เอาเรื่องเวรกรรมที่เกี่ยวกับรถแล้วกันเด้อ
มีคนรู้จักคนนึงจะเดินทางข้ามจังหวัด ขับรถออกจากบ้านไปได้20นาทีเกิดฝนตกหนัก ฝนตกได้แป๊บๆแกเหลือบไปเห็นพระสงฆ์2รูปซ้อนมอเตอร์ไซค์เปียกโชกอยู่ แกก็ตั้งใจขึ้นมาเดี๋ยวนั้นว่าต่อให้ออกนอกเส้นทางซักร้อยกิโลฯก็จะนิมนต์ทั้ง2ท่านขอโอกาสให้ได้ขับรถไปส่ง
ด้วยความที่ขับเร็ว+ถนนลื่น พยายามจอดยังไงก็ยังไกลจากมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งตามมาอยู่ลิบๆแกลงไปยืนรอเรียกมอเตอร์ไซค์ได้แป๊บเดียวก็เปียกโชก
เสร็จเรื่องจากพระแล้วแกก็ขับรถไปปลายทางของแกต่อ ซักชั่วโมงเศษต่อมาเป็นเส้นทางภูเขา(เขาสก จ.สุราษฎร์ฯมุ่งหน้าไปตะกั่วป่า) ฝนยังตกหนัก อากาศทึมสนิท
ขับขึ้นเขาไปได้พักใหญ่กำลังจะถึงโค้ง ฝั่งซ้ายเป็นเหว ฝั่งขวาเป็นผาหิน ..... จู่ๆแกก็เห็นหินก้อนเท่าลูกมะพร้าวลอยเฉียงๆมาจากด้านบนซ้าย เลยแตะเบรคแล้วหักคร่อมเลนไปทางขวา
พอคร่อมเลนเสร็จเท่านั้นแหละ ขนลุกเกรียว ใจหายวาบ เพราะฝั่งที่ตัวขับอยู่เมื่อกี้มันมีรถบรรทุกจอดตายขวางถนนอยู่ พุ่มไม้ข้างทางมันบังผสมกับอากาศครึ้มสนิทเลยมองไม่เห็น เมื่อกี้ถ้าไม่ได้หักหลบก้อนหินแน่ใจว่าเสยท้ายรถบรรทุกไม่ก็หักหลบจนตกเหวตายแน่นอน
จอดรถนั่งหน้าซีดได้แป๊บนึงก็นึกขึ้นได้ ว่าเมื่อกี้ฝั่งซ้ายเป็นเหว แล้วมันจะมีหินก้อนเท่าลูกมะพร้าวลอยมาได้ยังไงวะ?
ลงจากรถเดินย้อนกลับไปดู ก็ไม่มีร่องรอยของหินก้อนนั้นเลยนี่หว่า..........................แล้วก็มีภาพตัวเองยืนตากฝนรอนิมนต์พระขึ้นรถวาบเข้ามา.........................
จบ
มันยอมเล่าแค่นี้