เราดู receiver ของ Perazzi ไปสอง version ไปแล้ว
มาดูรุ่นประหยัดอีกรุ่นนึง
สืบเนื่องมาจาก สปริงแบบแหนบของ MX8 ซึ่งแม้นว่าจะสับได้เฉียบคม แต่แหนบก็คือแหนบครับ หักได้ และหักได้โดยไม่มีอาการเตือนล่วงหน้า แต่จะว่าระบบแหนบมีจุดอ่อนซะทีเดียว ก็ไม่ค่อยจะ fair สักเท่าไหร่นะครับ แหนบใหม่ๆไม่หักส่งเดชนะครับ อ่านแล้วงง สรุปว่าแหนบนกสับมีอายุการใช้งานนานพอสมควร นักยิงเป้าบินในอิตาลี ยิงอาทิตย์ละ 3 วัน ทุกอาทิตย์ จะเปลี่ยนแหนบปีละชุด โดยไม่รอให้หักเอง ถ้าแบบไทยๆเรา เราก็ยิงมันไปชุดเดียวนั่นแหละครับ แต่ว่าพอถึงวันแข่ง เราก็เปลี่ยนเอาชุดใหม่ๆมาใช้ พอแข่งเสร็จ ก็เปลี่ยนกลับ เอาชุดแข่งเก็บไว้แข่งอย่างเดียวครับ
ก็เรื่องแหนบหักนี่แหละครับ นักยิงเป้าบินในหลายประเทศบ่นเรื่องนี้ เพราะว่าไม่ค่อยจะมีอะไหล่เตรียมไว้ แหนบขาดแคลน พอแหนบหัก ปืนก็ยิงไม่ได้ ก็ขอบ่นหน่อยน่า อีกอย่างหนึ่ง Daniele เอง ก็อยากจะทำให้ปืน Perazzi มีต้นทุนต่ำลงไปอีกหน่อย อยากลงไปชกตลาดล่างบ้าง เลยมีความคิดที่จะทำปืน boxlock แบบธรรมดาๆออกขายบ้าง ก็ทำแบบถอดชุดลั่นไกไม่ได้ไงครับ
ปี 1976 Daniele ผลิตปืนแฝดซ้อน แบบถอดชุดลั่นไกไม่ได้ออกขาย ตั้งชื่อรุ่นว่า MT6
MT ก็ย่อมาจาก Montreal ครับ Daniele บอกว่า ทำรุ่นนี้มาเพื่องาน Montreal Olympics เลย
ลักษณะที่เห็นเด่นชัดของ MT6 ก็คือ ตรง receiver มีแถบคาดสีเงินครับ
ใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง ผมว่า Daniele ต้องเพี้ยนแน่ๆ ถอยหลังลงคลองนะ
MX8 หนะเปรียบเสมือนรถเบนซ์ จะมาทำรถ pick up ดีเซลขายทำไมก็ไม่รู้
มันไม่สมศักดิ์ศรีของปืนแข่งเลยครับ
Receiver แบบชาวบ้านทั่วไป Boxlock ธรรมดาๆ ทำขายได้เหมือนกันนะ
พอมาถึงปี 1987 Daniele ก็เปลี่ยนชื่อปืนรุ่นนี้ไปเป็น MX12 ครับ
แต่ MX12 ไม่มีการคาดแถบสีเงินแล้วนะครับ