ภาพ หลังเกิดเหตุแล้ว หนึ่งวัน
นี่ก็เป็นอุบัติเหตุ ที่ไม่น่าเกิด เช่นกันครับ
ของตัวผมเอง อีกแหละ เมื่อวานนี่เองครับ ๒๕.๖.๕๖ ๐๕.๔๕ โดยประมาณ
โดยที่หน้าเท้าด้านซ้าย เคยเกิดบาดแผลเล็ก ๆ เป็นรอยเลือดซึม ต่อมาไม่นานก็กลายเป็นไตแข็ง
ซึ่งถ้าไม่ไปลูบ แล้วรู้สึกรำคาญ ไปแกะไปลูบ ก็ไม่มีปัญหาอะไร
ถ้ารำคาญมาก ก็เล็บ แกะ ๆ เขี่ย ๆ ซึ่งมันก็ไม่ออก เพราะมันลู่ตามรอยย่นของผิวหนัง
ก็ใช้ปลายคัตเตอร์จิก แล้วแงะออก ก็ผลเลือดซึมนิดหน่อย ซับเช็ดชู่ ก็หาย แต่ก็ยังเป็นไตแข็ง เหมือนเดิม
ก็ไม่ได้สนใจอะไร ผ่านมาก็สามสี่เดือนได้แล้ว ในระหว่างนั้น ก็จะเป็นเหมือนเดิม
ถ้าไม่ไปใส่ใจ ก็ไม่มีอะไร ถ้าไปลูบ ๆ รำคาญ ก็เอาปลายคัตเตอร์จิกออก ก็ทำไป ประมาณ สี่ ครั้ง
เหตุล่าสุด คือ เมื่อ สามวันก่อนหน้า ก็ทำแบบเดิม ผล เป็นรอยเลือดซึม ซับเช็ดชู่ก็หายไป
พอเมื่อวาน ก็อาบน้ำเสร็จ ปกติ ก็เดินมานั่งม้านั่ง ก็ว่า เอ.. เท้าเรามันเปียก ๆ แฉะ ๆ ก็เอามือลูบดู
อ้าว มือเปื้อนเลือด ก็ก้มดู เลือดกำลัง ทะลัก ( ใช้คำนี้ เพราะว่า มันเหมือนเราบีบหลอดยาสีฟัน แล้ว เนื้อยา ทะลักออกมา แบบนั้น )
เอาเช็ดชู่ เช็ด ยิ่งเช็ด ก็ยิ่งทะลัก แทนที่จะหยุด ตกใจมาก คิดในใจ ซวยแล้ว ตรู
กลับตัว ไปที่โต๊ะสูง ยกขาเสมอระดับเอว แล้วก็ เช็ด ยิ่งเช็ด ก็ยิ่งทะลัก ก็เอา เช็ดชู่กดไว้ มองหา เทปใส สองนิ้ว เอามาพันแทนการกด
ก็ต้องเอาขา ลง เพราะไกลเกินเอื้อม เมื่อหยิบเทปได้ ก็มองลงที่เท้า เอ๊ะ ฝอยอะไร
อ้าว.. เลือดเรา พุ่งเป็นฝอย กระเซ็น ฝ่าเท้าเริ่มฉ่ำไปด้วยเลือด
ยกเท้า เช็ดชู่ แบบ แผ่นใหญ่ พัน พัน เอาเทปใส พัน พัน แทนการกด
เลือดหนึ่งกอง กับฝอยเลือดที่กระเซ็นเป็นทางยาว
เปิดประตู เรียก มอไซด์ ไปโรงบาล
ไปถึง ต้องไปยื่นบัตร ซักถาม แล้วถึงจะเข้าห้องทำแผล
ก็นั่งบนเตียงสักพัก พยาบาลก็เข้ามาซักถาม แล้วก็เปิดดู ล้างแผล
เลือดที่เคยทะลัก จนตกใจ กลับหยุดไป ซะงั้น
ก็ทำแผลเสร็จ จ่ายยา
เขาว่า เป็นยาลดความดัน สองแผง เจาะเลือด ดูเกล็ดเลือด
ผลปกติ
อ้าว แล้วที่เราเห็นและสัมผัส
คือ เหตุใด กันละนี่
แล้วถ้ามันเกิดเป็น ตอนเราหลับอยู่ล่ะ
เพราะภายในเวลา ไม่ถึง สองนาที
เลือดมาเป็นกองเลย....
อย่างไร เพื่อน ๆ สมาชิก
ก็ต้องระมัดระวัง ในเรื่องของสุขภาพ
ด้วยนะครับ
เกิดง่ายไป มั้ยนี่...