ขอขอบคุณ อ.ผณิศวร และผู้รู้ทุกท่านครับ ตอนนี้ผมเข้าใจ กระจ่างแล้วครับ ว่าทำไมปืนถึงกินสูงในการยิง เงยและ ยิงก้ม
แล้วที่นี้ ผมมีเรื่องเล่าให้ฟังนิดหนึ่ง .....
เช้าวันนึงผมกำลังออกมาสูดอากาศที่ระเบียงบ้านชั้นสอง ได้เจอหนูตัวเท่าลูกแมวเขื่องๆ ตัวอ้วนปี๋เชียว ขนงี้มันวับเลย มันมาเดินเล่นที่หลังบ้านผม ทำจมูกฟุดฟิดๆ และเยื้องย่างอย่างช้าๆ ผมก็พยายามทำอุเบกขาแล้วนะ ทำเป็นไม่เห็นมัน แต่มันยังเดินอย่างอหังการ ไปรอบๆหลังบ้านอย่างไม่เกรงใจผม ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน และไม่ยอมไปซะที ผมจึงต้องคว้า อันชูตส์ 64พี ด้ามปืนสั้นติดศูนย์กล้อง3-9 เท่า ตั้งที่3เท่า ออกมาพร้อมกับกระสุนหนึ่งนัด ขึ้นลำและเล็งลงมาจากชั้นสอง กะกลางกระหม่อมพอดี เป้าสวยมาก มันยังไม่รู้ตัว ว่าชะตาจะถึงฆาตแล้ว ผมกลั้นใจแล้วค่อยบีบไกช้าๆ ๆๆ ป้าบ ! เสียงปืนลูกกรดดังหยังงี้จริงๆ
อะโห ..........ปาฏิหารย์ มีจริง เจ้าหนูยักษ์วิ่งตุบๆ หนีหายไปต่อหน้าต่อตา ทิ้งรูที่พื้นดิน ขนาดใหญ่กว่าเหรียญ 10บาทเอาไว้ให้ดูต่างหน้า
รานี้ งี่เง่าไปเลย ระยะแค่ 3เมตร ยิงยังมะถูก ตอนยิง 50เมตร ยังแม่นกว่านี้นี่นา แงๆ
มานั่งนึกดูว่าเรา พลาดอะไรไป พบว่าพลาดที่
1. ปืนเราตั้งศูนย์กล้องเอาไว้ที่ 50เมตร ครับ แงๆ
2.ตอนยิงผม ยิงจากที่สูง มุมกด ประมาณ 70-80 องศา ผมไม่ได้เล็งเผื่อต่ำ กระสุนก็ไม่โดน
ผมว่า ผมกับหนูตัวนี้ คงไม่มีเวร ซึ่งกันและกันละครับ เลยพลาดไป
อันนี้กระสุนลงต่ำแน่นอน เพราะใกล้มาก แนวกระสุนกับแนวเล็งยังไม่ทันบรรจบกันเลยครับ ไม่เกียวกับ
เรื่องมุมเฉียงลงหรือเฉียงขึ้นแต่เป็นเพราะระยะยิงใกล้เกินไป แค่สามเมตร เอากากะบาทวางเหนือเป้าเท่าระยะห่าง
C-C ของกล้องเล็งกับลำกล้องปืนเลยครับ โดนพอดี หรือไม่งั้นก็เล็งตามวิธีของอาจารย์ผณิศวร เมื่อเป้าอยู่แนว
ตั้งกับเส้นตั้งแล้ว เช็คแต่ซ้่าย ขวาได้การแล้วปล่อยไปถึงจะต่ำก็โดนครับ