื่อ 5 วันก่อน และซึ่งเขากำลังแกะรอยตามอยู่ขยี้เสียจนจำหน้าไม่ได้ สิ้นใจในทันทีนั้นเอง เมื่อกระทิงถูกยิงเจ็บและรู้ตัวว่ามิสเตอร์สปริงสะกดรอยตาม ก็คิดวางแผนการล่าเขาเป็นการชดเชยกัน จึงเดินทำทางล่อแล้วตีวงโค้งอ้อมมาดักคอยท่าอยู่ข้างทาง ซึ่งได้ทำล่อไว้ให้เขาเดินตาม กระทิงได้เลือกจุดที่จะเข้าทำการสังหารเขานี้ได้ฉลาดอย่างลึกซึ้ง มันเป็นช่องแคบๆซึ่งเต็มไปด้วยหนามสองฟากทาง มิสเตอร์สปริงเป็นพรานย่อมจะตระหนักในข้อนี้ดี แต่เหตุการณ์ที่เกิดเช่นนั้น ทำให้เป็นข้อสันนิษฐานอันสมแก่เหตุที่ว่า เขาได้คิดผิดไป เขาคงจะคิดว่ามันเป็นเวลานานตั้งหลายวันแล้ว ธรรมชาติของสัตว์คงจะทำให้มันลืมเหตุการณ์หรือหมดความคิดผูกพยาบาทไปแล้ว นั่นก็คือเขาสะเพร่านั่นเอง ตัวอย่างที่ข้าพเจ้าหยิบยกขึ้นมากล่าวนี้ ข้าพเจ้าเห็นว่าดีแล้ว และเป็นประโยชน์ในการอบรมจิตใจของท่านให้เป็นผู้รอบคอบลึกซึ้ง เพื่อจะได้ฝึกหัดการใช้อาวุธปืนได้ดีต่อไป
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 23, 2007, 10:07:15 PM โดย FABBRI »
|
บันทึกการเข้า
|
สินค้าต่างๆที่กระผมเสียเงินเสียเวลาเสียพลังงานนำเข้ามานั้นเพื่อเป็นพยานหลักฐานอันเป็นที่แน่ชัดในการคุยโม้คุยโตประกอบการคุยฟุ้งทั่วเวป มิได้แอบแฝงขายสินค้าแต่อย่างไร และไม่รับสั่งหรือช่วยนำเข้าแต่อย่างใด โปรดเข้าใจ
|
|
|
ป้อมทอง พรานชุมไพร
ดับบาป ด้วยบุญปืน
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 780
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 6885
นรชาติวางวาย สถิตย์ไว้ แต่ความดีประดับไว้โลกา
|
|
« ตอบ #3293 เมื่อ: เมษายน 24, 2007, 05:22:34 AM » |
|
กระสุน .๕๐ เทียบกันกับลูกซองเบอร์ ๑๒ แล้ว
ลูกซองกลายเป็นเด็กไปเลย...เทียบกับ .๒๒ เหมือนแมมมอธเทียบกับ ลูกหนู
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
รักกันไว้เถอะ เราเกิดร่วมแดนไทย จะเกิดภาคไหนๆ ก็ไทยด้วยกัน เชื้อสายประเพณีไม่มีขีดคั่น เกิดเป็นไทยนั้นปวงชนทุกคนคือไทย
|
|
|
ลูกซองสั้น
Shotgun lover
Moderator
Hero Member
คะแนน 112
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1047
side by side
|
|
« ตอบ #3294 เมื่อ: เมษายน 24, 2007, 03:49:52 PM » |
|
ทุกวันนี้ นักยิงปืนลูกซองจากทั่วโลกเดินทางไปหาอาคารหลังเดียวที่โปร่งโล่งสบาย อาคารที่ทาสีแดงคาดหัวไว้ อาคารที่ซ่อนอยู่ในชนบทของ Botticino Mattina เมือง Brescia อาคารแห่งนี้มีพื้นที่ 15,000 ตารางเมตร แต่มีถนนทางเข้าอาคารเล็กๆ แคบๆแค่สายเดียวเท่านั้น ถนนดินแคบๆซึ่งเป็นทางเข้าโรงงานแห่งนี้ ไม่ว่าราชวงศ์จาก Dubai หรือกลุ่มเศรษฐีชาวรัสเซีย หรือแม้นแต่นักกีฬายิงเป้าบินจากประเทศแดนไกล ล้วนต้องนั่งรถโยกเยก ผ่านถนนเส้นนี้ทั้งนั้น ถนนสู่โรงงาน Perazzi ต้อนรับนักกีฬายิงเป้าบินจากทั่วโลก ทุกวันทำงาน โรงงานจะหยุดในเดือนสิงหาคมให้คนงาน/ช่างทำปืนได้พักผ่อนประจำปี ช่างทำปืนบางคนใช้เวลาช่วงนั้น ไปพักผ่อนในอเมริกา โดยไปร่วมงาน Trapshooting Championships งานใหญ่ที่สุดในอเมริกา นักยิงเป้าบินในอมริกาเรียกชื่องานนี้ว่า The Grand American ในเมือง Ohio
ผมเดาว่า พวกช่างปืนที่ไปร่วมงาน The Grand American ไปซ่อมปืนครับ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 08, 2009, 02:19:29 PM โดย ลูกซองสั้น »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลูกซองสั้น
Shotgun lover
Moderator
Hero Member
คะแนน 112
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1047
side by side
|
|
« ตอบ #3295 เมื่อ: เมษายน 24, 2007, 04:10:41 PM » |
|
Daniele Perazzi ภาพในวัยหนุ่มที่หล่อที่สุดในบรรดาหนุ่มอิตาเลี่ยนทั้งหลาย ภาพนี้ถ่ายหลายปีแล้วครับ
ชายหนุ่มผู้หลักแหลม Daniele Perazzi ได้รับการยอมรับกันทั่วไปว่า เป็นผู้สร้างปืน Perazzi แต่อันที่จริง ปืน Perazzi ถูกร่วมกันสร้างโดยชาย 3 คน Daniele Perazzi , Ivo Fabbri และ Ennio Mattarelli
Ennio Mattarelliใส่เสื้อสีฟ้า ส่วนคนใส่สูทคือ Ivo Fabbri
ภาพล่างนี้ ถ่ายเมื่อ 12 ปีกว่ามาแล้ว ทั้งสองท่าน ถึงวันนี้ก็ยังหล่อเท่าเดิมครับ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 06, 2009, 10:25:45 AM โดย ลูกซองสั้น »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลูกซองสั้น
Shotgun lover
Moderator
Hero Member
คะแนน 112
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1047
side by side
|
|
« ตอบ #3296 เมื่อ: เมษายน 24, 2007, 04:39:11 PM » |
|
Daniele Perazzi เกิดเมื่อปี 1932 ในครอบครัวที่ยากจน ข้นแค้น อันเนื่องมาจากยุคย่ำแย่ของภาวะหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 Daniele กลายเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัวตั้งแต่อายุน้อยๆ และมาจนถึงปัจจุบัน Daniele ก็ยังคงทำหน้าที่นี้อยู่โดยไม่บ่น พ่อของเขาเป็นช่างทำรองเท้า และครอบครัวนี้ ก็ไม่เคยมีใครเกี่ยวข้องกับการทำปืนเลย เมื่ออายุได้ 14 ปี เขาเริ่มทำงานเล็กๆน้อยๆในร้านปืนในเมือง Brescia บางครั้งก็ได้เงิน บางครั้งก็ไม่ได้เงิน
แววของช่างทำปืนผู้ยิ่งใหญ่ เริ่มฉายเมื่อ Daniele ได้ออกแบบและประดิษฐ์กลไกของปืนลูกซองแฝดแบบไกเดียวที่ยอดเยี่ยม เขาขายลิขสิทธิ์แบบของปืนแฝดไกเดียวอันนั้น ให้กับ Brescia trade ต่อมา Daniele ได้เข้าทำงานกับโรงงานปืนที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งใน Brescia คือ Franchi เขาทำงานในสายการผลิตปืนอยู่ร่วมปี ก็เริ่มคิดได้ว่า อนาคตของตนเองไม่น่าจะมาทำงานจนตายไปกับปืนพวก mass production
มาถึงตรงนี้ ผมคิดว่า ผู้ยิ่งใหญ่ในโลกของอาวุธปืนทุกคนไม่เคยยอมรับงานพื้นๆ ต้องทำอะไรที่มันเหนือกว่าของที่เคยมี
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 06, 2009, 11:08:26 AM โดย ลูกซองสั้น »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลูกซองสั้น
Shotgun lover
Moderator
Hero Member
คะแนน 112
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1047
side by side
|
|
« ตอบ #3297 เมื่อ: เมษายน 24, 2007, 05:03:30 PM » |
|
Daniele มีความคิดเรื่องปืนลูกซองแฝดที่สุดยอด ตั้งแต่เขาอายุได้ 20 ปี เขาเริ่มทำปืนในห้องใต้ดินแคบๆ เขาออกแบบและประดิษฐ์ปืนลูกซองหลายกระบอก โดยทำด้วยมือ ทำทีละกระบอก ปืนพวกนี้ขายได้แต่มันไม่มีความโดดเด่นเหนือกว่าปืนตลาดทั่วๆไป
ในปี 1963 โชคชะตาได้พาให้ Daniele Perazzi ได้พบกับ Ivo Fabbri Ivo Fabbri อายุมากกว่า Daniele อยู่ 4 ปี และ ครอบครัวของ Ivo เอง ก็จนเท่าๆกับครอบครัวของ Daniele นั่นแหละ Ivo เกิดในครอบครัวของชาวไร่ แม้นจะจนแต่ครอบครัวของ Ivo ก็สามารถส่งเสียให้เขาเรียนในสถาบันเทคนิคในเมือง Fermo และเขาเรียนจนจบ เป็นวิศวกรเลยหละ หลังจากนั้น เขาไปรับราชการทหาร และประกอบกับดีกรีวิศวกรจาก Fermo เมื่อพ้นเกณฑ์ทหาร เขาเลยได้งานทำใน OM บริษัทผลิตรถยนต์ ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Brescia โรงงานแห่งนี้ผลิตรถยนตร์ FIAT ครับ ภายในเวลาไม่นาน Ivo ก็ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการฝ่ายผลิต การได้งานทำในตำแหน่งนี้ในโรงงาน FIAT ถือว่าอนาคตมั่นคงมาก
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 06, 2009, 11:12:01 AM โดย ลูกซองสั้น »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Choltit
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 143
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 16292
|
|
« ตอบ #3298 เมื่อ: เมษายน 24, 2007, 06:47:19 PM » |
|
ยังไม่เห็นรูปจานท้ายกระสุน 50BMG เลยครับ ที่ลง ผมเห็นไพรเมอร์ไม่ชัด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
FABBRI
มาเป็นเหยื่อเสียดีๆๆ
Moderator
Sr. Member
คะแนน 249
ออฟไลน์
กระทู้: 885
|
|
« ตอบ #3299 เมื่อ: เมษายน 24, 2007, 06:57:30 PM » |
|
ยังไม่เห็นรูปจานท้ายกระสุน 50BMG เลยครับ ที่ลง ผมเห็นไพรเมอร์ไม่ชัด
มันเป็นรูโบ๋ๆๆ ถูกทะลวง แทง ต๊าป เกลียว นะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
สินค้าต่างๆที่กระผมเสียเงินเสียเวลาเสียพลังงานนำเข้ามานั้นเพื่อเป็นพยานหลักฐานอันเป็นที่แน่ชัดในการคุยโม้คุยโตประกอบการคุยฟุ้งทั่วเวป มิได้แอบแฝงขายสินค้าแต่อย่างไร และไม่รับสั่งหรือช่วยนำเข้าแต่อย่างใด โปรดเข้าใจ
|
|
|
|