ข่าวภาคใต้ แกนนำ BRN ประกาศ 5 เงื่อนไข เจรจาฝ่ายเพื่อสันติภาพกับฝ่ายไทย ย้ำ BRN ไม่ใช่กลุ่มแบ่งแยกดินแดน แต่เป็นองค์กรเพื่อการปลดปล่อยปัตตานี ลั่นจะสู้เพื่อสันติภาพ
วันนี้ (28 เมษายน) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา มีผู้ใช้ชื่อว่า "มูฮัมหมัด อับดุลเลาะห์" (Muhammad Abdullah) ได้โพสต์เผยแพร่คลิปแถลงการณ์ของกลุ่ม BRN (แนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปาตานี) ซึ่งเป็นขบวนการต่อสู่เพื่อเอกราชในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีผู้อ่านแถลงการณ์คือ นายฮัสซัน ตอยิบ แกนนำกลุ่ม BRN และนายอับดุลกาลิม คาลิบ สมาชิกกลุ่ม BRN ซึ่งแปลเป็นภาษาไทย ได้ดังนี้..
นายฮัสซัน ระบุว่า BRN เป็นแนวร่วมปฏิบัติแห่งชาติ สำหรับคนมาเลเซีย ใน จ.ปัตตานี ของประเทศไทย จุดประสงค์ของการก่อตั้ง BRN ก็เพื่อรวมชาวมาเลย์ในปัตตานีทุกคน ทุกหมู่เหล่า สร้างเป็นนักรบสำหรับชาวปัตตานี และชาวมาเลย์ในปัตตานีให้เข้มแข็งขึ้น และจะต้องได้รับอิสรภาพเสรีภาพ และเราจะบริหารปกครองด้วยตัวเราเอง ด้วยความยุติธรรมและเท่าเทียมกันที่สุด ไม่ว่าด้านใดก็ตาม
แกนนำกลุ่ม BRN กล่าวต่อว่า ตนอยากจะขอร้องไปยังชาวปัตตานีทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนชนชาติใด อย่าได้หวั่นเกรงหรือวิตกเกี่ยวกับความยุติธรรม และหวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากประชาชนชาวปัตตานีทุกเชื้อชาติ
ขณะที่ นายอับดุลกาลิม คาลิบ สมาชิกกลุ่ม BRN ระบุว่า ถ้าจะพูดถึงความขัดแย้งใน จ.ปัตตานี ต้องย้อนดูไปถึงประวัติศาสตร์ ซึ่งไทยเข้ามายึดครองปัตตานี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1785 และในช่วงนั้นเอง ระบอบการกดขี่และการปราบปรามได้เกิดขึ้น ทำให้เกิดขบวนดังกล่าว เพื่อปลดปล่อยปัตตานีจากรัฐไทย เพื่อมุ่งสู่สันติภาพที่แท้จริง
ส่วนประเด็นมุมมองต่อการหารือสันติภาพระหว่างฝ่าย BRN กับตัวแทนรัฐบาลไทยนั้น นายคาลิบ ระบุว่า ทุกอย่างจะต้องดำเนินการต่อไป จนกว่าจะประเทศไทยจะเลิกยึดครองปัตตานี และกดขี่ชาวปัตตานี ซึ่งการหารือดังกล่าว จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข 5 ประการ ดังนี้
1. รัฐสยาม (รัฐไทย) ต้องให้มาเลเซียเป็นคนกลางในการเจรจา ไม่ใช่ผู้อำนวยความสะดวก
2. ต้องเป็นการพูดคุยระหว่างชาวมลายูปัตตานีที่นำโดยกลุ่ม BRN กับฝ่ายสยาม
3. ในระหว่างการพูดคุยจะต้องมีผู้สังเกตการณ์จากประชาคมอาเซียน OIC (องค์การการประชุมอิสลาม) และ NGO (องค์กรพัฒนาเอกชน)
4. รัฐสยามต้องปล่อยนักโทษที่ถูกคุมขังและยกเลิกหมายจับทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไข
5. รัฐสยามต้องยอมรับว่า BRN เป็นองค์กรเพื่อการปลดปล่อยปัตตานี ไม่ใช่กลุ่มแบ่งแยกดินแดน
ที่มา
http://hilight.kapook.com/view/85327