เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 30, 2024, 01:47:50 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ท่านเป็นคนกลุ่มไหนของโลก?  (อ่าน 846 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« เมื่อ: มิถุนายน 24, 2013, 11:43:07 PM »

วันที่ 24 มิถุนายน 2556 04:00

วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ
MoneyPro



ทุกปีดิฉันจะนำรายงานการสำรวจผู้มีความมั่งคั่งสูงในโลกมาเสนอให้กับท่านในเดือนมิ.ย. ในปีนี้ก็เช่นกันค่ะ รายงานการสำรวจผู้มีความมั่งคั่งสูง

คือ มีความมั่งคั่งสุทธิตั้งแต่ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป ชื่อ World Wealth Report 2013 ที่จัดทำโดย Capgemini และ RBC Wealth Management ที่เพิ่งออกมาสดๆ ร้อนๆ แสดงให้เห็นว่า คนรวยในโลก ณ สิ้นปี 2555 มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 11.97 ล้านคน ใกล้ๆ 12 ล้านคนแล้ว

จำนวนคนรวยที่เพิ่มนี้ คิดเป็นจำนวนที่เพิ่มจากปี 2554 ถึง 1 ล้านคน หรือ 9.2% แต่ความมั่งคั่งรวมเพิ่มขึ้น 10% คือคนจำนวน 11.97 ล้านคนนี้ มีความมั่งคั่งรวมกันถึง 46.2 ล้านล้านดอลลาร์ คิดเป็นความมั่งคั่งเฉลี่ยคนละ 3.86 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 120 ล้านบาท

ถ้าท่านมีความมั่งคั่งเกิน 31 ล้านบาท ดิฉันขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ ท่านเป็นหนึ่งใน 12 ล้านเศรษฐีของโลกแล้ว !!

ดังที่ดิฉันเคยเขียนไว้ในปีก่อนๆ การศึกษาข้อมูลของคนรวยๆ ไม่ได้หมายถึงว่าทุกคนต้องตั้งเป้าหมายที่จะต้องมีความมั่งคั่งเท่ากับเศรษฐีเหล่านั้น แต่ศึกษาเพื่อให้ทราบว่าคนรวยเขาลงทุนอย่างไร เหมือนกับที่เจ้าของร้านเสริมสวยของดิฉันปรารภ เมื่อดิฉันนำหนังสือเล่มใหม่ไปให้อ่านว่า เวลาที่เธอรับฟังวิธีการใช้เงินของใครก็ตาม จะทราบได้ทันทีว่าคนนี้มีเงินออมมากหรือมีแบบปกติ เพราะคนที่มีเงินออมมากจะคิดละเอียด และมีวิธีการใช้เงินที่มีหลักการ ไม่เหมือนคนทั่วๆ ไป

ทวีปอเมริกาเหนือยังคงเป็นทวีปที่มีจำนวนผู้มีความมั่งคั่งสูงมากที่สุดคือ 3.73 ล้านคน มีความมั่งคั่งรวม 12.7 ล้านล้านดอลลาร์ แต่เอเชียแปซิฟิกไล่ตามมาติดๆ (และดิฉันคาดว่าคงจะแซงได้แน่ๆ ในปีนี้) คือมีผู้มีความมั่งคั่งสูง 3.68 ล้านคน มีความมั่งคั่งรวมกัน 12 ล้านล้านดอลลาร์

ยุโรปตกไปอยู่อันดับที่สาม โดยมีผู้มีความมั่งคั่งสูง 3.41 ล้านคน มีความมั่งคั่งรวม 11.9 ล้านล้านดอลลาร์ ที่มองว่ายุโรปเศรษฐกิจไม่ดี เศรษฐียุโรปคงจะได้รับผลกระทบกระเทือนบ้าง แต่โดยเปรียบเทียบแล้วกระทบไม่มากค่ะ อาจจะเป็นเพราะได้ขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง แปลงสภาพเป็นเงินสดไว้ก่อนแล้ว โดยสัดส่วนการถือครองเงินสดปรับเพิ่มขึ้นทั่วโลก และเศรษฐียุโรปถือเงินสดในสัดส่วนค่อนข้างสูงคือ 27.3% และมีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น 8.2% ในปี2555

ละตินอเมริกา มีจำนวนผู้มีความมั่งคั่งสูงประมาณ 520,000 คน มีความมั่งคั่งรวมกัน 7.54 ล้านล้านดอลลาร์ ถือว่ามีความมั่งคั่งต่อคนสูงที่สุด คือ 14.5 ล้านดอลลาร์ หากศึกษาดูจะพบว่าช่องว่างระหว่างรายได้ของคนรวยกับคนจนในละตินอเมริกาสูงมากค่ะ

ตะวันออกกลางเป็นกลุ่มประเทศที่มีผู้มีความมั่งคั่งสูงจำนวน 490,000 คน มีความมั่งคั่งรวมกัน 1.81 ล้านล้านเหรียญ และแอฟริกา มีผู้มีความมั่งคั่งสูงจำนวน 140,000 คน มีความมั่งคั่งรวมกัน 1.26 ล้านล้านดอลลาร์ หรือเฉลี่ยคนละ 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว

ขณะที่อภิมหาเศรษฐีหรือ ผู้ที่มีความมั่งคั่งสุทธิเกินกว่า 30 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 930 ล้านบาท) มีจำนวนรวม 111,000 คน ถ้าท่านมีความมั่งคั่งเกินกว่า 930 ล้านบาท ท่านก็เป็นหนึ่งในแสนอภิมหาเศรษฐีของโลกแล้วค่ะ

มาดูการลงทุนของเศรษฐีกันดีกว่าค่ะ ณ ไตรมาสที่ 1 ของปี 2556 เศรษฐีทั้ง 12 ล้านคนในโลกนี้ ค่อนข้างจะลงทุนแบบระมัดระวัง โดยถือครองเงินสดและเงินฝากโดยเฉลี่ยมากถึง 28.2% ลงทุนในหุ้นทุน 26.1% ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ 20% ลงทุนในพันธบัตรและตราสารหนี้ 15.7% และลงทุนในการลงทุนทางเลือก 10.1%


ในบรรดาเศรษฐีทั้งหลายในโลกนี้ เศรษฐีญี่ปุ่นมีการถือครองเงินสดและเงินฝากในสัดส่วนสูงที่สุด คือ 49.4% แม้อัตราดอกเบี้ยของญี่ปุ่นจะต่ำเตี้ยติดดินมาเป็นเวลานาน แต่คนญี่ปุ่นก็ไม่ค่อยมีทางเลือกในการลงทุนอื่น เพราะไม่คุ้นกับการลงทุนในต่างประเทศ จะแตกต่างจากบริษัทต่างๆ ของญี่ปุ่น ที่มีการลงทุนในต่างประเทศเป็นเวลาช้านาน เนื่องจากต้องหนีค่าแรงที่สูงในประเทศ ไปลงทุนในที่ใหม่ๆ ที่มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่า เพื่อให้แข่งขันได้

แต่คนญี่ปุ่นก็ยังมีการลงทุนในหุ้นทุน เป็นสัดส่วนไม่น้อย คือ 22.6% ซึ่งถือว่าเข้าลงทุนในจังหวะที่ดี เพราะหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา
ในการสำรวจ ยังมีการศึกษาประเด็นอื่นๆ ด้วยเช่น การลงทุนในของที่รักหรือ Passion Investment และพบว่าในไตรมาสแรกของปี 2556 นี้ คนส่วนใหญ่ที่ลงทุนในของที่รักที่ชอบ จะลงทุนในเครื่องประดับ อัญมณี และนาฬิกา เป็นสัดส่วนสูงที่สุดคือ เฉลี่ย 31.6% รองลงมาเป็นการลงทุนในของสะสมหรูหราเช่น รถยนต์ เรือ เครื่องบินเจ็ต ฯลฯ ในสัดส่วน 19%

สำหรับงานศิลปะนั้น คนเลือกลงทุนเป็นสัดส่วนประมาณ 16.9% และ ลงทุนในกีฬา เช่น ทีมกีฬา ม้าแข่ง เรือใบ ประมาณ 8% ส่วนที่เหลือ 24.4% ลงทุนในเรื่องอื่นๆ ทั้งนี้ผู้ศึกษาได้ให้หมายเหตุไว้ว่า ตัวเลขเหล่านี้รวมกันไม่ได้ 100%ค่ะ

ที่ดิฉันเห็นว่าน่าสนใจและอาจจะเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบธุรกิจธนบดีธนกิจ คือการสอบถามเกี่ยวกับรูปแบบการให้บริการบริหารสินทรัพย์ของผู้มีความมั่งคั่งสูง จากการสำรวจพบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ไม่มีรูปแบบการบริการที่ปักใจเป็นพิเศษค่ะ เช่น การใช้บริการกับสถาบันการเงินแห่งเดียวหรือหลายแห่ง มีอยู่ 41.4% ที่พอใจจะรับบริการจากสถาบันการเงินแห่งเดียว แต่ก็มีอีก 44.2% ที่รับบริการจากแห่งเดียวก็ได้ หลายแห่งก็ได้ และมีเพียง 14.4% เท่านั้นที่ต้องการรับบริการจากหลายแห่ง

เมื่อถามว่าลูกค้าอยากให้วัดความสำเร็จของพอร์ตลงทุน จากการที่สามารถบรรลุเป้าหมายชีวิตและเป้าหมายการเงิน หรือจากการวัดเปรียบเทียบกับตัวเทียบวัด ลูกค้าส่วนใหญ่ คือ 42.1%บอกว่าไม่มีความต้องการชัดเจน ในขณะที่ 35% ต้องการวัดกับเป้าหมายชีวิตและเป้าหมายการเงิน และอีก 22.9% ต้องการวัดกับตัวเทียบวัด เช่น ดัชนีต่างๆ เพื่อเปรียบเทียบ

คำถามหนึ่งที่ลูกค้าในประเทศไทยมีการถามถึงมากคือ อยากซื้อสินค้าของค่ายอื่นบ้าง เมืองไทยมีเฉพาะสินค้าของค่ายตัวเองให้ลูกค้าเลือก จากการสำรวจพบว่า 28.4% ของผู้มีความมั่งคั่งสูงในโลกตอบว่าไม่สะดวกใจที่ผู้จัดการเงินลงทุนเสนอเฉพาะสินค้าในสังกัดของตน ในขณะที่ 27.8 % รู้สึกพอใจ และเห็นว่าสินค้าของบริษัทที่ผู้จัดการสังกัด มีความหลากหลายให้เลือกได้เพียงพอ แต่มีคนถึง 43.8% ที่ไม่มีปัญหา และไม่มีความต้องการเลือกที่ชัดเจน คือลงทุนในสินค้าของผู้จัดการเงินทุนก็ได้ ลงในสินค้าของค่ายอื่นก็ได้

สำหรับการให้บริการนั้น ลูกค้า 44.5% ต้องการรายงานแบบเรียลไทม์ อยากรู้สถานการณ์ลงทุน ณ ตอนไหน ก็ดูได้ ขณะที่ 20% ชอบให้มีรายงานตามกำหนดเวลา เอาละค่ะ พอหอมปากหอมคอ ท่านที่สนใจอ่านรายงานฉบับเต็มสามารถดาวน์โหลดได้ที่ www.worldwealthreport.com
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: มิถุนายน 25, 2013, 07:24:11 AM »

โห..
บันทึกการเข้า
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2329
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 84478


« ตอบ #2 เมื่อ: มิถุนายน 25, 2013, 07:42:05 AM »

เยี่ยม Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2329
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 84478


« ตอบ #3 เมื่อ: มิถุนายน 25, 2013, 07:43:46 AM »

เพิ่มขึ้นเยอะปีที่แล้วจากตลาดทุนแน่ Grin Grin Grin ปีหน้าถ้าตลาดอย่างนี้อาจลดลงบ้าง
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #4 เมื่อ: มิถุนายน 25, 2013, 11:24:41 AM »

 ไหว้พี่ทั้งสองท่านคงเป็นกลุ่ม12ล้านคนของโลกแน่นอนครับ  Grin Grin Grin +
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
Zeus-รักในหลวง
อะฮู้.....ไฮยีน่าก็เป็นแมวนะคราบบบ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 817
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10983


I'm going to make him an offer that he can't refus


« ตอบ #5 เมื่อ: มิถุนายน 25, 2013, 01:42:35 PM »

ที่นี้แหละผมได้คุยฟุ้งแล้วว่า ผมเป็น.......





























คนส่วนใหญ่ของโลกนี้ กิ๊วก๊าว
บันทึกการเข้า

“A fear of weapons is a sign of retarded sexual and
emotional maturity.”
- Sigmund Freud

“ความกลัวอาวุธคือสัญญาณของความถดถอยทางเพศและวุฒิภาวะทางอารมณ์”
- ซิกมุนด์ ฟรอยด์
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.051 วินาที กับ 21 คำสั่ง