เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 30, 2024, 11:38:35 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3 4 ... 8
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน  (อ่าน 8478 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 15 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Nat_usp
เวลาเหลือน้อยแล้ว
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 708
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3010


กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นคืนสนอง


« เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 09:43:47 AM »

นักเรียนเฮ! สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน เริ่มเทอมแรก 2556


ลดอำนาจครูในการสั่งการบ้านนักเรียน

วานนี้ (29 ม.ค.) นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารสำนักงาน
คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. ว่า ที่ประชุมได้หารือเรื่องการปฏิรูปหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2544
ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2551 ได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่าจะดำเนินการในระยะเร่งด่วน คือ  การบูรณาการทั้งเนื้อหา เวลาเรียน การวัดและประเมินผล
โดยเฉพาะการบ้านที่ต้องมีการบูรณาการทุกกลุ่มสาระวิชา ด้วยการลดภาระงานของนักเรียน
เพราะที่ผ่านมาพบว่าเด็กไทยต้องทำการบ้านเยอะมาก ทำให้เด็กเกิดความเครียด

ทั้งนี้ตั้งแต่ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 เป็นต้นไป เด็กไทยทุกคนในทุกระดับชั้นในโรงเรียนสังกัด สพฐ.จะมีภาระการเรียนในห้องเรียน
ลดน้อยลง เพื่อเปิดโอกาสการเรียนรู้ และทำกิจกรรมนอกห้องเรียนมากขึ้น รวมทั้งไม่ใช้วิธีการที่ครูจะมีอำนาจเหนือนักเรียน
ครูจะไม่สามารถให้การบ้านเด็กได้ตามใจชอบอีกต่อไป
ถ้าเด็กรู้สึกว่าถูกครูให้การบ้านมากเกินไปจนเกิดความทุกข์ก็สามารถร้องเรียนมาได้ที่ สพฐ. ได้อีกด้วย

ส่วนระยะที่ 2 ของการปฏิรูปหลักสูตรฯนั้น สพฐ.จะจัดประชุมเชิงปฏิบัติการในวันที่ 6-8 กุมภาพันธ์ เพื่อพิจารณาทบทวนมาตรฐาน
และตัวชี้วัดของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้วิพากษ์วิจารณ์ว่ามีมาตรฐานการเรียนรู้
และตัวชี้วัดใดบ้างที่มีมากเกินความจำเป็น เพื่อที่จะได้ตัดทอนและปรับปรุงต่อไป


ที่มา : http://news.mthai.com/general-news/215747.html

ทุกวันนี้เด็กก็แทบไม่มีการบ้านอยู่แล้ว  ....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 30, 2013, 09:45:44 AM โดย Nattapol_รักในหลวงที่สุดในโลก » บันทึกการเข้า

รักในหลวงที่สุดที่ในโลก

เพียงดาวเบเกอรี่     http://forum.ayutthaya.go.th/index.php?topic=31931.0
Pandanus
Hero Member
*****

คะแนน 6378
ออฟไลน์

กระทู้: 40175


เรื่องบังเอิญไม่มีจริง


« ตอบ #1 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 09:52:36 AM »

งั้นมาสอนเองเลยมา....สาระแนจังเลยพวกไม่มีหน้าที่สอนแต่มีอำนาจเนี่ย

ทุกวันนี้ ครูก็ถูกลดบทบาทจนเหลือแค่คนรับจ้างสอนหนังสืออยู่แล้ว  

กี่เรื่อง กี่ครั้งมาแล้ว ที่หน่วยงานเบื้องบน ลดทอนความเป็นครู  ขัดใจตั้งแต่ไม่ให้ใช้ไม้เรียวแล้วแหละ

ครูถือไม้เรียว ไม่ได้หมายความว่า..ต้องตี  แต่มีไว้เพื่อป้องปรามพวกนอกลู่นอกทาง ว่า ถ้าเธอยังไม่กลับเข้าลู่ เธอจะถูกตี และครูตีได้....

แต่ถ้าเห็น ๆ อยู่ ว่า ครูเห็นแล้ว แต่ตีไม่ได้ นักเรียนนอกลู่คนไหนมันจะกลัว



....หมาใส่ตะกร้อครอบปาก เห่าให้ตายใคร ๆ ก็ไม่กลัวหรอก....



ไม่แรงไปหรอก เปรียบเทียบยังงี้ เพราะทุกวันนี้ ครูก็มีสถานะลดทอนลงทุกวัน
บันทึกการเข้า
คนตัวอ้วน+ผมรักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1057
ออฟไลน์

กระทู้: 3266



« ตอบ #2 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 09:59:47 AM »

เลอะเทอะไปกันใหญ่...ผมไม่สนถ้าไม่ให้การบ้านลูกผม...ผมก็ทำแบบฝึกหัดให้ลูกเองได้...การบ้านถือเป็นแบบฝึกหัดการมีความรับผิดชอบไปในตัวนอกจากวิชาการที่เด็กต้องได้...ทรงผมที่ให้นักเรียนไว้ยาวได้(แบบพอเหมาะ)เชื่อเหอะเด็กมันก็จะไว้ยาวกว่าที่ระเบียบกำหมดขึ้นไปอีก...การให้ไว้ผมสั้นก็ถือว่าเป็นการฝึกการมีระบบมีระเบียบในตัว...แล้วคุณๆพวกปัญญานิ่มที่นักอยู่แต่โต๊ะแล้วคิดโน่นคิดนี่ออกมา...ผมว่าเอาหัวคุณนั่นแหละจุ่มลงไปในโอ่งน้ำสัก ๑๐ นาที เผื่อจะคิดอะไรขึ้นมาแบบดีดีได้...
บันทึกการเข้า

จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา
vichai01++รักในหลวง++
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 110
ออฟไลน์

กระทู้: 2775



« ตอบ #3 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 10:13:40 AM »

 Angry Angry  อีกหน่อยคงให้สมัครเรียนแล้วแจกวุฒิการศึกษาเลยครับ ไม่ต้องเรียนมันแล้ว
บันทึกการเข้า

คาถาป้องกันภัยพิบัติทั้งปวง
ปะโตเมตัง ปะระชิวินัง สุขะโต จุติ
จิตะเมตะ นิพพานัง สุขะโตจุติ
2..U
Hero Member
*****

คะแนน 2094
ออฟไลน์

กระทู้: 15978


Chumpai Club..


« ตอบ #4 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 10:19:23 AM »

เรื่องอื่นๆมีให้คิดและปรับปรุงในระบบการศึกษามีเยอะแยะไม่รู้จักคิดทำ..ไอ้เรื่องห่วยๆสากกระบวยแบบนี้คิดได้กันจัง..
บันทึกการเข้า

The best way to predict the future is to invent it.
สหายแป๋ง คนดง
ถึงตัวเจ้าจะจากไปแต่ชื่อและความดีของเจ้าจะอยู่ในใจพี่เสมอ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2284
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 53136


ป่าสร้างคนแต่คนกลับสร้างป่า ด้วยลมปาก


« ตอบ #5 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 10:23:58 AM »

  โรงเรียนกวดวิชาผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด  สงสัยพวกสมองขี้เป็ดจะได้เงินจากโรงเรียนพวกนี้เยอะ  เลยส่งเสริมให้เด็กไทยโง่ๆเข้าไว้ คิก คิก
บันทึกการเข้า

รักชาติ  ศาสน์  กษัตริย์ 
ยืนหยัดในความเป็นไทย


  เกิดเป็นเซื้อซาดแฮ้ง  อย่าเหม็นสาบกุยกัน.......
  ข้าราษฎรประจำไทยควรคำนึง
http://www.youtube.com/watch?v=gM1D0xIwLVo
ต้นคระกูลไทย
http://www.youtube.com/watch?v=
bigbang
จงใช้สติก่อนใช้ปืน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1018
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6603


รูปจากเวปผู้จัดการครับ


« ตอบ #6 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 10:28:38 AM »

นโยบายต้องการให้ไทยเป็นแหล่งแรงงานราคาถูก ป้อนสู่อาเซี่ยนในอนาคต  ขำก๊าก
ขอใช้คำพูดที่ยอดฮิตหน่อย  คิก คิก
บันทึกการเข้า

อเสวนา จะ พาลานัง
mrt
Full Member
***

คะแนน 62
ออฟไลน์

กระทู้: 459


« ตอบ #7 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 10:32:38 AM »

พวกนักวิชาการที่นั่งบนหอคอยงาช้าง ดูงานที่ต่างประเทศแล้วกลัวไม่มีผลงานเสนอกันออกมา
สารพัดครับ เจอมาเยอะมากๆ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา คนปฏิบัติเวียนหัว  ปีนี้ให้ทำอย่างนี้ ปีหน้าไม่เอาแล้ว  ทำแบบใหม่ หัวเราะร่าน้ำตาริน
นโยบายนี้น่าจะดีกับเด็กที่เรียนพิเศษกระมังครับ  เอาเวลาไปเรียนพิเศษเยอะๆ  โรงเรียนกวดวิชารับทรัพย์กันไป หัวเราะร่าน้ำตาริน
อยากรู้นักพวกที่ทำงาน สพฐ. นี่มีสักกี่คนที่เคยลงมาสอน มาเจอสถานที่จริง มาคลุกคลีกับเด็กๆจริงๆจังๆ
นี่ก็คงไปเห็นที่ใหนมา จึงนำมาปรับเปลี่ยน(คิดได้นะ ลดการบ้าน) คงเห็นเด็กฝรั่ง การบ้านน้อยกว่าเด็กไทย เอาเวลาไปทำกิจกรรมตามความถนัด
ลืมนึกไปละกระมังครับ ว่า ประเทศเรามันมีสิ่งจำเป็นรองรับหรือไม่ เช่น
เด็กชอบกีฬาก็ไปซ้อมกีฬา แต่ในโรงเรียนอุปกรณ์กีฬายังไม่ค่อยจะมี แถมในประเทศเรา กีฬาอาชีพยังไม่ได้รับการสนับสนุนที่เพียงพอ เก่งกีฬาก็ใช่ว่าจะรุ่ง
(นักฟุตบอลประจำ จว. เลิกเล่นแล้วทั้งๆที่เก่งมาก อายุยังน้อย บอกได้คิดแล้ว เอาเวลาไปขายหมูตลาดนัดดีกว่า)
เด็กชอบเต้น B-Boy สถานที่ซ้อมก็ไม่มี(เต้นกันตามลานปูน พักเดียวเลือด) เคยถามแล้วเด็กๆอยากได้พื้นปาเก้ ถามว่ามีสักกี่ที่ ที่มีสิ่งนี้รองรับ
ฯลฯ
ที่กล่าวนี่คือผมไม่ได้คิดเองเออเองนะครับ ถามเด็กๆมากับตัว ขาดสิ่งจำเป็นในการสนับสนุนเด็กๆ แถมโรงเรียนเป็น รร. ประจำ จว. เสียด้วย รร.พวกขยายโอกาสยิ่งไม่ต้องคิด
ปล.ผมคิดเองตามประสาคนไม่เคยไปดูงานเมืองนอกเมืองนา แต่คลุกคลีกับเด็กจริงๆ  ไหว้  ไหว้

 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 30, 2013, 10:55:26 AM โดย mrt » บันทึกการเข้า
แปจีหล่อ
Hero Member
*****

คะแนน 6324
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8251



« ตอบ #8 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 10:35:44 AM »

เวรกรรม
บันทึกการเข้า

สีกากีเป็นสีของดิน ข้าราชการควรต้องติดดิน ออกพื้นที่รับฟังปัญหาของชาวบ้าน ข้าราชการคือ ข้าที่ทำกิจการต่างๆให้กับพระราชา เครื่องแบบข้าราชการสีกากีคือสีแห่งข้ารับใช้แผ่นดิน
Pandanus
Hero Member
*****

คะแนน 6378
ออฟไลน์

กระทู้: 40175


เรื่องบังเอิญไม่มีจริง


« ตอบ #9 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 10:38:12 AM »

เล่าให้ฟังสักเรื่อง เรื่องนี้เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนช่วงหลังปีใหม่นี่เอง

.......

โรงเรียนขยายโอกาส(ป.1 - ม.3)แห่งหนึ่งในภาคใต้ ร่วมกับโรงเรียนประเภทเดียวกันในอำเภอจำนวน 3 โรง

นำนักเรียน ม.1 ไปเข้าค่ายลูกเสือ-เนตรนารีที่ภาคกลาง เป็นเวลา 3 วัน โดยทำกิจกรรมร่วมกันเสมือนโรงเรียนเดียวกัน

....วันที่ 2 ช่วงหัวค่ำก็เกิดเรื่อง  นักเรียนชาย 2 คน หญิง 2 คน หายออกจากบริเวณค่ายช่วงหัวค่ำ ทั้งค่ายปั่นป่วนไปหมด

ก่อนสว่าง นักเรียนทั้งสี่คนก็ปรากฏอยู่ในเต๊นท์นอนของตัวเอง ทำเป็นหลับ....มุกเดียวกันทั้งสี่คน

หาเจอแล้วก็โล่งใจ คาดโทษไว้ กลับมาค่อยว่ากัน

...........

คืนเดียวกัน ตอนรุ่งเช้า ครูเข้าตรวจเต๊นท์ก็เจอดีอีกเรื่อง นักเรียนชาย 4 คน กำลังเสพยาบ้ากัน

คนหนึ่งจุดไฟรนให้อีกคนสูดควัน ส่วนอีกสองคนกำลังรอคิว.....

....ในภาวะเช่นนั้น สิ่งที่ครูทำได้คือ ระงับเหตุการณ์ ยึดทุกอย่าง แล้วคาดโทษไว้ไม่ให้หนักแน่นนัก เพราะกลัวเด็กหนีเตลิด

...................  แล้วก็เลิกค่าย กลับบ้าน

มาถึงโรงเรียน นักเรียนทั้งแปดคน สองคดี ถูกเรียกเข้าพบ ผอ. ,รอง ผอ. ,ครูปกครอง ,ครูคนอื่น ๆ อีก 2 - 3 ท่าน โดยแยกเป็นสองกลุ่ม สองคดี

คดีแรก หนีออกจากค่าย....เด็กตอบแบบไม่สะทกสะท้านเลย ว่า ไปมีเพศสัมพันธ์กัน... ตั้งแต่หัวค่ำจนถึงใกล้รุ่ง ในป่าละเมาะใกล้ ๆ ค่าย

มีสองข้อความของเด็กหญิงวัย 13 - 14 ปี ที่ลอยหน้าลอยตาำให้การ ทำให้ครูถึงกับอึ้ง พูดไม่ออก

คำแรก  "...ก็บรรยากาศมันพาไป หนูห้ามใจไม่ไหวจริง ๆ ค่ะ..."

กับอีกคำ "...ถ้าครูจะไล่หนูออกเพราะไปเย..กับผู้ชาย ครูได้ไล่ออกหมดทั้งห้องแน่ ...."



.............นั่นคดีแรก


อีกคดี..........ยาบ้า ตอนพวกที่ถูกคาดโทษยังไม่ได้เข้าพบครู อีกสองคนที่เป็นเพื่อนกัน กลับจากค่าย ลงรถเหมา ไม่ทันถึงบ้านก็ถูกตำรวจจับขณะกำลังซื้อยาบ้า

กำนันรับตัวไว้ทั้งสองคน พามาที่โรงเรียน เด็กรับสารภาพสิ้น ว่ามีกี่คนที่ยังไม่มีใครรู้ว่าเสพยา

ผอ.และครู ได้อึ้งกันรอบสอง  เพราะรายชื่อที่เด็กว่ามา มันแทบจะทั้งห้อง

ตำรวจและกำนัน เจรจากับผู้บริหาร ขอให้เรียกผู้ปกครองมาร่วมรับรู้ในขณะที่ขอตรวจฉี่แบบปูพรมทั้งโรงเรียน

ผู้บริหารตกลง แต่ขอให้เป็นช่วงหลังการประเมิน สมศ.ผ่านไปก่อน เพราะหากมีรายงานนักเรียนเสพยาปรากฏขึ้น อย่าหวังผลประเมินผ่านเลย....

................

ผมถามในฐานะเคยเป็นนักเรียน ในฐานะเคยเป็นครู ในฐานะเป็นผู้ปกครอง ถามทุกท่านว่า อยากให้ลูกเราเป็นแบบนั้นหรือ

เมื่อก่อน ยุคไม้เรียวเฟื่องฟู ยุคครูมีอำนาจเต็ม นักเรียนเคยเป็นแบบนั้นหรือเปล่า

แล้วเกิดอะไรขึ้น....หรือเป็นเพราะนังเรยา นังมุตตา........... มันก็โทษโน่นโทษนี่ไปได้เรื่อยแหละ แล้วแต่หันไปเห็นอะไรหรือนึกอะไรได้


ถามซ้ำอีกครั้ง  หากครูยังมีอำนาจเต็มอย่างแต่ก่อน  มีไม้เรียวที่เป็นการลงโทษที่เข้าใจง่าย ๆ เจ็บทันที เจ็บเดี๋ยวนั้นเลย ไม่ต้องรอปลายเทอม

เด็กจะเห็นความเจ็บจากการถูกหวด ไม่คุ้มกับความมันส์ในการแอบซั่มกัน...

เด็กจะเห็นความเจ็บจากการถูกหวด ไม่คุ้มกับความเปรมจากการสูบม้า ไม่คุ้มกับการยอมรับจากกลุ่มเพื่อน...

ผู้ปกครองก็เหมือนกัน ความจำสั้น...ลูกเจ็บจากการโดนครูหวดมา จะเป็นจะตาย ต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ลูกกูเลี้ยงมาไม่เคยตีสักเผียะ แล้วมึงเป็นใคร...

แล้วพอลูกสาวไปซั่มกับผู้ชาย ถูกถ่ายคลิบแอบดูกันในหมู่เพื่อนจนพี่ชายมันได้คลิปไป เอาไปให้แม่ดู....ร้องสิ ร้องเข้าไป ร้องให้พรหมจารีลูกสาวกลับมา

แล้วพอลูกกลับมาก็ด่าลูกไม่มีชิ้นดี พอลูกเถียงก็คว้าไม้กวาดมาหวดเอาจนไม้กวาดด้ามหัก....ไหนว่าไม่ตี..  จนสุดท้ายลูกมันก็หนีไปค้างหอพักเพื่อน

ไม่กล้ากลับบ้านแต่เงินหมดแล้ว ทำไงดีล่ะ โรงเรียนก็ไปไม่ได้ เดี๋ยวแม่ดักรออยู่ เดี๋ยวครูคอยสมน้ำหน้า ป่านนี้คลิบนั่นคงแพร่ไปทั่วแล้ว....

..........ฉากนี้แหละ...... จะเป็นศพหรือเป็นโสเภณีก็ฉากนี้แหละ.....
บันทึกการเข้า
Pandanus
Hero Member
*****

คะแนน 6378
ออฟไลน์

กระทู้: 40175


เรื่องบังเอิญไม่มีจริง


« ตอบ #10 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 10:48:19 AM »

ยุคที่ผู้ปกครองต้องปากกัดตีนถีบไม่มีเวลาว่าง เพื่อหาเงินมาผ่อนรถคันแรกที่ดาวน์มาตามนโยบายรัฐ

การบ้าน เป็นสิ่งเดียวที่บังคับผู้ปกครองให้หันมาหาลูก มาสุมหัวกันในครอบครัว เพื่อรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนผ่านการบอกเล่าของลูก

หากไม่มีการบ้าน พ่อแม่ก็ทำโอที. หรือหอบงานมาหมกมุ่นต่อที่บ้านได้เต็มที่ ลูกก็ปล่อยให้โทรทัศน์กับเฟสบุ๊กเลี้ยงดูอบรมไป
บันทึกการเข้า
mrt
Full Member
***

คะแนน 62
ออฟไลน์

กระทู้: 459


« ตอบ #11 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 11:16:11 AM »

เห็นด้วยกับความเห็นคุณ   Pandanus ครับ
เมื่อก่อนตอนเป็นเด็กก็อยากให้ยกเลิกการตี
พอโตมาจึงรู้ว่าการตีนั้นมีเหตุผล และเป็นเครื่องมือหนึ่งในการควบคุมคน
เด็กๆส่วนมากรู้จัก ผิด-ถูก แต่ไม่รู้ว่ามีความสำคัญอย่างไร
(เช่นการมาโรงเรียนสายผิด แต่ไม่รู้ว่านี่คือการบ่มเพาะนิสัยการตรงต่อเวลา หากไปทำงานบริษัทสายแค่เพียง 1 นาทีทำให้อดได้เบี้ยขยัน พิจารณาโบนัส ฯลฯ)
พอมีการลงโทษให้เจ็บ จะได้เข็ดหลาบ ก็โดนยกเลิก พอเด็กไม่โดนตีก็มาสายกันเป็นกิจวัฒน์ ปลายเทอมไปเข้าค่าย 3 - 5 วัน สบายไปไม่ต้องมาเข้าแถวทั้งเทอม
(นานกว่านี้ไม่ได้เดี๋ยวปัญหาตามมาอีก)
พอมีการประเมินสถานศึกษา ให้เด็กไม่จบก็ไม่ได้ ทั้งๆที่เขาไม่ยอมส่งงาน ลงโทษก็ไม่ได้ พอไม่เซ็นผ่านในวิชานั้น ก็ให้คนอื่นเซ็นแทน เพราะเดี๋ยวประเมินไม่ผ่านด้านผลสัมฤทธิ์
นักวิชาการด้านการศึกษานี่ อยากรู้จริงๆ มีกี่คนที่เคยสัมผัสการสอน การยืนหน้าประตู รร.ดูการแต่งกายเด็ก การเดินตรวจแถว การไล่จับเด็กตามร้านเกมส์ หรืองานอื่นๆที่ครูธรรมดาๆ เขาทำกัน
เห็นนี่แว่วๆมาว่าจะให้เด็กประเมินครู  อ้าว !! แล้วทีนี้ครูฝ่ายปกครอง จะทำยังใงกันดีล่ะครับ
บันทึกการเข้า
ทิดเป้า
Hero Member
*****

คะแนน -1181
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11916



« ตอบ #12 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 11:22:52 AM »

 ไหว้+1 ทุกท่านครับ
บันทึกการเข้า

นายกระจง
Cement For Life.....
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2938
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 31460


ช่างมันเถอะ


« ตอบ #13 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 11:35:39 AM »

งั้นมาสอนเองเลยมา....สาระแนจังเลยพวกไม่มีหน้าที่สอนแต่มีอำนาจเนี่ย

ทุกวันนี้ ครูก็ถูกลดบทบาทจนเหลือแค่คนรับจ้างสอนหนังสืออยู่แล้ว  

กี่เรื่อง กี่ครั้งมาแล้ว ที่หน่วยงานเบื้องบน ลดทอนความเป็นครู  ขัดใจตั้งแต่ไม่ให้ใช้ไม้เรียวแล้วแหละ

ครูถือไม้เรียว ไม่ได้หมายความว่า..ต้องตี  แต่มีไว้เพื่อป้องปรามพวกนอกลู่นอกทาง ว่า ถ้าเธอยังไม่กลับเข้าลู่ เธอจะถูกตี และครูตีได้....

แต่ถ้าเห็น ๆ อยู่ ว่า ครูเห็นแล้ว แต่ตีไม่ได้ นักเรียนนอกลู่คนไหนมันจะกลัว



....หมาใส่ตะกร้อครอบปาก เห่าให้ตายใคร ๆ ก็ไม่กลัวหรอก....



ไม่แรงไปหรอก เปรียบเทียบยังงี้ เพราะทุกวันนี้ ครูก็มีสถานะลดทอนลงทุกวัน


เห็นด้วยครับ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นคนต้องอดทน ไม่อดทนก็อดตาย
 
สีอำพัน-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 258
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4432



« ตอบ #14 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 11:42:43 AM »

การบ้านก็เหมือนกับการฝึกทักษะ ฝึกกระบวนการคิด ฝึกทบทวน สิ่งที่ได้เรียนมาแล้ว...
...ไม่มีการบ้าน ลดการบ้าน ก็เหมือนกับลดการฝึกฝน...
...มันเอาอะไรคิด..มีหัวไว้ตัดผมอย่างเดียวละมั้ง
บันทึกการเข้า

อันวันใดไม่สำคัญเท่าวันนี้ เป็นวันที่สำคัญกว่าวันไหน
อันวันนี้สำคัญกว่าวันใด  วันไหนไหนไม่สำคัญเท่าวันนี้
หน้า: [1] 2 3 4 ... 8
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.094 วินาที กับ 22 คำสั่ง