ขออนุญาตแชร์เนื่องจากผมเคยเป็นนักเรียนทุนไปอยู่นั่น 2 รอบ รอบแรกไปเรียนโท 2 ปี (1997-1999)
และรอบสอง ไปเรียนเอก+ทำวิจัย 5 ปี (2005-2010) แต่ผมอยู่โซน EST ทั้งสองครั้ง
สำหรับผม คิดว่าการใช้ชีวิตโดยรวมๆ สะดวกสบายกว่าอยู่เมืองไทยเยอะ จะขลุกขลักบ้างก็ช่วงเดือนแรกๆ
ที่ไปอยู่ เพราะยังต้องปรับตัวและยังไม่ค่อยรู้แหล่งอะไรต่างๆ แต่หลังจากนั้นมันจะโอเคเอง ยิ่งถ้าไปอยู่
แถวเมืองที่มีคนไทยอยู่พอสมควร เรื่องอาหารไทยไม่อดอยากแน่นอน (แต่ก็อาจแพงหน่อย) เวลาไปกิน
แสดงตัวว่าเป็นคนไทย บอกให้เขาปรุงแบบไทยๆ + ความอยาก บางทีมันอร่อยกว่าที่มีในเมืองไทยเยอะ
ผมกับเพื่อนเคยแวะกินผัดไทย ที่ร้านเล็กๆ ในซานฟราน แล้วก็พูดเหมือนกันว่าอร่อยกว่าที่มีในเมืองไทย
แบบไม่น่าเชื่อ ร้านแถวอพาร์ตเมนท์ผมในบอสตันก็เหมือนกัน เมนูแปลกๆ ที่นึกไม่ถึงว่าจะมีในต่างแดน
ก็สามารถทำได้มากมาย และอร่อยไม่แพ้ในเมืองไทยด้วย
ในด้านการใช้ชีวิต ที่นั่นสาธารณูปโภคทุกอย่างดีหมด แต่ก็ต้องพึ่งพาหรืออยู่กับเทคโนโลยีมากพอสมควร
ตอนผมไปอยู่รอบสอง ก็รู้สึกถึงความแตกต่างจากรอบแรก เช่น ทำธุรกรรมอะไรๆ ก็ผ่านระบบออนไลน์เป็นหลัก
หรือการซื้อของใช้ต่างๆ ก็มักซื้อผ่านเน็ต เพราะถูกกว่าและสะดวก อย่างพวกอุปกรณ์ปืนที่ผมแอบหิ้วกลับมา
ก็สั่งซื้อทางเน็ตทั้งนั้น
ส่วนเรื่องความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน ผมไม่รู้สึกว่าเป็นปัญหา เมืองไทยน่ากลัวกว่าซะอีก
สรุปว่า ถ้าไปอยู่แบบไม่ต้องกระเสือกกระสน หรือต้องเรียนไปทำงานไป ผมว่าอยู่ที่นั่นสุขสบายกว่าที่คิด
มันอาจเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของชีวิตเลยล่ะครับ.. ตอนผมเรียนจบก็ตื่นเต้นดีใจได้เปลี่ยนคำนำหน้าชื่อ
แต่พอยิ่งใกล้วันเดินทางกลับ ยอมรับว่ายิ่งหดหู่ อาลัยอาวรณ์ไม่อยากกลับ.. แต่ตอนนี้ถ้าให้กลับไปอยู่อีก
ก็เฉยๆ แล้วครับ ยังไงซะเมืองไทยก็บ้านเรา อยู่นี่กับครอบครัว ทำงานใช้ทุนหลวงต่อไป...