บ้านผมอยู่จังหวัดระนอง ผมมาเที่ยวสวนของเพื่อนโดยจอดรถใว้ด้านนอกหมู่บ้านเนื่องจากถนนทุรกันดาน ตอนกลับเผอิญเจอลุงคนรู้จักกันที่มาเดินล่าสัตว์โดยบังเอิญ เลยขออาศัยติดรถ4WDออกไปด้วย แต่ระหว่างทางที่เดินไปที่จอดรถของลุงที่จอดห่างออกไปประมาณ 3ก.ม. ลุงเจ้าของรถแกถอดปืนลูกซองใส่กระสอบแบกเดินไป ผมเดินตามห่างๆจากลุงแกประมาณ20 เมตร จนมาเจอด่านลอยของทหาร ลุงแกเปิดกระสอบให้ทหารดูว่ามีปืน แต่เป็นของหลานแก ทหารถามว่ามาด้วยกันหรือเปล่า ผมว่าใช่ครับ งั้นผมตั้งข้อหานำพาอาวุธปืนร่วมกัน ผมบอกว่าผมแค่จะขอติดรถลุงเขาไป แล้วจับผมทำไม ทหารไม่ฟังพาผมไปสอบจนสว่างแล้วส่งตัวผมพร้อมลุงแกให้ตำรวจแจ้งข้อหาในวันรุ่งขึ้น ผมต้องประกันตัวสู้คดีตั้ง150,000 บาท เพื่อไม่ต้องนอนคุก ผมล่ะงงกับประเทศไทยกับกฎอัยการศึกของทหารจริงๆ
อ่านแล้วดูเหมือนกับว่าทะเบียนปืนไม่ใช่ของลุงแกกระมังครับ เมื่อโดนทหารถามแกเลยโบ้ยใส่ว่าเป็นของหลาน(ที่เดินตามหลังมา)!!!... เมื่อโดนทหารถามว่า"มาด้วยกันหรือเปล่า?" หมายความว่าหลานที่เป็นเจ้าของปืน คือคนที่มาด้วยกันเดินตามมาข้างหลังหรือเปล่า? ลูงแกเลยโยนกลองทันที...
ครั้งแรกคุยกันได้ความอย่างนี้ แล้วระหว่างสอบสวนทหารไม่ฟังเลยหรือครับ ว่าเข้าใจผิดกันเรื่องการสื่อสารตั้งแต่แรก...
แต่อย่างไรก็ดี ถ้าไปด้วยกันกับผู้ที่กำลังกระทำความผิดอยู่ มักจะโดนรวบไปอย่างนี้แหละครับ ถึงแม้จะรอดได้ แต่ก็อาจต้องเสียเวลา แล้วดีไม่ดีจะไปหลุดเอาในชั้นศาลให้ตื่นเต้นกับเรื่องไม่เป็นเรื่องครับ... เขาถึงได้ห้ามกันว่าอย่าอยู่ใกล้คนที่"รู้ไม่เท่าถึงการณ์"เพราะจะพาลซวยไปด้วยกับเรื่องไม่เป็นเรื่องครับ...
สำหรับตามกระทู้นี้ นายสมชายเชื่อว่า จขกท. จะรอด แต่ก็เหนื่อยหน่อยครับ... ขอเอาใจช่วย...