เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 19, 2024, 05:18:18 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 56 57 58 [59] 60 61 62
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ควรเริ่มต้นการยิง IPSC อย่างไร  (อ่าน 159900 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 57 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
วรกฤษ
ความฝันทำให้มนุษย์พัฒนาไปข้างหน้าเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6503

สูงสุดคืนสู่สามัญ


« ตอบ #870 เมื่อ: กรกฎาคม 10, 2007, 11:09:50 PM »

พอดีช่วงนี้ยุ่งหน่อยนะครับ เลยไม่ได้เข้ามาเขียน เดี๋ยวจัดแจงงานแล้วจะเข้ามาเขียนต่อครับ
วันนี้ผมขอเขียนข้อเตือนใจนักกีฬาใหม่ที่จะเข้ามายิงนะครับว่า ก่อนถึงแมทช์วันแข่งขันอยากให้ทุกท่านเช็กปืนว่าทำงานได้ดีหรือไม่ เพราะผม พี่นาจาและเจ้าลิงกังส์ แมทช์นี้พังแบบไม่เป็นท่าทั้งสามคนเพราะปัญหาเรื่องปืนแท้ๆครับ สนามแข่ง 10 สนาม ผมยิงแก้ปัญหาปืนเช่น กระสุนสับไม่แตกและปืนขัดไป 8 สนามรอดมาได้แค่ 2 สนามซึ่งมันไม่คุ้มเลยครับเพราะต้องเสียค่าสมัครเอย เสียเวลาและที่สำคัญที่สุดเสียอารมณ์ไปด้วย ดังนั้นมันเป็นบทเรียนอีก 1 บทสำหรับนักกีฬาใหม่ที่พวกผมได้มาจากประสพการณ์จริงๆเลยครับ เลยขอฝากบทเรียนนี้ไว้เพื่อนักกีฬาใหม่จะได้ไม่ต้องมาเสียอารมณ์เหมือนเพื่อนผมบางคนถึงขนาดเฟี้ยงแม็ทช์ลงพื้นด้วยความหัวเสียในตนเอง
บันทึกการเข้า

เร็วเท่าที่เห็น   แม่นเท่าที่จำเป็น 
เคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้า   หยุดให้นิ่มนวลดังแพรไหม      
ใจต้องนิ่งดังขุนเขา   ทำทุกอย่างดั่งสายน้ำไหล
วรกฤษ
ความฝันทำให้มนุษย์พัฒนาไปข้างหน้าเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6503

สูงสุดคืนสู่สามัญ


« ตอบ #871 เมื่อ: กรกฎาคม 10, 2007, 11:10:08 PM »

อันเนื่องมาจากกระทู้ถามตอบ IPSC ที่อาจารย์ใหม่เขียนไว้ว่า Positive Push และ/หรือ Positive Tension และ Natural Grip ผมจะพยายามอธิบายให้เข้าใจง่ายที่สุดที่จะทำได้นะครับ
การกริปปืนนั้นผมได้เขียนส่วนหนึ่งไว้แล้วเชื่อว่าคนที่ถามคงได้อ่านมาแล้ว แต่ในเวลาเดียวกันกับที่เรากริปปืน เราไม่ได้แค่บีบมือซ้าย(สำหรับคนถนัดขวา)เฉยๆ เราจะมีแรงกระทำอีกส่วนหนึ่งคือดัน (Push)ไปข้างหน้าด้วย(องศาของแรงบีบ) ทีนี้เวลาคนกริปปืนสูงและหักข้อมือนั้นฝ่ามือของเรา(ด้านหลัง)จะแนบอยู่กับประกับด้ามปืนด้วย อุ้งเนื้อส่วนหนึ่ง(บริเวณอุ้งมือแถวนิ้วโป้งซ้าย)นั้นจะอยู่บริเวณปลายนิ้วของมือขวา ถ้าอุ้งนี้ทับอยู่บนนิ้วของมือขวา เวลาเรากริป(บีบ)ปืนและดันไปข้างหน้าโอกาสที่มือซ้ายจะเลื่อนหลุดไปข้างหน้าเพราะทิศทางของแรงกระทำ(ไปด้านหน้า) ความลื่นทั้งจากเหงื่อหรือไขมันบนมือเรามันจะมาก ถ้าคนมีปัญหานี้ลองดูว่า ถ้าปล่อยให้ปลายนิ้วมือขวาลอยขึ้นแล้วให้อุ้งมือซ้ายนี้โดนจิกโดยปลายนิ้วของมือขวาดู จะทำให้การลื่นหลุดน้อยลงเพราะเรากดปลายนิ้วเข้าไปในเนื้อเวลาเราผลักไปด้านหน้าครับ ถ้าเราไม่ใช้ปลายนิ้วขวาเข้าช่วยเราจะอาศัยความสากของด้ามปืนกับอุ้งมือเท่านั้นครับ วิธีลองให้เข้าใจง่ายกับ Positive Push คือมือทั้ง 2 ข้างประกบกันโดยไม่ต้องมีปืนแล้วเอามือทั้ง 2 ไปดันกับกำแพงโดยผลักมือทั้ง2ไปข้างหน้านั่นคือผลัก(Push)แล้วถ้าคุณอยากจะรู้สึกว่ามันจะหลุดอย่างไรในข้อที่อาจารย์ใหม่พูดถึงวิธีคือ คุณกริปมือเปล่าโดยไม่มีปืน(กริปแบบไอพี)โดยกำมือขวาเป็นลักษณะของหมัด(เพราะเราไม่มีปืนในมือ) ทีนี้ลองบีบมือซ้ายมือเดียวให้แน่นๆ คุณจะเห็นมือซ้ายคุณค่อยๆลื่นไปข้างหน้า นี่ขนาดไม่มีรีคอยล์แล้วลองนึกว่าถ้ามีแรงรีคอยล์เข้ามาด้วย พอยิงทีมือจะหลุดทีครับ
ส่วนNatural Grip คืออย่าบิดข้อมือซ้ายมากนัก ปล่อยข้อมือซ้ายตามสบายแล้วคุณลองบีบดูเหมือนครั้งแรก คุณจะเห็นว่ามือซ้ายคุณจะอยู่กับที่สาเหตุคือองศาของแรงบีบจะเปลี่ยนไปโดยไม่ผลักไปข้างหน้าแต่จะเข้าสู่อุ้งมือขวาแทน นั่นเป็นเหตุผลที่มือไม่ลื่นหลุด ข้อเสียคือแรงที่จะกดปืนในการยิงนัดต่อไปจะไม่มี ปืนจะเตะขึ้นมากกว่าการกริปแบบไอพีครับ
บันทึกการเข้า

เร็วเท่าที่เห็น   แม่นเท่าที่จำเป็น 
เคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้า   หยุดให้นิ่มนวลดังแพรไหม      
ใจต้องนิ่งดังขุนเขา   ทำทุกอย่างดั่งสายน้ำไหล
วรกฤษ
ความฝันทำให้มนุษย์พัฒนาไปข้างหน้าเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6503

สูงสุดคืนสู่สามัญ


« ตอบ #872 เมื่อ: กรกฎาคม 10, 2007, 11:10:36 PM »

ผมมาเขียนสอดเรื่องกริปปืนให้อีกหน่อยครับเพราะในกระทู้ถามตอบเรื่องไอพี ถามมาเรื่องนิ้วหน้าโกร่งไก ผมคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ไม่อยากจะแก้ไขจะได้เพิ่มอีกวิธีหนึ่งครับ

การยิงปืนโดยจะเอานิ้วชี้ข้างไม่ถนัดเกาะไว้หน้าโกร่งไกนั้นนักกีฬาIPSCไม่ค่อยจะใช้กันแต่บังเอิญมียอดฝีมือในวงการนี้ 2 ท่านที่ทำแล้วประสพผลสำเร็จด้วยดีคือ Jerry และ Eric ซึ่งคนหลังเป็นแชมป์โลก IPSC อยู่เวลานี้ครับ สาเหตุที่คนหลังใช้วิธีนี้ผมไม่ทราบแต่คนแรกนั้นผมทราบอยู่บ้างเลยจะมาเล่าสู่กันฟัง(คนที่ทราบอยู่ก็ข้ามได้เลยครับ) แต่ก่อนที่จะเล่านั้นอยากแจ้งให้ทราบก่อนว่านักกีฬา IPSC ส่วนใหญ่นั้นจะเอานิ้วชี้ข้างไม่ถนัดไว้ใต้โกร่งไกนะครับ ส่วนเหตุผลนั้นเดี๋ยวเราจะมาว่ากันอีกทีครับ

Jerry Barnhart นั้นบอกไว้ว่าเหตุที่เขาเอานิ้วเกาะไว้หน้าโกร่งไกเพราะว่าตอนเขาเริ่มหัดยิงปืนใหม่ๆนั้นที่ Oxford Michigan ที่เขาอยู่นั้นนักกีฬาส่วนใหญ่จะเอานิ้วไว้หน้าโกร่งไกและส่วนใหญ่ก็ทำกันแบบนั้น อาจจะเกิดจากการสอนกันต่อๆมา พอเขาเริ่มยิงปืนเก่งขึ้นและเคยชินกับการยิงแบบนั้นแล้ว เขารู้สึกว่าถ้าจะมาแก้รูปแบบการกริปปืนใหม่มันลำบากและยุ่งยากพอสมควร เขาเลยปล่อยเลยตามเลย แต่ในเวลาเดียวกันเขาก็แก้ไขการเกาะโกร่งไกของเขาเนื่องจากวิธีเดิมๆนั้นยิงแล้วนิ้วชี้จะหลุดบ่อยๆ ผมจะบอกวิธีการชักปืนของเขาและวิธีการกำหนดตำแหน่งด้วยนิ้วชี้ของเขาเผื่อว่ามีคนสนใจจะนำไปใช้นะครับ
เขาบอกว่าการชักปืนของเขานั้นหมายถึงว่า การหยิบปืนจากซองของเขามาสู่ท่า High Ready หรือท่าที่ผมเรียกว่าท่า ดันปืน ท่าดันปืนผมได้เขียนอธิบายไว้ก่อนหน้านี้แล้วลองย้อนไปอ่านครับ ทีนี้การที่เราใช้มือข้างที่ถนัดหยิบปืนขึ้นมาบรรจบกับมือข้างไม่ถนัดนั้น พวกที่เอานิ้วไว้ใต้โกร่งไกจะมีนิ้วชี้เป็นตัวกำหนดคือ นิ้วชี้ข้างไม่ถนัดแตะใต้โกร่งไกเมื่อไหร่เราก็จะรวบนิ้วมือของเราเข้าหากันเป็น Full Grip คือกริปปืนเรียบร้อย ส่วนของเขานั้นเมื่อไหร่ที่ด้านในของนิ้วชี้ของเขาซึ่งงอเป็นรูปตะขอแตะสัมผัสโกร่งไกเมื่อไหร่นั้นคือตำแหน่งที่เขาต้องการเช่นกันครับ ที่ต้องการตำแหน่งสัมผัสเพื่อที่ว่าการกริปปืนของเราจะได้เหมือนกันทุกครั้งครับ
สิ่งที่เขาดัดแปลงคือปืนครับ ปืนที่เขาใช้นั้นเขาจะทำโกร่งไกเป็นเหลี่ยมเสมอไม่ว่าแถวเดี่ยวหรือคู่ ซึ่งรูปแบบของปืนของเขาสามารถดูได้ในเวปของเขา(อยากอยู่อเมริกาก็ตรงที่ปืนมันถูกหาช่างทำได้หลากหลาย)
สิ่งที่สองที่เขาปรับก็คือตำแหน่งนิ้วชี้ข้างที่ไม่ถนัด เขาบอกว่าเมื่อก่อนเขาใช้ข้อนิ้วแรกเกาะหน้าโกร่งไก ทุกครั้งที่ยิงนิ้วจะหลุดจากปืนเพราะกำลังของนิ้วและโกร่งไกโค้งด้วย ดังนั้นเขาก็เลยมาใช้ข้อนิ้วข้อที่2ซึ่งมีแรงมากกว่าและนิ้วจะเกราะได้พื้นที่มากกว่าครับ แถมการจะกำหนดตำแหน่งก็ง่ายกว่าด้วยนะครับ
ข้อเสียในการกริปปืนแบบเกาะโกร่งไกเท่าที่ผมลองแล้วพบคือ
1. การกริปปืนรู้สึกว่ามือผมสัมผัสประกับของด้ามปืนได้น้อย น่าจะมาจากมือทางเอเซียจะเล็กกว่ามือฝรั่ง ซึ่งผมเห็น อ.ใหม่ก็พูดในทำนองเดียวกัน
2. เมื่อเวลายิงผมรู้สึกว่าลำกล้องปืนผมมันไม่สเถียร หมายความว่ามันขึ้นลงไม่ตรงในแนวที่ผมเคยยิง(อาจจะไม่ชิน)
3. ตำแหน่งที่ปืนตกกลับลงมานั้นมันไม่กลับมาที่จุดเดิม อาจจะเพราะนิ้วชี้มือซ้ายผมอยู่ล้ำไปข้างหน้าและมันฉุดหรือดึงหน้าโกร่งไกเวลายิงทำให้ปืนมันเป๋ไปเป๋มา ตำแหน่งกระสุนเลยตกซ้ายบ้างขวาบ้าง ซึ่งส่วนหนึ่งน่าจะมาจากหลังมือทั้ง2ข้างของผมมันไม่สัมผัสกันดีทำให้มือทั้ง 2 มันไม่ทำงานเป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งมือฝรั่งนั้นใหญ่หลังมือเขาสามารถเบียดชิดกัน ทำให้การทำงานเป็นหนึ่งเดียวกัน มันเลยไม่ผลักไปมา
ผมเคยให้วรกฤษลองดูเหมือนกันซึ่งกระสุนจะตกไปซ้ายบ้างขวาบ้างเหมือนกัน นี่ผมหมายถึงที่ผมเคยลองนะครับ ส่วนท่านอื่นอาจจะไม่เป็นก็ได้ ผมก็เขียนในสิ่งที่ตัวเองลองแล้วมาเล่าสู่กันฟังเฉยๆครับ

พอดีมีเวลาอยู่อีกหน่อย ผมมีข้อแนะนำให้อีกเรื่องคือการลั่นไกใน IPSC ผมเคยเขียนไว้แล้วว่าให้ใช้หน้าสัมผัสของนิ้วซึ่งบางท่านเรียกตรงลายก้นหอย ทีนี้มีข้อแนะนำเพิ่มเติมอีกนิดครับสำหรับคนที่ยิงแล้วกระตุกไกแรงๆ ผมอยากให้คุณเช็คดูนะครับว่านิ้วคุณนั้นเลี้ยงหน้าไกตลอดเวลาที่คุณยิงอยู่หรือไม่ หรือว่านิ้วคุณนั้นโดดไปโดดมา คำว่าโดดนั้นหมายถึงคืนนิ้วชี้ออกไปแล้วก็ดึงเข้ามาอย่างรวดเร็ว ถ้าคุณยิงแบบนั้นคุณควรจะแก้ไขใหม่เป็นให้นิ้วคุณสัมผัสหน้าไกตลอดเวลาไม่ว่าคุณเหนี่ยวไกหรือคืนไกครับ ลองดูนะครับถ้าคุณเป็นอย่างงั้นมันไม่เสียหายไม่ใช่หรือที่จะลอง ลองแล้วไม่ได้ผลคุณก็ปล่อยมันผ่านไป ลองแล้วได้ผลก็เป็นกำไรฟรีๆครับ
อ้อ....ต้องบอกไว้ก่อนนะครับการเหนี่ยวไกแบบกระโดดไก(ฝรั่งใช้คำว่า Jump) นั้นก็มีคนทำได้ดีมากคนหนึ่งครับคือ Big Rob นั่นเองครับซึ่งผมอ่านเจอในสิ่งที่ Brian Enosเขียนครับ

สิ่งทีผมเขียนมาเรื่อยๆนั้น ผมไม่ได้คิดจะโครนใครให้เป็นอย่างที่ผมเขียนนะครับ แต่ที่ผมเขียนทั้งหมดนี้เพื่อให้ช่วยนักกีฬาใหม่มีจุดเริ่มต้นในการยิง IPSC และสิ่งที่ผมเขียนนั้นถ้าใครมีข้อสงสัยว่าผมเอาที่ไหนมาเขียนก็ถามมาได้นะครับ เพราะผมมีแหล่งอ้างอิงเสมอ ผมเขียนจากการเรียนรู้เพราะสนใจและเอามาทดลองจนพอเข้าใจอยู่บ้างครับ

อีกนิดครับแถมมากหน่อยเพราะมีเวลา...สำหรับคนยิงปืนโอเพ่นโดยเฉพาะนะครับ คุณคงทราบอยู่แล้วว่าการยิงด๊อทนั้นเรามองเป้าแล้วเอาด๊อทไปทาบที่เป้า ทีนี้มือใหม่ๆในการยิงด๊อทก็ติดนิสัยจากการมองศูนย์ปืนคือมองด๊อทแล้วเอาด๊อทไปแตะที่เป้า มีทริ๊กนิดหนึ่งให้นะครับคือ ลองปิดด๊อททิ้งครับแล้วตาจับที่เป้า ยิงปืนวาดปืนไปตามสายตาที่มองครับ...ลองฝึกซ้อมด้วยวิธีนี้ดูสักพักหนึ่งชินแล้วก็เปิดด๊อทใหม่ครับ.....ผมลองที่บางบัวทอง 3 เป้าที่ระยะต่างกันแถมเพลทที่ระยะ 12 เมตร ยิงไม่เปิดด๊อทกระสุนโดนครบทุกเป้ารวมทั้งเพลทครับ...แต่เพลทโดนไม่ได้ทุกครั้งแต่เป้าได้ทุกครั้งครับ...   ......หาของใหม่ๆมาลองเพื่อพัฒนาครับ   
บันทึกการเข้า

เร็วเท่าที่เห็น   แม่นเท่าที่จำเป็น 
เคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้า   หยุดให้นิ่มนวลดังแพรไหม      
ใจต้องนิ่งดังขุนเขา   ทำทุกอย่างดั่งสายน้ำไหล
วรกฤษ
ความฝันทำให้มนุษย์พัฒนาไปข้างหน้าเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6503

สูงสุดคืนสู่สามัญ


« ตอบ #873 เมื่อ: กรกฎาคม 10, 2007, 11:12:21 PM »

วันนี้นึกอยากเขียนขั้นรายการนิดครับ เรื่องความเป็นนักกีฬาใน IPSC ซึ่งพอดีผมได้คุยกับนักกีฬาบางท่าน ก็เลยอยากจะให้นักกีฬาใหม่และกลางเก่าใหม่ทราบ เชื่อว่าน่าจะมีประโยชน์บ้างถ้าทำความเข้าใจ ผมจะเขียนโดยทั่วไปโดยไม่เจาะจงนะครับขอย้ำไว้ก่อน เผื่อมีคนคิดคนละแบบจะเข้าใจผมผิด
กีฬา IPSC นั้นเป็นกีฬาที่พัฒนาเทคนิกการยิงมาตลอดเพื่อให้นักกีฬาเก่งขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นจะสังเกตุว่าจะมีมือใหม่ๆขึ้นมาเป็นแชมป์อยู่ตลอดเวลาแล้วแต่ยุคแล้วแต่สมัยดั่งคำที่ว่า
คลื่นลูกหลังไล่ลูกแรก แชมป์มีไว้ให้โค่น สถิติมีไว้ให้ทำลาย ในทุกประเภทของกีฬา
เราเก่งในวันนี้แต่ว่าจะมีคนอื่นที่เก่งกว่าเราในวันหน้า เราโค่นคนเก่ามา คนใหม่ก็จะโค่นเรา ดั่งคำพระที่ว่าไม่มีอะไรยั่งยืน ดังนั้นกีฬาทุกประเภทจึงเปลี่ยนแปลงไปทางที่เร็วขึ้น เก่งขึ้น อยู่เสมอ

ผมอยากให้นักกีฬาแต่ละรุ่นต้องหัดทำใจก่อนเข้าไปเล่นกีฬาทุกประเภท ผมมีตัวอย่างหนึ่งซึ่งอาจจะถูกหรือผิดก็ได้แต่นี่ป็นความเห็นส่วนตัวของผมเองนะครับ ผมต้องขอนุญาตบุคคลที่ผมจะกล่าวถึงในนี้ แต่ผมยกในทางที่ดีผมเลยถือว่าอนุญาตผมก็แล้วกัน

คุณคเชนทร์ ในความรู้สึกของผม ผมคิดว่าเป็นมือหนึ่งในประเทศไทยใน Division Open(เป็นคนหนึ่งที่ผมนับถือในความสามารถโดยส่วนตัว)ขณะนี้ แต่สังเกตุดูนะครับว่าบางครั้งก็ไม่ชนะที่ 1 ในการแข่งขัน ซึ่งผมบอกน้องๆในทีมเสมอว่า สาเหตุที่เขาไม่ได้ชนะในแมทช์นั้นๆหรือระยะนั้นๆเพราะ เขาอาจจะเบื่อซ้อมเนื่องจากเขาชนะมาบ่อยแล้วยังไม่คิดว่าจะไปแข่งเมืองนอกหรือแมทช์ใหญ่ๆเลยชะลอการซ้อมลงหรือมีปัจจัยอื่นๆ ซึ่งตัวคุณคเชนทร์จะทราบเองว่าเมื่อไหร่ควรจะเริ่มจริงจังอีก แต่ถึงเขาซ้อมเต็มที่แต่บางครั้งก็แพ้ได้เพราะมีเหตุปัจจัยอื่นๆ แต่เขาไม่เคยโกรธเคืองที่แพ้เพราะเขาเข้าใจว่านี่คือกีฬาแพ้ชนะไม่สำคัญตราบที่เขาทำเต็มที่ เขาไม่เคยหาข้อแก้ตัวเขาไม่เคยดูหมิ่นคนที่ชนะเขาเลย ผมไม่ได้นับถือเพราะเขายิงเก่งอย่างเดียวแต่ผมนับถือเพราะความครบของการเป็นนักกีฬา นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ควรจะจำเป็นแบบอย่าง

แน่นอนครับทุกคนแข่งกันเต็มที่ในเกมส์แต่แพ้ชนะเป็นผลจากการฝึกซ้อมและความพร้อม ถ้ายิงปืนบ้านเราเป็นเหมือนอเมริกาจะดีมากเพราะสามารถใช้ยังชีพได้เป็นธุรกิจ ถ้าเช่นนั้นผมว่าเราจะมีอีกหลายนักกีฬาที่เป็นสุดยอดในอันดับโลกและจะมีหลายโรงเรียนที่สอนกีฬานี้ให้เจริญรุ่งเรืองกว่านี้ครับ

กีฬาทุกชนิดต้องตั้งเป้าหมายหลักและรอง ว่าเราต้องการทำอย่างไรและเพื่อถึงจุดที่เราต้องการต้องทำยังไงเพื่อไปให้ถึงฝัน อย่าจมกับอดีตว่าเราอย่างงั้นอย่างงี้และจะเป็นอย่างงั้นตลอดไป บางคนอาจจะคิดว่าผมเก่ง ผมปรับคลาสเร็วแล้วผมต้องเป็นอย่างที่คิดเสมอ ผมเตือนวรกฤษเสมอว่า การที่ยิง IPSC 1 ปีแล้วขึ้นมาได้ระดับนี้ อย่าคิดว่าสถิตินี้จะเป็นอย่างงี้ตลอดไปเพราะมีอีกหลายคนที่ผมว่าจะมาเร็วแน่เช่น เจ้าลิงกังส์ เป็นต้นอยู่ที่ความอยาก(อีกแล้ว)ของแต่ละคน ถ้าเราแพ้เขาเราก็ต้องพยายามให้มากขึ้น จัดระบบการซ้อมให้ดีขึ้น หาคนมาช่วยแนะนำ ส่วนมือที่ต่ำกว่าก็สามารถถกข้อมูลได้กับมือที่สูงกว่าเพราะความรู้สามารถขวนขวายหาได้ในโลกยุกนี้

ในกีฬา IPSC เขากำหนดกติกาว่าจะต้องมีมือระดับ GM หรือ M อย่างน้อยกี่ท่านถึงจะมีการปรับคลาสได้และปรับได้กี่ตำแหน่ง เพื่อว่าถ้านักกีฬามือสูงๆท่านใดท่านหนึ่งยิงไม่ดีในวันนั้นก็จะมีคนที่ยิงดีอยู่ด้วยในแมทช์นั้นและถ้าท่านทำ%ได้ตามที่กำหนดก็ปรับคลาสได้ตามกำสมาคมที่รับรองซึ่งจะประกาศเป็นทางการ ผมได้ยินบ่อยๆว่าคนนั้นปรับได้คลาสโน้นคลาสนี้เพราะฟลุ๊กหรือไม่ใช่เก่งแท้จริงในการแข่งวันนั้น ซึ่งผมว่านั่นเป็นความคิดที่อคติยึดติดกับตัวเองครับเพราะเมื่อมีนักกีฬาระดับหัวแถวมาแข่งเท่าจำนวนที่สมาคมกำหนดและสมาคมรับรอง เมื่อนักกีฬาท่านนั้นทำได้ผมถือว่าเขาได้ทั้งศักดิ์และสิทธิในการครองตำแหน่งนั้นๆโดยสมบูรณ์ครับ เป็น B A M GM เต็มขั้นไม่มีเทียม ไม่มีฟลุ๊กเพราะถ้าเราถือว่าเขาได้มาเพราะฟลุ๊กก็หมายถึงว่าผู้ที่ลงแข่งมาในแมทช์นั้นที่แพ้เขาเป็นคนที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้อง เพราะเราแพ้โดยผลที่ประกาศออกมาโดยการรับรองของสมาคมครับ ผมและนักกีฬาอีกหลายๆท่านไม่เคยอายเลยยามที่แพ้มือใหม่ๆ แถมเรายังแสดงความยินดีด้วยที่เขาทำได้ครับ ถ้านักกีฬาทุกท่านทำใจงี้ตั้งแต่เริ่มผมเชื่อว่า IPSC บ้านเราจะต้องเก่งขึ้นเรื่อยๆและจะมีสถิติใหม่ดีๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆครับ

ผมอยากให้นักกีฬาใหม่ทุกท่านเข้าใจในสิ่งนี้ก่อนที่จะเข้าร่วมกีฬาทุกชนิดครับ หลักคิดที่ผมอยากแนะนำครับ
1. ตั้งเป้าหมายหลักและรองในแต่ละช่วงเวลา
2. กำหนดทิศทางตัวเองให้ดีและฝึกซ้อมให้เป้นระบบ
3. หัดทำให้ถูกต้องถ้าไม่รู้หาผู้รู้ที่จะแนะนำได้
4. กล้าถามอย่าอายครับ
5. อย่าคิดว่าเราเป็นที่1 ต้องหมั่นฝึกซ้อมและทบทวน
6. ไปสนามซ้อมทุกครั้งกำหนดสิ่งที่อยากซ้อมให้ชัดเจน กำหนดกระสุนที่จะใช้ให้ชัดๆ
7. กระสุนทุกนัดที่ยิงออกไป ต้องได้ประโยชน์ไม่ใช่เพื่อความมันส์เท่านั้น
8. การซ้อมทำให้เราเก่งหรือไม่เก่งก็ได้ครับ แต่การซ้อมทำให้เรายั่งยืนในสิ่งที่ซ้อม ซ้อมถูกก็จะถูก ซ้อมผิดก็จะผิดครับ
9. เปิดใจกว้างๆเพื่อรับสิ่งใหม่ๆ อย่ายึดติดกับสิ่งที่เราคิดครับ รับมาแล้วเอามาลองดูดีเก็บไว้ ไม่ดีก็ไม่ผิดเพียงแต่ไม่เหมาะกะเราเท่านั้น

ขอให้ทุกท่านเริ่มต้นและพัฒนาทั้งฝีมือและจิตใจด้วยความถูกต้องนะครับ
บันทึกการเข้า

เร็วเท่าที่เห็น   แม่นเท่าที่จำเป็น 
เคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้า   หยุดให้นิ่มนวลดังแพรไหม      
ใจต้องนิ่งดังขุนเขา   ทำทุกอย่างดั่งสายน้ำไหล
วรกฤษ
ความฝันทำให้มนุษย์พัฒนาไปข้างหน้าเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6503

สูงสุดคืนสู่สามัญ


« ตอบ #874 เมื่อ: กรกฎาคม 10, 2007, 11:13:06 PM »

มีเวลาอยู่หน่อยผมเอาวิธีการฝึกซ้อมอีกอย่างมาให้ไปตั้งเพื่อซ้อมมือนะครับ
เป้า2ตัวมีเพลท 8 นิ้วไว้ตรงกลางห่างกันประมาณ 1 ฟุตนะครับ ยืนยิงห่างจากเป้าประมาณ 10 เมตร
ยิงเป้า2นัด เพลท 1 นัดและเป้าอีก 2 นัด
สิ่งที่ได้จากการฝึกแบบนี้คือ การยิงเป้าใหญ่แล้วเปลี่ยนมาเป้าเล็กแล้วกลับไปเป้าใหญ่ ฝึกในการวาดปืนจากใหญ่ไปเล็กและไปใหญ่ ถ้ายิงถูกหลักวาดจากใหญ่ไปเล็กจะช้านิดหนึ่งพอเล็กไปใหญ่จะเร็วขึ้นอีกหน่อย
ข้อควรจำและทำครับ เวลาไปซ้อมให้พยายามยิงให้ได้โซน A ครับอย่ายิงเอามันส์ เพราะถ้าเราซ้อมเร็วไม่ได้โซนเวลาไปแข่งจะยิ่งไม่ได้ใหญ่เลย
วิธีทำคือ ยิงชุดแรกช้าๆก่อนยิงให้สมบูรณ์แบบทุกอย่างคือ ปืนเข้าแนวโซน A ลั่นไกทุกนัดให้เห็นศูนย์หรือด๊อท วาดเป้าไปโดยให้ตานำศูนย์หรือด๊อทก่อนหลักคือ เป้า ศูนย์ ลั่นไก ทำทุกอย่างให้ถูกต้อง พอจบชุดแรก เริ่มยิงชุดที่สองก็ยิงให้เร็วขึ้นอีกนิด ชุดต่อๆไปก็เร็วขึ้นเรื่อยๆ พอเริ่มจะผิดหรือไม่ดีให้ถอยความเร็วลงมาที่สุดท้ายที่ทำได้สัก 2-3 ชุดถ้าดีหมดนั่นเป็นเวลาที่เราควรนำมาใช้ในการแข่งเพราะนั่นคือ Par Time ของเราครับ ซ้อมบ่อยๆบันทึกเวลาไว้แล้วนานกลับมาทำใหม่เปรียบเทียบถึงความเปลี่ยนแปลงว่าดีขึ้นหรือแย่ลง ถ้าแย่ลงตรงไหนที่แย่ วาดเป้าหรือลั่นไก ถ้าวาดเป้ามันเกิดตอนไหนจากใหญ่ไปเล็กหรือเล็กไปใหญ่ ถ้ารู้เราก็ฝึกตรงที่แย่จนมันดีขึ้น แก้ปัญหาไปทีละอย่างแล้วจับมารวมกันอีกที

โดยส่วนตัวผมชอบซ้อมพื้นฐานมากกว่าจัดสเตจยิง เพราะจัดสเตจยิงเปลืองมากแถมเรียนไม่ค่อยได้มาก ยุ่งยากวุ่นวายเสียเวลาจัด แต่พอยิงเบสิกไประดับหนึ่งผมจะจัดสเตจที่ซ้อมเบสิกมาๆรวมกันเพื่อทดสอบดู นี่เป็นสิ่งที่ผมทำกับทีม Phoenix ทุกคนซ้อมเบสิกให้ดีและประมาณ1เดือนจัดสเตจซ้อมกันเพื่อดูว่าทำได้แค่ไหน ไม่ได้ก็ซ่อมกันเป็นเรื่องๆไปเพราะพวกผมงบน้อย ต้องซ้อมอย่างประหยัดครับ เรื่องนี้ผมไม่แน่ใจว่าถูกหรือผิดหรือเหมาะหรือไม่กับคนอื่นก็ลองพิจารณาความพร้อมของตนเองก้แล้วกันครับ ถ้าพร้อมมากอาจจะจัดอาทิตย์ละครั้งก็ไม่ผิดครับ

ผมยกตัวอย่างให้ดูเช่น
1.รอบนี้เราซ้อมนั่งและวางปืนบนโต๊ะ โหลดแล้วยิง
2.วาดเป้าใกล้ กลาง ไกล
สมมุติไว้แค่ 2 อย่างสเตจที่จัดก็จะมุ่งมาที่ 2 เรื่องนี้คือ ท่าเริ่มต้น นั่งบนเก้าอี้หลังพิง ส่วนวาดเป้าก็จะให้วาดแค่ 2 โซนๆละ3เป้า ถ้ามีซ้อมท่าย่อเข่ายิงก็จะจัดยืนยิง 1 โซนย่อเข่ายิง 1 โซนเป็นต้น

ผมสมมุติให้ดูเพื่อคนที่จะนำไปซ้อมยังนึกไม่ออกว่าจะทำอย่างไงดี แต่ถ้ามีวิธีอื่นอยู่แล้วก็ไม่ต้องสนใจหัวข้อนี้ครับ แล้วเจอกันตอนต่อไปครับ
บันทึกการเข้า

เร็วเท่าที่เห็น   แม่นเท่าที่จำเป็น 
เคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้า   หยุดให้นิ่มนวลดังแพรไหม      
ใจต้องนิ่งดังขุนเขา   ทำทุกอย่างดั่งสายน้ำไหล
วรกฤษ
ความฝันทำให้มนุษย์พัฒนาไปข้างหน้าเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6503

สูงสุดคืนสู่สามัญ


« ตอบ #875 เมื่อ: กรกฎาคม 10, 2007, 11:13:24 PM »

วันนี้มาเขียนอีกรูปแบบหนึ่งของการซ้อมที่นักกีฬา IPSC ชอบวางกันบ่อยๆนะครับ
เป้า 3 ตัววางตัวที่ 1 ที่ระยะ 6 เมตร ตัวที่ 2 ประมาณ 10 เมตรและตัวที่ 3 ประมาณ 15 เมตร จะวางในรูปแบบไหนก็ได้เช่นเรียงกันลงไปหรือวาง6,15,10 ก็ได้นะครับตามสะดวก สิ่งที่ต้องการเรียนจากเป้าในลักษณะนี้คือความเร็วในการยิงที่ควรจะแตกต่างกันเช่น ใกล้เร็ว ไกลช้า นักกีฬาใหม่ส่วนใหญ่จะยิงในจังหวะที่เท่ากันซึ่งผิดครับ อีกอย่างทีทำได้จากวิธีการฝึกนี้เช่น ก้าวไปข้างหน้าหรือทิศใดก็ได้แล้วค่อยยิงหรือปืนไม่โหลด เป็นต้น นึกอะไรที่เราเจอในสนามแข่งออกก็ฝึกไปเลยครับ มือเดียวถนัด มือเดียวไม่ถนัด หรือปิดตัวประกันเพิ่มก็ได้ ทำบ่อยๆเดี๋ยวเก่งเองครับ 
สังเกตุไหมว่าทำไมส่วนใหญ่ถึงซ้อมกัน 3 เป้าบ่อยๆคำตอบคือ
1. 3เป้านั้นสามารถทำให้เรามีการปรับเปลี่ยนจังหวะการยิงของเราครบคือ เร็ว กลางและช้า หรือกลาง ช้าแล้วเร็ว นี่เป็นประโยชน์ข้อแรก
2. ในการแข่ง IPSC นั้นในแต่ละโซนปรกติจะยิงเป้ากระดาษไม่เกิน 3 เป้าแต่จะมีเหล็กและหรืออื่นๆเข้ามาแซม แต่โดยมากจะเป็น 3 เป้ากระดาษครับ

มีอีกวิธีที่ผมอยากให้ทำทุกครั้งที่ไปสนามมันจะเปลืองกระสุนมากหน่อย แต่มันจะสอนคุณในการยืน มองศูนย์ ลั่นไก โดยเฉพาะนิ้วที่เกล็งและอื่นๆ ฝรั่งเรียกวิธีการนี้ว่า Triple Six Drill วิธีคือ
เป้า 1 ตัวที่ระยะ 6 เมตร หลังสัญญาณยิงให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ 6 นัดที่เป้าเดียวสิ่งที่ต้องการคือทุกนัดต้องอยู่ในโซน A เท่านั้น นี่คือระยะแรก
เป้า 1 ตัวที่ระยะ 10-11 เมตรยิงเหมือนชุดแรกแต่ต่างกันที่ระยะ
เป้า 1 ตัวที่ระยะ 15 เมตรยิงเหมือนกันอีก
ผมดัดแปลงนิดหนึ่งเพราะฝรั่งจะทำกันที่ 6-15-25 เมตรเลย เมื่อไหร่ที่เก่งขึ้นก็พัฒนากันเองตามสบายครับ บอกได้เลยว่าไม่ง่ายที่จะยิงให้อยู่ใน A ทั้งหมด 18 นัดครับ
ถ้าเป็นไปได้อยากให้สังเกตุเวลายิงว่าเกิดอะไรขึ้นกับศูนย์ปืนเช่น ศูนย์ขึ้นลงเอียงหรือไม่ กลับสู่ตำแหน่งเดิมหรือเปล่า เราเห็นศูนย์ในการยิงทุกนัดไหม เรายืนดีหรือไม่ เราเดินไกเป็นอย่างไรเป็นต้น ลองดูครับวิธีนี้สอนเราได้มากๆเลย เคล็ดของการยิงวิธีการนี้คืออย่าเกร็งเป็นอันขาด ถ้าคุณเกล็งกล้ามเมื่อไหร่นิ้วคุณจะไม่รักดีคือไม่ฟังคำสั่งครับ
บทต่อไปเราจะไปฝึกยิงหลังที่กำบัง(ฉาก)และหรืออื่นๆแล้ว เพราะรูปแบบการฝึกผมเชื่อว่าคงจะจินตนาการขึ้นมาได้เองนะครับ...แล้วพบกันในบทใหม่ครับ
บันทึกการเข้า

เร็วเท่าที่เห็น   แม่นเท่าที่จำเป็น 
เคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้า   หยุดให้นิ่มนวลดังแพรไหม      
ใจต้องนิ่งดังขุนเขา   ทำทุกอย่างดั่งสายน้ำไหล
วรกฤษ
ความฝันทำให้มนุษย์พัฒนาไปข้างหน้าเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6503

สูงสุดคืนสู่สามัญ


« ตอบ #876 เมื่อ: กรกฎาคม 10, 2007, 11:13:57 PM »

Classification
หลักเกณฑ์การปรับ Class ของนักกีฬา

นักกีฬาที่ไม่เคยเข้าแข่งระบบ IPSC เมื่อมีความประสงค์จะลงทำการแข่งขัน สามารถสมัครได้ใน Class U เมื่อทำการแข่งขันครั้งนั้นแล้ว นักกีฬาทำการยิงได้เปอร์เซ็นต์เท่าใดจากผลการตัดสิน Overall Standing ก็จะนำไปเที่ยบกับเปอร์เซ็นต์ที่ใช้ในการแบ่ง Class หากเปอร์เซ็นต์ไปอยู่ใน Class ใด ก็จะได้รับการจัดชั้นให้อยู่ Class นั้น ในการแข่งขันคราวต่อไป. หลังจากนี้ ถ้านักกีฬาคนดังกล่าวไปยิงใน Division อื่นที่ยังไม่เคยยิง ก็จะต้องลงใน Class U อีกครั้ง และปรับคลาสตามระบบที่กล่าวไว้ข้างบน.
 
นักกีฬาที่มี Class อยู่แล้ว

จะได้รับการปรับ Class 2 วิธี คือ เมื่อนักกีฬาทำการแข่งขันใน Match ที่จัดโดยสมาคมฯ หรือชมรมที่เป็นสมาชิก สมาคมฯ แล้วติดอันดับ 1-2 ใน Class ของตัวเอง สมาคมฯจะนำผลการยิงของแต่ละคนมาตรวจสอบว่าได้ เปอร์เซ็นต์จาก Overall Standing เท่าใด หากนักกีฬาผู้นั้นได้เปอร์เซ็นต์อยู่ใน Class เดิมก็จะไม่มีการปรับ Class แต่หากได้เปอร์เซ็นต์สูงกว่า Class เดิม ก็จะได้รับการปรับ Class ให้ไปอยู่ใน Class ที่สูงกว่า 1 ขั้น ยกเว้น Match Level III ได้เปอร์เซ็นต์เท่าไหร่ก็จะได้รับการปรับการปรับให้ไปอยู่ใน Class นั้น ๆ
เมื่อนักกีฬาทำการแข่งขันใน Match ที่จัดโดยสมาคมฯ หรือ ชมรมฯ อื่น ๆ ที่สมาคมฯรับรอง และในการแข่งขันมีนักกีฬา Grand Master ใน Open, Standard Division อย่างน้อย 3 คน หรือ Master ใน Production Division อย่างน้อย 2 คน ใช้กระสุนอย่างน้อย 120 นัด และมีการตรวจวัดค่าความเร็วกระสุน (Major/Minor) สมาคมฯจะขอผลการแข่งขันครั้งนั้น ๆ มาทำการปรับ Class โดยใช้วิธีเช่นเดียวกับที่กล่าวมาแล้วข้างบน
 
การขอลด CLASS ของตัวเอง

นักกีฬาที่มีความประสงค์จะขอลด Class ของตัวเอง สามารถร้องขอต่อสมาคมฯ เพื่อพิจารณา ลด Class ได้ โดยต้องมีเงื่อนไข ดังนี้  ทำการแข่งขันแล้วผลการแข่งขันจาก Overall Standing ได้ต่ำกว่า Class ของตัวเองอยู่ อย่างน้อย 2 Match ติดต่อกัน โดย 1 ใน 2 Match นั้นจะต้องจัดโดยสมาคมฯ และ อีก 1 Match เป็น Match ที่สมาคมฯ นำมาใช้ปรับ Class ด้วย
ได้รับการรับรองจากนักกีฬาใน Class ที่ตัวเองจะขอลดลงไป ว่าเห็นสมควรให้นักกีฬาผู้นั้นลด Class ลงมาทำการแข่งขันได้อย่างน้อย 6 ท่าน โดยทำเป็นลายลักษณ์อักษร เซ็นต์ชื่อของนักกีฬาที่รับรองนั้น ๆ
 
เปอร์เซ็นต์ที่ใช้ในการแบ่ง Class เริ่มใช้ตั้งแต่การแข่งขันปี 2001 เป็นต้นไป

สำหรับ Open และ Standard Division

Grand Master 95-100%
Master Class 85-94.9%
Class A 75-84.9%
Class B 60-74.9%
Class C 0-59.9%

สำหรับ Production Division (เริ่มปี 2005 – หลังจาก Match Thailand IPSC Standard Championship 2005 – 11-12 June 2005 โดยใช้ Match Result จาก Match ดังกล่าวมาเริ่มจัดคลาส)

Master Class 85-100%
Class A 75-84.9%
Class B 60-74.9%
Class C 0-59.9%
บันทึกการเข้า

เร็วเท่าที่เห็น   แม่นเท่าที่จำเป็น 
เคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้า   หยุดให้นิ่มนวลดังแพรไหม      
ใจต้องนิ่งดังขุนเขา   ทำทุกอย่างดั่งสายน้ำไหล
วรกฤษ
ความฝันทำให้มนุษย์พัฒนาไปข้างหน้าเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6503

สูงสุดคืนสู่สามัญ


« ตอบ #877 เมื่อ: กรกฎาคม 10, 2007, 11:14:56 PM »

คำถาม........

ผมเพิ่งเข้ามาติดตามได้ไม่นานครับ ไม่แน่ใจว่าคำถามของผมจะมีคำตอบอยู่แล้วหรือไม่ เพราะผมยังหาไม่เจอ แต่ที่ติดตามอ่านการเริ่มต้น การยิง IPSC จากพี่ "นกไฟ" มีข้อสงสัยอยู่นิดหน่อย รบกวนพี่นกไฟช่วยขยาย นิดหนึ่ง เกี่ยวกับ คลาสต่างๆ 
 ที่พี่นกไฟเอ่ยถึงบ่อยๆ ความหมายของแต่ละคลาส และการที่จะได้มา การเลื่อนคลาส ต่างๆเหล่านี้ เพื่อที่ผมจะได้อ่านบทความของพี่นกไฟได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น
ขอบคุณครับ


คำตอบ........


ได้ครับ...ผมจะอธิบายให้ทราบตามที่ถามมาดังนี้
เมื่อคุณเริ่มมาแข่งครั้งแรกคุณจะแข่งในคลาส U คลาส U นั้นหมายถึงสมาคมไม่ทราบฝีมือมาก่อนว่ายิงเก่งแค่ไหน หลังจากแข่งแล้วถ้าคุณทำ%ของคุณได้เท่าไหร่คุณก็จะไปที่คลาสนั้นเลย ส่วน%จะเขียนต่อข้างล่างครับ
ใน Division Open และ Standard จะจัดคลาสเหมือนกันดังนี้
เริ่มด้วย U ซึ่งจะแข่งคลาสนี้ได้ครั้งเดียวในดิวิชั่นนั้น หลังจากนั้นจะเป็น C ถ้า%คุณไม่ถึงคลาสอื่นก็จะอยู่คลาสนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าคุณจะได้%ถึงคลาสอื่น
B คุณต้องทำ%ของคุณให้ได้ไม่ต่ำกว่า 60%
A คุณต้องทำได้ไม่ต่ำกว่า 75% รายละเอียดเหมือน B
M คุณต้องได้ไม่ต่ำกว่า 85%
GM คุณต้องได้ไม่ต่ำกว่า 95% ครับ
หมายเหตุ: ในแต่ละแมทช์ที่แข่งโดยสมาคมรับรองเท่านั้นที่จะได้ปรับคลาสและคุณต้องได้ตำแหน่งที่ 1 และ 2 ในแมทช์นั้นเท่านั้นที่จะได้ปรับคลาส ถ้าคุณได้ที่ 3 ในวันนั้นถึง%คุณถึง คุณก็ยังอยู่คลาสเดิมต่อไปครับ แต่มีแมทช์ที่ยกเว้นซึ่งถือเป็นแมทช์ใหญ่คือตั้งแต่ Level3 ขึ้นไป ถ้าคุณแข่งได้เท่าไหร่คุณก็จะไปตาม%ที่คุณได้ครับ
ในดิวิชั่น Production นั้นสูงสุดมีแค่คลาส M เท่านั้น ที่มีแค่คลาสนี้เนื่องจากดิวิชั่นนี้เพิ่งจะมาเติบโตในช่วงหลังๆนี้เองครับ
ถ้าต้องการรายละเอียดที่มากกว่านี้คุณสามารถไปที่เวปสมาคมได้ครับ www.thpsa.com คุณสามารถหารายละเอียดได้มากกว่านี้ครับ ถ้าอ่านแล้วอยากถามอะไรอีกก็เชิญได้ครับ

พี่นาจาเข้ามาช่วยพอดี ผมเขียนเสร็จแล้วเลยขี้เกียจลบเสียดายเวลาที่เขียน ยังไงก็ขอบคุณครับ ช่วยๆกันนะ 
บันทึกการเข้า

เร็วเท่าที่เห็น   แม่นเท่าที่จำเป็น 
เคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้า   หยุดให้นิ่มนวลดังแพรไหม      
ใจต้องนิ่งดังขุนเขา   ทำทุกอย่างดั่งสายน้ำไหล
วรกฤษ
ความฝันทำให้มนุษย์พัฒนาไปข้างหน้าเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6503

สูงสุดคืนสู่สามัญ


« ตอบ #878 เมื่อ: กรกฎาคม 10, 2007, 11:15:16 PM »

วันนี้เรามาว่ากันถึงการยิงหลังฉากที่กำบังกันนะครับ แต่เราจะเริ่มที่การยิงจากด้านข้างของฉากทั้งซ้ายและขวากันก่อน
การยืนในการยิงหลังฉาก..ผมเห็นนักกีฬาใหม่ส่วนมากเข้าไปยิงจากหลังฉากที่กำบังนั้นจะยืนกันไม่ค่อยถูกเพราะส่วนใหญ่จะยืนหันข้างให้ฉากเช่นยิงด้านขวาของฉาก เท้าซ้ายจะไปอยู่หน้า เท้าขวาอยู่หลังและหันตัวไปทางขวากัน พอยิงเป้าลึกหน่อยจะหงายตัวมาข้างหลังกัน
การยิงหลังฉากพยายามยึดหลักดังนี้นะครับ..ผมจะยังไม่เขียนเรื่องเข้าไปยิงแต่จะพูดถึงการยืนเท่านั้นครับ

1. อย่ายืนชิดกับฉากมากจนเกินไป
2. พยายามยืนให้ขนานกับฉากครับ เท้าจะเหลื่อมกันนิดหน่อยไม่ใช่ปัญหา แต่พยายามยืนขนานกับฉาก
3. ใช้การถ่ายน้ำหนักเอาในการจะยิง
4. อย่าหงายตัวมาข้างหลัง

การที่เรายืนชิดฉากมากจะทำให้เราถูกจำกัดการเคลื่อนไหวและแนวองศาการยิง ลองง่ายๆว่ายืนชิดกำแพงที่บ้านแล้วพยายามเอียงตัวยิงเป้าที่ไปทางซ้ายมากๆจะยิงยากครับ ยกเว้นคุณสามารถเอาตัวพิงฝาซึ่งนั่นจะเป็นเป้าที่ลึก ยิงจากฝั่งเดียว แต่ถ้าจะไปที่อื่นต่อมันก็ยากอีกเหมือนกันครับ ดังนั้นพยายามอย่ายืนชิดฉากนะครับ ทิ้งระยะนิดหนึ่งจะทำให้เคลื่อนไหวง่ายขึ้น

พยายามยืนขนานกับฉาก จะทำให้การยืนเรามั่นคงกว่าการยืนแบบนักกีฬาใหม่ทำกันและเรายังโยกตัวและเคลื่อนไหวไปอีกทิศทางหนึ่งได้ง่ายด้วยครับ วิธีลองคือยืนอย่างที่นักกีฬาใหม่ทำแล้วลองพยายามเคลื่อนไปทางซ้ายดู กว่าคุณจะบิดตัวถ่ายน้ำหนักกว่าจะออกตัวได้มันช้ากว่ากันมากพอสมควรเลย เพราะการยืนขนานกับฉากคุณถ่ายน้ำหนักมาซ้ายก็ไปได้เลยครับ

การถ่ายน้ำหนักในการยิง การที่คุณยืนขนานกับฉากนั้น คุณใช้การถ่ายน้ำหนักตัวไปบนขาเช่น ถ้าคุณจะยิงเป้าซ้ายของฉากคุณก็จะถ่ายน้ำหนักตัวคุณไปทางขาซ้าย ใช้ขาซ้ายเป็นตัวรับน้ำหนักตัว ทำให้ตัวคุณโยกไปฝั่งซ้าย ถ้าจะมาทางขวาคุณก็แค่ถ่ายน้ำหนักตัวคุณมาไว้ฝั่งขวาเท่านั้น ซึ่งการยืนแบบหันข้างให้ฉากจะเสียเวลามากกว่า

การยิงหลังฉากไม่ควรหงายหลังเพื่อจะล้วงเป้าที่ลึก ส่วนใหญ่นักกีฬาใหม่วิ่งเข้าไปชิดฉาก พอจะยิงเป้าในๆก็จะใช้วิธีหงายหลังเพื่อเอียงตัวเข้าไปยิง ถ้าเป็นแบบนั้นการที่คุณจะคุมปืนก็ยาก ยิงก็ช้า ส่วนใหญ่ยิงๆไปกระสุนจะสูงขึ้นจนข้ามเป้าไปเพราะการยืนไม่ดี วิธีลองไม่ต้องมีฉากยืนยิงแบบปืนสั้นชาวบ้านดูแล้วยิงหลายๆนัด จะพบปัญหาว่ากลุ่มกระสุนจะสูงขึ้นเรื่อยๆและตัวคุณจะหงายหลังมากขึ้นคุมปืนลำบาก ทีนี้ลองใหม่ครับให้ใช้การถ่ายน้ำหนักที่บอกไว้แล้วโถมน้ำหนักตัวไปข้างหน้าเหมือนคุณยืนยิงธรรมดาเพียงแต่นี่คุณยืนด้วยน้ำหนักหลักไปอยู่ขาข้างหนึ่ง น้ำหนักตัวที่โถมไปข้างหน้าจะช่วยให้คุณสู้กับแรงรีคอยล์ของปืนได้ดีกว่าครับ

นี่เป็นหลักคร่าวๆในการยิงที่อยู่หลังฉากยังมีรายละเอียดอย่างอื่นอีกแล้วมีเวลาจะมาเขียนต่อครับ
ถ้ามีคำถามก็เขียนถามไว้เชื่อว่าจะมีคนมาช่วยผมตอบหรือถ้าผมมาเจอก็จะมาตอบให้ครับ
บันทึกการเข้า

เร็วเท่าที่เห็น   แม่นเท่าที่จำเป็น 
เคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้า   หยุดให้นิ่มนวลดังแพรไหม      
ใจต้องนิ่งดังขุนเขา   ทำทุกอย่างดั่งสายน้ำไหล
วรกฤษ
ความฝันทำให้มนุษย์พัฒนาไปข้างหน้าเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6503

สูงสุดคืนสู่สามัญ


« ตอบ #879 เมื่อ: กรกฎาคม 10, 2007, 11:15:32 PM »

พอดีผมเขียนข้อแนะนำให้นักกีฬาใหม่ไว้ในถามตอบเห็นว่ามีประโยชน์ก็เลยจะเอามาเขียนรวมไว้ที่นี่ด้วยครับ

เวลาที่ท่านยิงไปแล้วในสนามแข่งแล้วเกิดความไม่แน่ใจว่าถูกหรือไม่ นักกีฬาใหม่ส่วนใหญ่จะหยุดและมองไม่ว่าระหว่างยิงหรือยิงนัดสุดท้ายแล้ว นั่นเสียเวลามากเลยถ้าท่านจะยิงแถมอีกหนึ่งนัด ข้อแนะนำของผมคือถ้าไม่แน่ใจอย่าหยุดมองครับ ยิงแถมไปเลยถ้ามีอยู่แล้วและมีอีกนัดก็แค่เสียเวลานิดเดียวแต่ถ้าหยุดมองแล้วค่อยยิงท่านจะเสียเวลามากเลย ดังนั้นจำไว้ครับไม่มั่นใจแถมเดี๋ยวนั้นเลย อย่าหยุดสำรวจ

ข้อต่อไปคือ ดูผลงานตัวเอง ผมเห็นนักกีฬาใหม่หรือกลางเก่าใหม่ เวลาแข่งยิงแล้วชอบดูผลงานว่าถูกหรือไม่ เมื่อยิงแล้วต้องมั่นใจถ้าไม่มั่นใจดูข้อที่เพิ่งอ่านครับ..ยิงแล้วต้องไปเลยอย่าลังเลครับ

เวลายิงจบนักกีฬาใหม่หรือกลางเก่าใหม่ชอบลดปืนลงทันที อย่าครับ..อย่าลดทันที ให้ค้างไว้หรือกวาดเป้าในโซนสุดท้ายอีกครั้ง(Follow Through)ไว้ ถ้ามิสท่านซ้ำได้เลย ดีกว่าลดปืนแล้วมองพอเห็นยกปืนขึ้นใหม่แล้วค่อยยิง ดังนั้นอย่าลดปืนลงทันทีหลังยิงจบ ไม่ต้องห่วงครับตราบเท่าที่ไม่ยิงเวลามันไม่ขึ้น กวาดเป้าอีกสักรอบครับก่อนลดปืน

ถ้าระหว่างยิงเป้าที่มีประกันอยู่ด้วย ถ้าท่านยิงเป้าแรกมี 1 นัดและโดนประกันไปอีก 1 นัดให้รีบยิงที่เป้าอีก 1 นัดทันที(อย่ายิงประกันอีกละครับ  ) เพราะถ้าท่านไม่ยิงอีกนัด1 ท่านจะเสีย 1ประกัน+1มิส แต่ถ้าท่านแถมอีกนัดท่านจะเสียแค่ 1ประกันกับเวลาอีกเล็กน้อยซึ่งคุ้มกว่าทิ้งครับ

คำเตือนสุดท้ายสำหรับวันนี้...นักกีฬาใหม่และกลางใหม่ หลายๆท่านเวลาคุกเข่ายิงหรือนอนยิงแล้วชอบนอนเคลียร์ปืนซึ่งอันตรายมากๆ เคยมีนักกีฬานอนเคลียรืปืนเรียบร้อยแล้วและเอาปืนใส่ซองเท่านั้นแหละครับโดน DQ เลยเหตุเพราะว่านอนใส่ซองนั้นลำกล้องปืนมันหันมาข้างหลังเต้มๆซึ่งเกิน 180 องศาในกฎ ดังนั้นยิงเสร็จแล้วลุกขึ้นยืนให้เรียบร้อยแล้วค่อยเคลียร์ปืนครับ เวลาเคลียร์ปืนให้รักษาสมาธิไว้เพราะขั้นตอนยังไม่จบสิ้นจนกว่าจะใส่ซอง มีเรื่องจริงที่เกิดขึ้นคือนักกีฬาบางท่านยิงจบเคลียร์ปืนแต่ไม่มีสมาธิอยู่กับสิ่งที่ทำ เลยลืมปลดแม็กกาซีน พอดึงสไลด์ลูกปืนดีดออกมา พอลดนกเท่านั้นที่ยิงมาทั้งหมดก็จบลงเพราะปืนลั่นเลย ดังนั้นเวลาเคลียร์ปืนต้องทำให้ครบ สมาธิอย่าหลุดจนกว่าจะจบขั้นตอนคือใส่ซอง

คำเตือนเหล่านี้ทั้งหมดผมหวังว่าจะมีประโยชน์สำหรับนักกีฬาใหม่ทุกท่านนะครับ
บันทึกการเข้า

เร็วเท่าที่เห็น   แม่นเท่าที่จำเป็น 
เคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้า   หยุดให้นิ่มนวลดังแพรไหม      
ใจต้องนิ่งดังขุนเขา   ทำทุกอย่างดั่งสายน้ำไหล
วรกฤษ
ความฝันทำให้มนุษย์พัฒนาไปข้างหน้าเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6503

สูงสุดคืนสู่สามัญ


« ตอบ #880 เมื่อ: กรกฎาคม 10, 2007, 11:16:06 PM »

มาเขียนต่อเทคนิกการยิงหลังฉากอีกนิดนะครับ ผมบอกไว้ก่อนว่าสิ่งที่ผมเขียนมาจากความถนัดของตัวเอง ถ้าลองแล้วไม่เหมาะสมหรือไม่ดีก็คิดค้นใหม่ครับ แต่นี่เป็นแนวทางให้คุณได้เริ่มต้นครับ

การเข้าไปยิงหลังฉาก...เมื่อผมต้องการเข้าไปยิงฝั่งขวาของฉาก สิ่งแรกที่จะทำก็คือมองตำแหน่งที่ผมจะเหยียบ เมื่อผมรู้แล้วว่าผมจะเหยียบที่ไหนเมื่อนั้นผมจะเริ่มมองหาเป้าที่จะยิง อย่าสงสัยครับที่ผมเขียนว่ามองหาเป้า ผมนึกมองผ่านฉากเท่านั้นว่าเป้าอยู่ที่ไหน ก่อนถึงตำแหน่งอย่างน้อย 2 ก้าวยิงมือทั้ง 2 ควรกริปปืนเรียบร้อยแล้ว ถ้าจะยิงฝั่งขวาผมจะเอาขาขวาเข้าก่อนเสมอ ถ้ายิงฝั่งซ้ายของฉากผมจะเอาเท้าซ้ายเข้าก่อนครับ ขณะที่ก้าวเท้าแรก(สมมุติขวา)เข้าไปในตำแหน่งที่มองไว้ คุณควรจะดันปืนของคุณไปด้วยเพื่อที่เท้าซ้ายของเราแตะพื้นคุณจะได้สามารถยิงได้ทันที สำหรับมือเจ๋งๆนั้นเขาอาจจะยิงก่อนเท้าซ้ายแตะพื้นด้วยซ้ำครับ นี่เป็นหลักคร่าวๆที่คุณสามารถนำไปฝึกได้ครับ
วิธีฝึก
1. กริปปืนในมือในท่าพร้อมหรือ High ready ก้าวเท้าไปหนึ่งก้าวพร้อมทั้งดันปืนไปที่เป้า(วิธีดันปืนอ่านเอาจากข้างหน้าครับ)แล้วถอยกลับมาใหม่ ทำหลายๆครั้งจนกว่าจะถนัด
2. ทีนี้ก้าวเท้าไปข้างหน้า 1 ก้าวอย่าลืมดันปืนไปด้วยครับ พอเสร็จตรงนี้ก็เอาเท้าซ้ายตามมายืนในท่ายืนยิงปรกติ คุณสามารถเหนี่ยวไกได้ทันที
เคล็ดอยู่ที่ตรงนี้ครับว่า ถ้าคุณเข้าไปยืนแบบปรกติศูนย์ปืนคุณจะถ่ายวูบไปข้างซ้ายทันที(ถ้าก้าวที่2เป็นเท้าซ้าย) ดังนั้นเคล็ดที่ถูกคือ น้ำหนักบนตัวคุณจะต้องอยู่บนเท้าขวาครับ ขาซ้ายแค่เอามาประคองตัวไว้ พอคุณเริ่มยิงแล้วการถ่ายน้ำหนักจะเป็นไปตามธรรมชาติแล้ว ที่สำคัญคือนัดแรกครับ
3. หลังจากเข้าใจวิธีทำแล้ว ทีนี้ก็ลองหลายๆก้าวดูครับ
วิธีการนี้จะทำให้คุณยิงนัดแรกได้เร็วขึ้นครับ

ผมอยากอธิบายอีกเรื่องหนึ่งสำหรับนักกีฬาใหม่ที่ชอบซ้อมแต่การยิง พยายามยิงเร็วๆ แทร๊ปบ้างและอื่นๆ เนื่องจากเข้าใจว่ายิงเร็วแล้วจะชนะ ในความเป็นจริงนั้นมือในระดับคลาสเดียวกันนั้น การยืนยิงในจำนวนเป้าเท่ากันนั้นแพ้ชนะกันนิดเดียวเท่านั้น แต่ที่จะชนะกันมากจริงอยู่ที่การเคลื่อนไหวครับ ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยซ้อมการเคลื่อนไหวกันเท่าไหร่เพราะเหนื่อยและไม่สนุก แต่จริงๆแล้วส่วนนี้ต่างหากที่สามารถชนะกันได้อย่างง่ายๆเลย แค่คุณขยับเท้า 1ก้าวคุณจะสูญเสียเวลาอย่างต่ำที่สุด 0.5 วินาทีหรือมากกว่าครับ ลองนึกว่าถ้าคุณขยับมากกว่าคู่แข่งแค่ 2 ก้าวคุณเสียเวลาไม่ต่ำกว่า 1 วินาทีซึ่งถ้าเทียบกับการยิง 3 เป้าผมเชื่อว่าแพ้ชนะกันน้อยกว่า 1 วินาทีครับ ดังนั้นฝึกมากๆครับเรื่องการเคลื่อนไหว ทุกวันนี้ผมพยายามซ้อมการเคลื่อนไหวมากกว่าการยืนยิงแต่เนื่องจากร่างกายมันไม่ค่อยจะไหวเลยทำเท่าที่ทำได้ แต่ในทีม Phoenix นั้นผมจับพวกหนุ่มๆวิ่งมากๆ ยิงน้อยๆเช่น วาง Box ขึ้นมา 3-4 Box แล้วให้วิ่งไปทีละ Box แต่ให้ยิงนัดเดียวเท่านั้น นานๆถึงจะให้ยิง 2 นัดและนานออกไปอีกถึงจะให้เคลื่อนเข้าไปยิง 3 เป้าเหมือนปรกติ สาเหตุจากงบประมาณและกระสุนที่หายากครับ นี่เป็น 1 ในวิธีที่ผมใช้ส่วนท่านอื่นๆก็จะมีวีธีการของตนเองซึ่งแล้วแต่ประสพการณ์และปัจจัยอื่นๆ

ผมยังนึกไม่ออกว่าอยากเขียนอะไรอีกเลยขอพักช่วงนี้ก่อน แล้วค่อยมาเขียนต่อไปอีกทีครับ
บันทึกการเข้า

เร็วเท่าที่เห็น   แม่นเท่าที่จำเป็น 
เคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้า   หยุดให้นิ่มนวลดังแพรไหม      
ใจต้องนิ่งดังขุนเขา   ทำทุกอย่างดั่งสายน้ำไหล
วรกฤษ
ความฝันทำให้มนุษย์พัฒนาไปข้างหน้าเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6503

สูงสุดคืนสู่สามัญ


« ตอบ #881 เมื่อ: กรกฎาคม 10, 2007, 11:16:36 PM »

มาเขียนต่อครับ หลังจากหยุดไปกับเรื่อง งง เสียหลายวัน...   
วันนี้เรามาพูดถึงการเดินยิงไปข้างหน้าบ้างครับ...ในการยิง IP นั้นหลายท่านจะเห็นนักกีฬาบางท่านเดินยิงหรือกึ่งวิ่งกึ่งยิงเพื่อลดเวลาขณะเคลื่อนที่ไปด้วย เช่นมีเป้าหรือ Popper อยู่ในช่วงที่เรากำลังเคลื่อนตัวไปอีกโซนยิงหนึ่ง แทนที่จะวิ่งเข้าไปหยุดแล้วค่อยยิง บางท่านจะยิงไปด้วยในระหว่างที่เคลื่อนไหวไปข้างหน้า เพื่อประหยัดเวลาหรือใช้เวลาให้น้อยที่สุด การที่จะทำแบบนั้นได้คุณต้องอ่านตรงกระทู้ช่วงนี้ครับ...   
การที่จะเดินยิงนั้นต้องเข้าใจเทคนิกพื้นฐาน 4 ข้อในการเดินยิงก่อนเพราะถ้าไม่เข้าใจหรือยิงไม่ถูกหลัก ตำแหน่งที่กระสุนตกส่วนใหญ่จะไปลงพื้นข้างล่างเสียหมดครับ หลักใหญ่ๆของการเดินยิงนั้นมีดังนี้ครับ
1. หดแขนเข้ามามากกว่าท่ายิงปรกติเล็กน้อย
2. ย่อเข่าลงในระหว่างเดิน
3. เวลาเดินไปข้างหน้าให้ใช้ส้นเท้าลงก่อน จากส้นเท้าถึงปลายเท้าให้ลงอย่างนิ่มนวล และเดินให้แนวเท้าตรงกัน (Marine Walk)
4. ข้อสำคัญคือ ยิงขณะที่เท้าข้างหนึ่งกำลังลอยอยู่ในอากาศครับ อย่ายิงในจังหวะเท้ากำลังลงแตะพื้น ตรงนี้สำคัญครับอย่าลืม..ยิงในจังหวะที่เท้าข้างหนึ่งลอยอยู่ในอากาศ

หลักการคร่าวๆมีเท่านี้เดี๋ยวมีเวลาเราจะมาดูในรายละเอียดอีกทีครับ   
บันทึกการเข้า

เร็วเท่าที่เห็น   แม่นเท่าที่จำเป็น 
เคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้า   หยุดให้นิ่มนวลดังแพรไหม      
ใจต้องนิ่งดังขุนเขา   ทำทุกอย่างดั่งสายน้ำไหล
วรกฤษ
ความฝันทำให้มนุษย์พัฒนาไปข้างหน้าเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6503

สูงสุดคืนสู่สามัญ


« ตอบ #882 เมื่อ: กรกฎาคม 10, 2007, 11:17:11 PM »

ผมมาเขียนแจกแจงรายละเอียดของการเดินยิงต่อนะครับ
การที่เราเดินอยู่นั้นถ้าเรายืดแขนปรกติจะทำให้ปืนมันเคลื่อนไหวขึ้นลงมากครับ เหมือนกับเราถือไม้ยาวๆเดินมันจะขยับมากกว่าถือไม้สั้นๆครับ ดังนั้นการหดแขนเราเข้ามาหน่อยจะช่วยจุดนี้ได้ดีครับ
ส่วนการย่อเข่าลงจะทำให้การเดินเรานุ่มนวลขึ้นประกอบกับการที่เราใช้ส้นเท้าลงเบาๆแล้วค่อยๆวางเท้าลงจะทำให้ศูนย์ปืนนิ่งขึ้นครับ ลองถือปืนแล้วเดินเต็มเท้าตรงๆดูจะเห็นมันแกว่งไปมาโดยเฉพาะคนที่ยิงโอเพ่น ด๊อทจะวิ่งไปทั่วเลย ดังนั้นควรจะย่อเข่าและเดินลงด้วยส้นเท้าเบา
ส่วนการที่เราเดินให้ปลายเท้าตรงอย่าง Marine Walk นั้นจะทำให้ศูนย์อยู่ในแนวตรงครับไม่บิดซ้ายขวามากนักครับ เพราะเวลาเราเดินเราจะย่างไปจนสุดปลายเท้านั่นเท่ากับว่าเราเดินฉีกไปด้านข้างนิดหนึ่ง พอเดินอีกข้างเราก็จะขยับไปอีกทาง ดังนั้นการเดินยิงที่ดีคือเดินให้ปลายเท้าตรงๆครับ ลองดูครับว่าเดินปลายเท้าอ้าออกและปลายเท้าตรงจะต่างกันอย่างไง
จุดสำคัญมากคือยิงระหว่างเท้าข้างหนึ่งลอยในอากาศ เพราะจังหวะที่เรายิงนั้นจะเหมือนกับเรายืนยิงด้วยเท้าข้างเดียวแต่เมื่อไหร่ที่เท้าอีกข้างแตะพื้นมันจะทำให้ศูนย์กระตุกลงต่ำ ไม่ว่าเราพยายามวางเท้าให้เบามันก็ยังกระตุกอยู่ดี ดังนั้นจังหวะการเหนี่ยวไกอยู่ที่ พอเท้าข้างหนึ่งยกขึ้นกำลังย่างไปข้างหน้าในอากาศนั่นคือจังหวะการยิงครับ พอเท้าที่ย่างนั้นแตะพื้นจังหวะนี้อย่ายิงจนกว่าเท้าอีกข้างลอยขึ้นมาแทนครับ เวลาถมเถครับที่จะยิงในจังหวะที่กำหนด ไม่ต้องยกเท้าสูง ยกเท้าธรรมดาหรือวิ่งนิดๆก็ยังยิงทันครับ ลองฝึกดูครับ มันมีประโยชน์ช่วยในการตัดเวลาลงได้ครับ ถ้าคุณฝึกจนชำนาญครับ

ไว้เจอกันในบทต่อไปเกี่ยวกับการยิงสวิงต่อครับ ส่วนที่เขียนมานั้นถ้าสงสัยก็ถามเข้ามาได้ครับ
บันทึกการเข้า

เร็วเท่าที่เห็น   แม่นเท่าที่จำเป็น 
เคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้า   หยุดให้นิ่มนวลดังแพรไหม      
ใจต้องนิ่งดังขุนเขา   ทำทุกอย่างดั่งสายน้ำไหล
วรกฤษ
ความฝันทำให้มนุษย์พัฒนาไปข้างหน้าเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6503

สูงสุดคืนสู่สามัญ


« ตอบ #883 เมื่อ: กรกฎาคม 10, 2007, 11:17:59 PM »

มาถึงคำถามเรื่องการส่งปืนและยิงมือเดียวไม่ว่าข้างถนัดหรือไม่ถนัดก็แล้วแต่...คำถามสั้นๆแต่ต้องอธิบายยาวเลยครับ    เรามาเริ่มจากการยืนยิงมือเดียวก่อนก็แล้วกัน...หลักการยืนยิงมือเดียวนั้นมี 2 แบบครับ แบบที่1 คือแบบที่เรายืนยิงโดยทั่วไปซึ่งผมจะไม่อธิบายอีก ส่วนแบบที่ 2 นั้น ถ้าเรายิงด้วยมือข้างที่ถนัด(สมมุติว่ามือขวา) รูปแบบการยืนคือหันข้างโดยเอาข้างขวาหาเป้า เท้าซ้ายจะอยู่ด้านหลังแต่โน้มตัวไปด้านหน้าเพื่อใช้น้ำหนักตัวเราต้านแรงรีคอยล์ อย่ายืนตรงครับเพราะเราอาศัยมือข้างเดียวดังนั้นโน้นตัวไปด้านหน้าน้ำหนักเราจะอยู่บนเท้าหน้ามากกว่าเท้าหลังนะครับ มือข้างที่จับปืนนั้นบางท่านก็บอกให้งอแต่บางท่านก็บอกให้ตึง ดังนั้นอยู่ที่คนลองว่าชอบแบบไหน ผมโดยส่วนตัวชอบแบบงอศอกเพื่อรีคอยล์จะได้ไม่ถ่ายมาที่หัวไหล่ครับ มือข้างที่เหลือนั้นอย่าปล่อยมันไว้เฉยๆครับ หาที่หยุดมันเช่นกดกับหน้าอกหรือที่ไหนก็ได้ แต่อย่าให้มันแกว่งเวลาเรายิงครับ
พอดีมีธุระแล้ว มีเวลาผมจะมาเขียนให้จบแบบละเอียดอีกทีครับ...อย่าลืมตามอ่านนะครับ
บันทึกการเข้า

เร็วเท่าที่เห็น   แม่นเท่าที่จำเป็น 
เคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้า   หยุดให้นิ่มนวลดังแพรไหม      
ใจต้องนิ่งดังขุนเขา   ทำทุกอย่างดั่งสายน้ำไหล
วรกฤษ
ความฝันทำให้มนุษย์พัฒนาไปข้างหน้าเพื่อสร้างฝันให้เป็นจริง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6503

สูงสุดคืนสู่สามัญ


« ตอบ #884 เมื่อ: กรกฎาคม 10, 2007, 11:18:18 PM »

ทีนี้มาถึงมือที่กริปปืน..มันมีหลักอยุ่ 2 แบบที่เลือกกริปเอาได้นะครับ แบบที่1 ก็เหมือนการกริปปืนธรรมดาเรานั่นเองคือเอานิ้วโป้งวางบนเซฟ แบบที่2 นี้คือเอานิ้วโป้งลงมาวางบนนิ้วชี้ที่เราจับปืนอยู่
ลองเลือดู 2 แบบว่าชอบแบบไหนและเรายิงแล้วแบบไหนเราถนัดกว่ากัน ส่วนตัวผมๆถนัดวางนิ้วโป้งบนเซฟครับ

ทีนี้เรามาว่าถึงมือที่ไม่ถนัดบ้างครับ...การยืนเหมือนกัน มือข้างที่ไม่จับปืบก็เหมือนกันคือหาที่พักไว้อย่าให้มันแกว่ง กริปปืนก็เหมือนกับข้างที่ถนัด แต่มันมีอีกเรื่องที่ต้องเลือกเอาอีกเหมือนกันคือ ศูนย์ปืน
ศูนย์ปืนมีทางเลือกได้ 2 แบบเช่นกันสำหรับการยิงด้วยมือไม่ถนัดครับ แบบที่1 คือศูนย์ปืนตรงๆเหมือนเรายืนยิงธรรมดา แต่จุดนี้ต้องจำนิดหนึ่งว่าตาหลักของเราคือข้างไหนแล้วบิดมือเล็กน้อยครับ แบบที่2 คือตะแคงศูนย์ปืน การตะแคงศูนย์ปืนนั้นตัวปืนจะเอียงเพื่อให้ศูนย์ปืนเอียงเข้าหาตาหลักครับ คุณต้องลองดูว่าถนัดแบบไหนครับ เช่นเดิมโดยส่วนตัวผมยิงศูนย์ด๊อท ผมรู้สึกว่าตัวเองชอบเอียงปืนมากกว่าครับ มันไม่ฝืนดีครับ ยืนตามสบายแค่เอียงปืนนิดเดียวเท่านั้นเอง.

ทีนี้มาถึงจุดที่จะอธิบายยากหน่อยด้วยคำพูด แต่ผมจะพยายามเขียนเท่าที่ทำได้ ถ้าใครเสนอตัวใส่ Video Clip ให้ผมเดี๋ยวผมจะส่งไปให้เพื่อลิงค์มาที่นี่จะได้เห็นได้อย่างชัดเจนอีกที
การชักปืนด้วยมือที่ถนัดผมจะไม่เขียนนะครับจะเขียนแต่ส่งปืนไปที่มือไม่ถนัด เท่าที่ผมทราบมีการชักปืนอยู่ 3 รูปแบบแตกต่างกันก็แล้วแต่จะชอบ หลังจากที่อ่านจบก็ไปลองดูกันก็แล้วกันครับ
แบบที่1...ชักปืนแบบธรรมดาแล้วส่งปืน...วิธีการคือคุณชักปืนเหมือนกับที่ทำอยู่แต่จะกริปปืนหลวมหน่อยแล้วคุณเอาอ้านิ้วโป้งมือขวาออกเพื่อเอานิ้วโป้งมือซ้ายเข้ามาแทนที่ พอนิ้วโป้งมือซ้ายแทนแล้วก็เอามือรวบกริปปืนโดยเอามือขวาออก พอคุณกริปเรียบร้อยแล้วก็ดันปืนออกไป
แบบที่2...แทนที่คุณจะชักปืนโดยจับด้ามปืนแล้วดึงขึ้น..ก็เปลี่ยนไปจับบริเวณบ่อแม็กแทนแบบนี้คุณจะมีพื้นที่ๆด้ามปืนเต็มที่เพื่อให้คุณเอามือซ้ายมาจับแทน
แบบที่3...ใช้มือขวาจับบริเวณสไลด์ครับแล้วดึงขึ้นมา..ด้ามปืนจะเปิดโล่งตลอดแนวปืนที่จะจับ..โดยส่วนตัวคิดว่าวิธีนี้เหมาะสำหรับปืนที่ติดกล้องครับเพราะมีพื้นที่มาก แต่ผมมาเขียนเผื่อเป็นทางเลือกตามความถนัด
ผมชอบแบบที่1 เพราะผมชินและชอบกับการชักปืนเหมือนเดิมครับ การถ่ายปืนนั้นใช้เวลานิดเดียวครับถ้าซ้อมบ่อยๆ ผมว่าเวลาที่ใช้นั้นเป็นแค่เศษของวินาทีครับ

ผมคิดว่าน่าจะตอบครบคำถามนะครับ หากนักกีฬาอพีอ่านแล้วผมขาดเขียนอะไรไปก็รบกวนช่วยเติมด้วยก็จะขอบคุณมากครับ...จบแค่นี้ก่อนครับเดี๋ยวนึกออกจะมาเติมถ้าไม่มีอะไรก็จะไปพูดเรื่องการยิงสวิงเลยครับ
บันทึกการเข้า

เร็วเท่าที่เห็น   แม่นเท่าที่จำเป็น 
เคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้า   หยุดให้นิ่มนวลดังแพรไหม      
ใจต้องนิ่งดังขุนเขา   ทำทุกอย่างดั่งสายน้ำไหล
หน้า: 1 ... 56 57 58 [59] 60 61 62
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.117 วินาที กับ 21 คำสั่ง