ผมกลับมองอีกมุมว่า...........ในภาวะหน้าสิ่วหน้าขวาน ความเป็นความตาย..........ของภาวะการสู้รบ
ยิ่งความขัดแย้งของสงครามก่อการร้ายทั่วโลกเช่นปัจจุบัน...........คงมิพักต้องคำนึงถึงความเป็น " อารยะ " กระมังครับ
ความวุ่นวายที่เกิดทุกวันนี้ เพราะบนโลกมนุษย์ใบนี้ยังมีพวกไม่มี "อารยะ" ปะปนอยู่ไงครับ
เลือกได้ ว่าใครจะเป็นแบบไหน และอยู่ที่สภาวะแวดล้อมการเจริญเติบโตมา
ถ้าจะคิดแต่ว่า ทหารต้องไปฆ่าคนเท่านั้น แล้วหลังจาก 2 ปีที่ปลดประจำการไปแล้วล่ะ
แน่ใจได้ยังไงว่ามันจะถอดจิตวิญญาณนักฆ่าออกด้วย
ผมติดตามดูการฝึก "รีคอน" ในรายการคนค้นคน ก็ไม่เห็นเค้าต้องกระทืบกันนะ
เห็นแต่เค้าพิสูจน์จิตใจ น้ำใจ และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ความอดทน ความแข็งแกร่ง ตามหลักสูตรและวิธีการที่ควร
โดยอยู่ในความดูแล และช่วยเหลือของครูฝึก
ดีใจครับ ที่ได้เห็นความคิดเห็น จากคนระดับผู้การฯ หวังว่าท่านจะมีส่วนช่วยในการนำพาให้เกิดสิ่งที่ถูกต้อง
ขออนุญาตไม่บวก แห่ะๆ ..... เห็นเค้าบวกกันแยะแล้ว
ไม่ต้องบวกหรอกครับ(ผมไม่เคยหวังอะไรจาก สิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้) .............
สิ่งที่ท่านหวัง คงจะไม่ได้ตามที่ประสงค์หรอกครับ ตราบใดที่สภาวะ สิ่งแวดล้อม สังคม บุคคลในวงการทหารยังเป็นระบบลักษณะแบบนี้อยู่ ที่มีทั้งคนดี คนไม่ดี ผมนำพาไม่ได้หรอก ............... ที่กล่าวให้ทราบคือสิ่งที่เคยพบเห็น และมีอยู่เสมอในสังคมนั้น และยังคงต้องมีอยู่ เพียงแต่มากน้อยนั้นอีกเรื่องหนึ่ง.................
จิตวิญญาณความเป็นทหาร คนที่ไม่เคยเป็น ไม่เคยสัมผัส ไม่ทราบหรอกครับ แม้แต่ตัวคนที่เป็นทหารเองที่เข้าใจตัวเอง เข้าใจสังคมทหารและเข้าใจในระบบทหาร ยังยากที่จะอธิบายให้คนอื่นที่ไม่ใช่ทหารได้เข้าใจ...............
ยังมีอะไรๆที่ถือว่าดีในระบบของทหาร แต่ออกสู่สาธารณชนไม่ได้ .............
สำหรับเรื่องอารยะ อนารยะ นั้น เราต้องเข้าใจอย่างหนึ่งว่า สัตว์สังคมอย่างมนุษย์ ที่เหนือกว่าสัตวือื่นๆในโลกใบนี้ ก็เพราะมี"สมอง" ............ มนุษย์จึงคิดค้นวิธีการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างเป็นสุขและควบคุมสิ่งเลวร้ายมิให้เกิดขึ้นด้วย สังคม ขนบธรรมเนียม ประเพณี และกฎหมาย ....................... เมื่อใดตัวช่วยมนุษย์เหล่านี้ ใช้ไม่ได้ผล ..............
ความเป็นธรรมชาติที่เป็นเนื้อแท้ของสัตว์โลก จะหวนกลับมา คือ "สัตว์ใหญ่กินสัตว์เล็ก" ..........."คนที่มีกำลังเหนือกว่าจะเป็นผู้อยู่รอดและได้ในสิ่งที่ปรารถนา"..............