ยิงขู่ยิงเตือนอาจเจอข้อหาพยายามฆ่าได้นะครับ โทษหนักกว่าฆ่าคนตายซะอีก
หากเจ้าทุกข์เค้าไปแจ้งความ(ถึงมันจะเป็นขโมยก็เถอะ) กว่าจะเสร็จสิ้นคดีก็เสียเงินไปหลายบาทเหมือนกันนะ

นายสมชายว่าหากมันไปแจ้งความว่าตัวเองเป็นขโมยเข้าบ้านคนอื่น แล้วโดนเจ้าทรัพย์ไล่ยิงเอา... เรื่องข้อหาขโมยนี่ติดคุก 3 ปีไม่ต้องสู้คดีแล้วครับ(โดนแน่ๆ), แต่เรื่องพยายามฆ่านี่สู้คดีง่ายครับ มันอ้างใครมาเป็นพยาน รับรองว่าพยานของมันต้องโดน 3 ปีข้อหาเดียวกันตามมันไปอยู่ในคุกด้วยกันโม๊ดดด... แฮ่ๆ...
เรื่องขโมยไม่เกี่ยว นับคนละคดีกันนะครับ ที่ขโมยมันไปแจ้งคือ เรื่องพยายามฆ่า
แล้วก็หากมันยังไม่ได้ขโมยแต่แค่บุกรุกเข้ามา โทษขโมยก็ไม่มีอีก เจ้าบ้านโดนข้อหาไปเต็ม ๆ

ยกตัวอย่างคดี ปลูกยางพาราในที่ป่าสงวนมา ๑๕ ปีแล้ว เกิดผู้ใหญ่บ้านไปสั่งล้ม สั่งโค่นไม้ยางนั้น
เจ้าของสวนยางพาราไปแจ้งความทำลายทรัพย์ ผู้ใหญ่บ้านก็ผิดเต็ม ๆ ถึงแม้นจะปลูกในที่สงวนก็ตาม
ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องป่าสงวนเลย เพราะเค้าแจ้งความเรื่องทำลายทรัพย์

เวลาไปแจ้งความเจ้าของบ้านข้อหาพยายามฆ่า ก็ต้องให้ข้อมูลสถานที่ วัน เวลา ให้ครบถ้วน, แล้วข้อมูลแบบนี้หากไปโผล่ในสำนวนฟ้องของอัยการปุ๊บ ฝ่ายเจ้าของบ้านเอาไปฟ้องแย้งโดยไม่ต้องนำสืบข้อเท็จจริงในห้องพิจารณาคดีเลย(เพราะบรรยายฟ้องเรียกความผิดให้ตัวเองไปแล้ว) ดังนั้นเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นจริง(ยกเว้นทนาย/อัยการจงใจแกล้ง)...
ดังนั้นเรื่องแบบนี้จะไม่ผ่านชั้นสอบสวน ไม่ไปถึงอัยการ, แต่ชั้นสอบสวนจะไล่เรียงว่าทำไมถึงได้ไปโดนยิงในเขตบ้านของคนอื่นเขา, แล้วที่บุกรุกเข้าไปนั่นน่ะ จะเข้าไปทำไม ในเมื่อเป็นเขตบ้านของเขา แล้วในเวลาหลังดวงอาทิตย์ตกดินแล้วนี่ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ครับ... ข้อหาบุกรุกมักไม่ค่อยเป็นข้อหาเดี่ยว แต่มักมีข้อหาอื่นพ่วงเข้าไปด้วยเสมอ เนื่องจากการบุกรุกทุกครั้งต้องมีวัตถุประสงค์ที่ผิดกฎหมาย(ถ้าถูกกฎหมายก็ขออนุญาตเจ้าของบ้านได้ง่ายๆ)...
หากยังไม่ได้ลงมือขโมย ก็อาจไม่โดนข้อหาขโมย แต่ข้อหาบุกรุกนั่นโดนแน่ยกเว้นแก้โจทย์ตัวเองให้ได้ทำนองว่าโดนยิงนอกเขตบ้านเขา แต่อย่างนั้นก็ต้องหาพยานหลักฐาน/บุคคลมารองรับให้ได้ แล้วถ้าโดนยิงบาดเจ็บก็ต้องมีรอยเลือด รอยต่อสู้ ก็ต้องหาวิธีสร้างหลักฐานเท็จให้ได้ว่าเกิดนอกบ้าน ในขณะที่เจ้าของบ้านมีหลักฐานแน่นหนา เพราะมันเกิดในบ้านตัวเองจริง... ดังนั้นเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นจริงเนื่องจากหากขโมยมีศักยภาพวางแผนและสร้างหลักฐานได้ขนาดนั้น มันก็ไปมีอาชีพอื่นไปแล้วครับ...
ส่วนเรื่องตัดต้นไม้นั่นคนละเรื่องกันครับ... มันมีเรื่องกรรมสิทธิในทรัพย์(ต้นยาง) และสิทธิอื่นอีกหรือไม่ ซึ่งต้องค้นต่อครับ, ไม่เหมือนเรื่องบุรุกเขตบ้านเขาเวลากลางคืนแล้วโดนเจ้าของบ้านยิงเอา เรื่องหลังนี่ไม่ซับซ้อนครับ...