เรื่องมีอยู่ว่าผมได้ซื้อปืนกระบอกแรกในชีวิตมาจากคนในเว็บๆหนึ่งเป็นกล๊อก19 ทะเบียนป.4 จ.อุดรฯ จากนั้นก็ไปขอป.3 ที่วังไชยาครั้งแรกด้วยความไม่รู้ก็เลยเตรียมแค่เอกสารไป โดยไม่ได้เอาปืนไปด้วย คุณเจ้าหน้าที่ไม่ยอมเลยต้องขับรถกลับบ้านไปเอาปืนมาใหม่ เสียเวลานั่งรอสัมภาษณ์เกือบ 2 ชม. โดยที่มีเจ้าหน้าที่อยู่สามคนแต่กลับทำงานคนเดียว โดยที่โต๊ะแรกสุดนั่งคุยกับนายทหารอยู่ราวกับว่าไม่ได้เจอกันมานานแสนนาน ส่วนคนกลางนั่งตรวจเอกสารให้กับคุณผู้หญิงท่านหนึ่งอยู่ปึกใหญ่ๆ (ผมจำผู้หญิงคนนี้ได้ว่าเป็นเจ้าของร้านปืนแห่งหนึ่ง ฝั่งตรงข้างดิโอลดิ์) ส่วนเจ้าหน้าที่ท่านสุดท้ายนั่งทำงานตามที่ได้รับมอบหมายให้ทำอยู่เพียงท่านเดียว
ผมรอคิวจนได้คิวผม ผมนั่งกรอกเอกสารตรงหน้าท่านสักพักพร้อมกับซักถามพอเป็นพิธี ท่านก็บอกให้ไปพิมพ์ลายนิ้วมือ พิมพ์เสร็จก็กลับมาเจอท่านเรียกคนถัดมาเข้ามาคุยอยู่เลยต้องนั่งรออีกสักพักก็เข้าไปกรอกเอกสารต่อ (คิดในใจว่าทำไมตอนที่รอตอนแรกไม่ให้ไปพิมพ์ตั้งแต่แรกนะ) พอเสร็จท่านก็นัดว่า 45 วันทำการให้โทรมาสอบถาม....
...2เดือนต่อมา โทรมาถามท่านบอกว่านายยังไม่เซ็น...
ต้องรออีกเกือบ 1 เดือนถึงจะได้ป.3 มา แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้นผมต้องนำปืนไปทำการตัดยอดที่อำเภอเมืองจ.อุดรฯ
เอาวะไปก็ไปจัดแจงเดินทางไปจ.อุดรฯ โดยก่อนไปสัก1อาทิตย์ก็ได้พยายามติดต่อเจ้าของปืนเดิม แต่โทรยังไงก็ติดต่อไม่ได้ จนต้องเดินทางไปลองเสี่ยงตัดยอดเองดู เพราะไหนๆเจ้าของเดิมเขาก็เซ็นโอนให้ผมเอาไว้แล้ว(ไม่ได้โอนลอย) ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เลยจัดการเดินทางไปถึงอำเภอเมืองจ.อุดรฯแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าจะเอาปืนมาตัดยอดพร้อมกับยื่นป.3และป.4ให้เจ้าหน้าที่ดู เจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าตัดโอนให้ไม่ได้ต้องมีเจ้าของปืนตัวจริงมาเซ็นยินยอมต่อหน้าเจ้าพนักงาน...เอาล่ะสิ
แล้วผมจะไปหาที่ไหนติดต่อก็ไม่ได้ เจ้าหน้าที่ก็ยังยืนยันเหมือนเดิมว่ายังไงก็ไม่ได้ ผมก็เลยต้องจ้างรถที่อุดรฯให้พาผมไปตามบ้านเลขที่ที่อยู่ในบัตรของเข้าของเดิม ตามกันอยู่ครึ่งค่อนวันก็เจอบ้านแต่เจ้าตัวไม่อยู่ไปทำงานที่จ.พิจิตรแล้ว
ผมก็เลยต้องกลับไปง้อเจ้าหน้าที่ที่อำเภอว่าให้ช่วยหน่อย เขาก็ช่วยให้แค่ฝากเอกสารไว้แล้วไปตามเจ้าตัวมาเซ็นให้ได้ พอเซ็นแล้วจะส่งไปรษณีย์กลับไปให้ ..เอาวะยังไงก็มาแล้วก็เลยต้องยอม..
...กลับมาถึงกรุงเทพฯ พักได้ 1 วันก็ต้องเริ่มออกเดินทางตามหาเจ้าของเดิมตามที่อยู่ใหม่ที่พิจิตรอีก ตามจนเจอก็ขอร้องให้เขากลับไปเซ็นให้ผมที่อุดรฯโดยที่ผมต้องออกค่าเดินทางทั้งหมดให้เขาอีก กว่าจะจบเรื่องได้เหนื่อยมากครับ กลับมานี่ก็ต้องรอเอกสารจากอุดรฯอีกเกือบ 2 อาทิตย์ เพราะนายอำเภอไม่อยู่..
...พอได้เอกสารมาจะมีใบตัดยอดปืนเป็นเอกสารใบเล็กๆ ทากาวติดอยู่ที่ใบป.4เดิม กับเอกสารแบบ ก. อีก 1 ฉบับ ก็รีบเอาไปยื่นที่วังไชยยา ปรากฏว่า ทางอำเภอเมืองจ.อุดรฯ ดันทากาวใบตัดยอดแปะทับลายเซ็นของเจ้าของเดิมมาโดยที่แกะไม่ออก เจ้าหน้าที่บอกว่าให้ไปขอลายเซ็นเจ้าของปืนมาใหม่เพราะของเดิมโดนแปะทับมองไม่เห็นนายไม่เซ็น
ผมเลยต้องกลับมาส่งไปรษณีย์ไปให้เจ้าของเดิมเซ็นกลับมาใหม่อีก ต้องรออีกเกือบ 2 อาทิตย์ พอกลับมาก็มายื่นใหม่คราวนี้ผ่านครับ แต่พอถามว่าป.4นี่อีกนานไหม ท่านบอกว่าระยะเวลาพอๆ กับออกป.3
แล้วก็ออกใบนัดให้เหมือนเดิม..
...เรื่องที่เจ็บใจที่สุดก็คือซื้อปืนมา 5 หมื่น แต่หมดไปกับค่าเดินทาง ค่าเสียเวลา ค่าน้ำมันรถฯลฯ แล้วมันแพงกว่าซื้อใหม่เสียอีก
...และเรื่องเจ็บใจเรื่องที่สองคือ พาเพื่อนไปซื้อปืนใหม่รุ่นเดียวกันที่ร้านปืน ราคา 5 หมื่นหก โดยให้ที่ร้านดำเนินการขอป.3 และออกป.4 ให้เลยกลับใช้เวลาในการออกป.3 เพียงแค่ 3 วัน และรอป.4 อีกไม่ถึงเดือนในราคาค่าดำเนินการเพียง 4000 บาทเท่านั้น
สุดท้ายนี้ผมขอบอกว่า พอกันทีสำหรับปืนมือ2 ด้วยความเคารพผมแค่
อยากระบาย