ไม้กระดานสองแผ่นที่ผู้เข้าสอบสามารถเปลี่ยนเป็นที่วางเขียนหรือใช้ปูนอนจากเรื่องสนามสอบแข่งขันเฟ้นหาผู้มีความรู้ความสามารถเข้ารับราชการ
เป็นขุนนางจีนในอดีตที่มีขึ้นอย่างเป็นทางการในสมัย?
ราชวงศ์สุย(ค.ศ.581 - 618) มาพูดต่อในเรื่องของข้อสอบกันบ้าง
ซึ่ง
ข้อสอบในสมัยก่อนก็เป็นการสอบแบบทดสอบความจำ ที่ห้ามนำตำราใดๆ
ติดตัวเข้าสอบ โดยจะมีทหารคอยจับตาอย่างเข้มงวดตลอดการสอบ
ซึ่งการสอบระดับท้องถิ่นในอดีตต้องสอบด้วยกันสามวิชา
หนึ่งวิชากินเวลาร่วมสามวันสามคืน รวมแล้วใช้เวลาสอบกัน 9 วัน 7 คืนได้
ดังนั้นผู้เข้าสอบจะอาศัยห้องสอบเป็นที่หลับนอนด้วยโดยในยุคแรกนั้นวิชาที่ทดสอบยังไม่มีความหลากหลายนัก
เป็นเพียงข้อทดสอบเกี่ยวกับหลักการและนโยบายด้านการเมืองการปกครอง
ของประเทศ พอถึงสมัย ราชวงศ์ถัง (ค.ศ.618 - 907) ลักษณะของข้อสอบ
จึงค่อยมีความหลากหลายรอบด้านมากขึ้นและคล้ายกับในปัจจุบัน คือ
นอกจากทดสอบความรู้ในเนื้อหา "อู่จิง" หรือคัมภีร์ทั้งห้าแห่งหลัก
ปรัชญาลัทธิขงจื๊อเป็นสำคัญแล้วยังมีคำถามทดสอบความรู้ความสามารถ
ในเรื่องของพระราชกฤษฎีกา การอธิบายความหมายของคำที่กำหนด
ความเข้าใจในเรื่องของตัวเลขการคำนวณ เป็นต้น และยังมีลักษณะ
ของคำถามแบบให้เติมคำในช่องว่าง โดยดึงเนื้อหาจากคัมภีร์ทั้งห้าออกมา
ตั้งเป็นคำถามที่มีการปิดทับข้อความบางส่วนไว้ เพื่อทดสอบความแม่นยำ
ในเนื้อหาของคัมภีร์ของผู้เข้าสอบนั่นเอง
ตำราคัดลอกขนาดจิ๋วเพื่อแอบพกติดตัวเข้าห้องสอบโดยในสมัยราชวงศ์ซ่งได้ใช้วิธีการ
"พรางตัวตน" และ
"คัดลอกใหม่" คือ
ปิดทับไม่ให้รู้ถึงข้อมูลส่วนตัว อาทิ ชื่อแซ่ ภูมิลำเนาของผู้
เข้าสอบที่เขียนระบุไว้บนกระดาษคำตอบ เปลี่ยนเป็นใส่หมายเลข
กำกับไว้แทน และจัดให้มีผู้ทำการคัดลอกคำตอบทั้งหมดใหม่
เพื่อป้องกันผู้ตรวจข้อสอบที่อาจเห็นชื่อแซ่แล้วรู้จักคุ้นเคยหรือ
มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติ และแม้จะปิดบังชื่อแซ่แล้วแต่ก็
อาจจำลายมือผู้เข้าสอบได้ ทำให้เกิดมีใจเอนเอียงในระหว่าง
การตรวจอ่านเพื่อให้คะแนนสอบนั่นเอง ซึ่งต่อมาในสมัยราชวงศ์หยวน
หมิงและชิง ก็ได้ยึดถือวิธีการทั้งสองอย่างนี้มาใช้ตามเป็นแนวทาง
ในการตรวจให้คะแนน
แต่ไม่ว่าจะเข้มงวดอย่างไรก็ยังคงมีผู้ที่ไม่นึกหวั่นเกรงเหมือนต้องการ
จะลองของ สรรหาวิธีโกงการสอบสารพัดรูปแบบมีมานับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
โดยกลโกงในอดีตก็มีทั้งแบบพึ่งตนเองที่แอบจดโพยใส่กระดาษยัดไว้
ใต้รองเท้าหรือเขียนบนเสื้อผ้าสวมติดตัวเข้าห้องสอบ หรือพึ่งคนอื่น
โดยการให้ผู้อื่นไปสอบแทน รวมถึงพึ่งสัตว์เลี้ยงอย่างนกพิราบมีเรื่องเล่าเป็นตัวอย่างขำๆ ว่า มีผู้สอบรายหนึ่งได้เลี้ยงและฝึกให้
นกพิราบบินไปหาตนในห้องสอบตอนกลางคืน ซึ่งผู้สอบก็จะแอบจดคำถาม
ใส่กระดาษเล็กๆ ผูกติดไว้ที่ขานกเพื่อให้บินนำกลับไปให้ทางบ้าน
ซึ่งทางบ้านก็ได้จ้างผู้รู้มาเขียนคำตอบและให้นกนำส่งกลับมาให้อีกที
แต่ด้วยความที่ทางบ้านเกรงว่าผู้สอบจะลอกไม่ครบ จึงเขียนเตือนไว้เล็กๆ
ที่ตอนท้ายของหน้าแรกว่า
"มีต่อด้านหลัง" คาดไม่ถึงว่าผู้สอบจะลอก
ข้อความนี้ไปด้วย ผลคือถูกจับได้ในท้ายที่สุด
เครดิต
http://www.unigang.com/Article/13306