สำหรับละครไทยที่ลุงสมชายบอกว่าบุคคลากรมีคุณภาพ ผมกลับคิดว่าละครไทยห่วยกว่าหนังมาก อิงกระแสดารากว่าหนังเสียอีก ตบ จูบ แย่งผู้ชาย พระเอกต้องข่มขืนนางเอกตัวร้ายวางแผนปัญญาอ่อน ตำรวจ(ในละคร)ยิ่งปัญญาอ่อนเข้าไปใหญ่ ละครที่ดูแล้วประทับใจคือ "กู้ภัยหัวใจแหวว"ครับ พอจะยกระดับละครไทยได้บ้าง
อธิบายเพิ่มเติมครับ... ละครไทยแบ่งออกเป็น 2 เกรดคือเกรด 1 ละครหลังข่าว, เกรด 2 คือละครหัวค่ำครับ...
ละครหลังข่าวนั้นคุณภาพดีกว่าละครหัวค่ำแยะ ที่ว่าคุณภาพดีกว่านั้นหมายถึงแสดงเก่ง รีดอารมณ์คนดูได้ และสามารถสื่อสิ่งที่ท้องเรื่องต้องการนำเสนอได้ดีกว่าละครหัวค่ำ และดีกว่าหนังจอใหญ่ครับ... แต่เรื่องคุณภาพเนื้อหานั่นอีกเรื่องนึง อันนี้ก็แล้วแต่เนื้อเรื่องที่เอามาสร้าง เขาก็ต้องเลือกเอาเรื่องที่สามารถขายโฆษณาได้ เพราะสามารถเรียกเรตติ้งคนดูได้สูง...
ส่วนพฤติกรรมตบจูบ แย่งผู้ชาย แย่งผัวแย่งเมีย ไล่จับมหาเศรษฐี ทะเลาะกันสารพัดแม้แต่เรื่องดาราสาวสวย แต่ชอบแอบยืนผายลมใส่ช่องแอร์ให้ผู้อื่นดมฯ ก็สามารถเป็นเรื่องใหญ่ในหัวข้อข่าวบันเทิงได้ทั้งสิ้น... เพราะหากไม่มีข่าว ผู้คนก็จะลืมดาราคนนั้น จึงต้องขยันสร้างข่าว, ดังนั้นมันจึงเป็นสูตรว่าเมื่อกลัวผู้คนจะลืมฯ ก็แกล้งปล่อยคลิป(หรือทำท่าแย่งสามีเพื่อน)เสียหน่อย แล้วออกมาปฎิเสธฯให้เป็นข่าวฯ...
แต่ถ้าจะพูดถึงคุณภาพของหนัง/ละคร"ทั้งเรื่อง"ในภาพรวม... นายสมชายต้องบอกว่าคนไทยส่วนใหญ่โง่ครับ(ชอบเรื่องน้ำเน่า) เขาเลยผลิตมาให้กลุ่มเป้าหมายทางการตลาดส่วนใหญ่, เพราะมันคือธุรกิจครับ...
เคยดูผ่านๆ ละครเกาหลี,อินเดีย เรื่องน้ำเน่า อิจฉาริษยา,แม่ผัวลูกสะใภ้,ชนชั้น,..ฯลฯ ก็แรงไม่เบานะครับพี่สมชาย
แต่ข้อสังเกตุหนัง,ละครเกาหลี จะแฝงการทำงาน ตัวละครทุกตัวจะทำงานไปด้วย ไม่ว่าทำอาชีพอะไร แอบขายวัฒนธรรมตัวเองตลอด คงเป็นโร้ดแม้พของเกาหลี เหมือนสอนคนไปด้วย แต่ตัวละครไทย ไม่ค่อยทำงาน อยู่บ้านใหญ่อย่างคฤหาส ขับรถคันหลายล้าน กินต้องร้านหรูตลอด ไม่กินแบบชาวบ้านปกติ เวลานอนก็ยังแต่งหน้าทาปากใส่ขนตาปลอมนอน ตัวละครไทยจะเดินห้าง ใช้เงินตลอดเวลา ไม่ต้องทำงาน ร้อนขนาดไหนก็ใส่สูท ทั้งที่บ้านเราเมืองร้อน คนชาติอื่นดู ก็คงทึ่ง คนไทยสบายจัง ร๊วยย...รวย