ระหว่าง มาร์ช VS มิราช

[SOAP47 รักในหลวง]

มาทำให้เขว
http://www.google.co.th/search?hl=th&q=Sonic%20chev&psj=1&bav=on.2,or.r_gc.r_pw.&bvm=bv.42965579,d.bmk&biw=1440&bih=698&wrapid=tlif136198109333710&um=1&ie=UTF-8&tbm=isch&source=og&sa=N&tab=wi&ei=sy4uUcuWD5DorQe-uID4CA

[mrt]

คู่นี้เลือก มิราจ ครับ เหตุผลเพราะ มาร์ช โมเดลนี้หลายปีแล้ว น่าจะใกล้จะเปลี่ยนโฉมแล้ว
มิราจ กับ สวิฟ เลือก มิราจ ครับ เพราะ สวิฟ รอส่งมอบรถนานแสดงว่า Suzuki ไม่ขยายฐานการผลิต อนาคต เรื่่องอะไหล่ไม่น่าต้องพูดถึง
ส่วนเรื่องช่วงล่างมิราจที่ค่อนข้างย้วย ปรับแต่งไม่ยาก ค้ำโช๊คหน้า-หลัง เหล็กกันโคลงสักชุด หมดไม่ถึง หมื่น หรือใส่ปริงแต่งของ TEIN ตรงรุ่น
ก็เพิ่มอีก เจ็ดพันหน่อยๆ รวมค่าใส่

[mrt]

มาทำให้เขว

[mrt]

และถ้าแรงไม่พอก็วาง 4G15 MIVEC Turbo  150  ม้า ได้อีก 

ตัวนี้อยู่ใน Mitsubishi Colt Ralliart

[อรชุน-รักในหลวง]

คู่นี้เลือก มิราจ ครับ เหตุผลเพราะ มาร์ช โมเดลนี้หลายปีแล้ว น่าจะใกล้จะเปลี่ยนโฉมแล้ว
มิราจ กับ สวิฟ เลือก มิราจ ครับ เพราะ สวิฟ รอส่งมอบรถนานแสดงว่า Suzuki ไม่ขยายฐานการผลิต อนาคต เรื่่องอะไหล่ไม่น่าต้องพูดถึง
ส่วนเรื่องช่วงล่างมิราจที่ค่อนข้างย้วย ปรับแต่งไม่ยาก ค้ำโช๊คหน้า-หลัง เหล็กกันโคลงสักชุด หมดไม่ถึง หมื่น หรือใส่ปริงแต่งของ TEIN ตรงรุ่น
ก็เพิ่มอีก เจ็ดพันหน่อยๆ รวมค่าใส่

ฐานการผลิตรถกับชิ้นส่วนอะไหล่ไม่เหมือนกันครับ Swift ใช้กันทั่วโลกโดยเฉพาะญี่ปุ่นอะไหล่ไม่มีขาดตลอดอายุการใช้งานแน่นอน

แล้วก็เรื่องแต่ง "ถ้าอยากแต่ง" Swift ให้สุดที่ขนาดเครื่อง 4 สูบ 2,400 ซีซี 180 hp @ 6,000 rpm // 230 N.m @ 4,000 rpm // 4WD

[Southlander]

คู่นี้เลือก มิราจ ครับ เหตุผลเพราะ มาร์ช โมเดลนี้หลายปีแล้ว น่าจะใกล้จะเปลี่ยนโฉมแล้ว
มิราจ กับ สวิฟ เลือก มิราจ ครับ เพราะ สวิฟ รอส่งมอบรถนานแสดงว่า Suzuki ไม่ขยายฐานการผลิต อนาคต เรื่่องอะไหล่ไม่น่าต้องพูดถึง
ส่วนเรื่องช่วงล่างมิราจที่ค่อนข้างย้วย ปรับแต่งไม่ยาก ค้ำโช๊คหน้า-หลัง เหล็กกันโคลงสักชุด หมดไม่ถึง หมื่น หรือใส่ปริงแต่งของ TEIN ตรงรุ่น
ก็เพิ่มอีก เจ็ดพันหน่อยๆ รวมค่าใส่

ฐานการผลิตรถกับชิ้นส่วนอะไหล่ไม่เหมือนกันครับ Swift ใช้กันทั่วโลกโดยเฉพาะญี่ปุ่นอะไหล่ไม่มีขาดตลอดอายุการใช้งานแน่นอน

แล้วก็เรื่องแต่ง "ถ้าอยากแต่ง" Swift ให้สุดที่ขนาดเครื่อง 4 สูบ 2,400 ซีซี 180 hp @ 6,000 rpm // 230 N·m @ 4,000 rpm // 4WD

ใส่ปีกสองข้างเข้าไปสงสัย บินได้เลย ว๊าว ๑๘๐ แรงม้า

[carrera]

สองประตู ซิ่งจริงๆ สวยมาก

[Southlander]

โรงงานผลิต ซูซูกิ สวิฟท์ อยู่ที่ ตาสิทธิ์/ปลวกแดง/ระยอง นี่แหละครับ
น่าจะผลิตอะไหล่รองรับรุ่นนี้ไปด้วยอีกนาน

[อรชุน-รักในหลวง]

รุ่นนี้เป็นโฉมตัว AWD // 4WD ครับ สำหรับตลาดประเทศที่ถนนมีหิมะ

เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร 94 แรงม้า จับคู่เกียร์ธรรมดา AWD 5 จังหวะ

[อรชุน-รักในหลวง]

ซ้ำครับ 

[686]

โรงงานผลิต ซูซูกิ สวิฟท์ อยู่ที่ ตาสิทธิ์/ปลวกแดง/ระยอง นี่แหละครับ
น่าจะผลิตอะไหล่รองรับรุ่นนี้ไปด้วยอีกนาน

โรงงาน ประกอบรถยนต์ ไม่ได้ ผลิต อะไหล่ ครับ อะไหล่ในโรงงาน ก็ สำหรับ ประกอบ มีสำรองได้ไม่กี่วัน เพราะ โรงงานประกอบรถยนต์ ในปัจจุบัน จะใช้ระบบ Near Zero Inventory หรือ เก็บ สต๊อก ชิ้นส่วน อะไหล่ น้อยที่สุด เพราะ รถทุกคัน ถูกวางแผนการผลิต ทั้งจำนวน สี และ อุปกรณ์ตกแต่งใว้ล่วงหน้า ก่อนการผลิต โดยจะสั่งชิ้นส่วน เข้ามาให้ พอดีกับปริมาณ การผลิต ณ เวลานั้น ๆ

[อรชุน-รักในหลวง]

โรงงานผลิต ซูซูกิ สวิฟท์ อยู่ที่ ตาสิทธิ์/ปลวกแดง/ระยอง นี่แหละครับ
น่าจะผลิตอะไหล่รองรับรุ่นนี้ไปด้วยอีกนาน

โรงงาน ประกอบรถยนต์ ไม่ได้ ผลิต อะไหล่ ครับ อะไหล่ในโรงงาน ก็ สำหรับ ประกอบ มีสำรองได้ไม่กี่วัน เพราะ โรงงานประกอบรถยนต์ ในปัจจุบัน จะใช้ระบบ Near Zero Inventory หรือ เก็บ สต๊อก ชิ้นส่วน อะไหล่ น้อยที่สุด เพราะ รถทุกคัน ถูกวางแผนการผลิต ทั้งจำนวน สี และ อุปกรณ์ตกแต่งใว้ล่วงหน้า ก่อนการผลิต โดยจะสั่งชิ้นส่วน เข้ามาให้ พอดีกับปริมาณ การผลิต ณ เวลานั้น ๆ

ถ้ามีโรงงานประกอบในบ้านเรา โรงงานซับคอนแทคที่ผลิตชิ้นส่วนส่งให้โรงประกอบก็อยู่ในบ้านเรานี่แหละครับ
อาจจะอยุธยา , ปทุมธานี , สระบุรี ผลิตให้โรงงานประกอบได้มันก็ผลิตอะไหล่สำรองได้เช่นกัน ไม่งั้นอะไหล่ศูนย์คงขาดไปนานแล้ว

ตราบใดที่รถแต่ล่ะโมเดลยังผลิตอยู่ อย่าห่วงเรื่องอะไหล่เลยครับ เอาไว้โมเดลเชนจ์ก่อนค่อยมาคิดกัน
รถมากมายมายที่สายการผลิตหยุดไปนานแล้วแต่อะไหล่ยังเหลือเฟือมีเยอะแยะครับ

[Southlander]

โรงงานผลิต ซูซูกิ สวิฟท์ อยู่ที่ ตาสิทธิ์/ปลวกแดง/ระยอง นี่แหละครับ
น่าจะผลิตอะไหล่รองรับรุ่นนี้ไปด้วยอีกนาน

โรงงาน ประกอบรถยนต์ ไม่ได้ ผลิต อะไหล่ ครับ อะไหล่ในโรงงาน ก็ สำหรับ ประกอบ มีสำรองได้ไม่กี่วัน เพราะ โรงงานประกอบรถยนต์ ในปัจจุบัน จะใช้ระบบ Near Zero Inventory หรือ เก็บ สต๊อก ชิ้นส่วน อะไหล่ น้อยที่สุด เพราะ รถทุกคัน ถูกวางแผนการผลิต ทั้งจำนวน สี และ อุปกรณ์ตกแต่งใว้ล่วงหน้า ก่อนการผลิต โดยจะสั่งชิ้นส่วน เข้ามาให้ พอดีกับปริมาณ การผลิต ณ เวลานั้น ๆ

ผมเข้าใจทั้งกระบวนการผลิตแหละครับ แต่ผมพูดสั้นๆไปหน่อย
(เคยอยู่โรงงานผลิตรถครับ งานเกี่ยวข้องทุก Shop ทั้ง Bodyshop / Paintshop / General Assembly shop)

[เอก@ดอยฯ]

สวีฟ สวยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ   

ระบบการผลิตปัจจุบันไม่ว่าจะผลิตอะไร พยายามที่จะ Just in time กันมากขึ้น เพื่อลด WIP ให้น้อยที่สุด เพราะ เทคโนโลยีปัจจุบัน ทำให้ผลิตภัณฑ์ อายุสั้นลง อยู่ไม่นาน ดังนั้นโรงงานต่างๆ มักจะสั่ง วัตถุดิบให้เพียงพอเฉพาะที่ได้รับ P/O หรือ Forecast ของลูกค้าที่มีการสั่งซื้อที่แน่นอน หากโรงงานทราบว่าผลิตภัณฑ์ ตัวไหนที่ใกล้จะ EOL แล้ว ก็เริ่มจะหยุดสั่ง Part ต่างๆเพื่อไม่ให้มีค้างใน Stock หรือให้เหลือน้อยที่สุด

 

[686]

Just in Time เป็น ทฤษฎี ที่โรงงานประกอบรถ จะ ผลักภาระ ค่าใช้จ่าย ในการ สำรองชิ้นส่วน ให้กับ ผู้ผลิตชิ้นส่วน โดยจะสั่งชิ้นส่วน ให้เข้ามาส่งถึงสายพานการผลิต ไม่กี่ชั่วโมง ก่อนทำการผลิต แต่ในความเป็นจริง ทฤษฎี นี้ ทำให้สำเร็จได้ ยาก เพราะ อะไหล่ ชิ้นส่วน บางชิ้น ต้องใช้เวลาในการขนส่งที่ไม่เท่ากัน และ อาจมี อุบัติเหตุ ทางการ ผลิต หรือ ขนส่ง ดังนั้น ในทาง ปฎิบัติ ถึงยังต้องมีการเก็บชิ้นส่วนภายในโรงงาน อย่างน้อย 1 วันก่อนการผลิต