ครั้งหนึ่ง หลายปีก่อน คราอาศัยอยู่แดนนิบง-ยะลา
เคยมีสหายคนหนึ่ง เป็นคนที่มีแนวคิด...สุดขั้ว แล้วสุดท้ายเขาก็เข้าป่าไปจริง ๆ จนปัจจุบัน
แต่คราวนั้น เขาถูกจับหมวกกันน็อกพร้อมกับผม รถคนละคัน ไปเสียค่าปรับที่โรงพักเมืองยะลา....
ระหว่างเรานั่งรอขั้นตอนเอกสารอะไรสักอย่างนี่แหละ มีชายมุสลิมชราคนหนึ่ง แต่งชุดผู้นำศาสนา..โต๊ะอิหม่าม เดินขึ้นโรงพักมาคนเดียว
....แกโดนจับรถจักรยานยนต์เหมือนกัน แต่ไม่ใช่หมวกกันน็อก เพราะแกสวมหมวก"ปิเยาะ" อันทำให้ได้รับการยกเว้นตามกฏหมาย
แต่รถ ซูซูกิ อาร์ซี 100 ของแกนั้น สภาพเหลือประมาณ แม้จะไม่สกปรกเลอะเทอะ แต่ดูแล้ว สักห้าหกข้อหาคงพอหาได้
.....ปัญหาคือ แกพูดภาษาไทยแทบไม่ได้ นายสิบเวรและตำรวจแถวนั้น คงรำคาญแก ก็เลยพูดกับแกด้วยถ้อยคำและน้ำเสียงที่ไม่งามนัก...
เพื่อนผม ซึ่งรู้จักชายชราคนนั้น และฟังออกทั้งสองภาษา ก็กรากเข้าไปต่อว่าตำรวจ ...
หาว่าตำรวจลบหลู่ผู้นำศาสนาอันเป็นที่เคารพศรัทธาของเขา รุนแรงถึงขั้นชี้หน้าและผลักอกกันไปมา ก่อนที่จะมีคนมาแยกออกไป
...........
เหตุการณ์ครั้งนั้น นำมาซึ่งการระบายความคับแค้นใจของสหายผู้นั้นให้ผมรับฟัง
ผมผู้ซึ่งถ้าอยู่กับคนเมาก็เมาได้ด้วยโดยไม่ต้องดื่ม ก็เออออห่อหมกไปกับสหาย ความว่า...
เจ้าหน้าที่รัฐที่เป็น"คนไทย" (เขาเรียกคนพุทธว่าคนไทย เรียกคนมุสลิมว่ามุสลิม)จะดูหมิ่น ลบหลู่ไม่ให้เกียรติพวกเขาเสมอ
ผมไม่พยายามแย้ง ด้วยว่า รู้ดีว่าหากแย้งผิดจังหวะ ลมเปลี่ยนทิศ เป้าหมายอาจมาลงที่ผมแทน
แต่ยิ่งไม่ขัด ไม่แย้ง ความคิดเห็นของสหายที่แสดงออกมา ก็ยิ่งเตลิดเปิดเปิง หมกมุ่นในความคิดอ่านถึงกับสารภาพว่า เขากำลังจะเข้าป่าจับปืน
มีญาติห่าง ๆ เคยชักชวนเขาเข้าร่วมขบวนการที่ยิ่งใหญ่และแสนจะมีเกียรติ เพื่อต่อสู้เรียกร้องศักดิ์ศรีของพวกเขาคืนมา
.......ล่าสุด เมื่อปีเศษ ๆ ผมได้รับข่าวจากพรรคพวก ว่าเขาเป็นโจรไปเรียบร้อยแล้ว และเคยออกปฏิบัติการมาหลายครั้งแล้วด้วย
นายสมชายว่าหากบังคับใช้กฎหมายจริงๆ คนพวกนี้ก็สามารถปรับตัวให้อยู่รอดตามกฎหมายจนได้แหละครับ... เพราะตรงไหนที่กฎหมายขัดกับศาสนา เขาก็มีกฎหมายเฉพาะเอาไว้ให้แล้ว(เช่นเรื่องหมวกกันน็อค ตามเหตุการณ์ตัวอย่างในโรงพักฯ)...
เรื่องพูดภาษาไทยไม่ได้นั่น ช่วงแรกก็คงต้องเตรียมล่ามเอาไว้ช่วยเหลือ แต่เมื่อเวลาผ่านไป คนเหล่านี้รุ่นลูกรุ่นหลานก็จะพูดภาษาไทยได้เองครับ เพราะเหตุการณ์สิ่งแวดล้อมมันจะช่วยหล่อหลอมไปเอง ทำนองเดียวกับคนไทยแถบชายแดนกัมพูชา(เช่น จ.สุรินทร์) ที่คนรุ่นอายุน้อยกว่า 50 มักจะพูดได้ 2 ภาษาไทย+เขมร...
นายสมชายว่าปัญหาหลักๆคือเรื่องการบังคับใช้กฎหมายนั่นแหละครับ... ทีนี้มันก็มีบางกลุ่มเอาช่องว่า/จุดอ่อนตรงนี้ไปขยายผล กลายเป็นผลประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติ(ภาพระหว่างประเทศ) เรื่องทุจริตงบประมาณ(ภาพเล็กลงระดับหน่วยงาน) เรื่องชิงผลประโยชน์ส่วนตัวเลยป้ายสีป้ายความผิดให้ศัตรู(ภาพเล็กระดับบุคคล) และเรื่องความเกลียดสะใจส่วนตัว(คนถูกหลอกปั่นหัวเป็นเครื่องมือ)...
เรื่องทั้งหมดแก้ได้ โดยต้อง"บังคับใช้กฎหมาย"ให้ศักดิ์สิทธิ์ครับ... ถึงแม้จะทำได้ยากและต้องใช้เวลานานช่วงอายุคน แต่เมื่อได้เริ่มอย่างเข้มแข็งแล้ว เมื่อคนในพื้นที่มีความหวัง ความสำเร็จจะขยายผลได้อย่างรวดเร็วเหมือนแผนภูมิรากต้นไม้ครับ(1 แตกเป็น 2 และขยายออกจากปลายสุดอีกเป็น 2 ซ้ำๆ)...