ผมตัดสินใจอยู่นานหลายวันกว่าจะโพสต์กระทู้นี้ได้
..
เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นแบบอย่างที่ไม่ถูกต้องของเรา ๆ ท่าน ๆ ที่ใช้อาวุธปืนในการป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน
..
แต่ในกรณีศึกษาของคุณ K2A (ขออภัยที่ต้องเอ่ยนาม) ทำให้ผมต้องตัดสินใจขั้นเด็ดขาด เพื่อป้องกันตนเอง
- การเก็บเกี่ยวข้อมูลรอบด้านที่เกี่ยวข้อง...โดยความเคยชิน
ช่วยได้ดีมาก ๆ ครับ ในการประเมินสถานการณ์ก่อนต้ดสินใจขอเริ่มเลยก็แล้วกันนะครับ
คือหลังจากที่เสร็จสิ้นภารกิจถวายงานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่โรงพยาบาลศิริราช
ซึ่งขณะนั้นเวลาก็ประมาณ ตี 2 ผมมีเหตุจำเป็นต้องเดินทางไปจังหวัดสุพรรณฯ เป็นการด่วน
ก็เลยจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วรีบเดินทางทันที โดยใช้เส้นตลิ่งชัน-บางบัวทอง-สุพรรณฯ
โดยระหว่างทางได้แวะปั๊มเจ็ท ที่อยู่เลยสนามบางบัวทองไปหน่อยนึง เพื่อเติมน้ำมันและหากาแฟกิน
- ท่านพยายามเลี่ยงการเข้าหาสถานที่ที่มีภัยรอบด้านน้อยที่สุดแล้วครับ โดยไม่ได้สังเกตและระวังอันตรายที่แฝงตามปั๊มน้ำมันเลย
- การวางตัว...ให้น่าเกรง....ในที่ที่ไม่คุ้นเคย....
เป็นสิ่งที่พึงกระทำครับ...โดยเฉพาะในยามวิกาล....หลังจากนั้นก็ออกเดินทางต่อ ระหว่างทางที่ขับรถมารู้สึกมีรถขับตามมาจากปั๊มแต่ก็ไม่ได้ไปสนใจอะไร
- ท่านสังเกตความเป็นไปรอบด้านได้ดี ครับจากนั้นประมาณ ครึ่งชั่วโมงกว่า ๆ สังเกตว่า เสียงเครื่องยนต์ดังแปลก ๆ ตั้งใจฟังอยู่ตั้งนาน
เหมือนไม่ใช่เสียงรถเรานี่หว่า มองกระจกซ้าย ขวา หลัง ไม่มีรถตามมาเลยซักคัน
เอ๊ะ
แล้วมันเสียงอะไรกันฟ่ะ
. สงสัยอยู่นานพอสมควร
.
แล้วผมก็หายสงสัยครับเพราะไอ้เสียงที่ว่ามันคือรถปิ๊กอัพที่ดับไฟแล้วขับจี้ตูดชนิดห่างแค่ศอกเดียว
แล้วมันก็เปิดไฟสูงวาบใส่ทันที ผมตกใจมาก แต่พยายามคุมสติไว้แล้วเปิดไฟสัญญาณเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าเลนซ้าย
พ่อเจ้าประคุณก็แซงไปอยู่ข้างหน้าแล้วพยายามเบรคให้ผมชนท้าย ผมก็เบรคแล้วชะลอรถทันที เพื่อให้เค้าไปก่อน
- ท่านมิได้มีเจตนาในการตอบโต้....ในครั้งแรก
ด้วยเพราะ...จำกัดในระยะเวลาห้วงสั้น ๆ ที่ค่อนข้างจะฉับพลัน ครับในใจคิดว่า โดนดีแน่แล้วเรา
มือซ้ายเลยเอื้อมไปล้วง PPK ในกระเป๋าที่วางอยู่ข้าง ๆ มาขึ้นลำเตรียมไว้
แล้วค่อย ๆ ขับไป ช้า ๆ ประมาณ 90/ชม. มันก็เบรครถกระทันหันอีกครั้ง เพื่อให้ผมชนท้ายมันอีก
ผมก็เบรค แล้วชะลอทันที ให้พ่อเจ้าประคุณท่านไปก่อน
- ผลจากการรับรู้ถึง...เหตุเฉพาะหน้าดังกล่าว
ท่านมีการเตรียมรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ดีครับมันทำอย่างนี้ซ้ำกันถึง 4 ครั้ง จนมันแน่ใจว่าผมคงไม่ชนท้ายมันแน่ ๆ มันก็เร่งเครื่องหายไป
ผมก็โล่งใจไปได้หน่อยนึง จากนั้นก็ค่อย ๆ ขับช้า ๆ ย่อง ๆ มาตลอดทางและระวังตัวตลอด
ประมาณครึ่งชั่งโมงเห็นจะได้ มันมาอีกแล้วครับ คันเดิม
ดับไฟมาเหมือนเดิมไม่รู้ว่ามันไปซุ่มอยู่ที่ไหน อยู่ ๆ ก็มาโผล่ข้างหลังผมอีกแล้ว คราวนี้มันชนเลยครับ
ไม่แรงเท่าไหร่ แล้วก็ขับมาตีคู่เปิดกระจกชี้มือชี้ไม้จะเอาเรื่องให้ได้
- หลังจากที่ท่านประสบเหตุในครั้งแรกแล้ว...
ท่านมีการประมวล....และลำดับความคิดก่อนการตัดสินใจอยู่แล้ว...ครับแล้วก็ทำสัญญาณให้ผมจอดรถ ผมก็ชะลอรถแล้วกดกระจกลง
ระหว่างนั้นไอ้ปิ๊กอัพผีคันนี้อยู่ด้านหน้าผมแล้วครับ เตรียมขวางผมให้จอดรถให้ได้
ผมตัดสินใจแล้วครับ หยิบ PPK ยิงอัดใส่รถมันทันที 5 นัด
ย้ำนะครับผมยิงใส่รถเลยโดยไม่สนใจว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง
ก็เราขอใบอนุญาตซื้อปืนเพื่อสิ่งนี้มิใช่หรือครับ ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน
นี่คือการเปิดฉากดวลกับคนชั่ว ๆ โดยไม่รอให้มันเป็นฝ่ายเริ่มก่อน แล้วก็ได้ผลครับ
มันเร่งเครื่องหนีเต็มที่โดยไม่คิดชีวิต เสียงเครื่องยนต์ดังสนั่นเลยครับ
ไม่อยากจะคิดถ้ามันสู้ขึ้นมาผมคงเสร็จแน่ ๆ เหลือติดปืนอยู่แค่ 2 นัดเอง
- การกระทำของท่าน....เป็นการกระทำที่ใคร่ครวญแล้ว...ครับ
เนื่องมาจากภาระหน้าที่ ซึ่งท่านอาจปฏิบัติอยู่เป็นประจำ ในด้านการวิเคราะห์ก่อนตัดสินใจและลงมือปฏิบัติทันที
สังเกตได้จาก....การที่ท่านกระหน่ำถึง 5 นัดซ้อน ๆ จากจำนวน 7 นัดที่ติดปืนอยู่
(ทั้ง ๆ ที่ไม่มีกระสุนสำรอง)
ท่านน่าจะคิดว่า...ปืนท่านเป็นปืนขนาดเล็ก...ไม่เหมาะแก่การจู่โจม...
แต่ท่านอาศัยจำนวนกระสุนที่ค่อนข้างมาก...(จากจำนวน 7 นัดที่ท่านมี)
ข่ม...ฝ่ายตรงข้าม ด้วยอำนาจการยิงที่ต่อเนื่อง
และผมเห็นว่า...เป็นการปฏิบัติที่เสี่ยงด้วยการใคร่ครวญ...แล้ว
คล้าย ๆ กับการเทหมดหน้าตักนั่นเอง....
ผมคาดว่า...ท่านน่าจะเคยชินต่อการตัดสินใจ...ด้วยการวิเคราะห์ปัญหา เงื่อนไขต่าง ๆ ในระยะเวลาอันสั้น
แล้วต้องลงมือปฏิบัติทันที.....จากนั้น ผมขับรถมาเรื่อย ๆ จนถึงป้อมตำรวจ
ก็จอดรถสำรวจความเสียหายปรากฏว่าไม่มากครับ กันชนหลังเสียหายนิดหน่อย
ตำรวจผู้เฒ่าในชุดขาสั้นเสื้อยืดสีขาวที่นอนอยู่ในป้อมก็ค่อย ๆ แง้มประตูออกมาดู
ผมก็เล่ารายละเอียดให้ฟัง แกก็ดีใจหายครับอุตส่าห์วิทยุไปแจ้งเหตุตามป้อมระหว่างทาง
เพื่อสกัดจับตามเส้นทางที่คาดว่าร้ายจะหลบหนี โดยไม่วุ่นวายกับปืนผมเลย
แค่ขอดูหน่อยว่าใช้ปืนอะไรแล้วก็ส่งคืน
เฮ้อ
..ตีสามเข้าไปแล้วครับกลางทุ่งอย่างนี้ไม่มีใครเค้าตื่นมาตั้งด่านให้หรอกครับ ต้องทำใจ
ผมคงจะไม่ถามนะครับว่าผมทำเกินไปหรือไม่เพราะผมได้ทำลงไปแล้ว
และในทางกลับกันหากเกิดอะไรที่เลวร้ายขึ้น คนที่เสียใจที่สุดก็ไม่พ้นครอบครัวที่เรารักอยู่ดี
เพราะยังงี้ผมถึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้มีชีวิตรอดกลับไปหาครอบครัวที่ผมรักครับ
- เป็นการกระทำ...ที่เหมาะสมต่อเหตุการณ์อย่างยิ่ง ครับจากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...