ไม่แรงครับ
มองจากสายตาพลเรือนหรือ นศท. โอ.เค. แรงแน่ คุณไม่เคยเจอคอมแบ็ตมัยซิน ว่าสรรพคุณเป็นยังไง
แต่มองจากคนเคยเป็นทหาร หรือคนเป็นทหารประจำการ นี่ธรรมดา ออกจะซอร์ฟ ๆ ด้วยซ้ำไป
ทหารนะครับ เขาฝึกไปรบ ฝึกไปฆ่าศัตรู ฝึกให้ทำตามคำสั่งแบบไม่ต้องมีความคิดเห็น
หากมีทหารเกรียน ทหารนอกแถว ทหารไม่ฟังคำสั่งสักคน อะไรจะเกิดขึ้น
ถ้าคนที่ถือปืนเล็กยาว ๕.๕๖ พร้อมกระสุนคนหนึ่ง มีความคิดที่จะฆ่าใครสักคนในฝ่ายเดียวกัน
จะปล่อยให้เขาคิดได้ไหม
ก่อนที่เขาจะถืออาวุธสังหาร....ต้องทำให้แน่ใจว่า เขาจะไม่เอาอาวุธสังหารนั้น มาทำร้ายพวกเดียวกันก่อน
หรือใครคิดว่ามีวิธีหน่อมแน้ม ๆ วิธีไหนจะใช้ได้บ้างล่ะ ลองมาแลกเปลี่ยนความเห็นกันดู
หรือถ้าใครเคยเป็นครู สอนเด็กมัธยม ประมาณ ม.๒ ม.๓ ห้องปลาย ๆ จะพอเข้าใจ
ว่าแค่จะทำให้เด็กอายุ ๑๔ - ๑๕ ปี ยอมรับฟังเรา ยังเกือบเสียผู้ใหญ่.....นั่นแค่นักเรียนนะ
ทหารเกณฑ์ พฤติกรรมจะรุนแรงกว่าเป็นสิบเท่าร้อยเท่า บางคนเคยติดยา บางคนผ่านทัณฑสถานวัยหนุ่มมาแล้ว
บางคนเป็นขาใหญ่ เป็นนักเลงอันธพาล ฯลฯ
หากไม่เคยสัมผัสสังคมตรงนี้ วิจารย์เท่าที่ดูคลิป เท่าที่ตาเห็น ก็วิจารย์ไปเถอะครับ....
เดี๋ยวนี้มีคนวิจารย์ตามคลิปเยอะแยะไป สำแดงความคิดเห็นกันได้เต็มที่ในโลกไซเบอร์....
แต่ทหารที่ปกป้องประเทศให้พวกเรานั่งวิจารย์ บลา ๆ ๆ กันนั้น เขาก็ยังคงฝึก คงทำโทษแบบนั้นอยู่
จะเอาสิทธิมนุษยชนมาใช้ในสังคมทหาร ได้เหมือนกัน แต่คงจะได้กองพันหน่อมแน้มมาแทน
กองพันที่ สั่งหน้าเดินยังเสือกหันมาถาม "ไม่เดินได้มั๊ยครับ..จ่า" ..... เอามั๊ยล่ะ แบบนั้น
เขามีการดูแลกันอยู่ครับ....ไม่ใช่หลับตาไม่รู้นอนคู้ไม่เห็น...
สมัยผม โดนมาสารพัดแบบนี้แหละ ตามประสาครูฝึกจะนึกอะไรได้
แต่วันหนึ่ง ก็มีหนังสือร่อนมาจากกรมฯต้นสังกัด (ร.๑๕)
ว่า ห้ามครูฝึก หรือใครก็ตาม บังคับทหารที่เป็นลมบ่อย ๆ ให้กินน้ำปลาคราวละครึ่งจอก เพราะอาจเป็นอันตรายต่อไต
และห้ามครูฝึก หรือใครก็ตาม สั่งออกกำลังกายหรือลงโทษ ด้วยท่าที่ชื่อว่า "แกงการู" เพราะอาจทำให้เอ็นข้อเท้าฉีกขาด
หากครูฝึก หรือใครก็ตาม ฝ่าฝืนคำสั่งดังกล่าว เขาจะสอบสวนและเอาผิดถึงที่สุด
ส่วนอย่างอื่นจำพวกโดดบ่อส้วม กลิ้งหมอบดงขี้วัว ขี้หมู ดมตูดกัน หรือแก้ผ้าวิ่งรอบกองร้อย เชิญตามสบาย....
............
ทหารจะทำอย่างไร หากเพื่อนร่วมหลุมเพลาะ โดนยิงตายมาสี่วันแล้ว แต่ตัวเองโดนยิงกดดันออกไปไม่ได้
จะกินข้าวได้ไหม หากศพเพื่อนพองอืดตาถลนอยู่ข้าง ๆ แล้วถ้าไม่กินข้าว จะเอาแรงไหนรบ
หรือทนความเหม็นไม่ไหว จิตแตก วิ่งออกจากหลุมเพลาะ จนโดนข้าศึกยิงตาย.....
แล้วข้าศึกก็รุกคืบเข้ามาได้อีก.....
แต่ถ้าทหารคนนั้น ชาชินกับการฝึกแบบแผลง ๆ พิศดาร ๆ มาก่อนหน้าแล้ว ในสถานการณ์จริง เขาก็พอจะทนทานไหว
แล้วก็จะเป็นแนวป้องกันการรุกคืบของข้าศึกด้วยปืนกลเบาอยู่ได้ถึง ๕ - ๖ วัน จนกำลังเสริมมาถึง... ข้าศึกก็ต้องร่นถอยไป.....
ทุกอย่างมีเหตุผลเสมอครับ อยู่ที่ว่าคุณจะเข้าใจหรือไม่
ขนาดเรียน นศท. ยังให้กระโดดลงบ่อขี้งัวแล้วขึ้นมากินข้าวต่อเลย
เชื่อแล้วว่าศูนย์ฝึกที่สิชล โหดจริงๆ