เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 17, 2024, 02:51:36 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 4 5 6 [7] 8 9
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ขออนุญาตถามความคิดเห็นท่านที่เป็นพ่อตาคนแล้วครับ  (อ่าน 7730 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 14 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #90 เมื่อ: มีนาคม 28, 2013, 12:45:52 AM »

ที่จริง มองในมุมพ่อตาแม่ยาย เขามีสิทธิ น๊ะครับ ตามแต่ประเพณีโบราณ เขาจะเก็บ เขาจะคืน มันเป็นสิทธิ์ของเขา ผมมาเคืองที่ว่าไปดูถูกเขาอีก มันไม่ถูก จะแต่งเมียทั้งที เงินไม่มี ไปหยิบยืมเขามา แสดงว่าฤกษ์คุณดูมาผิดครับ ไม่พร้อม ไปหยิบยืมมาก็เป็นหนี้เป็นสินเขา มันเหมือนการเริ่มต้นที่ติดลบ ลองมองกลับไปดูว่า หากเริ่มติดลบแบบนี้ เท่ากับหาเรื่องลำบาก........มองโดยเอาตัวเรา เข้าไปเป็นผู้มอง ทำใจให้เที่ยงธรรม แล้วลองคิดดูว่า สมควรคิดอย่างไร.........อย่าคิดมองแต่ประโยชน์ฝ่ายตน ต้องมองและคิดเจือจานอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน

เอ๊าะ....พูดแบบคนรวยนี่หว่าโลกเพ่เรา  ผมขอประท้วงครับทั่นประธานนนน  

แต่ไม่เถียงผู้ใหญ่ระดับสว.  ลูกใครๆก็รักอ่ะนะ จะให้ไปเผชิญชะตากรรมอะไรก็ไม่รู้่ก็ใช่ที่

ผมว่ามันเป็นเส้นคาบเกี่ยวหลายมิติ ทั้งด้านชนชั้น ฐานะ ความพร้อมต่างๆ คนพอมีตังค์ก็คงต้องการคนที่เสมอกัน รึไม่พาลูกเราไปลำบาก

เรียกมากมาย จนฝ่ายผู้ชายแทบช๊อคตาย คนวัยหนุ่มอายุ20-30 ถ้าไม่มีมรดก ไม่ครอบครัวซับพอท มันรากเลือกเลยนะนั่น ยิ่งคนทำงานธรรมดา ไม่ใช่คนร่ำรวยมาจากไหน

แต่ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับประเพณีแบบนี้ เหมือนดูสารคดีแถวแอฟริกา จะขอเมีย เค้าวัดที่งัว-ควาย ใครมีมากกว่า มาแลก จะยกให้  แบร่

บางคนบอกลูกสาวเค้าเลี้ยงมา เอ่า...แล้วผู้ชาย พ่อแม่มันไม่เลี้ยงมารึไง ?

แล้วเอาแรงส์นิดๆ สมัยนี้ คุณว่าลูกสาวคุณซิงมั้ยละ ถามตง..บ่องตง ไม่รู้มือเท่าไหร่แล้ว (บางคน)  

การที่จะมาเรียกไรแบบนี้ ไม่ยุติธรรม มันน่าจะมีการคุยกันในวงกว้างนะครับ ประเด็นนี้ แต่ไม่ยักกะมีสื่อสนใจ มีแต่ชอบออกว่าคนรวยเค้าจัดงานใหญ่โต สินสอดสิบๆล้าน เป็นการแสดงตัวอย่างที่ไม่ดีให้สังคม  ชีวิตคนสามัญ คนธรรมดา ไม่ใช่ไฮโซ ลูกเศรษฐี ดาราในละครที่วัน(ในละคร)ไม่ทำไร แต่งตัวหล่อสวย รวย ไม่ทำงานทำการ .

พอก่อน...เชิญท่านไหน จะประท้วงครับ  คิก คิก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 28, 2013, 12:47:29 AM โดย เบิ้ม » บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
zamphol
ปืน-อยู่-ที่-ปาก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 831
ออฟไลน์

กระทู้: 2628


ชีวิต-ดั่ง-ละคร


« ตอบ #91 เมื่อ: มีนาคม 28, 2013, 07:29:44 AM »

ผู้หญิงสมัยนี้ คอยจับจ้องแต่คนรวยครับ ที่เขากล่าวไว้ว่า ชอบคนดี รักคนเลว แต่งกับคนรวย  คิก คิก

สุดท้ายก็มาจบที่คนรวย ดูดาราหญิงแต่ละคนซิ ผ่านอะไรมามั่ง กว่าจะมาถึงคนรวย  คิก คิก คิก คิก ขำก๊าก
บันทึกการเข้า
นายกระจง
Cement For Life.....
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2938
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 31460


ช่างมันเถอะ


« ตอบ #92 เมื่อ: มีนาคม 28, 2013, 08:51:48 AM »

ที่จริง มองในมุมพ่อตาแม่ยาย เขามีสิทธิ น๊ะครับ ตามแต่ประเพณีโบราณ เขาจะเก็บ เขาจะคืน มันเป็นสิทธิ์ของเขา ผมมาเคืองที่ว่าไปดูถูกเขาอีก มันไม่ถูก จะแต่งเมียทั้งที เงินไม่มี ไปหยิบยืมเขามา แสดงว่าฤกษ์คุณดูมาผิดครับ ไม่พร้อม ไปหยิบยืมมาก็เป็นหนี้เป็นสินเขา มันเหมือนการเริ่มต้นที่ติดลบ ลองมองกลับไปดูว่า หากเริ่มติดลบแบบนี้ เท่ากับหาเรื่องลำบาก........มองโดยเอาตัวเรา เข้าไปเป็นผู้มอง ทำใจให้เที่ยงธรรม แล้วลองคิดดูว่า สมควรคิดอย่างไร.........อย่าคิดมองแต่ประโยชน์ฝ่ายตน ต้องมองและคิดเจือจานอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน

เอ๊าะ....พูดแบบคนรวยนี่หว่าโลกเพ่เรา  ผมขอประท้วงครับทั่นประธานนนน 

แต่ไม่เถียงผู้ใหญ่ระดับสว.  ลูกใครๆก็รักอ่ะนะ จะให้ไปเผชิญชะตากรรมอะไรก็ไม่รู้่ก็ใช่ที่

ผมว่ามันเป็นเส้นคาบเกี่ยวหลายมิติ ทั้งด้านชนชั้น ฐานะ ความพร้อมต่างๆ คนพอมีตังค์ก็คงต้องการคนที่เสมอกัน รึไม่พาลูกเราไปลำบาก

เรียกมากมาย จนฝ่ายผู้ชายแทบช๊อคตาย คนวัยหนุ่มอายุ20-30 ถ้าไม่มีมรดก ไม่ครอบครัวซับพอท มันรากเลือกเลยนะนั่น ยิ่งคนทำงานธรรมดา ไม่ใช่คนร่ำรวยมาจากไหน

แต่ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับประเพณีแบบนี้ เหมือนดูสารคดีแถวแอฟริกา จะขอเมีย เค้าวัดที่งัว-ควาย ใครมีมากกว่า มาแลก จะยกให้  แบร่

บางคนบอกลูกสาวเค้าเลี้ยงมา เอ่า...แล้วผู้ชาย พ่อแม่มันไม่เลี้ยงมารึไง ?

แล้วเอาแรงส์นิดๆ สมัยนี้ คุณว่าลูกสาวคุณซิงมั้ยละ ถามตง..บ่องตง ไม่รู้มือเท่าไหร่แล้ว (บางคน) 

การที่จะมาเรียกไรแบบนี้ ไม่ยุติธรรม มันน่าจะมีการคุยกันในวงกว้างนะครับ ประเด็นนี้ แต่ไม่ยักกะมีสื่อสนใจ มีแต่ชอบออกว่าคนรวยเค้าจัดงานใหญ่โต สินสอดสิบๆล้าน เป็นการแสดงตัวอย่างที่ไม่ดีให้สังคม  ชีวิตคนสามัญ คนธรรมดา ไม่ใช่ไฮโซ ลูกเศรษฐี ดาราในละครที่วัน(ในละคร)ไม่ทำไร แต่งตัวหล่อสวย รวย ไม่ทำงานทำการ .

พอก่อน...เชิญท่านไหน จะประท้วงครับ  คิก คิก




คนที่อื่นผมไม่รู้นะครับ แต่ถ้าที่ตรัง ส่วนมากเลย ถ้าไปขอลูกสะใภ้ ทางพ่อแม่ฝ่ายชายเป็นคนออกให้ครับ แม้ว่าเขาจะต้องเป็นหนี้สินครับ

เห็นบางคนแต่งแล้วเลิก สองครั้ง พ่อแม่เขาก็ยังไปขอให้แล้วออกค่าสินสอดให้ด้วยครับ

แต่ผมหามาเองทั้งหมดครับ ไม่รบกวนพ่อแม่เลย  ตอนนี้ก็เลยต้องเตรียมการไว้ตั้งแต่เนิ่นๆครับ เพราะมีลูกชายด้วยครับ เผื่อวันหนึ่งจะต้องไปขอลูกสะใภ้นะครับ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นคนต้องอดทน ไม่อดทนก็อดตาย
 
สหายแป๋ง คนดง
ถึงตัวเจ้าจะจากไปแต่ชื่อและความดีของเจ้าจะอยู่ในใจพี่เสมอ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2284
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 53136


ป่าสร้างคนแต่คนกลับสร้างป่า ด้วยลมปาก


« ตอบ #93 เมื่อ: มีนาคม 28, 2013, 09:13:09 AM »

  เอาความรักของทั้งสองที่มีต่อกันเป็นฐานราก  เอาค่าสินสอดเป็นสิ่่งเตือนใจ  ช่วยกันดำรงชีวิตคู่ร่วมกันอย่างมีสติในภายภาคหน้าสิ่งที่คุณทั้งสองจะได้กลับคืนมา
ผมว่ามันมากร้อยเท่าพันเท่า  สุขใดไหนเล่าจะเท่าคนสองคนร่วมสร้างครอบครัวที่ดีและฐานะที่มั่นคง เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม
บันทึกการเข้า

รักชาติ  ศาสน์  กษัตริย์ 
ยืนหยัดในความเป็นไทย


  เกิดเป็นเซื้อซาดแฮ้ง  อย่าเหม็นสาบกุยกัน.......
  ข้าราษฎรประจำไทยควรคำนึง
http://www.youtube.com/watch?v=gM1D0xIwLVo
ต้นคระกูลไทย
http://www.youtube.com/watch?v=
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #94 เมื่อ: มีนาคม 28, 2013, 09:15:02 AM »

  เอาความรักของทั้งสองที่มีต่อกันเป็นฐานราก  เอาค่าสินสอดเป็นสิ่่งเตือนใจ  ช่วยกันดำรงชีวิตคู่ร่วมกันอย่างมีสติในภายภาคหน้าสิ่งที่คุณทั้งสองจะได้กลับคืนมา
ผมว่ามันมากร้อยเท่าพันเท่า  สุขใดไหนเล่าจะเท่าคนสองคนร่วมสร้างครอบครัวที่ดีและฐานะที่มั่นคง เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม
ถูกครับ
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

สหายแป๋ง คนดง
ถึงตัวเจ้าจะจากไปแต่ชื่อและความดีของเจ้าจะอยู่ในใจพี่เสมอ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2284
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 53136


ป่าสร้างคนแต่คนกลับสร้างป่า ด้วยลมปาก


« ตอบ #95 เมื่อ: มีนาคม 28, 2013, 09:18:17 AM »

  เอาความรักของทั้งสองที่มีต่อกันเป็นฐานราก  เอาค่าสินสอดเป็นสิ่่งเตือนใจ  ช่วยกันดำรงชีวิตคู่ร่วมกันอย่างมีสติในภายภาคหน้าสิ่งที่คุณทั้งสองจะได้กลับคืนมา
ผมว่ามันมากร้อยเท่าพันเท่า  สุขใดไหนเล่าจะเท่าคนสองคนร่วมสร้างครอบครัวที่ดีและฐานะที่มั่นคง เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม
ถูกครับ

  ไม่ถูกแป๋งไม่พูดหรอกครับ คิก คิก คิก คิก คิก คิก
ช่วงนี้โทรฯเดี้ยงติดต่อสมาชิกไม่ได้  ไม่แน่วันสองวันอาจจะไปโผล่ที่กทม.
หาโอกาสไปหม่ำปลา...ลวกจิ้มร้านอาหารใบบัวสักจานใหญ่ๆ น้ำลายหก น้ำลายหก น้ำลายหก
บันทึกการเข้า

รักชาติ  ศาสน์  กษัตริย์ 
ยืนหยัดในความเป็นไทย


  เกิดเป็นเซื้อซาดแฮ้ง  อย่าเหม็นสาบกุยกัน.......
  ข้าราษฎรประจำไทยควรคำนึง
http://www.youtube.com/watch?v=gM1D0xIwLVo
ต้นคระกูลไทย
http://www.youtube.com/watch?v=
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #96 เมื่อ: มีนาคม 28, 2013, 09:22:58 AM »

นายสมชายถึงบอกเอาไว้ใน Post ก่อนครับ ว่ามันแล้วแต่เอาไม้บรรทัดอันไหนไปวัด เลยบอกถูกผิดไม่ได้...

แต่มีเรื่องที่น่าต้องพิจารณาครับ ว่าหากถือว่าตามประเพณี เป็นสิทธิ์ของพ่อตาแม่ยายว่าจะเรียกเท่าไหร่ก้ได้ แล้วฝ่ายลูกเขยมีหน้าที่ต้องยอมโดยโต้แย้งไม่ได้นั้นน่ะมันก็ใช่, แต่ถ้าหากคิดแบบนี้แบบเคร่งครัด ฝ่ายพ่อตาแม่ยาย และลูกสาวนั่นแหละครับ จะเสียเปรียบและจะมีความทุกข์ระทมยืดเยื้อยาวไกลครับ... หากพ่อตาแม่ยายคิดตก และมองเห็นว่าประเพณีแบบนี้ที่จริงเป็นแค่วัด"ความตั้งใจจริง"ของลูกเขย ว่าจะจริงจังกับลูกสาวของเราแค่ไหนเท่านั้นเอง เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาหรอกครับ...

ลองดูข้อเท็จจริงตามท้องเรื่องในกระทู้นะครับ ทั้งคู่เริ่มต้นรับราชการทั้งคู่ คาดว่าเงินเดือนของทั้งคู่คงคนละไม่เกินเดือนละ 2 หมื่นบาทแน่ๆ ข้อมูลอัตราเงินเดือนของ ก.พ.(เริ่มเข้ารับราชการ) ที่นี่ครับ... http://www.ocsc.go.th/ocsc/th/uploads/circular/ccl0000537.pdf

สมมติว่าอย่างสูง 2 หมื่นบาททั้งคู่ รวมรายได้เดือนละ 4 หมื่นบาท(จริงๆไม่น่าถึง เพราะยังหนุ่มสาวเริ่มรับราชการไม่กี่ปี) ต้องช่วยกันผ่อนหนี้สินสหกรณ์ประมาณ 1 ล้านบาท หากคิดตามอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานธนาคาร/สหกรณ์ ก็ผ่อนประมาณ 1 หมื่นบาทยาวร่วม 20 ปี(หากผ่อนสั้นก็ยิ่งค่างวดแยะ)... แล้วมันจะเหลือกี่บาทเอาไปผ่อนบ้านผ่อนรถยนต์เล่าครับ...

หากฝ่ายลูกเขยเกิดเบื่อขึ้นมา เพราะอยู่กันไปแบบกระเบียดกระเสียน ใช้ชีวิตลำบากมากๆเข้า เดี๋ยวก็ทะเลาะกันอยู่บ้านไม่ติด ทะเลาะกันก็ออกไปกินเหล้า(หรือเมียก็ออกไปอยู่เวร) เพื่อหลบหน้ากันในห้องเช่าแคบๆ ต่อให้รักกันแทบจะกลืนกิน แต่ทะเลาะกันวันเว้นวันเพราะเหนื่อยกับการใช้ชีวิต... เดี๋ยวชีวิตคู่ก็คงไม่ยืดครับ...

นายสมชายฟันธงครับ ว่าในที่สุด ภรรยา จขกท. มีแนวโน้มสูงว่าเมื่อใช้หนี้หลวงเรื่องค่าเรียนหนังสือหมดแล้ว จะออกจากราชการมาอยู่ภาคเอกชนครับ... ไม่งั้นก็ต้องเลือกเอาระหว่างช่วยกันผ่อนหนี้สหกรณ์+ผ่อนบ้านฯ(อาจยอมกัดฟันขึ้นรถเมล์ไม่ผ่อนรถยนต์), แล้วเมื่อมีลูกเมื่อไหร่ก็จะยิ่งแย่เข้าไปอีกครับ เพราะหนี้สหกรณ์นั่นแหละจะถ่วงลงลึกเรื่อยๆ...

อย่างนี้พ่อตาแม่ยายจะมีความสุขไหมเล่าครับ... เรื่องที่จะพึ่งพาลูกสาว+ลูกเขยให้ช่วยดูและยามแก่เฒ่านั้นต้องเลิกคิดถึงครับ ก็มีเงินแล้วก็จ้างพยาบาลมาดูแลเองก็แล้วกันนี่ครับ, ลูกสาวลูกเขยก็ทะเลาะกันระหองระแหงนั่นแหละ ตัวเองยังเอาไม่รอดเลย ดีไม่ดีก็จะเลิกกันเอาเสียด้วย...

แต่ถ้ากลับข้างกันนะครับ หนี้สหกรณ์+เงินสินสอด+ทองคำ รวมแล้วประมาณ 2 ล้านบาท, เอาไปซื้อทาวน์เฮ้าส์ขนาดย่อมหน่อยย่านชานเมือง(แถว กทม.)... เงินเดือนก็เหลือพอเก็บ สุขภาพจิตก็ดี(ไม่ทะเลาะกัน) พ่อตาแม่ยายจะได้พึ่งพายามแก่เฒ่าครับ...
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #97 เมื่อ: มีนาคม 28, 2013, 09:33:46 AM »

ลองดูตัวเลขต่อนะครับ... สมมติว่าเงินเดือนข้าราชการทั้งคู่รวม 4 หมื่น(คิดอย่างสูงแล้ว - ซึ่งจริงๆไม่น่าถึง) ผ่อนหนี้สหกรณ์ 1 หมื่น จะเหลือ 3 หมื่น, ดังนั้นธนาคารให้ผ่อนบ้านได้ต่อเดือนไม่เกิน 1 หมื่นห้าพันบาท นั่นแปลว่าสามารถซื้อที่อยู่อาศัยได้มูลค่าไม่เกิน 1.5 ล้านบาท...

บ้านราคา 1.5 ล้านบาทใน กทม.(และชานเมือง) คือห้องคอนโดขนาด 30 ตารางเมตรเท่านั้นเองครับ และต้องไปไกลเกือบถึงบางใหญ่ หรือถ้าแถบชานเมืองด้านอื่นก็ไปไกลมากอยู่ดี... ไกลชนิดนั่งแท็กซี่มิเตอร์เข้าไปทำงานใจกลางเมืองราคาค่าโดยสารปริ่ม 200 บาทเชียวครับ...

จะทนกันได้อีกสักกี่ปีหนอ... หรือไม่ก็ต้องขอย้ายออกต่างจังหวัด, ไม่งั้นครอบครัวล่มครับ...
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #98 เมื่อ: มีนาคม 28, 2013, 09:38:30 AM »

บางท่านอาจคิดต่อว่า ก็ทำไมคู่อื่นเขาทนกันได้... ก็เขาทนกันได้ก็เพราะชีวิตไม่มีทางเลือกครับ, แต่ถ้าชีวิตมีทางเลือกได้ มันก็จะตั้งคำถามใส่ตัวเองเช้าเย็นว่าทำไมฉันต้องทนด้วย ในเมื่อเพื่อนหมอคนอื่นเขาคุยกันทุกวันว่าวีออสดี หรือแจ๊สดี หรือกัดฟันนิดเดียวไปหาซีวิค ก็แค่ผ่อนเดือนละ 1 หมื่นกว่าบาทเองนี่นา...

แต่ 1 หมื่นกว่าบาทของฉันน่ะ ต้องไปผ่อนหนี้สหกรณ์... เฮ้อ...
บันทึกการเข้า
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23210



« ตอบ #99 เมื่อ: มีนาคม 28, 2013, 10:13:02 AM »

+๑  พี่สมชายครับ  คิดออกมาแนวทางเดียวกับผมเลย   หลงรัก ไหว้
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
soveat ชุมไพร
มือสังหารคันคากหมุ่น พรานปลาวัด พราน28k สมช. เลขที่ 1475
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3429
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 30132


เลือดกรุ๊ป โอละนออออออออออออ


เว็บไซต์
« ตอบ #100 เมื่อ: มีนาคม 28, 2013, 10:17:30 AM »

ไม่รู้อ่ะ....เพิ่งอ่านได้หน้าแรก พรุ่งนี้ค่อยอ่านต่อ  โดนชก

คนนี้น่าสงสาร  ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

จะปิดทอง หลังองค์ พระปฏิมา
soveat ชุมไพร
มือสังหารคันคากหมุ่น พรานปลาวัด พราน28k สมช. เลขที่ 1475
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3429
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 30132


เลือดกรุ๊ป โอละนออออออออออออ


เว็บไซต์
« ตอบ #101 เมื่อ: มีนาคม 28, 2013, 10:27:29 AM »

ลองดูตัวเลขต่อนะครับ... สมมติว่าเงินเดือนข้าราชการทั้งคู่รวม 4 หมื่น(คิดอย่างสูงแล้ว - ซึ่งจริงๆไม่น่าถึง) ผ่อนหนี้สหกรณ์ 1 หมื่น จะเหลือ 3 หมื่น, ดังนั้นธนาคารให้ผ่อนบ้านได้ต่อเดือนไม่เกิน 1 หมื่นห้าพันบาท นั่นแปลว่าสามารถซื้อที่อยู่อาศัยได้มูลค่าไม่เกิน 1.5 ล้านบาท...

บ้านราคา 1.5 ล้านบาทใน กทม.(และชานเมือง) คือห้องคอนโดขนาด 30 ตารางเมตรเท่านั้นเองครับ และต้องไปไกลเกือบถึงบางใหญ่ หรือถ้าแถบชานเมืองด้านอื่นก็ไปไกลมากอยู่ดี... ไกลชนิดนั่งแท็กซี่มิเตอร์เข้าไปทำงานใจกลางเมืองราคาค่าโดยสารปริ่ม 200 บาทเชียวครับ...

จะทนกันได้อีกสักกี่ปีหนอ... หรือไม่ก็ต้องขอย้ายออกต่างจังหวัด, ไม่งั้นครอบครัวล่มครับ...

ผมกับเมีย เป็น ขรก.ระดับกลางๆ ทั้งคู่  เงินเดือนตอนนี้รวมกัน30,000-  Cheesy
มีเงินเก็บไหม....................ไม่มี      หัวเราะร่าน้ำตาริน
มีหนี้ไหม..........................เก้าแสน  โดนชก
เดือนร้อนเรื่องเงินไหม.......ไม่  Grin
มีทัรัพย์สินเป็น...................รถปิ๊คอัพสองคัน  เศร้า
เลี้ยงลูกเลี้ยงพ่อตาแม่ยายได้(พ่อแม่ผมไปสวรรค์หมดแล้ว)แบบไม่อด อยากกินอยากใช้อะไรก็ได้ เที่ยวได้เป็นบางครั้ง  Cheesy Cheesy

ขึ้นอยู่กะตัวเราในการดำรงชีวิตครับ  หากจะประคองชีวิตคู่ให้ไปตลอดรอดฝั่ง ตามใจผู้ใหญ่บ้าง  ครอบครัวเป็นใหญ่บ้าง เรื่องสินสอดทองหมั้นอย่าไปคิดมาก  อยากได้เค้ามาเป็นคู่แล้วเท่าไรก็หามาให้ ไม่อย่างนั้นท่านไม่หาสินสอดหลักล้านมาขอเขาหรอกใช่ไหม อย่าไปมองว่าพ่อตาแม่ยายขายลูกกิน ไม่อย่างนั้นจะเกิดอคติและจะอยู่ด้วยกันลำบาก ขอเขามาเลี้ยงมาดูเราก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ครอบครัวเป็นของเราแล้วครับ สร้างเนื้อสร้างตัวให้ดี ยืนด้วยขาของตัวเองมันภูมิใจกว่าให้คนอื่นอุ่มครับ Cheesy
บันทึกการเข้า

จะปิดทอง หลังองค์ พระปฏิมา
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #102 เมื่อ: มีนาคม 28, 2013, 10:37:40 AM »

ลองดูตัวเลขต่อนะครับ... สมมติว่าเงินเดือนข้าราชการทั้งคู่รวม 4 หมื่น(คิดอย่างสูงแล้ว - ซึ่งจริงๆไม่น่าถึง) ผ่อนหนี้สหกรณ์ 1 หมื่น จะเหลือ 3 หมื่น, ดังนั้นธนาคารให้ผ่อนบ้านได้ต่อเดือนไม่เกิน 1 หมื่นห้าพันบาท นั่นแปลว่าสามารถซื้อที่อยู่อาศัยได้มูลค่าไม่เกิน 1.5 ล้านบาท...

บ้านราคา 1.5 ล้านบาทใน กทม.(และชานเมือง) คือห้องคอนโดขนาด 30 ตารางเมตรเท่านั้นเองครับ และต้องไปไกลเกือบถึงบางใหญ่ หรือถ้าแถบชานเมืองด้านอื่นก็ไปไกลมากอยู่ดี... ไกลชนิดนั่งแท็กซี่มิเตอร์เข้าไปทำงานใจกลางเมืองราคาค่าโดยสารปริ่ม 200 บาทเชียวครับ...

จะทนกันได้อีกสักกี่ปีหนอ... หรือไม่ก็ต้องขอย้ายออกต่างจังหวัด, ไม่งั้นครอบครัวล่มครับ...

ผมกับเมีย เป็น ขรก.ระดับกลางๆ ทั้งคู่  เงินเดือนตอนนี้รวมกัน30,000-  Cheesy
มีเงินเก็บไหม....................ไม่มี      หัวเราะร่าน้ำตาริน
มีหนี้ไหม..........................เก้าแสน  โดนชก
เดือนร้อนเรื่องเงินไหม.......ไม่  Grin
มีทัรัพย์สินเป็น...................รถปิ๊คอัพสองคัน  เศร้า
เลี้ยงลูกเลี้ยงพ่อตาแม่ยายได้(พ่อแม่ผมไปสวรรค์หมดแล้ว)แบบไม่อด อยากกินอยากใช้อะไรก็ได้ เที่ยวได้เป็นบางครั้ง  Cheesy Cheesy

ขึ้นอยู่กะตัวเราในการดำรงชีวิตครับ  หากจะประคองชีวิตคู่ให้ไปตลอดรอดฝั่ง ตามใจผู้ใหญ่บ้าง  ครอบครัวเป็นใหญ่บ้าง เรื่องสินสอดทองหมั้นอย่าไปคิดมาก  อยากได้เค้ามาเป็นคู่แล้วเท่าไรก็หามาให้ ไม่อย่างนั้นท่านไม่หาสินสอดหลักล้านมาขอเขาหรอกใช่ไหม อย่าไปมองว่าพ่อตาแม่ยายขายลูกกิน ไม่อย่างนั้นจะเกิดอคติและจะอยู่ด้วยกันลำบาก ขอเขามาเลี้ยงมาดูเราก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ครอบครัวเป็นของเราแล้วครับ สร้างเนื้อสร้างตัวให้ดี ยืนด้วยขาของตัวเองมันภูมิใจกว่าให้คนอื่นอุ่มครับ Cheesy


 เยี่ยม

ไม่รู้อ่ะ....เพิ่งอ่านได้หน้าแรก พรุ่งนี้ค่อยอ่านต่อ  โดนชก

คนนี้น่าสงสาร  ขำก๊าก

ช่าย...ไม่มีใครมากัดก้อนเกลือกินด้วยเลย  เศร้า  แลบลิ้น
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5711
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48212



« ตอบ #103 เมื่อ: มีนาคม 28, 2013, 10:54:05 AM »

ที่จริง มองในมุมพ่อตาแม่ยาย เขามีสิทธิ น๊ะครับ ตามแต่ประเพณีโบราณ เขาจะเก็บ เขาจะคืน มันเป็นสิทธิ์ของเขา ผมมาเคืองที่ว่าไปดูถูกเขาอีก มันไม่ถูก จะแต่งเมียทั้งที เงินไม่มี ไปหยิบยืมเขามา แสดงว่าฤกษ์คุณดูมาผิดครับ ไม่พร้อม ไปหยิบยืมมาก็เป็นหนี้เป็นสินเขา มันเหมือนการเริ่มต้นที่ติดลบ ลองมองกลับไปดูว่า หากเริ่มติดลบแบบนี้ เท่ากับหาเรื่องลำบาก........มองโดยเอาตัวเรา เข้าไปเป็นผู้มอง ทำใจให้เที่ยงธรรม แล้วลองคิดดูว่า สมควรคิดอย่างไร.........อย่าคิดมองแต่ประโยชน์ฝ่ายตน ต้องมองและคิดเจือจานอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน

เอ๊าะ....พูดแบบคนรวยนี่หว่าโลกเพ่เรา  ผมขอประท้วงครับทั่นประธานนนน 

แต่ไม่เถียงผู้ใหญ่ระดับสว.  ลูกใครๆก็รักอ่ะนะ จะให้ไปเผชิญชะตากรรมอะไรก็ไม่รู้่ก็ใช่ที่

ผมว่ามันเป็นเส้นคาบเกี่ยวหลายมิติ ทั้งด้านชนชั้น ฐานะ ความพร้อมต่างๆ คนพอมีตังค์ก็คงต้องการคนที่เสมอกัน รึไม่พาลูกเราไปลำบาก

เรียกมากมาย จนฝ่ายผู้ชายแทบช๊อคตาย คนวัยหนุ่มอายุ20-30 ถ้าไม่มีมรดก ไม่ครอบครัวซับพอท มันรากเลือกเลยนะนั่น ยิ่งคนทำงานธรรมดา ไม่ใช่คนร่ำรวยมาจากไหน

แต่ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับประเพณีแบบนี้ เหมือนดูสารคดีแถวแอฟริกา จะขอเมีย เค้าวัดที่งัว-ควาย ใครมีมากกว่า มาแลก จะยกให้  แบร่

บางคนบอกลูกสาวเค้าเลี้ยงมา เอ่า...แล้วผู้ชาย พ่อแม่มันไม่เลี้ยงมารึไง ?

แล้วเอาแรงส์นิดๆ สมัยนี้ คุณว่าลูกสาวคุณซิงมั้ยละ ถามตง..บ่องตง ไม่รู้มือเท่าไหร่แล้ว (บางคน) 

การที่จะมาเรียกไรแบบนี้ ไม่ยุติธรรม มันน่าจะมีการคุยกันในวงกว้างนะครับ ประเด็นนี้ แต่ไม่ยักกะมีสื่อสนใจ มีแต่ชอบออกว่าคนรวยเค้าจัดงานใหญ่โต สินสอดสิบๆล้าน เป็นการแสดงตัวอย่างที่ไม่ดีให้สังคม  ชีวิตคนสามัญ คนธรรมดา ไม่ใช่ไฮโซ ลูกเศรษฐี ดาราในละครที่วัน(ในละคร)ไม่ทำไร แต่งตัวหล่อสวย รวย ไม่ทำงานทำการ .

พอก่อน...เชิญท่านไหน จะประท้วงครับ  คิก คิก
เบิ้มพูดได้ถูกต้องและถูกใจมาก
สำหรับคำแนะนำก็...ตามแผนเดิมครับเบิ้ม

รักจริงหวังแต่งกะสาวไหนก็
เฉาะให้ท้องสักสองสามเดือนดูซิใครจะร้อนใจอยากแต่งมากกว่า

ถ้าสาวไหนเราไม่หวังจริงจังก็ อย่าให้ท้อง คิก คิก
บันทึกการเข้า

๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง  แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง   จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
                      
                             โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #104 เมื่อ: มีนาคม 28, 2013, 11:04:52 AM »

ลองดูตัวเลขต่อนะครับ... สมมติว่าเงินเดือนข้าราชการทั้งคู่รวม 4 หมื่น(คิดอย่างสูงแล้ว - ซึ่งจริงๆไม่น่าถึง) ผ่อนหนี้สหกรณ์ 1 หมื่น จะเหลือ 3 หมื่น, ดังนั้นธนาคารให้ผ่อนบ้านได้ต่อเดือนไม่เกิน 1 หมื่นห้าพันบาท นั่นแปลว่าสามารถซื้อที่อยู่อาศัยได้มูลค่าไม่เกิน 1.5 ล้านบาท...

บ้านราคา 1.5 ล้านบาทใน กทม.(และชานเมือง) คือห้องคอนโดขนาด 30 ตารางเมตรเท่านั้นเองครับ และต้องไปไกลเกือบถึงบางใหญ่ หรือถ้าแถบชานเมืองด้านอื่นก็ไปไกลมากอยู่ดี... ไกลชนิดนั่งแท็กซี่มิเตอร์เข้าไปทำงานใจกลางเมืองราคาค่าโดยสารปริ่ม 200 บาทเชียวครับ...

จะทนกันได้อีกสักกี่ปีหนอ... หรือไม่ก็ต้องขอย้ายออกต่างจังหวัด, ไม่งั้นครอบครัวล่มครับ...

ผมกับเมีย เป็น ขรก.ระดับกลางๆ ทั้งคู่  เงินเดือนตอนนี้รวมกัน30,000-  Cheesy
มีเงินเก็บไหม....................ไม่มี      หัวเราะร่าน้ำตาริน
มีหนี้ไหม..........................เก้าแสน  โดนชก
เดือนร้อนเรื่องเงินไหม.......ไม่  Grin
มีทัรัพย์สินเป็น...................รถปิ๊คอัพสองคัน  เศร้า
เลี้ยงลูกเลี้ยงพ่อตาแม่ยายได้(พ่อแม่ผมไปสวรรค์หมดแล้ว)แบบไม่อด อยากกินอยากใช้อะไรก็ได้ เที่ยวได้เป็นบางครั้ง  Cheesy Cheesy

ขึ้นอยู่กะตัวเราในการดำรงชีวิตครับ  หากจะประคองชีวิตคู่ให้ไปตลอดรอดฝั่ง ตามใจผู้ใหญ่บ้าง  ครอบครัวเป็นใหญ่บ้าง เรื่องสินสอดทองหมั้นอย่าไปคิดมาก  อยากได้เค้ามาเป็นคู่แล้วเท่าไรก็หามาให้ ไม่อย่างนั้นท่านไม่หาสินสอดหลักล้านมาขอเขาหรอกใช่ไหม อย่าไปมองว่าพ่อตาแม่ยายขายลูกกิน ไม่อย่างนั้นจะเกิดอคติและจะอยู่ด้วยกันลำบาก ขอเขามาเลี้ยงมาดูเราก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ครอบครัวเป็นของเราแล้วครับ สร้างเนื้อสร้างตัวให้ดี ยืนด้วยขาของตัวเองมันภูมิใจกว่าให้คนอื่นอุ่มครับ Cheesy

ท่านปลัดอยู่ต่างจังหวัด เรื่องราวเลยลงตัวไงครับ... แต่เรื่องมันจะแตกต่างแยะ หากเป็น"แพทย์หญิง"ที่มีทางเลือกได้แยะไงครับ ใครจะรู้ว่าเมื่อไหร่แพทย์หญิงท่านนั้นอาจตบะแตก ครอบครัวก็ล่มครับ...

คือผู้ชายไม่ค่อยแคร์เรื่อง"ฐานานุรูป"ทางสังคม เช่นนายสมชายออกจากบ้านไปไหนก็แค่กางเกงยีนส์+เสื้อยืด+รองเท้าผ้าใบก็จบเรื่อง... แต่ผู้หญิงจะมีรายละเอียดเสื้อผ้าหน้าผมกระเป๋ารองเท้า ฯลฯ ซึ่งเรื่องแบบนี้มันเห็นของเพื่อนหมอคนอื่นด้วยกันอยู่ทุกวันครับ, ตัวอย่างเช่นเข้าห้องน้ำเติมแป้งเติมเครื่องสำอางค์ช่วงก่อนเลิกงานกลับบ้าน เพื่อนหมอด้วยกันใช้เอสเต้ฯ ส่วนตัวฉันใช้ของมิสทีนฯ หน้าก็เลยเขลอะฯ, แยกกันกลับบ้านเพื่อนหมอเดินไปลานจอดรถ แต่ฉันเดินไปคอยรถเมล์, เพื่อนเขาชวนกันไปกินสุกี้เอ็มเคเลิกงานเย็น(เหนื่อย) แต่ฉันโกหกเพื่อนว่านัดกับสามี(แล้วซื้อแกงถุงหน้าปากซอย - เหมือนเดิมทุกวันนั่นแหละ), เพื่อนชวนกันไปซื้อเสื้อผ้าในห้างเอาไว้ใส่ไปงานแต่งรุ่นน้อง แต่ฉันต้อง"แอบ"ไปเดินตลาดนัดแถวบ้าน ซื้อเสื้อมาแล้วก็นั่งดัดแปลงแต่งโน่นติดลูกไม้ที่นี่ ฯลฯ...

พอมากๆเข้า เงื่อนไขมันก็แยะเข้าน่ะครับ แล้วในที่สุดก็จะทนไม่ไหว เพราะเธอมีทางเลือก แล้วหากเลือกไปอยู่ภาคเอกชน ก็ไม่แน่ว่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับครอบครัวอีกนั่นแหละ เพราะรายได้สามีกับภรรยาจะแตกต่างกันมาก หากยังรักกันมากอยู่ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามีอะไรมากระทบ ก็ต้องระวังให้จงหนัก เพราะรายรับต่อเดือน 2 - 3 แสนบาทเทียบกับเงินเดือนสามี 2 หมื่นบาท มันเหมือนคนละสังคมแล้วครับ... ดังนั้น ที่ จขกท. คำนึงถึงจึงสมเหตุสมผลอยู่ คือแก้โจทย์ว่าทำอย่างไรให้ภรรยาและครอบครัวควรจะมีความสุขได้โดยไม่ต้อง"กัดก้อนเกลือ"กินครับ...

กินอุดมการณ์อย่างเดียว มันเหมาะกับพวกเรา(เช่นตัวนายสมชายเองสมัยเริ่มรับราชการใหม่ๆ c.3 ที่ จ.สุรินทร์)... แต่ถ้า"แพทย์หญิง"แล้วเธอจะมีทางเลือกอย่างอื่นได้ครับ...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 28, 2013, 11:06:28 AM โดย นายสมชาย(ฮา) - รักในหลวง » บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 4 5 6 [7] 8 9
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.086 วินาที กับ 22 คำสั่ง