ผมพึ่งแต่งงานครับ โดนเรียกสินสอดเป็นเงินหนึ่งล้านบาท ทองยี่สิบบาท พ่อตาแม่ยายผูกแขนและปูที่นอนรวมเป็นเงินสองแสน ส่วนทองทีแรกแกว่าจะไม่คืนทำเป็นถามว่า เดี๋ยวพ่อกับแม่จะเก็บไว้ให้ ผมอดไม่ไหวเลยบอกไปว่า เงินทั้งหมดที่ใช้ในงานนี้ผมกู้สหกรณ์มา แกเลยเงียบไป แต่ก็ยังบอกว่า ตามประเพณี "ของบ้านนี้" ก็ต้องให้พ่อให้แม่ให้น้องๆ ของเจ้าสาวด้วย ผมเลยให้พ่อตากับแม่ยายไปคนละ 2 บาท และน้องสาวของแฟนผมอีก 1 บาท
อยากถามความคิดเห็นของคนที่เป็นพ่อตาคนมาแล้วว่า โดยส่วนใหญ่คิดเห็นอย่างไรกับเรื่องเงินสินสอด สำหรับผม ผมว่า เมื่อลูกหลานเค้าเข้าตามตรอกออกตามประตู และทำตามประเพณีทุกอย่างแล้วน่าจะอนุเคราะห์ให้ลูกหลานได้เริ่มต้นชีวิตครอบครัวด้วยความราบรื่น ไม่ใช่มาเริ่มต้นชีวิตกับคนที่มีหนี้สินมากมายแบบผม แต่นี่ เพราะผมรักภรรยาผมผมเลยต้องอดทน
ทั้งหมดนี้แค่อยากระบายความอึดอัดใจกับพี่น้องชาวปืนครับ และขอฝากท่านที่อาจจะกำลังจะเป็นพ่อตาคนไว้ด้วยครับ
ขอบพระคุณครับ
พูดลำบาก ไม่อยากพูดด้วย ชีวิตยังไม่ได้เดินไปถึงเวลาที่เจ้าของกระทู้เจอ
แต่เห็นเรื่องราวไปไกลเกิน ขอก็อปหัวข้อกระทู้มาอีกครั้ง
ผมขออนุญาต สมมุติตัวเองเป็นเจ้าของกระทู้ มีเงื่อนไขต่างๆเหมือนเจ้าของกระทู้
ถ้าเป็นผม คงต้องบอกกล่าวกับพ่อแม่ฝ่ายหญิงก่อนแต่งตรงๆ ว่าเรามีภาระใดๆบ้าง
ผมหาเงินหนึ่งล้านกับทองยี่สิบบาทได้ แต่คงต้องกู้สหกรณ์มา แล้วค่อยผ่อนทีหลัง...
แน่ล่ะ... พ่อกับแม่ฝ่ายหญิงอาจไม่ต้องบอกภาระของเขา แต่ร้อยทั้งร้อย ถ้าพ่อแม่อึดอัดตรงนี้
ก็เพราะเขาเองก็มีหนี้สินอยู่เหมือนกัน บางทีอาจเอาเงินสินสอดไปล้างหนี้ก็ได้...
อันนี้เคยเจอเคสของเพื่อนหลายคน
ถ้าเขาเก็บไว้่ ไม่คืนไม่ว่ากรณีใด ขอให้รู้ล่วงหน้าก่อน จะได้วางแผนถูก ไม่ใช่ไปลุ้นเอาตอนหลัง
ส่วนคำว่า"ขายลูกกิน" คำนี้ ผมแสลงมาก ไม่ถูกกับมันทั้งๆที่ยังไม่มีลูกสาว
ตามธรรมเนียมโบราณนานมา ก็มีสินสอดในงานแต่งกันมาเนิ่นนานแล้ว แล้วเราก็ยึดตามประเพณีกันมา
การให้สินสอดฝ่ายหญิง ตามสมควร ตามฐานะ (ฐานะใคร? ฝ่ายหญิงหรือผ่ายชาย อันนี้น่าอึดอัดมาก
หากฝ่ายชายด้อยฐานะกว่าฝ่ายหญิง)
ดังนั้นไม่ว่าผู้ใหญ่เขาจะเก็บไว้หรือไม่ ให้เราคืนมาหรือไม่ บางที คู่แต่งไม่มีปัญหานะ แขกเหรื่อ คนรอบข้าง
นั่นแหละ ซุบซิบนินทากัน
ได้เป็นเรื่องเป็นราวกันก็ตรงนั้น....
ผมไม่เคยเข้าพิธีแต่งงาน แต่ผมเคยคุ้มครองเงินสินสอดหลายครั้ง ข้ามจังหวัดก็มี
เลยเข้าไปอยู่ในหลายพิธีสู่ขอ เกือบครึ่งที่เจอไม่คืนเงิน แต่เจ้าบ่าวก็รู้ล่วงหน้าแล้ว เลยเฉยเสีย
ผมเองก็นิ่ง ไม่ได้รู้อะไรมากกว่านั้น จะพูดมากทำไม ไม่ถามด้วยว่า ทำไม พ่อแม่ฝ่ายหญิงไม่คืน
ส่วนที่คืนมา มีทั้งคืนกันเงียบๆหลังงานแต่ง บางรายก็บอกกล่าวกันในงานกันเลย
แต่หลายรายที่ไม่ได้คืน เพราะพ่อแม่้ฝ่ายหญิงเองก็มีหนี้สินให้ต้องชำระ เขาก็ไม่อินังขังขอบ
หาเอาใหม่ได้.....
วันดีคืนดี เมียท้องขึ้นมา คลอดปุ๊บ พ่อตาแม่ยายมาเยี่ยม เอาทองมาผูกรับข้อมือหลาน
ก็ทองที่เป็นสินสอดไปสู่ขอน่ะแหละ มาให้หลานต่อ
พอแม่ออกจาก รพ. ไปทำงาน ก็ฝากลูกไว้กับยายน่ะแหละ ให้เลี้ยงดูช่วงกลางวัน
เข้าโรงเรียน ยายกับตาก็มีเงินซื้อชุดนักเรียนให้หลาน
บางครั้ง เรื่องที่สมควรเสียก็ต้องเสีย เรื่องที่สมควรยอมก็ต้องยอม อย่าไปชนะมันทุกเรื่องเลยครับ
ชนะใจคนแก่ ไม่ยาก ไม่ง่าย แต่ต้องตั้งใจทำ ไม่ใช่ทำแค่วันเดียว
เพื่อนผมหลายคนที่พ่อตากับแม่ยายไม่คืนสินสอดให้ตอนแต่ง ตอนนี้ออกจากงานประจำไปดูแลสวนที่
พ่อตา แม่ยายยกให้แล้วครับ สามสิบกว่าไร่แน่ะ มูลค่ามากกว่าเงินสินสอดเกิน10เท่าตัว
ในทรรศนะของผม การแต่งงานไม่ใช่คนสองคน แต่มันครอบครัวสองครอบครัว ที่จะผูกติดกัน
จากการแต่งงานของคนสองคนต่างหาก