ในสมัยอียิปต์โบราณ เมื่อมีคนตายก็จะนำศพไปฝังไว้ในทะเลทรายอันร้อนระอุ ความร้อน และความแห้งแล้งทำให้ร่างกายแห้งอย่างรวดเร็ว โดยที่แบคทีเรีย
ไม่มีโอกาสได้ย่อยสลายศพเสียก่อน จึงกลายเป็นมัมมี่ไปตามธรรมชาติ
คงจะมีการค้นพบโดยบังเอิญ
ต่อมาชาว อียิปต์ก็เริ่มใช้โลงบรรจุศพก่อนฝัง เพื่อป้องกันมิให้สัตว์ป่าแทะกินศพ แต่ก็กลับพบว่า ซากศพที่ฝังในโลง ได้เปื่อยเน่าไป ไม่แห้งและอยู่คงทนเหมือนแต่ก่อน
เพราะโลงศพทำหน้าที่เก็บกักความชื้นจากร่างกาย เพียงพอที่จะอำนวยให้แบคทีเรีย
เจริญเติบโต และทำการย่อยสลายให้ศพเน่าเปื่อยสูญไปได้
ต่อมาอีกหลายร้อยปี ชาวอียิปต์ก็ได้ศึกษาทดลองวิธีต่างๆเพื่อจะรักษาสภาพ ศพให้คงทนอยู่ได้ กรรมวิธีในการรักษาศพให้คงทน ประกอบด้วยการแช่
อาบศพด้วยสิ่งที่ชะงักการเจริญเติบโ ตของแบคทีเรีย แล้วพันด้วยแถบผ้าลินิน
ปัจจุบันเราเรียกกรรมวิธีนี้ว่า การทำมัมมี่ ขั้นตอนการทำมัมมี่ มีอยู่ 13 ขั้นตอนนะคับ
ขั้นตอนที่ 1.ศพถูกนำไปยังเต๊นท์พิเศษ ที่เรียกว่า อีบู ซึ่งมีความหมายว่า
สถานที่ชำระศพให้บริสุทธิ์ ผู้ทำมัมมี่จะอาบศพด้วยเหล้าที่ทำ
จากน้ำตาลสด และชำระล้างด้วยน้ำจากแม่น้ำไนล์
ขั้นตอนที่ 2.ช่างก็จะผ่าช่องท้องด้านซ้ายเพื่อเอาอวัยวะภายในออก เนื่องด้วยอวัยวะภายใน
ซึ่งมีความชื้นสูง จะเป็นสิ่งแรกที่เน่าสลายอย่างรวดเร็ว จึงต้องเอาออก
เหลือไว้แต่หัวใจที่จะทิ้งไว้ภายในศพ เพราะพวกเขาเชื่อว่า หัวใจคือ
ศูนย์รวมแห่งปัญญาและความรับรู้ทั้งปวง ที่ผู้ตายยังต้องการใช้ในโลกแห่งวิญญาณ
ขั้นตอนที่ 3.ส่วน ตับ ปอด กระเพาะ และลำไส้ จะถูกนำมาชำระล้างจนสะอาด
แล้วนำไปกลบไว้ด้วยเกลือเม็ดที่เรียกว่า Natron ซึ่งเป็นเกลือ
โซเดียมคาร์บอร์เนต ...
แล้ว เขาจะสอดตะขอผ่านเข้าทางช่องจมูก เพื่อเกี่ยวเอาเนื้อสมองออกมา
เพราะสมองก็เหมือนอวัยวะภายในที่มีความชื้นสูง ถ้าทิ้งไว้จะทำให้แห้งยาก
และก่อให้เกิดการย่อยสลายได้ง่าย
ขั้นตอนที่ 4.จากนั้นก็เอาศพไปวางกลบด้วยเกลือเม็ดให้แห้ง ของเหลวจากร่างกาย
และผ้าที่ใช้ในการเตรียมศพทุกชิ้น ก็จะเก็บรักษาไว้อย่างดี
เพื่อนำไปฝังพร้อมกับศพ
ขั้นตอนที่ 5.ช่องว่างภายในก็ใส่เกลือเม็ดไว้ เพื่อป้องกันการเจริญเติบโต
ของเชื้อแบคทีเรีย อันจะทำให้ร่างเปื่อยเน่าสูญสลายไปได้
ขั้นตอนที่ 6.ศพจะถูกแช่เกลือไว้สี่สิบวันจนแห้งดี แล้วจะถูกนำมาชำระล้างด้วยน้ำจากแม่น้ำ
ไนล์อีก แล้วจะเคลือบผิวหนังด้วยน้ำมันเพื่อให้ผิวหนังคงสภาพ
อ่อนนุ่มไม่แห้งกระด้างไปตามกาลเวลา
ขั้นตอนที่ 7.อวัยวะภายในที่แห้งแล้วจากการแช่เกลือ
ก็จะถูกนำกลับมาบรรจุในช่องท้องและช่องอกตามเดิม
ขั้นตอนที่ 8.แล้วจะ เติมด้วยของแห้งอย่างอื่นให้เต็ม เช่นขี้เลื่อยหรือใบไม้และผ้าลินิน
เพื่อให้ดูเหมือนยามมีชีวิตอยู่ ไม่ยุบตัวลงไปตามกาลเวลาในภายหลัง
ขั้นตอนที่ 9. จากนั้นก็จะชำระศพด้วยน้ำมันหอมอีกครั้งหนึ่ง
ก่อนที่จะนำไปพันผ้าลินินในขั้นต่อไป
การพันห่อมัมมี่ขั้นแรก ศีรษะและลำคอจะถูกพันก่อน ด้วยแถบผ้าลินินอย่างดี
แล้วก็จะพันนิ้วมือและนิ้วเท้าแยกกันทีละนิ้ว แล้วก็พันห่อแขนและขา
แต่ละทบก็จะใส่เครื่องราง เพื่อปกปักรักษาผู้ตายในระหว่างการเดินทางไปสู่ภพใหม่
ขั้นตอนที่ 10.ในขณะที่ร่างของมัมมี่กำลังถูกห่อพันด้วยผ้าลินิน ก็จะมีพระท่องมนต์
เพื่อขจัดสิ่งที่เลวร้ายมิให้แผ้วพานผู้ตาย และเป็นการช่วยให้ผู้ตาย
เดินทางได้สะดวกในภพหน้า
ขั้นตอนที่ 11.แล้วแขนขามัมมี่ก็จะถูกพันเข้ากับส่วนร่าง ตำรา
"มนตราสำหรับผู้ตาย" ก็จะรวมห่อไปด้วยให้ถือไว้ในมือของมัมมี่
ขั้นตอนที่ 12.จากนั้นก็จะพันผ้าเพิ่มรวมให้ร่างถูกพันรวมกันหมด แต่ละชั้นของผ้าลินิน
ผู้ทำมัมมี่ก็จะทาไว้ด้วยเรซิน เพื่อให้ผ้าลินินยึดติดกันไม่หลุดรุ่ยออกได้ง่าย
แล้วห่อด้วยผ้าผืนใหญ่อีกทีหนึ่ง จากนั้นก็จะวาดรูปเทพ โอซีรีส บนผ้าที่ห่อมัมมี่นั้น
ขั้นตอนที่ 13.จากนั้นก็เอาผ้าผ้นใหญ่ห่ออีกชั้นหนึ่ง แล้วมัดตราสังข์ด้วยแถบผ้าลินิน
ตลอดร่างอย่างแน่นหนา อีกเป็นครั้งสุดท้าย
จากนั้นก็ปิดด้านบนของมัมมี่ด้วยแผ่นกระดานก่อนที่จะ
เอาไปใส่ในโลงศพสองโลงซ้อนกัน ในพิธีศพ ญาติพี่น้องของผู้ตาย
มาไว้อาลัยและทำพิธี "เปิดปากศพ" เพื่อเป็นการเลี้ยงอาหารให้ผู้ตายเป็นครั้งสุดท้าย
ขั้นสุดท้าย ก็จะเอาโลงไปใส่ในโลงหินแกะสลัก ที่ตั้งอยู่ในสถานเก็บศพ
พร้อมด้วยเครื่องเรือน เสื้อผ้า ของมีค่า อาหารและเครื่องดื่ม
จะถูกจัดวางไว้อย่างพร้อมเพรียง เป็นเสบียงกรังให้ผู้ตายได้เดินทางสู่ปรภพโดยสะดวก
แล้วร่างของผู้ ตาย ก็พร้อมที่จะออกเดินทางสู่ดินแดนใต้โลก ที่ที่หัวใจ
ของเขาจะถูกตัดสินตามความดีที่ได้ทำไว้ยา มมีชีวิตอยู่ หากมีหัวใจ
บริสุทธิ์จริง ผู้ตายก็จะถูกส่งไปดินแดนอันสวยงามเพื่อชีวิตอันเป็น
อมตะ ในดินแดนที่เรียกว่า ทุ่งต้นกก
ชาวอียิปต์โบราณเชื่อว่า ก่อนผู้ตายจะไปยังปรภพได้ ก็ต้องผ่านดินแดนใต้โลก
อันเป็นที่ที่เต็มไปด้วยมารร้าย สัตว์ที่ดุร้ายต่างๆ ซึ่งผู้ตายจะต้องอาศัยมนต์ศักดิ์สิทธิ์
เพื่อปกป้องให้เดินทางได้โดยปราศจากภัยร้ายมาแผ้วพาน มนตราเหล่านี้จารึก
อยู่ในสมุดบันทึกที่เรียกว่า "มนตราสำหรับผู้ตาย" ซึ่งเป็นตำราเขียนลงบนม้วน
กระดาษปาปีรุส และจะถูกฝังไปด้วยกันกับผู้ตายในปิรามิด และก็เป็นการเสร็จสิ้นวิธีการทำมัมมี่
http://www.youtube.com/v/J9p-SajqTSE?hl=th_TH&version=3ที่มา : เย็นตาโฟดอทคอม