เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 30, 2024, 01:25:09 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 ... 8
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เห็นด้วยไหมครับ >> สพฐ.สั่งครู ลดการบ้าน  (อ่าน 8523 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Pandanus
Hero Member
*****

คะแนน 6378
ออฟไลน์

กระทู้: 40175


เรื่องบังเอิญไม่มีจริง


« ตอบ #30 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 02:43:45 PM »

ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้อาจจะเป็น  การหวังผลยิงในระยะไกล

ผมคิดครับ แต่ไม่กล้าพูด  หลาย ๆ อย่างมันทำให้คิดยังงั้น

ตอนนั้น ผมว่า เราคงอยู่(ถ้ายังอยู่)วัยปลาย ๆ เข้าขวางอะไรไม่ได้แล้วมังครับ



บันทึกการเข้า
Double Tap^
เขาเรียกผมว่า....Hot Shot !
Full Member
***

คะแนน 13
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 171


การลั่นไก เป็นเพียงจุดเริ่มต้น เสมอ


« ตอบ #31 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 02:48:46 PM »

เอาเข้าไป   ..........  เฮ้อ  ยังไม่พอไช่ไหม
สพฐ.   ต่อไป นักเรียน มัธยมคง มีรากงอกตามก้นเลยมั้ง
ผมยาวก็ทีนึงละ  ห้ามตีก็แล้ว   ลดการบ้านอีก  ตาย
เอาเข้าไป  .............  แค่นี้นักเรียน ก็สบายเหลือทนแล้ว
  เซง    ถ้าโรงเรียนใดก้ารบ้านเยอะก็ลดหน่อยนะครับ
สนองนโยบายเค้าหน่อย  เดี๋ยว อีกสัก 2-3 ปี ก็ คงใส่ชุดอะไรมาเรียนก็ได้
ตามนักศึกษามหาลัย   ตามแบบนักร้องเลยมั้งนี่  เซง  ครับ
  สงสัยลูกท่าน....ไม่อยากตัดผม
  สงสัยลูกท่าน.....ไม่อยากทำการบ้าน
  สงสัยลูกท่าน......HuhHuhHuhHuhHuhHuh?
บันทึกการเข้า

มิว่าเป็นอาวุธลับที่ร้ายกาจเพียงใด อย่างมากก็ซัดใส่ร่างท่านให้เป็นรู เป็นโพรงไม่กี่แผล แต่น้ำตาของสตรี กลับสามารถราดรดหัวใจท่านจนแหลกลาญ
พญาจงอาง +รักในหลวง+
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1870
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10363



« ตอบ #32 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 02:50:24 PM »

ขออนุญาตตัดแปะ Grin
บันทึกการเข้า

..The only thing neccessary for the triump of evil is for the good man to do nothing..
"สิ่งเดียวที่ทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ คือการที่คนดีๆนิ่งดูดาย "
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #33 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 02:58:20 PM »

ไม่มีใครเพิ่มศักยภาพการศึกษา และัลดศักยภาพทางการศึกษาได้
นอกจากคนในกระทรวงศึกษา..... และนักการเมือง...

นักเขียนรุ่นเก่า ไม่แน่ใจว่า นิมิตร ภูมิถาวร, มาลา คำจันทร์ หรือใครสักคน
เคยยัดไดอะล็อคแรงๆ ผ่านปากของตัวเอกในนิยายเรื่องหนึ่ง ที่เคยลงตีพิมพ์ใน
นิตยสารมิตรครูไว้ว่า "นักการเมืองต้องการให้ประชาชนโง่ จะได้ปกครองง่าย...."

(ขออภัย เรื่องมันนานมาแล้ว จำผู้เขียนได้ไม่แม่น)
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7665
ออฟไลน์

กระทู้: 9988



« ตอบ #34 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 03:35:42 PM »

สั่งทีละ 30-50 ข้อ เป็นต้น

สมัยมัธยมผมทำทีละ 1 แบบฝึกหัดของบทนั้นที่เรียนวันนั้นก็เป็นสิบสิบข้อแหละบางบทมี 60 ก็เป็นเรื่องปกติ ผลคือจบแล้วไม่ต้องไปกวดวิชาเหมือนใครทบทวนเล็กน้อยเองสอบเข้าสถาบันแห่งหนึ่งได้ลำดับที่ 97 เองจากจำนวนที่รับห้าร้อยในสาขานั้น
การเรียนโดยเฉพาะคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ถ้าไม่ทำการบ้านต่อเนื่องและมากพอก็จะไม่ชำนาญในการแก้โจทย์มันจะผูกพันถึงอนาคตเลยนะปัญหามีไว้แก้ถ้าไม่เคยแก้เยอะๆจะทำงานได้อย่างไร
บันทึกการเข้า
kok ksn
Full Member
***

คะแนน 54
ออฟไลน์

กระทู้: 436


« ตอบ #35 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 04:00:30 PM »

ไม่มีใครเพิ่มศักยภาพการศึกษา และัลดศักยภาพทางการศึกษาได้
นอกจากคนในกระทรวงศึกษา..... และนักการเมือง...

นักเขียนรุ่นเก่า ไม่แน่ใจว่า นิมิตร ภูมิถาวร, มาลา คำจันทร์ หรือใครสักคน
เคยยัดไดอะล็อคแรงๆ ผ่านปากของตัวเอกในนิยายเรื่องหนึ่ง ที่เคยลงตีพิมพ์ใน
นิตยสารมิตรครูไว้ว่า "นักการเมืองต้องการให้ประชาชนโง่ จะได้ปกครองง่าย...."

(ขออภัย เรื่องมันนานมาแล้ว จำผู้เขียนได้ไม่แม่น)
มันเรื่องจริง
บันทึกการเข้า
Pong CB1300sf-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 342
ออฟไลน์

กระทู้: 2075


« ตอบ #36 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 04:08:58 PM »

แม่งทำแต่ละอย่าง  เหนื่อยใจ  ยี๊ ยี๊

เมื่อไหร่มันจะหมด บุญ ซักที 

ทำแบบนี้เหมื่อนต้องการให้เด็กมันโง่ การบ้านมีให้ทำเพื่อให้ใส่ใจในงานที่ได้รับมอบหมายมา

อนาคต เด็กรุ่นใหม่ของไทย คงเหมื่อนกัมพูชา ที่ นักการเมื่องต้องการให้ มีความรู้น้อย สะดวกในการปกครอง ยี๊
บันทึกการเข้า
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #37 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 04:37:24 PM »

เอาล่ะโว้ย...ประเทศไทย
ต่อไปนี้ครูจะต้องกลัวนักเรียน จะสั่งการบ้านต้องถามเด็กก่อนว่ามากไปไหม อะไรดีๆอย่างนี้ คิดได้....เจริญล่ะประเทศชาติ  Undecided
บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
พรานบุญ หลงกรุง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2884
ออฟไลน์

กระทู้: 7243



« ตอบ #38 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 06:02:01 PM »

เจ้าของ Project กำลังหัวเราะในใจว่า ............ คนไทยนี่โง่จังนิ
         ศาสนา  กำลังดำเดินการใกล้จะแล้วเสร็จ  เป็นไปตามแผนงาน
         การศึกษา อยู่ระหว่างประชาสัมพันธ์ เริ่มงานเต็ม 100% ทั่วประเทศ  พค.2556    
         .........?       ทำสำเร็จก็กลับมาเลยครับท่าน (อีทีนี้ละก็วิ่งกันน้ำบาน ตัวใคร ตัวมัน)      
บันทึกการเข้า

naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #39 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 06:04:48 PM »

เจ้าของ Project กำลังหัวเราะในใจว่า ............ คนไทยนี่โง่จังนิ
         ศาสนา  กำลังดำเดินการใกล้จะแล้วเสร็จ  เป็นไปตามแผนงาน
         การศึกษา อยู่ระหว่างประชาสัมพันธ์ เริ่มงานเต็ม 100% ทั่วประเทศ  พค.2556     
          .........?      ทำสำเร็จก็กลับมาเลยครับท่าน (อีทีนี้ละก็วิ่งกันน้ำบาน ตัวใคร ตัวมัน)       


ก็"เสียงส่วนใหญ่"ไงครับ คุณลุงพรานฯ... แฮ่ๆ...
บันทึกการเข้า
Zeus-รักในหลวง
อะฮู้.....ไฮยีน่าก็เป็นแมวนะคราบบบ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 817
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10983


I'm going to make him an offer that he can't refus


« ตอบ #40 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 06:54:06 PM »

สั่งทีละ 30-50 ข้อ เป็นต้น

สมัยมัธยมผมทำทีละ 1 แบบฝึกหัดของบทนั้นที่เรียนวันนั้นก็เป็นสิบสิบข้อแหละบางบทมี 60 ก็เป็นเรื่องปกติ ผลคือจบแล้วไม่ต้องไปกวดวิชาเหมือนใครทบทวนเล็กน้อยเองสอบเข้าสถาบันแห่งหนึ่งได้ลำดับที่ 97 เองจากจำนวนที่รับห้าร้อยในสาขานั้น
การเรียนโดยเฉพาะคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ถ้าไม่ทำการบ้านต่อเนื่องและมากพอก็จะไม่ชำนาญในการแก้โจทย์มันจะผูกพันถึงอนาคตเลยนะปัญหามีไว้แก้ถ้าไม่เคยแก้เยอะๆจะทำงานได้อย่างไร
ไม่เถียงครับเรื่องทำแบบฝึกหัดแยะ ๆ แล้วจะมีความชำนาญในการแก้โจทย์ โดยเฉพาะวิชาคณิตฯ เพราะผมเองก็เคยต้องนั่งทำแบบฝึกหัดคณิตฯ + อ่านระเบียบกฎหมาย วันละ 8 ชม.ติดต่อกันประมาณ 3 เดือนครับ ถึงสอบเข้าราชการได้ แต่ปัญหาที่ผมพบเจอส่วนใหญ่ คือเป็นปัญหาที่ผู้สอน แต่ผมจะไม่กล่าวลึกลงในรายละเอียดมากนะครับ เพราะอาจเป็นการเขียนโดยมีอคติส่วนตัว ด้วยสมัยเรียนผมเกเร + เรียนกวดวิชามาตั้งแต่ ม.1 อาทิตย์ละ 7 วัน  + ลาออกจากโรงเรียนเพราะทะเลาะกับอาจารย์เรื่องการไว้ผมที่ผมทำตามระเบียบแต่อาจารย์มีความต้องการส่วนตัวให้ผมตัดผมทรงนักเรียน +เคยรับจ้างผู้สอนทำแบบประเมินทั่งเล่มเพื่อให้ได้คำว่าชำนาญการพิเศษต่อท้ายตำแหน่ง + ฟังปัญหาจากบรรดาผู้ปกครอง ฯลฯ ปัจจุบันเรื่องวิทยะฐานะของผู้สอนเป็นเรื่องที่ผู้สอนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญมากกว่าการให้ความสำคัญกับเด็กนักเรียน นอกจากนี้ยังมีเรื่องการเปิดกวดวิชาตอนเย็น ฯลฯ ปัญหาเหล่านี้มันเริ่มมาจากยุคผมเป็นนักเรียนคือการเรียนกวดวิชา และพัฒนามาเรื่อยจนมาด้วยปัจจัยต่าง ๆ อาทิการเปลี่ยนแปลงระบบเข้ามหาวิทยาลัย เป็นต้นจนถึงปัจจุบันครับ...... คำว่า "ครู" นับวันยิ่งหาคนที่จะเหมาะสมกับคำ ๆ นี้ยากขึ้นทุกวัน ๆ ครับเพราะปัจจุบันผมเห็นแต่ผู้สอนวิชา ปฏิบัติหน้าที่ครู กันเกลื่อน ไหว้
บันทึกการเข้า

“A fear of weapons is a sign of retarded sexual and
emotional maturity.”
- Sigmund Freud

“ความกลัวอาวุธคือสัญญาณของความถดถอยทางเพศและวุฒิภาวะทางอารมณ์”
- ซิกมุนด์ ฟรอยด์
cwattapol
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 13
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 114


« ตอบ #41 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 07:15:43 PM »

สั่งทีละ 30-50 ข้อ เป็นต้น

สมัยมัธยมผมทำทีละ 1 แบบฝึกหัดของบทนั้นที่เรียนวันนั้นก็เป็นสิบสิบข้อแหละบางบทมี 60 ก็เป็นเรื่องปกติ ผลคือจบแล้วไม่ต้องไปกวดวิชาเหมือนใครทบทวนเล็กน้อยเองสอบเข้าสถาบันแห่งหนึ่งได้ลำดับที่ 97 เองจากจำนวนที่รับห้าร้อยในสาขานั้น
การเรียนโดยเฉพาะคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ถ้าไม่ทำการบ้านต่อเนื่องและมากพอก็จะไม่ชำนาญในการแก้โจทย์มันจะผูกพันถึงอนาคตเลยนะปัญหามีไว้แก้ถ้าไม่เคยแก้เยอะๆจะทำงานได้อย่างไร
ไม่เถียงครับเรื่องทำแบบฝึกหัดแยะ ๆ แล้วจะมีความชำนาญในการแก้โจทย์ โดยเฉพาะวิชาคณิตฯ เพราะผมเองก็เคยต้องนั่งทำแบบฝึกหัดคณิตฯ + อ่านระเบียบกฎหมาย วันละ 8 ชม.ติดต่อกันประมาณ 3 เดือนครับ ถึงสอบเข้าราชการได้ แต่ปัญหาที่ผมพบเจอส่วนใหญ่ คือเป็นปัญหาที่ผู้สอน แต่ผมจะไม่กล่าวลึกลงในรายละเอียดมากนะครับ เพราะอาจเป็นการเขียนโดยมีอคติส่วนตัว ด้วยสมัยเรียนผมเกเร + เรียนกวดวิชามาตั้งแต่ ม.1 อาทิตย์ละ 7 วัน  + ลาออกจากโรงเรียนเพราะทะเลาะกับอาจารย์เรื่องการไว้ผมที่ผมทำตามระเบียบแต่อาจารย์มีความต้องการส่วนตัวให้ผมตัดผมทรงนักเรียน +เคยรับจ้างผู้สอนทำแบบประเมินทั่งเล่มเพื่อให้ได้คำว่าชำนาญการพิเศษต่อท้ายตำแหน่ง + ฟังปัญหาจากบรรดาผู้ปกครอง ฯลฯ ปัจจุบันเรื่องวิทยะฐานะของผู้สอนเป็นเรื่องที่ผู้สอนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญมากกว่าการให้ความสำคัญกับเด็กนักเรียน นอกจากนี้ยังมีเรื่องการเปิดกวดวิชาตอนเย็น ฯลฯ ปัญหาเหล่านี้มันเริ่มมาจากยุคผมเป็นนักเรียนคือการเรียนกวดวิชา และพัฒนามาเรื่อยจนมาด้วยปัจจัยต่าง ๆ อาทิการเปลี่ยนแปลงระบบเข้ามหาวิทยาลัย เป็นต้นจนถึงปัจจุบันครับ...... คำว่า "ครู" นับวันยิ่งหาคนที่จะเหมาะสมกับคำ ๆ นี้ยากขึ้นทุกวัน ๆ ครับเพราะปัจจุบันผมเห็นแต่ผู้สอนวิชา ปฏิบัติหน้าที่ครู กันเกลื่อน ไหว้
โลกเปลี่ยนไป ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป แต่ครูก็ยังมีอยู่นะครับ ไม่น้อยด้วย
แต่เราจะเห็นผู้สอนวิชา หรือผู้ปฏิบัติหน้าที่ครูชัดกว่า เพราะนำเสนอได้ดีกว่า
เห็นด้วยให้ลดการบ้านเฉพาะที่ถมแต่การบ้าน กับรายงานที่สั่งให้เด็กไปค้นในเน็ต
แล้วปริ้นท์มาส่ง แล้วบอกว่าแค่ 2-3 ชั่วโมงก็เสร็จแล้ว
 (ที่ให้พอเหมาะพอควรก็มีอยู่ ไม่ควรต้องลด)
เด็กเรียนวันละ 4-5 วิชา ก็ 10-15 ชั่วโมง
แต่ในชั่วโมงไม่ค่อยสอน บ่นบ้าง เฉลยการบ้านบ้าง คุยโม้บ้าง
ใครทักท้วง ก็บอกสมัยนี้ Child Center เด็กต้องค้นคว้าเอง
ใช่ครับ แต่ต้องมีครูคัดท้าย ไม่ใช่ไปเปะปะไร้หางเสือ
แบบที่ผู้สอนบางรายทำอยู่

ต้องกราบขอโทษครูบาอาจารย์ทุกท่าน
ทั้งที่ได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ให้กับผม
และทั้งที่ได้ประสิทธิ์ประสาทวิชา ให้กับกุลบุตรกุลธิดาในปัจจุบัน
หากบางคำล่วงเกินโดยไม่ได้ตั้งใจครับ
บันทึกการเข้า
อดิศักดิ์--รักในหลวง--
เวลากับการเรียนรู้
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 463
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3606


เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์


« ตอบ #42 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 08:12:28 PM »

ที่ทั่น ๆ ทั้งหลายมีอำนาจวาสนาได้ตำแหน่งสูง ๆ ในกระทรวงฯทุกวันนี้   ตอนเด็ก ๆ ทั่นๆ ก็ทำการบ้านจนมือหงิกจนเกิดความชำนาญ ฝังจิตฝังใจไม่ใช่หรือ     และทั่น ๆ ทั้งหลายก็ไม่ได้จบหลักสูตรมั่ว ๆ ที่เรียกโก้ ๆ ว่าบูรณาการไม่ใช่หรือ    ไอ้ที่สอบ โอเน็ท โอแนท  อะไรนั่นน่ะ  แล้วมาประเมินว่าเด็กมีความรู้ความสามารถต่ำลง  ครูไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ... ป.6 จะสอบต้นเดือน ก.พ.นี้แล้ว  เด็กมีเวลาเรียนพอหรือยัง ... แต่ละวิชาจบหรือยัง... ผ่านตัวชี้วัดทุกตัวหรือยัง  ตัวชี้วัดเยอะ  งานที่เด็กต้องทำก็ต้องเยอะตามไปด้วย   ไม่ให้งานเด็กแล้วจะประเมินตัวชี้วัดอย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างไร  เด็กเครียดเพราะครู   ครูเครียดเพราะหลักสูตรกำหนด... จะแก้ที่ใคร ... เพื่อนผมมันบ่นให้ฟัง  Undecided
บันทึกการเข้า

"ล้างบางจัญไรแผ่นดิน"
SillyOldMan
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1984
ออฟไลน์

กระทู้: 7567


ผ่านทะเล เห็นบึงน้ำไร้ความหมาย


« ตอบ #43 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 08:34:50 PM »

ไม่เห็นด้วยครับ ไม่มีหัวคิด งั่ง

เอาสมองเน่าๆไปปรับปรุงเนื้อหา/หลักสูตรที่เด็กต้องเรียนให้มันเข้าท่าดีกว่า จนป่านนี้เด็กยังต้องมานั่งท่องเรื่องที่"จะให้ท่องไปทำซากอะไรมิทราบ"อยู่เลย


พวกนักวิชาการที่นั่งบนหอคอยงาช้าง ดูงานที่ต่างประเทศแล้วกลัวไม่มีผลงานเสนอกันออกมา
สารพัดครับ เจอมาเยอะมากๆ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา คนปฏิบัติเวียนหัว  ปีนี้ให้ทำอย่างนี้ ปีหน้าไม่เอาแล้ว  ทำแบบใหม่ หัวเราะร่าน้ำตาริน
นโยบายนี้น่าจะดีกับเด็กที่เรียนพิเศษกระมังครับ  เอาเวลาไปเรียนพิเศษเยอะๆ  โรงเรียนกวดวิชารับทรัพย์กันไป หัวเราะร่าน้ำตาริน
อยากรู้นักพวกที่ทำงาน สพฐ. นี่มีสักกี่คนที่เคยลงมาสอน มาเจอสถานที่จริง มาคลุกคลีกับเด็กๆจริงๆจังๆ
นี่ก็คงไปเห็นที่ใหนมา จึงนำมาปรับเปลี่ยน(คิดได้นะ ลดการบ้าน) คงเห็นเด็กฝรั่ง การบ้านน้อยกว่าเด็กไทย เอาเวลาไปทำกิจกรรมตามความถนัด
ลืมนึกไปละกระมังครับ ว่า ประเทศเรามันมีสิ่งจำเป็นรองรับหรือไม่ เช่น
เด็กชอบกีฬาก็ไปซ้อมกีฬา แต่ในโรงเรียนอุปกรณ์กีฬายังไม่ค่อยจะมี แถมในประเทศเรา กีฬาอาชีพยังไม่ได้รับการสนับสนุนที่เพียงพอ เก่งกีฬาก็ใช่ว่าจะรุ่ง
(นักฟุตบอลประจำ จว. เลิกเล่นแล้วทั้งๆที่เก่งมาก อายุยังน้อย บอกได้คิดแล้ว เอาเวลาไปขายหมูตลาดนัดดีกว่า)
เด็กชอบเต้น B-Boy สถานที่ซ้อมก็ไม่มี(เต้นกันตามลานปูน พักเดียวเลือด) เคยถามแล้วเด็กๆอยากได้พื้นปาเก้ ถามว่ามีสักกี่ที่ ที่มีสิ่งนี้รองรับ
ฯลฯ
ที่กล่าวนี่คือผมไม่ได้คิดเองเออเองนะครับ ถามเด็กๆมากับตัว ขาดสิ่งจำเป็นในการสนับสนุนเด็กๆ แถมโรงเรียนเป็น รร. ประจำ จว. เสียด้วย รร.พวกขยายโอกาสยิ่งไม่ต้องคิด
ปล.ผมคิดเองตามประสาคนไม่เคยไปดูงานเมืองนอกเมืองนา แต่คลุกคลีกับเด็กจริงๆ  ไหว้  ไหว้

 



เห็นด้วยครับ มันเป็นอย่างนี้ และมันจะเป็นไปอย่างนั้นจริงๆ

ทีนี้เด็กที่บ้านมีสตางค์ก็จะไปกวดวิชากันได้เยอะกว่าเดิม ช่องว่างของโอกาสทางการศึกษาจะถ่างออกจนห่างไกลกันลิบๆ

ปัจจุบันทั้งคุมง , สมาร์ทเบรน ฯลฯสารพัดเสริมทักษะมันก็แพงจนพ่อแม่ส่วนใหญ่ไม่มีปัญญาหามาจ่ายแบบต่อเนื่องได้อยู่แล้ว


พวกกิจกรรมเสริมที่ไม่เกี่ยวกับเกรดยิ่งไม่ต้องพูดถึง การสนับสนุนห่างไกลเหมือนอยู่กันคนละโลก....เรื่องการสนับสนุนด้านกีฬา-กิจกรรม-ทักษะเสริมนี่เป็นช่องว่างที่ยิ่งทียิ่งห่าง

ยังทะลึ่งมาถ่างมันออกด้วยเรื่องหลักคือการเรียนเข้าอีก
บันทึกการเข้า

What man is a man , who does not make the world better?
SillyOldMan
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1984
ออฟไลน์

กระทู้: 7567


ผ่านทะเล เห็นบึงน้ำไร้ความหมาย


« ตอบ #44 เมื่อ: มกราคม 30, 2013, 08:35:44 PM »

3754,51ครับ
บันทึกการเข้า

What man is a man , who does not make the world better?
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 ... 8
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.096 วินาที กับ 22 คำสั่ง