ควรเริ่มต้นการยิง IPSC อย่างไร

[วรกฤษ]

คำถาม........

โอวว ... ยอดมากครับ สำหรับคำอธิบายของท่านอาจารย์ ^___^ ผมลองแล้ว ชอบวิธีเอียงศูนย์ปืนมาก มันถนัดจริงๆครับ ตาหลักผมคือตาขวา ผมเปิดตายิงทั้งสองข้างทุกครั้ง เคยลองเล็งด้วยตาซ้ายเป็นหลักแต่มันเบลอไปเลย ....T_T
จุดอ่อนอีกเรื่องคือ ข้อมือผมยังไม่แข็งแรง ใช้มือเดียวมือซ้ายยังมีอาการสั่นแว่บ ศูนย์ปืนไม่นิ่ง ยังกำปืนไม่มั่นคง

สำหรับการถ่ายปืนไปยังมืออีกข้างนั้น แบบที่ 1 ที่ท่านอาจารย์อธิบายตรงความต้องการของผมครับ ชอบมากครับ เพราะบางทีขณะยิง มือขวาของเรากำลังถือของหรือกระเป๋า แต่ต้องรีบชักปืนออกมาด้วยมือซ้าย หรือหยิบปืนบนโต๊ะที่อยู่ด้านซ้ายซึ่งใช้มือซ้ายเอื้อมได้เร็วกว่า  เพื่อความชัวร์จึงอยากเปลี่ยนปืนจากซ้ายไปขวาเพื่อให้ยิงถนัดขึ้น มือก็ต้องหยิบของเตรียมวิ่ง (แบบว่าจะตายอยู่แล้วยังห่วงสมบัติ ... เหอๆ .... -__-' ) และผมก็เคยเห็นในรูปนักกีฬา IPSC บางเสตจ จัดให้ยิงมือเดียว มืออีกข้างถือกระเป๋าเดินทาง หรือถือร่มด้วย  คิดว่าคำถามผมจะเป็นประโยชน์กับนักกีฬาท่านอื่นๆ ด้วยครับ  กราบขอบพระคุณอาจารย์มากครับที่ช่วยกรุณาให้ตวามรู้และขอขอบพระคุณลุงเสือด้วยนะครับ สำหรับ clip video ดูแล้วเข้าใจดีมากเลยครับ 


คำตอบ..........


ด้วยความยินดีครับ......   

ขอแย้งคุณนิดนะครับว่าจริงๆแล้วไม่ใช่ว่าข้อมือไม่แข็งแรงทำให้ศูนย์แวปครับ...สาเหตุที่แวปเพราะซ้อมน้อยทำให้ความรู้สึก(Feel)ปืนไม่มี แถมเวลาเดินไกก็กระตุกเนื่องจากการที่เราไม่ได้ซ้อมหรือไม่ซ้อมมากเท่าที่ควรครับ ลองอย่างงี้ดูสิครับ ทุกครั้งที่ไปซ้อมเริ่มจากการยิงมือข้างที่ถนัดสัก 6 นัดและมือข้างไม่ถนัดสัก 6 นัก(ถ้ามากกว่านี้ได้ยิ่งดี) เริ่มทุกทีทำอย่างงี้ทุกทีแล้วจะดีขึ้นเองครับ

ผมเห้นนักกีฬาใหม่ๆชอบซ้อมสิ่งที่ตัวเองทำได้ดีแต่ไม่ชอบซ้อมในสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้ดี แต่ในความเป็นจริงเราต้องซ้อมสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้ดีมากกว่าสิ่งที่เราทำได้ดีครับ อย่าลืมว่า IPSC คือความสมดุลย์ของทุกอย่าง ดีอย่างเดียวด้อยหลายอย่างโอกาสชนะยากครับ สู้ดีปานกลางทุกอย่างจะดีกว่าครับ ดังนั้นข้อเสนอของผมคือพยายามซ้อมสิ่งที่เราทำไม่ได้ดีให้ได้เท่ากับสิ่งที่เราทำได้ดีแล้วครับ

[วรกฤษ]

คำถาม..........

สนใจกีฬาชนิดนี้เหมือนกันครับ

ไม่รู้ว่าถ้าจะเริ่มต้นนี่ควรเริ่มที่ปืนประเภทไหนดีครับ


คำตอบ........

เริ่มต้นที่ปืนอะไร...เป็นคำถามที่มีคนถามผมบ่อย...คำตอบคือต้องดูว่าเรามีปืนอะไรก่อนอื่นและปืนที่เรามีนั้นอยู่ในดิวิชั่นไหน ซึ่งหาอ่านได้ในเวปสมาคมครับ ปืนแทบทุกชนิดที่เรามีสามารถยิง IPSC ได้ทั้งหมดครับ ไม่ว่าลูกโม่หรือออโต้ เริ่มนำมาหัดได้ทั้งสิ้นครับ อย่าเพิ่งมองเรื่องได้เปรียบเสียเปรียบนะครับ มองว่าเริ่มต้นแล้วค่อยพัฒนา
สมมุติต่อไปว่ายังไม่มีปืนอะไรเลย คำตอบคือหาปืนที่ยิงในโปรดักชั่นดิวิชั่นนั้นง่ายที่สุด ทั้งกระสุนและราคา หลังจากนั้นถ้าหลงไหลแล้วค่อยพัฒนาไปหาดิวิชั่นอื่นๆต่อไปครับ

[วรกฤษ]

พักนี้ไม่มีความคิดว่าจะเขียนยังไง เลยหยุดไปพักหนึ่ง ตอนนี้เลยมาเขียนต่อจาก 24 สิงหาคม ครับ

เรามาพูดถึงการยิงเป้าสวิงกันดีกว่าครับ
ก่อนอื่นการตั้งสวิงในสนามนั้นส่วนใหญ่จะตั้งไว้ 3 แบบครับ
แบบที่1 คือโผล่มาที่ด้านข้างของฉาก
แบบที่2 คือโผล่ด้านบนของฉาก
แบบที่3 คือโผล่ด้านบนและด้านข้าง
สวิงนั้นอาจจะเป็นสวิงคู่หรือสวิงเดียวก็ได้ อาจจะวิ่งสวนกันหรือแยกกันก็ได้ แต่โดยหลักๆแล้วมีการตั้ง 3 แบบที่กล่าวถึงข้างบน

หลายๆคนบอกยิงสวิงไม่ค่อยถูก เหตุที่ส่วนใหญ่ยิงไม่ค่อยถูกเพราะยิงตอนสวิงผ่านไปแล้ว โดยทั่วไปแล้วการยิงสวิงมีอยู่ 2 แบบๆหนึ่งคือยิงตามสวิง ซึ่งผมรู้สึกยากกว่าแบบที่ 2 คือเราหาจุดที่จะยิงแล้วปล่อยให้สวิงแกว่งมายังที่ๆเราคอยครับ ผมเชื่อว่าส่วนใหญ่ใช้วิธีการยิงแบบ 2 นี่

แบบที่ 1 ยิงตามสวิงนั้น สำหรับผมโดยส่วนตัวมันยากเพราะฝีมือไม่ถึงและเร็วไม่พอครับ    เอาว่าหลักของมันมีอยู่แถมตัวเองไม่ชอบเลยไม่ฝึกครับ การยิงตามสวิงเท่าที่อ่านมาคือ เมื่อไหร่ที่คุณลั่นไกไปแล้วห้ามหยุดการวาดปืนครับ ต้องวาดตามไปเหมือนยิงเป้าบิน(ไม่เคยยิงอีกเหมือนกัน  ) เพราะการที่เราหยุดวาดปืนกระสุนจะไม่ไปในตำแหน่งที่คุณต้องการ ผมเชื่อว่านักกีฬาที่ยิงเป้าบินสามารถเข้าใจครับ..ผมขอจบแบบที่ 1 อย่างงี้เพราะไม่เคยหัด...แค่รู้..เดี๋ยวเผื่อมีคนอื่นที่เป็นอย่าง อ.ใหม่ หรือคนอื่นอาจจะมาช่วยผมเขียนก็ได้ครับ

แบบที่ 2 คือหาจุดที่เราจะยิงแล้วให้สวิงวิ่งเข้ามา แบบนี้สำหรับผมมันง่ายกว่าและนักกีฬาส่วนใหญ่ทำกัน หลักของมันก็คือ เราเอาปืนเล็งไปยังจุดหนึ่งที่เราจะยิง เมื่อไหร่ที่เราเห็นเป้าแกว่งเข้ามาในตำแหน่งนี้เราก็จะลั่นไก ทีนี้เราจะลั่นไกเมื่อไหร่ ก็ต้องมาดูที่ขนาดของกระสุน, ความเร็วของตัวสวิงและระยะห่างจากจุดที่เรายืนไปถึงเป้าที่เราจะยิงครับเช่น ถ้ายิง .45 ระยะห่างสัก 13 เมตร สวิงวิ่งเร็วๆ ผมคิดว่าน่าจะยิงเมื่อศูนย์เราอยู่ที่เส้นประมาณ C และ D ครับเพราะกระสุน .45 วิ่งที่ความเร็วประมาณ 850 ฟุต/วินาที ดังนั้นเมื่อกระสุนไปถึงสวิงจะขยับไปแล้วโอกาสที่จะเข้าโซน A จะมากกว่าการยิงที่โซน A เพราะพอกระสุนไปถึงมันอาจจะไปโดน C หรือ D ก็ได้ สรุปคือต้องยิงดักหน้าครับ ส่วนขนาด 9 มม อาจจะยิงที่เส้น A และ C อย่างงี้เป็นต้นครับ

เดี๋ยวไว้ผมมีเวลามากกว่านี้ผมจะมาเขียนต่อเรื่องการยิงสวิงครับ มันยังไม่จบนะครับ

[วรกฤษ]

มาเขียนต่อจากเมื่อวานเรื่องยิงเป้าสวิงครับ
ทีนี้มาว่ากันถึงการยิงเป้าสวิงว่านักกีฬา IPSC เขายิงอย่างไร โดยปรกติแล้วการวางสนามให้ยิงสวิงก็จะมีเป้าที่กระตุกสวิง(Popper) เป้าสวิงและจะมีเป้าตัวตายอีกตัวหนึ่ง(แต่ไม่ใช่รูปแบบที่แน่นอนนะครับ) การยิงนั้นโดยคร่าวๆมี 2 แบบคือ

1. ยิงตัวกระตุกสวิงแล้วก็คอยให้สวิงทำงาน พอสวิงโผล่ออกมาก็จะยิงสวิงแล้วก็ไปเป้าตัวอื่นๆ ซึ่งการยิงในลักษณะนี้ส่วนใหญ่จะเป็นนักกีฬาใหม่ๆ

2. ยิงตัวกระตุกสวิงแล้วไปยิงเป้าตัวตายตัวอื่นก่อน (เพราะสวิงยังไม่ทำงาน) หลังจากนั้นจึงกลับมายิงเป้าสวิง การยิงแบบนี้จะประหยัดเวลาได้มากกว่าแบบแรก เพราะระหว่างที่คอยสวิงกว่าจะทำงานและโผล่มาให้เรายิงอาจจะใช้เวลาถึง 2 วินาทีหรือมากกว่า(แล้วแต่คนจัด)

นักกีฬาใหม่นั้นจะยิงในรูปแบบที่ 2 นี้ไม่ทันเนื่องจากความชำนาญ(ฝีมือ)และความเข้าใจ ผมจะลองแนะนำหลักให้เพื่อที่จะได้เอาไปลองดูครับ ส่วนใหญ่ที่จะยิงในรูปแบบที่2ไม่ทันนั้นเกิดจากการเสียเวลาครับ เพราะทันทีที่เรายิงตัวกระตุกสวิงถ้าเรามัวแต่เสียเวลาว่ายิงถูกหรือไม่ กว่าเราจะเห็นว่าตัวกระตุกเริ่มจะล้มและขยับปืนไปนั้นเราเสียเวลาไปมากแล้วครับ ดังนั้นจำไว้ว่าเมื่อไหร่ที่เรายิงตัวกระตุกสวิงแล้ว เราต้องขยับไปทันทีอย่ามัวคอยมองว่าโดนหรือไม่ ดังนั้นจะต้องมั่นใจว่าเมื่อเหนี่ยวไกแล้วต้องโดนแน่นอน เน้นขึ้นสักนิดเมื่อลั่นไกแล้วต้องวาดปืนไปยังเป้าตัวตายทันทีครับ อย่าไปคอยจนมันเริ่มล้มแล้วถึงขยับปืนครับ พอเรายิงเป้าตัวตายไปครบ2นัดแล้วก็วาดปืนกลับมาครับ อย่าชะงักเพราะถ้าคุณชงักเมื่อไหร่คุณยิงเป้าสวิงไม่ทันแน่นอนครับ อีกอย่าคือพยายามอย่าแทร๊ปเป้าสวิงครับ การแทร๊ปเป้าสวิงถ้ายังใหม่มีโอกาสยิงผิดถึง 90%+ ครับพยายามยิงเป็น 2 นัดเร็วดีกว่าครับ การยิง2นัดเร็วๆนั้นหมายถึงเห็นศูนย์ปืนอยู่ในเป้าทั้ง 2 นัด ถ้าคุณแทร๊ปคุณจะเห็นศูนย์ปืนในเป้าแค่นัดเดียวเท่านั้นครับ อีกนัดหนึ่งก็วัดดวงเอาซึ่งส่วนใหญ่ดวงจะไม่เข้าข้างคุณ ดังนั้นจำไว้ครับว่าจะยิงแบบที่ 2 ต้องไม่ลังเล ยิงแล้วต้องมั่นใจ ถ้าไม่อย่างงั้นยิงทีละนัดตามจังหวะสวิงดีกว่าครับ
เอาแค่นี้ก่อนครับ เดี๋ยวมีเวลาจะมาต่อให้อีกครับ

[วรกฤษ]

มาต่อจากตอนที่แล้วครับ...ในตอนที่แล้วผมพูดถึงสวิงที่โผล่ด้านข้าง ในตอนนี้เรามาพูดถึงสวิงที่โผล่ให้ยิงเฉพาะด้านบนเท่านั้นครับ

สวิงที่โผล่เฉพาะด้านบน ในความรู้สึกของผมและนักกีฬาส่วนใหญ่มองว่าสวิงแบบนี้จะยิงยากกว่าด้านข้าง เหตุผลก็คือสวิงที่โผล่แต่ด้านบนนั้นจะเป็นช่วงที่สวิงทำงานเร็วที่สุดแถมไม่มีจังหวะหยุดให้เหมือนด้านข้างครับ ดังนั้นผมคิดว่าควรจะยิงทีละนัดโดยหาจุดๆหนึ่งแล้วคอยให้สวิงโผล่มาแล้วเหนี่ยวไกทีละนัดจะดีกว่าครับ เพราะการที่จะยิง 2 นัดในการผ่านทีเดียวนั้นจะยากครับ โอกาสพลาดมีสูงครับ จุดที่ผมเล้งนั้นผมจะพยายามเล้งใกล้ฉาก เหตุผลเพราะว่ามันเป็นจุดที่ปืนเราจะอยู่ในเป้าได้นานที่สุด เนื่องจากพื้นที่เป้านั้นจะใหญ่และโซน A จะกว้างที่สุดครับ ผมเองยอมรับว่าผมไม่สามารถยิง 2 นัดในการโผล่ครั้งเดียวได้ เพราะนัดที่ 2 ผมจะไม่เห็นครับ เลยไม่อยากวัดดวงครับ แต่มีหลายท่านอาจจะยิงได้ทัน ซึ่งผมอยากจะให้ช่วยเขียนแนะนำด้วยในกระทู้นี้ก็จะดีครับ...ถือว่าเป็นวิทยาทานสำหรับคนที่ต้องการนำไปฝึกครับ..โดยเฉพาะผม..   

ส่วนสวิงที่ยิงยากที่สุดในความรู้สึกของผมคือ ดับเบิ้ลสวิงครับ โดยเฉพาะสวิงที่สวนกันนั้น ผมยังหาวิธียิงดีๆไม่ได้เลยยอมเสียเวลาอย่างเดียวครับคือยิงทีละนัดและยิงทีละเป้า หามุมที่เป้าโผล่มากๆอาจจะด้านข้างหรือด้านบนก็สุดแล้วแต่คนจัด ซึ่งเป้าแบบนี้จะมีโผล่บนมาก 1 ตัวโผล่ข้างมากอีก 1 ตัวครับ..ถ้า อ.ใหม่มีเข้ามาอ่านและมีข้อแนะนำ ผมก็รบกวนแนะนำเรื่องนี้ด้วยครับ...   

ขอจบเรื่องนี้ไว้แค่นี้ก่อนครับ เดี๋ยวนึกอะไรออกแล้วค่อยมาเขียนต่ออีกที...จริงๆแล้วยังมีเรื่องเขียนอีกมากครับ แต่จะค่อยๆเขียนไป เพราะเท่าที่เขียนมาถ้าจะหัดจริงๆ ผมว่าก็น่าจะมากพอทีเดียวในขั้นพื้นฐานครับ...   ..แล้วค่อยตามมาอ่านใหม่นะครับ

[วรกฤษ]

คำถาม..........

ขอถามเรื่องการเดินไกตอนซ้อมแห้งด้วยครับ   

ในการซ้อมแห้งที่บ้านโดยการวางเป้ากระดาษไอพีไว้ตามจุดต่างๆนั้น เราควรใช้แค่นิ้วชี้แตะไกเบาๆแล้วสมมุติว่ายิง 2 นัด   หรือว่าควรเหนี่ยวไกแบบดับเบิ้ลฯทั้งสองนัด  ..ใช้แบบใดครับ?   ถ้าใช้ทั้งสองแบบควรใช้แบบใดมากกว่า?  ...ขอบคุณล่วงหน้าครับ


คำตอบ......


ถ้าซ้อมแห้งที่บ้าน...ถ้าซ้อมชักซองอย่างเดียวให้แยกเป็น 2 ช่วงๆที่ 1 เรียกว่า Sight Confirmation จัดศูนย์ปืนอย่างเดียวไม่ลั่นไกจาก Steve Anderson Book ครับ ช่วงที่ 2 ให้ชักปืนเช็คศูนย์และลั่นไก 2 ครั้งด้วยครับ

มาถึงคำถามที่ผมเคยอ่านเจอแต่จำไม่ได้ว่าที่ไหนคือ การซ้อมแห้งที่บ้านให้ชักปืนและลั่นไกครั้งแรกเดินไกดับเบิ้ลให้นกสับเลย นัดที่ 2 แค่ขยับนิ้วเท่านั้นอย่างที่พี่แก้วว่าครับ เพราะในเวลาแข่งจริงดับเบิ้ลแค่นัดเดียว นัดต่อไปต้องปรับความรู้สึกของนิ้วครับ ไม่งั้นได้กระชากไกแน่ๆ ดังนั้นควรซ้อมให้เหมือนจริงครับ....นั่นเป็นคำตอบสุดท้ายครับ....    ...ตราบเท่าที่ลั่นไกนัดแรกแล้ว ให้พยายามฝึกลั่นไกแบบซิงเกิ้ลด้วยหลังจากเป้าแรกแล้วครับ อย่าซ้อมแต่ดับเบิ้ลอย่างเดียวครับ...จริงๆแล้วควรซ้อมลั่นไกแบบซิงเกิ้ลมากกว่าด้วยซ้ำครับ

[วรกฤษ]

วันนี้ผมอยากจะเขียนเรื่องการเริ่มต้นไปแข่ง IPSC ต้องทำอย่างไรสำหรับนักกีฬาใหม่..สิ่งที่ต้องระวัง..กติกาย่อๆที่สำคัญ..และสปิริตการเป็นนักกีฬา..นะครับ...เริ่มที่การไปแข่งครั้งแรกนะครับ

หลังจากซ้อมจนเพียงพอแล้วก็ควรตัดสินใจไปร่วมลงแข่งขันครับ..นักกีฬาใหม่ที่ไม่มีเพื่อนไปร่วมแข่งในครั้งแรก จะเจอปัญหามากหน่อย(อย่างผมเป็นต้น)ผมจะไล่ไปทีละอย่างเลยนะครับ
เวลาแข่งโดยปรกติจะเริ่มประมาณ 9.30-10.00น. แล้วแต่แมทช์ดังนั้นนักกีฬาใหม่ควรจะถึงสนามก่อนสัก 1 ชั่วโมงครึ่ง
ไปถึงสนามแต่เช้าลองเดินดูสนามที่เขาจัดไว้ไปให้หมดทุกสนามและยืดเส้นยืดสายไปในตัว.
พอเจ้าหน้าที่ๆรับสมัครมาแล้วสิ่งแรกก็คือต้องไปสมัครโดยต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าไม่เคยแข่งขันมาก่อนและคุณจะลงแข่งในดิวิชั่นไหนเช่น Open Standard Production เป็นต้นเท่ากับว่าคุณจะลงคลาส U ในดิวิชั่นนั้น คลาส U มาจาก Unclassified คือไม่ทราบมือ(เก่งแค่ไหนก็ต้องลง 1 ครั้งก่อนครับ)

หลังจากสมัครเรียบร้อยคุณจะได้รับใบส่งตัวที่บอกว่าคุณอยู่ Squad ไหนที่คุณจะต้องใช้ตลอดทั้งแมทช์นะครับ ดังนั้นเก็บไว้นะครับ สมัยนี้ที่นวมินทร์คุณจะได้รับสติกเกอร์มาด้วยครับ...เท่ากับคุณจะมีใบส่งตัวและ Sticker ครับ ขั้นแรกนี้เรียบร้อยแล้ว....Squad หมายถึงกลุ่มที่คุณจะไปร่วมยิงด้วยซึ่งมีจำนวนมากน้อยตามแต่จำนวนนักกีฬาที่มาแข่ง เจ้าหน้าที่ๆรับสมัครจะจัดให้ครับ...เช่นถ้าคุณเริ่มที่ Squad 7..หมายถึงคุณจะเริ่มไปแข่งที่สนาม 7 เป็นสนามแรกในแมทช์การแข่งขันนั้นๆ

ขั้นตอนต่อไปก็ลงมือคาดเข็มขัดให้เรียบร้อย(คาดให้ถูกตามกติกานะครับ) เอาแม็กกาซีนมาเสียบใส่ที่ใส่แม็กได้นะครับแต่ห้ามหยิบปืนเป็นอันขาด....ห้ามหยิบปืนนะครับ.
ทีนี้เดินไปหาช่องที่เรียกว่า Safety Area นี่เป็นจุดที่คุณสามารถหยิบปืนจากกล่องใส่ปืน ระหว่างการหยิบปืนห้ามหันหน้าออกมาด้านนอกเป็นอันขาด ให้หันหน้าเข้าหากำแพงเท่านั้น ปืนคุณต้องไม่มีแม็กกาซีนเสียบอยู่นะครับ เอาปืนใส่ซอง(ห้ามมีแม็กเสียบอยู่เป็นอันขาด)แล้วล็อกซองปืนให้เรียบร้อยครับ

นี่เป็นสิ่งที่คุณจะต้องทำช่วงแรก...ผมจะขั้นการเขียนช่วงนี้ก่อนและบอกคุณว่าคุณทำอะไรได้หรือไม่ได้ใน Safety Area ก่อนจะไปต่อนะครับ

ใน Safety Area นั้นเป็นที่ๆคุณจะแก้ไขปืนเวลาขัดข้อง ทำความสะอาดปืน ซ้อมชักปืนจากซองได้ แต่ใน Safety Area ก็มีแนว 180 องศานะครับถ้าคุณอยู่ในพื้นที่นี้แต่หันหน้าออกแล้วชักปืนคุณจะโดน DQ ทันที ดังนั้นปลอดภัยที่สุดคือหันหน้าหากำแพงใน Safety Area นั่นแหละปลอดภัยที่สุด
การหยิบแม็กกาซีนใน Safety Area นั้นถ้าคุณหยิบมันขึ้นมาคุณต้องมั่นใจว่าไม่มีลูกปืนอยู่ในแม็กกาซีนไม่ว่าลูกจริงหรือลูกซ้อม(ลูกพลาสติกสีแดง) ถ้ามีละก็คุณเดือดร้อนแน่นอนเพราะโทษ DQ คอยคุณอยู่แล้ว....ถ้าคุณจะลองซ้อมเปลี่ยนแม็กในนี้...ต้องมั่นใจว่าคุณจะไม่หยิบอันมีลูกอยู่เป็นอันขาดนะครับ..ขออภัยที่ต้องย้ำบ่อยๆเพราะพลาดแล้วไม่คุ้มแน่ๆครับ
จำบทย่อง่ายๆคือ...ระวังแนวปืน 180 องศา...อย่าหยิบแม็กกาซีนที่มีลูกไม่ว่าลูกจริงหรือลูกซ้อม(ลูกพลาสติก)...อย่าลืมว่าออกจาก Safety ปืนต้องไม่มีแม็กกาซีนอยู่เป็นอันขาดล็อกซองปืนให้เรียบร้อยครับ....ถ้าผมลืมอย่างอื่นรบกวนคนอ่านช่วยเติมด้วยครับ   

[วรกฤษ]

มาต่อจากเมื่อวานที่ค้างไว้ว่าเอาปืนใส่ซองล็อกซองปืนให้เรียบร้อยแล้วเช็คให้มั่นใจว่าไม่ได้หลงแม็กกาซีนไว้ในปืนนะครับ

หลังจากนั้นเดินไปหาช่องที่ให้ลองปืนได้ในสนาม...ที่นวมินทร์นั้นจะมีที่ให้ลองปืนได้แถวๆด้านหน้าในบริเวณที่วัดกระสุน(หันหน้าออกจากที่ที่สมัครแข่งให้เดินไปทางขวามือครับ)..ที่นั่นสิ่งที่ควรทำคือ..ลองเช็คศูนย์ปืนให้เรียบร้อยครับ(Match เดือนนี้ผมไม่ได้เช็คศูนย์เพราะความขี้เกียจ โดนเลยครับกระสุนกินสูงไปคืบกว่า) ศูนย์ดีแล้วลองยิงดูสักแม๊กหนึ่งเพื่อเช็คการทำงานของปืนและเรียกความรู้สึกด้วยก็ดีครับ...เสร็จแล้วเช็กปืนให้มั่นใจว่าไม่มีกระสุนค้างในรังเพลิงและได้เอาแม็กกาซีนออกจากปืนแล้วก็ล็อกซองปืนให้เรียบร้อยด้วยนะครับ....ทีนี้เราก็พร้อมที่จะไปที่ Squad หรือ Stage ที่เราจะต้องเริ่มครับ

พอดีมีธุระครับ..ค่อยมาต่ออีกทีครับ

[วรกฤษ]

เมื่อเราไปที่ Stage ที่จะเริ่มยิงถ้าเจอนักกีฬาคนอื่นๆอยู่ก็แนะนำตัวเองและขอคำแนะนำจากคนที่เคยยิงมาก่อนจะสะดวก แต่ผมจะเขียนให้รู้ล่วงหน้าเพื่อที่จะได้เข้าใจแต่เนิ่นก่อนไปนะครับ...ซึ่งความจริงควรจะทำอย่างงี้ตั้งแต่เริ่มสมัครแล้ว....ไปถึง Stage แล้วถ้าว่างอยู่ก็โหลดกระสุนใส่แม็กกาซีนให้เต็มทุกแม็กไว้เลยค่อยๆทำดีกว่ารีบทำตอนใกล้แข่งแล้วนะครับ. พอคนมามากแล้วก็เอาใบส่งตัวและ Sticker ออกมาให้เจ้าหน้าที่นะครับ เขาจะเอาใบ Sticker ไปแปะติดไว้กับใบคะแนนของเรา ส่วนใบส่งตัวไว้ที่เขาก่อนนะครับ. จะมีเจ้าหน้าที่มาเรียงให้เราและบอกว่าใครจะเริ่มยิงคนแรกและคนต่อๆไป ที่เราต้องจำเป้นหลักคือเรายิงต่อจากใครเท่านั้นครับ. หลังจากพร้อม RO(กรรมการ)จะเรียกนักกีฬาทุกคนมาฟังรายละเอียดในการยิง Stage นั้นเช่นกรรมการชื่ออะไร สนามนั้นจะมีเป้ากี่ตัว เหล็กกี่ตัวใช้กระสุนขั้นต่ำกี่นัดและท่าเริ่มอย่างไรและอื่นๆ. ถ้าสงสัยเราก็ถามจนเราเข้าใจ ถามได้นะครับไม่ต้องอายเพราะเป็นส่วนได้ส่วนเสียของเรา.

RO จะให้เวลาเราเดินดูสนามแข่งในเวลาที่พอสมควร ถ้ามีเป้าSwingเขาก็จะบอกเราว่าตัวไหนเป็นตัวกระตุกสวิง พร้อมทั้งให้สวิงแกว่งให้ดูว่าเร็วช้าขนาดไหน(นักกีฬาต้องสนใจมากๆครับ) หลังจากนั้นเราก็เดินดูสนาม นับจำนวนเป้าให้ครบ กำหนดที่เราจะยืนในแต่ละช่องยิง กำหนดที่ๆจะเปลี่ยนแม็กกาซีนและหรืออื่นๆจนเป็นที่พอใจ. ถ้าเราดูเป้าแล้วไม่ครบสามารถถาม RO ได้ครับเพราะบางครั้งเป้าจะถูกซ่อนไว้ในตำแหน่งที่มองข้ามไป.
หลังจากหมดเวลาแล้ว...RO..จะเรียกนักกีฬาคนแรกเข้ามาในช่องยิง ในระหว่างนี้เราควรทบทวนตำแหน่งต่างๆที่เรากำหนดไว้ให้ขึ้นใจ ว่าจะทำอะไรตรงไหน จากไหนไปไหน ยิงเป้านี้แล้วจะยิงเป้าไหน ทบทวนให้ละเอียด ทบทวนหลายๆรอบจนเราสามารถทำได้โดยไม่ต้องนึก. ถ้านักกีฬาเริ่มยิงเราควรดูว่าเขาเริ่มยิงเป้าไหนและหลังจากนั้นเขาไปไหนและอื่นๆเหมือนที่เรากำหนดไว้หรือไม่. สิ่งที่ต้องระวังในช่วงนี้คือเราต้องรู้ฝีมือเราว่าเราทำได้หรือไม่ เพราะเขาทำได้ไม่ได้หมายถึงว่าเราจะทำได้ ต้องคิดในสิ่งที่เราทำได้ในระดับฝีมือเราครับ.

ผมพยายามรวบรัดที่สุดเท่าที่จะทำได้นะครับ...ถึงตอนที่เขาเรียกเราเข้าช่องยิง...RO จะถามว่าเราเข้าใจวิธีการยิงหรือไม่ ถ้าเข้าใจก็บอกเข้าใจ ถ้ายังมีข้อสงสัยก็ยังสามารถถามได้อยู่นะครับ. เมื่อเราตอบว่าเราเข้าใจ RO จะบอกให้เราเตรียมพร้อมด้วยคำสั่งว่าพร้อมแล้วบรรจุ แต่เดี๋ยวนี้จะใช้คำสั่งเป็นภาษาอังกฤษมากกว่าว่า Load and make ready. ขั้นตอนนี้เท่านั้นที่คุณสามารถหยิบปืนจากซองได้...อย่าลืมนะครับว่า ไม่ว่ากรณีใดระหว่างคอยหรือทำอะไรก็แล้วแต่นอก Safety area คุณห้ามชักปืนขึ้นมาจากซองเป็นอันขาด..ถ้าคุณทำโทษคือ DQ สถานเดียว
เข้าช่องยิงแล้วก็ห้ามหยิบจนกว่ามีคำสั่งว่า Load and make ready เท่านั้นนะครับ. หลังจากคุณทำขั้นตอนนี้จบแล้วทีนี้เตรียมยิงได้แล้ว...จะมีคำสั่งตามมาว่า Are you ready? หมายถึงคุณพร้อมหรือยัง ถ้าพร้อมก็ตอบว่าพร้อมหรือพยักหน้าก็ได้ จะมีคำสั่งตามมาว่า Stand by ตอนนี้แหละครับที่ใจคุณจะเต้นระทึก เพราะคุณกำลังคอยสัญญาณให้ทำการยิง ระยะเวลาจะอยู่ภายใน 4 วินาทีหลังจากคำสั่ง Stand by (ช่วงไหนก็ได้นะครับแล้วแต่ RO)
พอคุณได้ยินสัญญาณ ปิ๊บ ทีนี้ลงมือยิงตามแผนการยิงของคุณได้เลยนะครับ ยิงไปจนจบทุกเป้าทุกขั้นตอนที่กำหนดไว้แต่แรก.

เมื่อคุณยิงจบ RO จะให้คำสั่งคุณว่า If you finished(ถ้ายิงจบ), unload and show clear(ให้เคลียร์ปืนและให้กรรมการตรวจสอบ)ขั้นตอนนี้ใจเย็นๆครับ เอาแม็กกาซีนออกก่อนใส่ในกระเป๋า แล้วดึงสไลด์ให้ลูกปืนกระเด็นออกมา ทำช้าๆก็ได้ครับ(เวลามันไม่ขึ้นตราบเท่าที่คุณไม่ได้ยิง), if clear hammer down and holster(ถ้าเคลียร์แล้วลดนกและใส่ซอง) พอคุณเอาปืนใส่ซองแล้วสิ่งแรกคือล็อกซองให้เรียบร้อยก่อน แล้วฟังเวลาที่ RO จะแจ้งให้ทราบ..ขอดูก็ได้นะครับ. เมื่อเวลาถูกต้อง เราสามารถเดินตาม RO เข้าไปตรวจเป้าที่ยิงได้ว่า RO ขานคะแนนถูกหรือไม่ ถ้าผิดหรือสงสัยก็ถามเลยเดี๋ยวนั้น ข้อสำคัญนักกีฬาอย่าจับเป้านะครับ ถ้าชี้ก็อย่าให้ถูกเป้าเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย. สมมุติว่าถูกต้องเขาจะมีใบคะแนนพร้อมสำเนามาให้ ตรวจเวลาและจำนวนนัดที่ยิง ถ้าเวลาไม่ถูกจำนวนนัดไม่ถูก สามารถค้านได้ครับ ถ้าถูกต้องนักกีฬาก็เซ็นชื่อใส่ลงไป ถ้าเซ็นแล้วถือว่ายอมรับ หลังจากนี้จะมาท้วงไม่ได้ครับ(นักกีฬามาเจอภายหลังเรื่องเวลาผิดก็เคยเกิดขึ้นนะครับ ดังนั้นดูให้ถูกครับ)...ขอแทรกนิดนะครับว่า หากเราไม่เคยยิงมาก่อนๆจะเริ่มต้นบรรจุ ควรแจ้ง RO ไว้สักนิดเขาจะได้ดูแลและเตือนเราหากเราทำผิดพลาดขั้นตอนครับ.

ขอหยุดก่อนครับ เมื่อยนิ้วแล้ว...มีเวลาค่อยมาต่ออีกทีครับ

[วรกฤษ]

ตอนก่อนจบที่ยิง Stage จบและเซ็นใบรับคะแนนเรียบร้อยแล้วนะครับ

โดยปรกติหลังจากยิงสเตจแรกจบแล้วก็จะไป Stage ต่อไป คือถ้าเริ่มที่ 4 ก็จะไป Stage ที่ 5 และเรียงไปเรื่อยๆ ถ้ามี 10 สนามพอไปถึง 10 ก็เริ่มที่ 1และจบแมทช์แข่งวันนั้นที่ 3 ครับ อีกอย่างคือโดยปรกติหลังจากคนแรกเริ่มยิงแล้ว ก็จะย้ายไปยิงคนสุดท้ายใน Stage ต่อไปคนที่ยิงที่ 2 ใน Stage แรกก็จะย้ายมาเป็นคนแรกเวียนไปเรื่อยๆนะครับ. แต่ถ้าตกลงกันใน Squad ว่าจะยิงแบบเดิมก็ไม่ผิดครับแล้วแต่จะตกลงกันครับ ข้อนี้ไม่มีกติกาห้ามไว้ครับ

มาพูดถึงเรื่องการตรวจสอบกระสุนกันนะครับ...ระหว่างที่เราคอยยิงอยู่ไม่ว่า Stage ไหนก็แล้วแต่ จะมีเจ้าหน้าที่เดินมาเก็บกระสุนจากท่านเป็นจำนวน 8 นัดพร้อมทั้งขอ Sticker ติดถุงพลาสติก 1 แผ่น(ถ้าจะดีให้เขาเลือกเอาจากแม็กไหนก็ได้ที่ใช้อยู่ก็จะดีครับ) กระสุนนี้จะนำไปตรวจหาค่า Power factor (PF). เมื่อเราเดินไปถึงช่องวัดความเร็วกระสุน ถ้ามีเจ้าหน้าที่อยู่และถ้าคุณต้องคอยอีกนานกว่าจะถึงคิวคุณยิง คุณสามารถนำปืนคุณไปตรวจได้เลย. คุณแค่นำปืนและแม็กกาซีนเปล่าไป 1 อันนำไปให้เจ้าหน้าที่ แจ้งเบอร์นักกีฬาของคุณ(ดูได้ใน Sticker) เจ้าหน้าที่จะนำกระสุนที่เขาเก็บมาจากคุณทดลองยิง 3 นัดผ่านเครื่องวัดความเร็ว ส่วนอีก 1 นัดนั้นจะเคาะเอาหัวกระสุนออกมาชั่งน้ำหนัก หลังจากวัดความเร็วทั้ง 3 นัดแล้วเขาจะเอาความเร็วโดยเฉลี่ยของทั้ง 3 นัดมาคูณกับ น.นหัวกระสุนและหารด้วย 1000 คุณก็จะได้ค่า Power factor ของคุณ ซึ่งค่านี้จะต้องได้ไม่ต่ำกว่าที่กำหนด ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วแต่ว่าคุณจะแข่งดิวิชั่นไหนนะครับ สมมุติว่าได้ก็จบเรียบร้อย แต่ถ้าคำนวณแล้วไม่ได้ เขาจะนำกระสุนที่เหลือมายิงเพิ่มและเอานัดที่มีความเร็วสูงสุด 3 นัดมาคิดถ้าถึงก็ถือว่าผ่าน ถ้าไม่ถึงจะมีกระสุนเหลืออีก 1 นัดที่คุณสามารถตัดสินใจว่าจะวัดความเร็วหรือชั่งหัวกระสุน คุณต้องเลือกอย่างไรอย่างหนึ่งแล้วนำมาคำนวณใหม่ ถ้าผ่านก็ OK ถ้าไม่ผ่านละซวยละทีนี้ ถ้ายิง Open หรือ Standard คุณถูกนับคะแนนเป็น Minor ถ้าถึงถือเป็น Major แต่ถ้ายิง Production ไม่ถึงละก็ เขาจะไม่คิดคะแนนให้คุณทั้งหมดเลย ถือว่าคุณยิงเล่นโดยไม่มีคะแนนครับ
ค่า Power Factor มัดังนี้ครับ
                  Major                                         Minor
Open....  ไม่ต่ำกว่า 160             ต่ำกว่า 160 แต่ไม่ต่ำกว่า 125
Standard     "        170                  "    170        "          125
Production     -       -                                      ไม่ต่ำกว่า 125
ทุก Division ถ้าต่ำกว่า 125 จะไม่มีการคิดคะแนนให้ครับ

ผมขอเขียนสิ่งที่นักกีฬาระวังไว้เป็นบทย่อที่จะจำง่ายๆให้ครับ ถ้าทำได้แค่นี้โอกาสโดน DQ จะน้อยจนไม่มีเลยครับ
1. ห้ามชักปืนนอกพื้นที่ๆกำหนดและไม่มีคำสั่งจาก RO
2. ถ้าปืนหล่นระหว่างเดินไปมาหรือระหว่างรอคอย อย่าหยิบปืนเป็นอันขาด ให้เรียกกรรมการหยิบให้เท่านั้น
3. เข้า Safety area อย่าหยิบแม็กกาซีนที่มีกระสุนปืน ไม่ว่าซ้อมหรือจริง ขึ้นมาเป็นอันขาด
4. ระวังแนว 180 องศาระหว่างครองปืน
5. นิ้วออกจากไกปืนทันทีเคลื่อนไหวหรือไม่ประสงค์ที่จะยิง
6. นิ้วออกจากไกยามเปลี่ยนแม็กกาซีน
7. ระวังคำสั่งพิเศษเช่น ห้ามยิงเหล็กเมื่อพ้นบริเวณนี้เป็นต้น
8. ระหว่างคอยอยู่ภายนอกช่องยิงไม่ว่ากรณีใดปืนห้ามมีแม็กกาซีนอยู่ในทุกกรณี

โดยหลักๆถ้าทำได้แค่นี้ก็จะปลอดภัยแล้วครับ....ผมขอหยุดอีกทีครับ....เจ้านายมาตามพอดีครับ

[วรกฤษ]

มาต่อให้จบเลยนะครับ...หลังจากแข่งเสร็จแล้ว คุณควรจะนั่งคำนวณค่า Hit factor(HF) ของคุณด้วย หลักการๆคำนวณคือ รวมคะแนนที่คุณได้ในแต่ละ Stage แล้วเอาเวลามาหาร ค่าที่ได้ออกมาคือ Hit factor ของคุณในแต่ละ Stage. หลังจากคุณคำนวณครบหมดแล้วก็นำไปเปรียบเทียบกับที่กรรมการจะประกาศออกมา ส่วนมากจะติดที่บอร์ดของสมาคม ถ้าถูกต้องเป็นอันจบ ต่อไปก็คอยฟังผลว่าคุณแข่งออกมาได้ที่เท่าไหร่ กี่% จากทั้งหมด. ถ้าไม่ถูกคุณก็นำใบคะแนนใน Stage นั้นๆไปให้กรรมการดู ซึ่งจะนำมาเปรียบเทียบกับใบต้น ถ้าผิดจริงเขาก็จะแก้ไขให้ ซึ่งมีโอกาสที่จะผิดครับเพราะต้องใส่ถูกทุกตัวไม่ว่าโซนไหนและเวลาด้วยครับ...ถ้าผิดก็เกิดจากความผิดพลาดเท่านั้นครับ ส่วนโซนคะแนนผมจะไม่เขียนนะครับ รบกวนเข้าไปดูในเวปสมาคมก็แล้วกันครับ

คร่าวๆทั้งหมดนี้คือสิ่งที่นักกีฬาใหม่ควรทราบไว้ ส่วนในรายละเอียดก็ไปดูเอาที่สนามนะครับ แข่งสักครั้ง 2 ครั้งก็จะเข้าใจดีครับ สงสัยก็ถามจากนักกีฬาด้วยกันก็ได้ครับ. ถ้าคุณคิดจะไปแข่งใหม่โดยไม่รู้จักใครมาก่อน ถ้าเจอคนในทีมเราก็เชิญถามหรือขอร่วม Squad ได้เลยนะครับ ผมเชื่อว่าทีมเราพร้อมช่วยเหลือแนะนำทุกคน พอชำนาญแล้วก็สามารถลงร่วม Squad อื่นก็ได้ ตามสบายเลยนะครับ ทีมผมสังเกตุง่ายๆครับพวกไอ้เสื้อดำ  ที่มีตราทีมอยู่ครับ.

ผมขอจบเรื่องการเข้าร่วมแข่งขันและกฎระเบียบที่ต้องระวังมากๆไว้เพียงเท่านี้...เดี๋ยวตอนต่อไปผมจะมาเขียนเรื่องสปิริตนักกีฬา IPSC ครับ...ผมทราบว่าหลายคนเข้าใจ..แต่อยากให้มาอ่านอีกครั้งครับ เพราะมันมีอะไรที่ชวนติดตามเหมือนกันครับ....   

[วรกฤษ]

ในช่วงนี้ได้ร่วมซ้อมและแนะนำคนที่อ่านข้อความที่ผมเขียนไว้ในกระทู้นี้ในภาคสนาม แต่ส่วนใหญ่ตอนมาเริ่มก็ยังทำไม่ถูกและหลายคนบอกว่าอ่านแล้วมาปฏิบัติจริงมันแตกย่อยออกไปอีกมากเลย
 
ผมขอบอกไว้อีกทีนะครับว่า ที่ผมเขียนเป็นแค่แนวทางเริ่มต้น ส่วนที่จะปฏิบัติได้แค่ไหนก็ต้องมีคนที่เข้าใจแนะนำให้อยู่ดี เพียงแต่ว่าอ่านแล้วจะได้เข้าใจพื้นฐานส่วนหนึ่งก่อนที่จะไปเริ่มต้นฝึก.

ผมยืนยันอีกครั้งนะครับว่าที่เขียนนี้ไม่ได้หมายความว่าคนที่อ่านแล้วนำไปฝึกเองแล้วจะทำได้ถูกต้อง ข้อความที่เขียนนี้ไม่สามารถทดแทนผู้แนะนำในภาคสนามนะครับ

ผมคิดว่ามันเหมือนกับการเขียนแนะนำวิธีว่ายน้ำนะครับ...ผมว่าหลายๆท่านสามารถว่ายน้ำเป็น ลองนึกว่าถ้าเราเขียนเป็นตำราสอนว่ายน้ำแล้วให้คนอ่าน...คนอ่านแล้วไม่ใช่ว่าจะว่ายน้ำได้ เพียงแต่เข้าใจขั้นตอนของการว่ายน้ำเท่านั้น แต่จะว่ายเป็นก็ยังต้องไปที่สระว่ายน้ำแล้วให้ครูฝึกให้อยู่ดีนะครับ

ในบทความที่ผมเขียนนี้ถ้ามีข้อสงสัยก็ถามมาครับ ผมจะตอบเท่าที่ตอบได้ แต่คำตอบที่ผมตอบไม่ใช่สิ่งตายตัวนะครับ เพราะแต่ละคนก้มีประสพการณ์ที่แตกต่าง ศึกษากันมาหลากหลาย เพียงแต่คุณลองหลายวิธีจากคนที่แนะนำและหาสิ่งที่เหมาะสมที่สุดกับตัวคุณครับ

[วรกฤษ]

คำถาม.......

เรียนท่านผู้รู้และมีประสบการณ์ครับ
คือ
1. การฝึกนิ้วที่เหนี่ยวไก ด้วยวิธีใดจะดีที่สุด
2. การกริฟ น้ำหนักในการบีบระหว่างสองมือที่เหมาะสมควรจะเป็นเท่าใด
3. การฝึกความสัมพันธ์ระหว่าง สายตา มือ และปืนที่ได้ผล ควรทำอย่างไร

ขอบคุณครับ



คำตอบ......

ผมไม่ใช่ผู้รู้แต่ชอบศึกษานะครับ   เลยจะเอาความรู้มาตอบให้เท่าที่มีครับ
1. การฝึกนิ้วนั้น...ผมเห็นใน DVD ของ Todd เขาแนะนำให้เอาหนังสะติ๊กมาฝึกครับ โดยเอามือหนึ่งดึงและอีกข้างนำมาเกี่ยวกับนิ้วที่เหนี่ยวไก แล้วหัดเหนี่ยวไก โดยให้งอข้อนิ้วข้อที่ 2 ครับ ผมเติมให้อีกนิดจากประสพการณ์ตัวเองคือ นักกีฬาเวลายิงปืนแล้วต้องการที่จะยิงเร็วๆ ส่วนใหญ่จะเปลี่ยนการเหนี่ยวไกจากเร็วมาเป็นแรงแทน จริงๆแล้วเร็วกับแรงมันต่างกันนะครับ ลองสังเกตุดูเวลาคุณยิงเร็วนั้น นิ้วคุณเร็วหรือแรงกันแน่

2.การกริปปืน...การกริปปืนมีหลายรูปแบบครับ ผมเอามาแนะนำให้ส่วนคนลองก็นำไปลองเอง 2 รูปแบบก็แล้วกันครับ
2.1 นักกีฬาเช่น Jerry บอกว่าการกริปๆด้วยมือข้างที่ถนัดสัก 30% ข้างไม่ถนัด 70% เหตุผลก็คือใช้มือข้างไม่ถนัดเป็นตัวล็อกปืน ส่วนมือข้างถนัดไว้เหนี่ยวไก โดยพยายามแยกหน้าที่กัน(คร่าวๆรายละเอียดมันมากกว่านี้ครับ)
2.2 นักกีฬาเช่น Todd บอกว่าการกริปให้กริปด้วยแรงที่เท่ากันคือ 50 : 50 ครับ เพราะจะไม่เกิดการดึงปืนไปฝั่งใดฝั่งหนึ่งและการควบคุมปืนจะดีกว่าเพราะมีแรงที่เท่ากัน
นักกีฬาทั้ง 2 คนก็เก่งด้วยกันทั้งคู่ เลยไม่มีวิธีที่ดีที่สุด ทีนี้คนที่ทดลองก็ต้องไปลองดูเองว่าแบบไหนจะดีที่สุดสำหรับตัวเรา เพราะอย่างที่ผมเคยบอกว่า...วิธีที่ดีที่สุดของคนหนึ่ง ไม่จำเป็นที่จะดีที่สุดสำหรับทุกคนครับ....ลองดูแล้วค่อยบอกตัวเองครับว่าอย่างไหงจะดีกับคุณ

3.การฝึกสายตา มือและปืน...ส่วนนี้ผมจะเขียนแยกไปอีกกระทู้หนึ่งในเร็วๆนี้ครับ เพราะจากที่แนะนำนักกีฬาใหม่หลายคน ผมว่ามันชวนให้เขียนเพื่อใช้ศึกษาครับ มันจะยาวสักนิดแต่เชื่อว่ามีประโยชน์แน่ๆ ไว้คอยอ่านนะครับ..คนที่ถามว่ายิงยังไงถึงจะแม่นก็อ่านแล้วไปลองดูได้ครับ..ขอเวลานิดครับแล้วจะมาเขียนให้อ่านกันครับ

ผมมาขอแก้ไขเพิ่มเติมอีกนิดนะครับว่า...นักกีฬาบ้านเราเวลายิงปืน Production ผมเห็นทุกคนจะกริปปืนแน่นมากๆกันทั้งนั้น   ...แต่จากที่ผมศึกษามามั่นใจว่าฝรั่งระดับแชมป์ไม่ทำอย่างงั้นกัน....ทุกวันนี้ผมกำลังลองอยู่ว่าถ้ากริปไม่แน่นแบบจะบีบปืนให้พังไปเลยกับการกริปแบบสบาย แบบไหนจะดีกว่ากัน ผมกำลังให้วรกฤษเป็นหนูตะเภาอยู่ แต่จากการที่ผมลองเองผมว่ากริปปืนไม่แน่นมากจนเกินไปน่าจะดีกว่า จุดสำคัญคือให้ศูนย์ปืนกลับมาที่เดิมเท่านั้น ผมเคยให้วรกฤษลองดู ยิงด้วยสปริต 0.17 วินาที เป้าที่ 7 เมตร กริปไม่แน่นมากก็สามารถยิงได้แทบจะร้อยรูเดียวกัน ดังนั้นผมเชื่อว่าฝรั่งนั้นน่าจะมาถูกทางเพียงแต่ว่าฝีมือเรายังไม่ถึงเลยเข้าใจว่าจะต้องบีบปืนให้แน่นมากๆถึงจะทำได้...ยังไงก็แล้วแต่มันต้องใช้เวลาในการฝึก อีกไม่นานน่าจะมีคำตอบครับ... 

[วรกฤษ]

มาอ่านต่อเลยครับเผื่ออาทิตย์จะได้มีเรื่องไปลองดูครับ...ติดไว้คือข้อ 3 นี้ครับ

เรื่องตานั้นผมละไว้เขียนตอนหลังนะครับ เอาเรื่องมือกับปืนก่อนครับ

ผมได้มีโอกาสฝึกให้นักกีฬาใหม่ๆหลายคนและที่เห็นเกือบทุกคนจะมีปัญหาเรื่องนิ้วที่เหนี่ยวไกปืนนะครับ ทุกคนจะพยายามแหย่นิ้วเข้าไปในไกปืนให้ลึก(ไกปืนนะครับ  )ที่สุดจนนิ้วสัมผัสโครงปืน ซึ่งมันผิดและมีผลต่อการยิงมากๆเลย ลองนึกภาพดูนะครับว่าถ้านิ้วที่เหนี่ยวไกปืนคุณสัมผัสกับโครงปืน เวลาคุณเหนี่ยวไกปืนทุกครั้ง คุณก็จะผลักปืนคุณไปทางซ้าย(สำหรับคนถนัดขวา)ทุกครั้ง ยิ่งถ้าคุณเหนี่ยวไกเร็วๆ มันยิ่งผลักใหญ่เลย เพราะหลายๆคนผสมกันระหว่างเร็วแถมแรงไปด้วยกัน ดังนั้นควรจะใช้หน้าสัมผัสของนิ้วที่เรียกว่าลายก้นหอยของนิ้วเหนี่ยวไกปืนครับ สังเกตุง่ายๆว่าเมื่อคุณเหนี่ยวไกปืนเข้ามาแล้ว คุณจะต้องเห็นช่องแสงระหว่างนิ้วกับปืน ไม่จำเป็นต้องมากครับแต่ต้องมีช่องแสงนี้ ถ้ามีแล้วแสดงว่านิ้วคุณไม่สัมผัสกับโครงปืน เวลาเหนี่ยวไกให้เหนี่ยวเข้ามาตรงๆโดยอาศัยการงอนิ้วข้อที่ 2 ครับไม่ใช่ทั้งนิ้วหรือข้อช่วงที่ติดกับฝ่ามือ. ผมหวังว่าเข้าใจนะครับ ถ้าไม่เข้าใจก็ถามใหม่ก็แล้วกัน คนที่ฝึกกับผมน่าจะเข้าใจแน่นอน   ...ถ้าใครมีรูปช่วยขึ้นให้ด้วยก็ได้ครับ

ทีนี้มาว่าเรื่องปืนและการยิงกันบ้าง...จากที่เห็นเหมือนกัน นักกีฬาหลายคนไม่มีฐานของการยิงปืนที่ดีพอ ผมบอกไว้ก่อนเลยครับว่าคนที่ยิง IPSC ควรมีพื้นฐานที่ดีของปืนสั้นชาวบ้านมาก่อน(การยิงปั้นX)แล้วจะง่ายอีกมากครับ หลายๆคนให้ลองยิงเพลท 10 นิ้วที่ระยะ 15-20 เมตร ถ้าไม่มีฐานการยิงปืนสั้นชาวบ้านมาก่อนจะยิงถูกเป้าต่ำกว่า 75% หลายๆคนเข้าใจและสงสัยว่า..เอ...เราเล็งปืนไม่ดีหรือเปล่า เล็งไม่เป็นหรือเปล่า เพราะมือสั่นหรือเพราะเหตุผลต่างๆมากมาย...ผมยืนยันได้เลยว่าไม่ใช่ครับ ผมแทบจะบอกได้ว่า 99% เล็งปืนเป็น แต่ที่ยิงไม่ถูกเพราะ....เดินไก...ย้ำครับว่า..เดินไก...ไม่เป็น ผมเคยให้หลายคนลองคือให้เขาถือปืนและเล็ง ผมช่วยเดินไกให้ ส่วนใหญ่จะยิงถูกเพลทขนาด 10 นิ้วทั้งนั้น ผมถึงกล้าฟันธงว่าสาเหตุหลักมาจากการเดินไกเกือบทั้งสิ้น.

ในการยิงปืนนั้นส่วนที่ยากที่สุดคือ..การเดินไกอย่างไรไม่ให้รบกวนศูนย์ปืน...ครับจุดนี้เป็นจุดที่ยากที่สุด ผมขอแทรกเรื่องนี้นิดหนึ่งนะครับว่า ผมอ่านเจอในเวปนี้หลายกระทู้ถามเรื่อง ยิงปืนไม่แม่น ถือปืนไม่นิ่ง เดินไกไม่เนียนและอื่นๆ...ถ้าตอบแบบสนุก(อย่าโกรธนะล้อกันเล่นๆ  )อย่างเพื่อนฝูง ก็ต้องตอบว่า วิธีแก้การยิงไม่แม่นก็คือยิงให้แม่น ถือปืนไม่นิ่งก็ถือให้นิ่งซะ...   
จริงๆแล้วถามนักกีฬาปืนสั้นชาวบ้านได้ทุกท่านครับว่า เขาถือปืนได้นิ่งหรือไม่ ตอบได้เลยว่าไม่มีใครถือปืนนิ่งได้สนิทหรอกครับ เอาง่ายๆครับแค่ชีพจรเราเต้นมันก็ทำให้ปืนไม่นิ่งแล้ว หรือแค่เรายืนตรงๆธรรมดาให้นิ่งๆยังไม่ได้เลยครับ เพราะเรายังมีชีวิตอยู่. คำถามตามมาคือ..อ้าวถ้าอย่างงั้นเขายิง 100 คะแนนเต็ม 20..อุ้ยขอโทษ  ....9X,10X ที่ระยะ 25 เมตรได้ตั้ง 3 ชุด 5 ชุด เขาทำได้อย่างไรกัน...ขอโทษครับ...ขอหยุดไว้ก่อน...เจ้านายมาตามไปอ่านหนังสือให้ฟังก่อนนอนแล้วครับ..กำลังมันส์อยู่เลย

[วรกฤษ]

ผมจะลองอธิบายการลั่นไกแบบง่ายๆและรวบรัดให้คร่าวๆก่อนนะครับ แต่คงจะไม่ลงลึกมากๆในรายละเอียดและจะพูดถึงปืนออโต้เท่านั้น

โดยปรกติการลั่นไกปืนออโต้นั้นจะแยกได้เป็น 4 ส่วนดังนี้
1. จังหวะฟรี
2. จังหวะลั่นไก
3. จังหวะเบรก
4. จังหวะรีเซทของไก
1. เวลาจะหัดลั่นไกแบบ IPSC ผมอยากจะให้ถือปืนเล็งไปที่เป้าแล้วลองเดินไกแค่จังหวะที่ 1 เท่านั้นคือให้เดินไกเข้ามาแค่ถึงจังหวะเบรกแล้วคืนไกออกไป ตอนเริ่มต้นใหม่ๆทำช้าๆให้ได้ความรู้สึกหลายๆครั้งไม่ต้องรีบครับ ตอนคืนไกอย่าจากออกไปทันที ค่อยๆคืนไกออกไปให้นิ้วสัมผัสหน้าไกตลอดเวลา
2. พอรู้สึกดีแล้วทีนี้พอมาแตะที่จังหวะเบรกให้ค่อยๆเพิ่มน้ำหนักไกทีละนิดจนปืนลั่นออกไป..ช่วงนี้แหละครับที่จะยากสำหรับคนไม่เคย ส่วนใหญ่จะต้องการให้มันลั่นออกไปหรือบังคับให้ลั่นออกไป จริงๆแล้วควรจะเพิ่มน้ำหนักจนมันลั่นออกไปเองโดยไม่รู้ตัว...เทคนิกคือ..ใจเราครับ..เมื่อไหร่คุณเพิ่มน้ำหนักจนมันลั่นไปเอง คุณจะยิงถูกเป้าครับ ถ้าคุณนึกว่าปืนกำลังจะลั่นหรือบังคับให้มันลั่น คุณจะยิงไม่ถูกเป้าครับ....ลองดูนะครับ
3. พอลั่นแล้วปืนคุณจะมาอยู่ที่จังหวะเบรก ตรงนี้จะหยุดโดย Trigger stop หรือไม่ก็สุดแล้วแต่ปืนเรา อุบไกไว้ก่อนครับอย่าเพิ่งคืนไกทันที
4. มาที่จังหวะสุดท้าย พอคุณเริ่มคืนไกช้าๆ คุณจะได้ยินเสียงดัง กริ๊ก เบาๆ นั่นแหละครับจังหวะคืนไก ตรงจุดนี้ที่คุณสามารถลั่นไกได้ใหม่แล้ว...เวลาคืนไกจำไว้ว่าให้นิ้วสัมผัสอยู่กับไกปืนตลอดเวลา อย่าดีดออกไปทันที บางท่านเรียกว่าเลี้ยงหน้าไก คือนิ้วสัมผัสหน้าไกตลอดเวลา เพื่อที่ยิงนัดต่อไปจะไม่ตบไกเข้ามาทำให้เกิดอาการกระตุกไกปืน
นี่เป็นวิธีหัดคร่าวๆนะครับ ยิงปืนสั้นชาวบ้านก็เหมือนกัน เพิ่มน้ำหนักไกเหมือนกัน ที่แตกต่างกันก็คือท่ายิงการล๊อกร่างกาย การหายใจเข้ามาเกี่ยวด้วย แต่ยืนยันได้ว่าทุกคนศูนย์ไม่ได้นิ่ง 100% แต่เขาจะรู้ว่าตรงไหนที่ยอมรับได้ โดยเฉพาะคือการลั่นไกโดยไม่ไปกระทบศูนย์ปืนที่จัดไว้...ผมถึงบอกว่าการยิงปืนที่ยากที่สุดคือ....ลั่นไกอย่างไรไม่ให้ไปกระทบกับศูนย์ที่จัดไว้
ลองดูครับเผื่อจะช่วยได้...ขอหยุดก่อนครับมีธุระอีกแล้ว