ดูก่อนซื้อCRVนะจ๊ะ

[686]

เมื่อคืนดู ถึงลูกถึงคน เห็นผู้บริหารระดับสูงมาร่วมรายการด้วยถึง 3 ท่าน แต่ผมไม่เห็นว่าจะแก้ภาพลักษณ์ของ ฮอนด้าได้เลย ผมอยากถามผู้บริหารระดับสูงเหล่านั้นจริง ๆ เลยว่า พวกเขาเหล่านั้นเป็นผู้บริหารองค์กรใหญ่อย่าง ฮอนด้า จริง ๆ เหรอะ? เพราะเห็นที่พยามอธิบายตลอดรายการ มีแต่ นโยบายของบริษัทอย่างเดียว ไม่กล้าที่จะตอบคำถามของผู้ร่วมรายการอื่น ๆ อย่างเป็นตัวของตัวเองเลย ทำอย่างกับว่า ท่านทั้ง 3 ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ ต้องรอคำสั่งก่อนถึงจะตอบคำถามได้ ทั้ง ๆ ที่คุณ สรยุธ พยามชี้ทางออกให้ แต่ผู้บริหารเหล่านั้นกลับไม่เห็น มัวแต่กลัวว่า ที่ตัวเองพูดออกไปผิดกับ นโยบายของบริษัทหรือไม่ 

ผมรู้สึกเสียใจจริง ๆ ครับที่เห็นผู้บริหารระดับสูงที่เป็นคนไทยทำตัวเหมือนหุ่นเชิด ไม่มีความคิด ไม่กล้าแสดงความรับผิดชอบที่เป็นหน้าที่หลักของผู้บริการ เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับภาพลักษณ์ ของบริษัท แทนที่จะปกป้องชื่อเสี่ยง แล้วพยามกอบกู้ Image ของบริษัทให้กลับคืนมา กลับกลัวว่า บริษัทจะเสียผลประโยชน์เพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ถ้าตอบตกลงเปลี่ยนรถให้กับผู้ที่มีปัญหา หรือ ซื้อคืนในอัตตราที่ลูกค้าพอใจ กลับพยามเลี่ยงที่จะตอบเสียอย่างนั้น โดยที่ไม่ยอมฟังเหตุผลของลูกค้า กลับพยามเอาเปรียบอย่างน่าไม่อาย ออกอากาศให้คนทั้งประเทศเห็นถึงความเห็นแก่ตัวของผู้บริหารชุดนี้ ที่ไม่ยอมปกป้องลูกค้า แต่ปกป้องตำแหน่งตัวเอง กับ ปกป้องผลประโยชน์ของบริษัท โดยไม่สนใจว่า ตัวเองนั่นแหล่ะที่ทำให้เกิดความเสียหายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ก่อนที่ผมชมรายการนี้ ผมมีความรู้สึกเห็นใจบริษัท ฮอนด้า ที่ต้องเสียภาพลักษณ์ ของตัวเองเพราะ รถเพียงคันเดียว แต่หลังจากที่ผมได้ชมรายการนี้ ความรู้สึกเห็นใจของผมกลับหายไป แต่เกิดความสงสารขึ้นมาแทน ที่บริษัท ฮอนด้า มีผู้บริหารที่เป็นคนไทยเหล่านั้นมาบริหารบริษัท

[coda]

เมื่อคืนดู ถึงลูกถึงคน เห็นผู้บริหารระดับสูงมาร่วมรายการด้วยถึง 3 ท่าน แต่ผมไม่เห็นว่าจะแก้ภาพลักษณ์ของ ฮอนด้าได้เลย ผมอยากถามผู้บริหารระดับสูงเหล่านั้นจริง ๆ เลยว่า พวกเขาเหล่านั้นเป็นผู้บริหารองค์กรใหญ่อย่าง ฮอนด้า จริง ๆ เหรอะ? เพราะเห็นที่พยามอธิบายตลอดรายการ มีแต่ นโยบายของบริษัทอย่างเดียว ไม่กล้าที่จะตอบคำถามของผู้ร่วมรายการอื่น ๆ อย่างเป็นตัวของตัวเองเลย ทำอย่างกับว่า ท่านทั้ง 3 ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ ต้องรอคำสั่งก่อนถึงจะตอบคำถามได้ ทั้ง ๆ ที่คุณ สรยุธ พยามชี้ทางออกให้ แต่ผู้บริหารเหล่านั้นกลับไม่เห็น มัวแต่กลัวว่า ที่ตัวเองพูดออกไปผิดกับ นโยบายของบริษัทหรือไม่ 

ผมรู้สึกเสียใจจริง ๆ ครับที่เห็นผู้บริหารระดับสูงที่เป็นคนไทยทำตัวเหมือนหุ่นเชิด ไม่มีความคิด ไม่กล้าแสดงความรับผิดชอบที่เป็นหน้าที่หลักของผู้บริการ เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับภาพลักษณ์ ของบริษัท แทนที่จะปกป้องชื่อเสี่ยง แล้วพยามกอบกู้ Image ของบริษัทให้กลับคืนมา กลับกลัวว่า บริษัทจะเสียผลประโยชน์เพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ถ้าตอบตกลงเปลี่ยนรถให้กับผู้ที่มีปัญหา หรือ ซื้อคืนในอัตตราที่ลูกค้าพอใจ กลับพยามเลี่ยงที่จะตอบเสียอย่างนั้น โดยที่ไม่ยอมฟังเหตุผลของลูกค้า กลับพยามเอาเปรียบอย่างน่าไม่อาย ออกอากาศให้คนทั้งประเทศเห็นถึงความเห็นแก่ตัวของผู้บริหารชุดนี้ ที่ไม่ยอมปกป้องลูกค้า แต่ปกป้องตำแหน่งตัวเอง กับ ปกป้องผลประโยชน์ของบริษัท โดยไม่สนใจว่า ตัวเองนั่นแหล่ะที่ทำให้เกิดความเสียหายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ก่อนที่ผมชมรายการนี้ ผมมีความรู้สึกเห็นใจบริษัท ฮอนด้า ที่ต้องเสียภาพลักษณ์ ของตัวเองเพราะ รถเพียงคันเดียว แต่หลังจากที่ผมได้ชมรายการนี้ ความรู้สึกเห็นใจของผมกลับหายไป แต่เกิดความสงสารขึ้นมาแทน ที่บริษัท ฮอนด้า มีผู้บริหารที่เป็นคนไทยเหล่านั้นมาบริหารบริษัท

...ผมว่าผู้บริหารคนไทยเหล่านั้นคงไม่มีอำนาจตัดสินใจ  หรือไม่ก็รับใบสั่งมาไม่ให้รับปากอะไรทั้งสิ้น  เรียกว่าถูกกำหนดจุดยืนและให้บทบาทมาแสดง  ที่จริงแล้วความงี่เง่าเหล่านี้ (ขออภัย) มาจากนโยบายบริษัท นโยบายบริษัทมาจากผู้บริหารต่างชาติ ทั้งตัวรุ่นกลางๆ ที่อยู่ในเมืองไทยและตัวใหญ่ๆ ที่ประเทศเขา ผมจึงไม่อยากตำหนิผู้บริหารคนไทยมาก เพราะกินเงินเดือน (สูงๆ) ของบริษัทก็ต้องว่าตามนโยบายไปให้สมบทบาท  เลยกลายเป็นหนังหน้าไฟไปด้วยประการฉะนี้

[visith]

...ผมว่าผู้บริหารคนไทยเหล่านั้นคงไม่มีอำนาจตัดสินใจ  หรือไม่ก็รับใบสั่งมาไม่ให้รับปากอะไรทั้งสิ้น  เรียกว่าถูกกำหนดจุดยืนและให้บทบาทมาแสดง  ที่จริงแล้วความงี่เง่าเหล่านี้ (ขออภัย) มาจากนโยบายบริษัท นโยบายบริษัทมาจากผู้บริหารต่างชาติ ทั้งตัวรุ่นกลางๆ ที่อยู่ในเมืองไทยและตัวใหญ่ๆ ที่ประเทศเขา ผมจึงไม่อยากตำหนิผู้บริหารคนไทยมาก เพราะกินเงินเดือน (สูงๆ) ของบริษัทก็ต้องว่าตามนโยบายไปให้สมบทบาท  เลยกลายเป็นหนังหน้าไฟไปด้วยประการฉะนี้

...คงไม่กล้าพูดอะไรออกไปให้ผูกมัดตัวเอง อีกอย่าง "นายญี่ปุ่น" เข้าผ่าตัดโรคหัวใจ หากไปเผลอรับปากเข้าข้างคนไทย "นายญี่ปุ่น" อาจช็อคตายคาเตียง...ก็ได้....

[686]

แต่พี่แก้วครับ องค์กร ใหญ่ขนาดนี้ ผู้บริหารระดับสูงกลับไม่มีอำนาจในการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงแก้ไขนโยบาย ที่ผิดในสายตาของสังคมที่ลูกค้าของ ฮอนด้านั้นอาศัยอยู่ นั่นหมายความว่า การที่สมาชิกของสังคมนั้น ๆ ไปซื้อ หรือ ใช้บริการของ ฮอนด้า ก็จะถูกตำหนิจากสังคมส่วนใหญ่ ทำให้ ฮอนด้า เองก็ไม่อาจดำเนินธุรกิจ อยู่ในสังคมนั้น ๆ ได้ ผลที่ตามออกมาจะเป็นผลร้ายมากกว่าผลดี เพราะ ทั้ง ฮอนด้า และ สังคมต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน

องค์กรธุรกิจไม่อาจอยู่ได้ถ้าขาดการสนับสนุน่จากสังคม แต่ในตลาดแข่งขันที่มีผู้ค้ามากราย การออกไปของผู้ค้ารายหนึ่งรายใดก็จะมีผู้ค้ารายอื่นมาทดแทนได้ทันที

ในกรณีของ ฮอนด้า ได้กลายเป็น กรณีศึกษา เกี่ยวกับการบริการหลังการขาย (After sale service) ว่ามีผลต่อภาพลักษณ์เพียงไร โดยเฉพาะ นโยบายจากส่วนกลางที่ไม่มีการประณีประณอม ในสังคมไทยนั้นมักเห็นใจผู้ที่ด้อยกว่า เมื่อเกิดกรณีพิพาษ อย่างในกรณีนี้ บริษัท ฮอนด้า ต้องตกเป็นจำเลยของสังคม โดยมีสื่อเป็นตัวกลาง

สังคมไทยได้เห็นใจลูกค้าของบริษัท ฮอนด้า โดยที่ไม่ทันได้ฟังคำแย้งของทางบริษัท ก็ได้ตัดสินให้บริษัท ฮอนด้า ผิดในทันที เมื่อบริษัท ฮอนด้า ได้มีโอกาศออกมาแก้ต่าง กลับส่งหุ่นเชิดที่ไม่มีอำนาจตัดสินใจ (แถมไม่มีมันสมองด้วย) มาเป็นตัวแทนของตน ชี้แจงต่อสังคม ทำให้ เหตุการณ์ ยิ่งทวีความรุนแรงมากยิงขึ้น Image ของ ฮอนด้า ที่สร้างสมมานานกว่า 20 ปีในประเทศไทย ต้องมีอันเสื่อมถอยลง จนตอนนี้กระแสต่อต้านผลิตภัณท์ของบริษัท ฮอนด้า เริ่มก่อตัวขึ้นแล้ว สังเกตุได้จากเว็ปบอดร์ ต่าง ๆ มักมีผู้ต่อต้านผลิตภัณท์ ของบริษัท ฮอนด้า มากกว่า ผู้ที่สนับสนุนให้มีการใช้

กระแสดังกล่าว ทางบริษัท ฮอนด้า อาจจะไม่สนใจก็ได้ แต่ถ้าปล่อยให้กระแสต่อต้านมากขึ้นเรื่อย ๆ เราอาจได้เห็นข่าวการย้ายฐานการผลิตรถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า ออกจากประเทศไทยก็เป็นได้

[boon]

ในกรณีของ ฮอนด้า ได้กลายเป็น กรณีศึกษา เกี่ยวกับการบริการหลังการขาย (After sale service) ว่ามีผลต่อภาพลักษณ์เพียงไร โดยเฉพาะ นโยบายจากส่วนกลางที่ไม่มีการประณีประณอม ในสังคมไทยนั้นมักเห็นใจผู้ที่ด้อยกว่า เมื่อเกิดกรณีพิพาษ อย่างในกรณีนี้ บริษัท ฮอนด้า ต้องตกเป็นจำเลยของสังคม โดยมีสื่อเป็นตัวกลาง

สังคมไทยได้เห็นใจลูกค้าของบริษัท ฮอนด้า โดยที่ไม่ทันได้ฟังคำแย้งของทางบริษัท ก็ได้ตัดสินให้บริษัท ฮอนด้า ผิดในทันที
คงไม่ใช่การบริการหลังการขายอย่างเดียวมั้งครับ การควบคุมคุณภาพของสินค้าที่ออกจากโรงงานก่อนออกถึงมือผู้ซื้อก็สำคัญ
ฮอนด้าทำแบบดูถูกคนไทย ของที่ขายในบ้านเราคุณภาพต่ำมากๆเมื่อเทียบกับที่ขายทั่วโลก ไม่แน่ใจว่าจะมีการคัดเกรด เหมือนกุ้งและผลไม้หรือเปล่า ถ้าเป็นเกรดAAAก็คัดใว้สำหรับส่งออก ถ้าเกรดCหรือD ก็ขายให้ผู้บริโภคภายในประเทศ ในราคาที่เท่าๆกันหรือแพงกว่าของที่ขายต่างประเทศ  เรือ่งราคาและคุณภาพของสินค้าผมพบด้วยตัวเอง อย่างกุ้งและข้าวสารที่ส่งมาขายในอเมริกา กุ้งจะตัวใหญ่มากๆข้าวสารก็คุณภาพดีเม็ดสวย นุ่มและหอม กลับไปเมืองไทยเข้าไปซื้อของสดในตลาด เห็นแต่กุ้งตัวรีบหัวโตไม่ค่อยสมประกอบ ข้าวหุงแล้วก็แข็งไม่นุ่มอย่างกับที่ส่งมาขายในเมกา คิดเที่ยบราคาแล้วก็ไม่ต่างกันเท่าไร แต่ที่ต่างประเทศจะได้ของดีกว่ามาก รถยนต์และสินค้าไฟฟ้าอื่นๆจะเหมือนหรือเปล่าครับ อย่างรถถ้าประกอบได้สมบูรณ์งานดี ก็แยกใว้สำหรับส่งออกต่างประเทศ ถ้ารถคันไหนตรวจแล้วคุณภาพต่ำมีข้อบกพร่องมากก็ขายให้ผู้บริโภคในประเทศไทย ถ้าเป็นอย่างนี้จริงๆก็สวัสดีประเทศไทย    รถฮอนด้าคุณภาพสินค้าคงไม่เหมือนกันทั่วโลกแน่นอนเมื่อเทียบกับของที่ผลิตในไทย  ที่ผลิตจากโรงงานในอเมริกา ก็ไม่เคยได้ยินข่าวว่า ซื้ออกมาแล้วมีปัญหามากมายอย่างในบ้านเรา ผมแลเพื่อนๆใช้กันอยู่ก็1แสนกว่าไมล์ขึ้นทุกคัน ไม่เคยเจอปัญหาแบบบ้านเรา

[coda]

แต่พี่แก้วครับ องค์กร ใหญ่ขนาดนี้ ผู้บริหารระดับสูงกลับไม่มีอำนาจในการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงแก้ไขนโยบาย ที่ผิดในสายตาของสังคมที่ลูกค้าของ ฮอนด้านั้นอาศัยอยู่ นั่นหมายความว่า การที่สมาชิกของสังคมนั้น ๆ ไปซื้อ หรือ ใช้บริการของ ฮอนด้า ก็จะถูกตำหนิจากสังคมส่วนใหญ่ ทำให้ ฮอนด้า เองก็ไม่อาจดำเนินธุรกิจ อยู่ในสังคมนั้น ๆ ได้ ผลที่ตามออกมาจะเป็นผลร้ายมากกว่าผลดี เพราะ ทั้ง ฮอนด้า และ สังคมต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน

องค์กรธุรกิจไม่อาจอยู่ได้ถ้าขาดการสนับสนุน่จากสังคม แต่ในตลาดแข่งขันที่มีผู้ค้ามากราย การออกไปของผู้ค้ารายหนึ่งรายใดก็จะมีผู้ค้ารายอื่นมาทดแทนได้ทันที

...นั่นสิครับ  ผมว่าผู้บริหารคนไทยถึงจะอยากทำอะไรมากกว่านี้  แต่ทำไม่ได้เพราะต้องทำตาม "นโยบายบริษัท" 

[ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป]

คราวก่อนโดนกล่องเปิดปิดแอร์  ล่าสุดๆ Mazda Astina ปี 97 มอเตอร์กระจกไฟฟ้าข้างคนขับ ชุดละ 15,000 อ่านว่า หนึ่งหมื่นห้าพันบาท Citroen Xantia แปดพันกว่ายังบ่นแล้วบ่นอีก เดี๋ยวนี้รถญี่ปุ่นพัฒนาไปไกลกว่ารถยุโรปแล้วหรือเนี่ย ผมเลยสั่งถอดมาเลย จะไปหาเซียงกง ยังไงก็ไม่เปลี่ยนกับศูนย์ หาไม่ได้ก็จะรอหรือซ่อมเอง ทางศูนย์ก็ยอมรับว่าไม่เคยมีใครเปลี่ยนเลย อย่างนี้ก็ปล่อยไว้ให้เป็น Dead stock ไปเลย เรียนจบอะไรกันมา ตอนสอบลอกกันหรือปล่าว ผู้บริหารพวกเนี๊ยะ หมื่นห้านี่ซื้อทีวีได้กี่นิ้วคิดดูสิครับ มอเตอร์ไซค์ครึ่งคันแลกมอเตอร์กับรางกระจกได้ชุดเดียว เฮ้อออออ กรรมของเรา

อย่าคิดมากครับ ตัดสินใจซื้อมาแล้วก็ต้องสู้ไป ผมเคยมี astina ปี97  เหมือนกัน ถนนลื่น หมุนสามรอบฟาดเสาหลักขึงสลิงริมถนน
ซ่อม 8 เดือน  รออะไหล่ร่วมครึ่งปี ค่าซ่อมร่วมๆ 400,000 บาท ค่าเกียร์อย่างเดียว 190,000 บาท

โชคดีประกันจ่าย ถ้าต้องจ่ายเองขายซากดีกว่าครับ

ป.ล. ราคาอะไหล่รถ ไม่แปรผันตามต้นทุนจริงครับ มีรุ่นพี่เป็นอดีตผู้บริหารของสวีเดนมอเตอร์เล่าให้ฟัง
ก่อนที่ SMC จะกลายสภาพเป็นแค่ดีลเลอร์และรับยอดจาก Volvo Car Thailand ในปัจจุบัน
เคยสั่งอะไหล่จากสวีเดนในราคา 2,500 บาท แล้วมาขายในราคาหมื่นกว่าบาท
ปัจจุบันขายในราคาหมื่นเหมือนเดิม แต่ต้องสั่งผ่าน VCT โดยได้ส่วนลดจาก Price List แค่ 20-30 เปอร์เซนต์
กำไรหายไปเห็นๆ  SMC ก็จ๋อยไป

เพราะฉะนั้น อะไหล่เทียบน่าใช้ที่สุดครับผม ยกตัวอย่าง 230E W124 ที่คนรู้จักใช้อยู่ละกันครับ
ซ่อมแอร์เปลี่ยนคอยล์เย็นที่ศุนย์ 27,000-45,000 ตามแต่ศูนย์บริการ เวลา 3 วัน
ร้านแถวๆพัฒนาการ รับยอดจากศูนย์อีกที 11,000 บาท เวลาครึ่งวัน

โชคกันสะบัดพวงมาลัยพาวเวอร์ ศูนย์ 1,250 บาท วัดโสม 550 ครับ

อะไหล่แท้ = จากศูนย์บริการ
อะไหล่เทียบ = อะไหล่จากโรงงานเดียวกันแต่ไม่ตีตรา
อะไหล่เทียม = ก็แถวๆเกาหลี ไต้หวัน
อะไหล่ปลอม = อาจจะในนี้ หรือ จีนแดง ไต้หวัน ฯลฯ

สรุปเลยละกันว่า ก่อนจะตัดสินใจใช่รถรุ่นไหน ยี่ห้อใด หาข้อมูลประกอบเยอะๆครับ

[โทน73 -รักในหลวง-]

นี้ละครับ คนเขาถึงฝันหา  ตลาดแข่งขันสมบูรณ์  ....

เรื่องของบ้านเราจริงๆ คือ มีการผูกขาด ครับ ฮั้ว กัน แล้วก็เป็นกระเป๋าหลักให้พรรคการเมือง 

เริ่มตั้งแต่ระดับรากหญ้า  โรงสี  พ่อค้าพืชไร่ จนไปถึง โรงงานอุตสาหกรรม และธุรกิจ โทรคมนาคม การสื่อสาร

กลไกตลาด ไม่มีโอกาสทำหน้าที่ อย่างชัดเจน ของแย่ๆก็ขายได้ และขายในราคาแพงเสียอีก 

 

[นาจา™รักในหลวง]

อันนี้..ฮอนด้าเรียกรถคืนในเมกา...

http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9480000016054

[submachine -รักในหลวง-]

แม้แต่โตโยวิชก็เถอะ (อดไม่ได้..ว่าจะไม่แล้วนา)
จำได้ว่าที่เมกาขายไปแล้วหลายปี กว่าที่เมืองไทยจะมี
เคยเข้าเวบโตโยเมกา ตั้งกะเมืองไทยมีเนตใช้ใหม่ๆ
โตโยวิชก็เป็นรถที่อยู่ในตลาดรถอยู่แล้ว
(อันนี้ ต้องถามคนอยู่เมกา ว่าจริงป่าว )
คล้ายๆกะรถรุ่นหนึ่งที่เป็นซิตี้ สปอร์ต ของโตโย หลังคาปีกนก เคยดังในเมืองไทยตอนมีนักร้องดังเอามาใส่ในมิวสิควีดีโอ ตอนเข้าเมืองไทยใหม่ๆ ยุค รถนำเข้าเฟื่องฟู
รุ่นนั้นก็เคยขายในเมกามาก่อน ก่อนเข้าเมืองไทยนับ10ปี(เสียใจจริงๆ จำชื่อรุ่นไม่ได้)

[ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป]

แม้แต่โตโยวิชก็เถอะ (อดไม่ได้..ว่าจะไม่แล้วนา)
จำได้ว่าที่เมกาขายไปแล้วหลายปี กว่าที่เมืองไทยจะมี
เคยเข้าเวบโตโยเมกา ตั้งกะเมืองไทยมีเนตใช้ใหม่ๆ
โตโยวิชก็เป็นรถที่อยู่ในตลาดรถอยู่แล้ว
(อันนี้ ต้องถามคนอยู่เมกา ว่าจริงป่าว )
คล้ายๆกะรถรุ่นหนึ่งที่เป็นซิตี้ สปอร์ต ของโตโย หลังคาปีกนก เคยดังในเมืองไทยตอนมีนักร้องดังเอามาใส่ในมิวสิควีดีโอ ตอนเข้าเมืองไทยใหม่ๆ ยุค รถนำเข้าเฟื่องฟู
รุ่นนั้นก็เคยขายในเมกามาก่อน ก่อนเข้าเมืองไทยนับ10ปี(เสียใจจริงๆ จำชื่อรุ่นไม่ได้)

ตลาดแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน พื้นฐานประเทศนั้นเป็นอย่างไร การเลือกรุ่นมาขายจึงต่างกัน
อย่าคิดมาก ยังไงๆ เราก็ได้ใช้ล้าหลังกว่าเค้าอยู่แล้วครับ

ความพร้อมของตลาดต่างกัน คู่แข่งต่างกัน ความนิยมต่างกัน
แถมความยกย่องเทอดทูนก็ต่างกัน เราเลยเป็นพลเมืองชั้นสองใช้ของสเป็คต่ำ อย่างที่พี่บุญว่าไว้
ไม่ต้องคิดอะไรมาก อย่าง อีซูสุ โรดีโอ ยังต้องเลือกซื้อตัวส่งออกออสเตรเลียเลย

[boon]

อันนี้..ฮอนด้าเรียกรถคืนในเมกา
เรียกเอาไปซ่อม เปลี่ยนชิ้นส่วนให้ดีขึ้นครับ  ไม่ถึงกับเรียกเก็บคืน
ที่นี่บริษัทผลิตสินค้าจะเป็นแบบนี้ ผมเคยใช้รถนิสสัน300ZX รุ่นปี1985
ใช้มา10ปีกว่ารถเกือบ200.000ไมลแล้ว บริษัทเรียกเข้าไปซ่อมโดยไม่คิดเงินสักบาท
ผมใช้มาก็ไม่เคยมีปัญหาตรงจุดนั้น ถ้าไม่เรียกไปซ่อมผมเองก็ไม่รู้
อย่างเมื่อเร็วๆนี้ แปรงสีฟันOral B รุ่นCrossAction ซื้อมาจากCostco เป็นชุดละ3อันใช้จนพังไปสองอันแล้ว
มีจดหมายส่งมาที่บ้านให้เอาไปคืน ได้เงินคืนมาเท่าที่ซื้อไป ตกลงได้ใช้ฟรีครับ
การคุ้มครองผู้บริโภคบ้านเราควรทำแบบนี้บ้าง อย่างไรบริษัทผู้ผลิตก็มีกำไรอยู่แล้ว

[submachine -รักในหลวง-]

มีคนใน บ.ผม เล่าให้ฟังว่าเคยนั่งเครื่องภายในประเทศ
เมกา โดยสายการบิน ยูเอ จาก แอลเอ ไป โอลันโด เมื่อซัก4-5ปีที่แล้ว

ระหว่างนั่งเครื่อง เกิดอุบัติเหตุตกหลุมอากาศ
แอร์โฮสเตสทำน้ำส้มหกใส่เสื้อหน่อยนึง ประมาณฝาขวดเหล้า
แอร์ของเค้า เซย์ ซอรี่ แล้วก็กลับไปยัง ห้องทำงานของแอร์
กลับมาอีกทีพร้อมกระดาษแผ่นเล็กๆ บอกว่าให้ยื่นกระดาษโน๊ตชิ้นนั้นให้กะ
เจ้าหน้าที่ของสายการบินที่ภาคพื้นดินของสนามบินปลายทาง

ผู้โดยสารซึ่งไม่วอรี่เท่าไหร่กะน้ำส้มหกเลอะเสื้อแค่หน่อยเดียว ก็ลองทำตาม
ปรากฏว่า ได้ ตั๋วเครื่องไปกลับ แอลเอ - โอลันโด ฟรีๆ1เที่ยว
แต่ต้องใช้ภายในสองปี พร้อมกับได้รับคำขอโทษโดยสุภาพอีกครั้ง

โอ....เหมือนฝัน
คนที่เมกาตอบหน่อย มีงี้จริงๆเหรอ

[homeColt]

2005 - 2010 55+

[homeColt]