ซัมซุงเปิดตัว Galaxy S 4 แอนดรอยตัวใหม่ล่าสุดในตระกูล Galaxy S กันไปแล้ว วันนี้เรามาดูข้อมูลเปรียบเทียบระหว่าง Iphone 5 และ Galaxy S 4 กันว่าทั้งสองรุ่นมีข้อดีและจุดแตกต่างกันตรงไหนบ้าง หลายๆคนอาจจะคิดว่าน่าจะเปรียบเทียบกับ Iphone 6 ถึงจะดูเหมาะสมมากกว่า แต่ในเมื่อตอนนี้รุ่นล่าสุดของค่าย Apple ยังเป็นรุ่นที่ 5 เท่านั้น ดังนั้นไม่แปลกที่จะมีการนำมาเปรียบเทียบกัน
ขนาดของหน้าจอที่แตกต่างกัน
หน้าจอของ Galaxy S 4 มีขนาด 5 นิ้ว ข้อดีก้คงจะเป็นการใช้งานที่สะดวกมากขึ้น หน้าจอที่ใหญ่ทำให้การเล่นเกม แอพหรือดูหนังฟังเพลงได้สะใจและเต็มจอ ถ้าถามว่าหน้าจอใหญ่มีข้อเสียมั้ย ในส่วนของขนาดหน้าจอเราไม่ได้เรียกว่าข้อเสีย เพียงแต่มันจะทำให้ตัวเครื่องใหญ่เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย (น่าดีใจที่รุ่นใหม่มีความละเอียดหน้าจอที่มากขึ้น 1920*1080)
ส่วน Iphone 5 มีหน้าจอเพียง 4 นิ้วเท่านั้น สำหรับคนที่ชินกับหน้าจอขนาดใหญ่ก้จะรู้สึกว่าเล็กไป แต่ก้แลกกลับขนาดตัวเครื่องที่ทำให้ไม่ใหญ่มากนักพกพาสะดวก การใช้งานมือเดียวก้เลยเป็นเรื่องที่ง่ายมาก
ความสามารถในการถ่ายภาพ
เป็นอีกจุดพื้นฐานที่มองเห็นกันได้ง่ายและสาวๆก้ชอบที่จะเลือกตรงจุดนี้กัน กล้องของ Galaxy S 4 มี Spec ดีกว่าทั้งส่วนของกล้องหน้าและกล้องหลัง (กล้องหน้ามีความละเอียด 2 ล้าน / กล้องหลังความละเอียด 8 ล้าน) ถึงแม้ใครๆจะบอกว่ากล้องของ Iphone 5 ใช้งานง่ายและถ่ายภาพออกมาได้ดีโดยไม่ต้องปรับแต่งมากนัก แต่ใครจะกล้ายืนยันละว่า Galaxy S 4 จะทำแบบนั้นบ้างไม่ได้
อย่างที่รู้กันว่า Galaxy S 4 ใส่ความสามารถใหม่ๆเกี่ยวกับการใช้งาน Camera ลงไปในเครื่องรุ่นนี้ไม่น้อย เช่น Drama Shot ความสามารถในการถ่ายภาพต่อเนื่องแล้วนำมาใช้งานในรูปเดียวกัน หรือแม้กระทั่งลูกเล่นในกถ่ายภาพและวีดีโอที่ทำงานได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมๆกัน ผมว่าถ้ามองเรื่องลูกเล่นเราแทบจะพอใจกับมันมากๆ
แบตเตอรี่ 2600 mAh มากขึ้นรองรับการใช้งานที่ยาวนาน
ปัญหาเรื่องแบตน่าจะเป็นอีกจุดขายที่ดูเหนือกว่า Iphone 5 ชัดเจนที่สุด แบตของ Galaxy S 4 มีขนาด 2600 mAh และที่สำคัญมันสามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ หากเราย้อนกลับไปยังรุ่นก่อนหน้านี้ Galaxy S 3 ก้สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่ามือถือ Iphone 5 อยู่แล้ว (Galaxy S 3 มีความจุของแบตเตอรี่อยู่ที่ 2100 mAh)
การออกแบบตัวเครื่อง
จุดเด่นที่ชัดเจนเสมอ Iphone 5 มีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เรื่องการออกแบบมาตลอดในตลาด Smart Phone และในรุ่นล่าสุดก้ยังออกแบบได้สวยงาม หน้าจอทั้งส่วนของด้านหน้าและหลังเป็นกระจกซึ่งดูแล้วสวยงาม ดูมีราคา ตัวเครื่องถึงแม้ใช้วัสดุที่ดีแต่ก้ยังมีน้ำหนักของตัวเครื่องที่ไม่มากนัก หากเปรียบเทียบกันระหว่าง Iphone 5 และ Galaxy S 4 ทาง Iphone 5 ก้ยังมีน้ำหนักน้อยกว่าด้วยซ้ำไป
หันกลับมามองที่ Galaxy S 4 กันบ้าง ตัวเครื่องวัสดุและการออกแบบอาจจะดูเป็นรอง เพราะวัสดุส่วนใหญ่เป็นพลาสติก (Polycarbonate) แต่ก้ได้รับการยืนยันเสมอมาว่าเป็นพลาสติกที่ยืดหยุ่นสูง ทนแรงกระแทกได้ดี การออกแบบตัวเครื่องก้ชดเชยได้ด้วยการที่เราสามารถแกะฝาหลังออกได้ นั่นหมายถึงเราสามารถใส่ Micro SD หรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้นั่นเอง
สำหรับการออกแบบตัวเครื่องถ้าเราให้คนชนะเป็นคะแนน ทาง Iphone 5 ก้คงจะเฉือนชนะไป 1-2 แต้มแน่นอน แต่ในความเป็นจริงแล้วมันก้ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวด้วยเช่นกัน สำหรับผมเองกลับชอบทั้งสองแบบ
วัดกันตรงที่ฟีเจอร์และการใช้งานงั้นเหรอ ?
Iphone 5 ก้เหมือนผู้หญิงที่สวยและเก่ง แน่นอนเธอเด่นเพียงแต่เธอมักจะทำอะไรตามกรอบมากไปนิด ความหลากหลายของเธอก้เลยน้อย กลับกัน Galaxy S 4 เป็นผู้หญิงที่น่ารัก และพยายามทำทุกอย่างให้ออกมาดี ดังนั้นในบางเรื่อง อาจจะมีความสามารถที่ยังเป็นรอง แต่โดยรวมแล้วเพราะความยืดหยุ่นของเธอก้ทำให้หลายๆคนประทับใจ
จากภาพเราจะเห็นข้อดีและข้อเสียของแต่ละรุ่นที่แตกต่างกันไป และหลายอย่างก้สามารถทำงานได้คล้ายๆกัน เช่น การสั่งการด้วยเสียง ทาง Iphone 5 มีจุดขายอยู่ที่ Siri ส่วนฝั่งซัมซุงก้มี S Voice ที่ง่ายในการฟังสำเนียงของคนไทย
หน่วยความจำในเครื่องที่มีให้เลือกสามขนาด (16/32/64) ของ Iphone 5 ก้มีข้อเสียที่ไม่สามารถใส่หน่วยความจำภายนอกเพิ่มได้ ส่วนของ Galaxy S 5 ถึงแม้จะมาในรุ่น 16 GB แต่ก้สามารถรองรับ Sd Card สูงถึง 64 GB / แต่สำหรับบางคนหน่วยความจำแค่ 16 หรือ 32 ก้ใช้ไม่หมดแล้ว เค้าพอใจหน่วยความจำที่มีมาให้ อันนี้ก้ไม่ว่าอะไร ผมมองว่าเลือกที่เหมาะกับการใช้งานนั่นแหละดีที่สุด จริงๆแล้วส่วนตัวได้ดู Infographic เปรียบเทียบระหว่าง Iphone 5 และ Galaxy S 4 มาหลายแบบ ผมว่าในภาพนี้อธิบายได้ชัดเจนที่สุดละ ถึงแม้ที่พูดมาจะไม่ใช่ตัวชี้วัดทั้งหมดว่ารุ่นไหนดีกว่ากันแต่อย่างน้อยทำให้มองออกว่าเราต้องการอะไร แบบไหน และมือถือรุ่นไหนเหมาะสมกับเรา
ว่าแต่เพื่อนๆละครับ คิดว่ารุ่นไหนเหมาะกับคุณมากกว่ากัน ?
ที่มา :
http://forum.thaiandroidphone.com/thread-42789-1-1.html
