ให้สัมภาษณ์ออกมาในลักษณะโยนก้อนหินถามทาง เพื่อดูท่าที่ของประชาชน ผมขอแสดงความเห็น ไม่ได้จะโต้แย้งกับความเห็นพี่สมชายนะครับ ผมว่าเราคือประชาชนพลเมืองดีที่รักปืน แม้ว่าจะดูน้อย แต่เราต้องแสดงท่าทีที่ไม่ยอมรับ โบราณว่า อย่าดูหมิ่นกองไฟเล็ก ๆ ว่าจะทำให้เกิดไฟไหม้ใหญ่ไม่ได้ พวกเราแม้จะน้อยถ้ารวมตัวและแสดงเหตุผลให้ประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจได้ว่า การยึดปืนจากพวกเราไม่ได้ก่อให้เกิดผลดีกับประเทศชาติ แต่จะเกิดผลดีกับกลุ่มคนเลวที่บริหารบ้านเมือง และจะมีผลเสียหายกับบ้านเมืองในอนาคต เราอาจจะได้พลังจากประชาชนมาช่วยรักษาสิทธิในการป้องกันตนเอง ครอบครัว และบ้านเมืองได้ และถ้าเราทำสำเร็จ มันก็จะทำไม่สำเร็จ ผมสอนลูกเสมอว่า อย่าเริ่มด้วยความคิดว่าจะทำอะไรไม่สำเร็จ ต้องทำให้เต็มที่และให้ดีที่สุด ส่วนจะสำเร็จหรือไม่ ค่อยว่ากันทีหลัง
ไม่ได้โต้แย้งหรอกครับ... ที่คุณ yutthakarn พูดมาคือวิธีที่ถูกต้องครับ ต้องทำอย่างนั้นแหละถึงจะได้เรื่องได้ราวไงครับ, คราวที่แล้วก็เกิดเรื่องแบบนี้แหละเลยได้ สพป. คราวนี้เราไม่ได้เริ่มจากศูนย์หรอกครับ...
มีค่านิยมอย่างนึงที่คนไทยสู้ต่างชาติไม่ได้ครับ คือคนไทยชอบเชียร์กันว่าให้"สู้ตาย" มันก็เลยมีคำถามว่าทำไมต้องสู้ด้วยเมื่อรู้ว่าสู้แล้วจะตายแน่ๆ(มุดน้ำดำดินรอโอกาสสู้ดีกว่า)... แต่ถ้าตามตำรา(หลายวัฒนธรรมหลากเชื้อชาติ - ยกเว้นไทย)เขาจะบอกว่าเมื่อไหร่จะสู้ ต้องวางแผนก่อนครับ แล้วให้สู้เมื่อได้เปรียบ สู้แล้วต้องชนะ...
ลองนึกดูหนังผีไทยเทียบกับหนังผีฝรั่ง, หนังไทยวิ่งหนีผีกันตั้งแต่ต้นเรื่องจบจบ โดยระหว่างวิ่งหนีผีไปจะบังเอิญคิดโน่นออก คิดนี่ออก แก้ปัญหาเฉพาะหน้าจนสู้ผีชนะ แล้วก็บอกว่านี่แหละเป็นเพราะมีบุญ สิ่งศักดิ์สิทธิ์เลยช่วย(เช่นบ้านผีปอบทั้ง 8 ตอน)... แต่หนังฝรั่งเมื่อเด็กฝรั่งโดนผีหลอก เด็กมันจะนั่งสุมหัวกันแล้วถามว่า"ใครมีแผนมั่ง?" จากนั้นก็จะดำเนินการตามแผน...
เรื่องนี้นายสมชายเชื่อว่าทาง สพป. คงเตรียมแผนเอาไว้แล้ว... ตอนนี้พวกเราก็คุยกันหาแนวร่วมเอาไว้ก่อนครับ, ออกชี้แจงให้เห็นว่ามันไม่ใช่แค่ยึดปืนแล้วจบเรื่อง แต่มันมีมากกว่านั้นคือ"สิทธิการครอบครองปืน" จะกลายเป็นเงื่อนไขแลกเปลี่ยนประโยชน์ให้คอรัปชั่น แล้วหากเรื่องดำเนินตามครรลองชั่วต่อไปอีก จะมีโอกาสเกิดสงครามกลางเมืองเหมือนติมอร์ เพราะกลุ่มคนมีปืนคือกลุ่มพรรคพวกของผู้ปกครองเท่านั้น "คนที่ไม่ใช่พวก"จะหมดสิทธิ์...
นอกจากนี้หากผู้ฟังสามารถรับตรรกะต่อได้ เรื่องนี้ยังสามารถลากโยงไปหาเรื่องการแบ่งสรรทรัพยากรของประเทศที่ยังเหลืออีกมากนอกจากน้ำมันดิบ ตัวอย่างเช่นสิทธิการบริหารหนี้ของลูกค่า ธกส. หากโดนแปรรูปเพราะขาดทุนจากรับจำนำข้าว(หลักทรัพย์ค้ำหนี้คือที่นาของชาวนาจำนวนมหาศาล) เป็นต้น... เรื่องแบบนี้ในที่สุดมันสามารถโยงเข้าหากันได้ เพราะอาวุธคืออำนาจ และอำนาจเอาไว้แย่งทรัพยากรครับ...